dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 446 วิชาก้าวเท้าโบราณ
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 446 วิชาก้าวเท้าโบราณ
บทที่ 446 วิชาก้าวเท้าโบราณ
“กรงเล็บมังกรอาบโลหิต” หัวหน้าหลงพุ่งตรงไปยังซูหยางด้วยมือที่
ทำเป็นตะขอและมีรังสีสีแดงเพลิงออกมาจากนิ้วของเขา
ซูหยางขมวดคิ้วเมื่อเห็นรังสีนี้ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายจาก
วิชานี้และสัญชาตญาณบอกเขาว่าให้หลีกเลี่ยงมัน
ดังนั้นเขารีบใช้ก้าวเก้าดาราเพื่อทิ้งระยะห่างออกจากหัวหน้าหลง
วินาทีถัดไปหลังจากที่ซูหยางกระโดดหนีไป กรงเล็บของหัวหน้า
หลงก็ปักลงไปยังตรงที่ซูหยางยืนอยู่ก่อนหน้านั้นจนทำให้พื้นดิน
หลอมเหลวอย่างน่ากลัว
ถ้าการโจมตีนั้นตกลงบนผิวของซูหยาง นั่นอาจทำให้ผิวของเขา
ละลายไปในทันที
“พิษรึ” รู้ถึงลักษณะของการโจมตีของหัวหน้าหลงได้อย่างรวดเร็ว
ไม่น่าประหลาดใจว่าทำไมหัวหน้าหลงจึงมีท่าทางมั่นใจก่อนหน้านี้
ทั้งที่หลังจากได้เห็นพิษร้ายของแมงป่ องดำแล้วก็ตาม
“ก็เหมือนกับมีดสั้นของเจ้า วิชาพิษของข้าสามารถฆ่าคนที่อยู่ต่ำกว่า
เขตราชันวิญญาณได้อย่างง่ายดาย มิสำคัญว่าเจ้าจะเป็นอัจฉริยะหรือ
อสูรร้ายก็ตาม ถ้าเจ้าสัมผัสกับพิษของข้าเจ้าจะต้องตาย” หัวหน้า
หลงพูดพร้อมกับฉีกยิ้ม
“…”
ซูหยางยังคงนิ่งเฉย
“ท่านพ่อท่านสามารถจัดการเขาได้หรือไม่ ถ้าไม่ ข้าสามารถฆ่าเขา
ให้ท่านได้” เสียงของชิวเยว่พลันดังในหัวของซูหยาง
เขาหันไปมองเธอที่ดูบอบบาง แต่มีสีหน้ากังวลปรากฏบนใบหน้าไร้
ตำหนิของเธอ
“อย่ากังวล พิษของเขานั้นไร้ประโยชน์ถ้าเขาไม่สามารถสัมผัสตัวข้า
ได้” ซูหยางกล่าวโดยใช้สัมผัสวิญญาณ
จากนั้นเขาก็หันไปมองหัวหน้าหลงและยิ้ม “ตอนนี้เมื่อการบุกอย่าง
ฉับพลันของเจ้าได้ผ่านไปแล้ว เจ้าจะทำอะไร ตราบเท่าที่ข้าหลีกการ
โจมตีของเจ้า เจ้าก็มิอาจจะสามารถเอาชนะข้าได้”
“แต่เจ้าจักสามารถหลีกเลี่ยงมันไปได้ตลอดรึ” หัวหน้าหลงพุ่งตรง
ไปยังซูหยางอีกครั้งขณะที่พุ่งกรงเล็บใส่เขาเหมือนกันว่ามันเป็น
กระบี่
“เจ้ากำลังพยายามที่จะแตะตัวข้ารึ เจ้าต้องใช้ความพยายามมากหน่อย
มิเช่นนั้นเจ้าก็มิอาจจะกระทั่งสัมผัสชายเสื้อของข้าได้” ซูหยางกล่าว
ขณะที่เขาหลีกเลี่ยงการโจมตีทั้งหมดของหัวหน้าหลงอย่างไม่ใส่ใจ
2-3 นาทีของการไล่ตาม หัวหน้าหลงก็ยังคงยากในการที่จะสัมผัสซู
หยางซึ่งลื่นราวกับปลาไหล
ผู้คนที่เฝ้ามองต่างพากันงงงันรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขากำลังดูคน 2
คนเล่นไล่จับแทนที่จะเป็นคน 2 คนต่อสู้กัน
“เชอะ ช่างเป็นวิชาการเคลื่อนไหวที่น่ารำคาญจริง ๆ” หัวหน้าหลง
ตะคอกขณะที่เขาพยายามที่จะเพิ่มความเร็วให้ใกล้เคียงกับซูหยาง
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีพลังการฝึกปรือที่แตกต่างกันอย่างมาก
ระหว่างพวกเขา หัวหน้าหลงก็ไม่สามารถที่จะแข่งความเร็วกับซู
หยางซึ่งเร็วกว่าแม้กระทั่งสายลมได้
“ไม่เป็นไรถึงแม้ว่าข้ามิสามารถจับเขาได้ พลังวิญญาณของข้าก็มีสูง
กว่าเขามาก เขาจะต้องหมดสิ้นพลังวิญญาณก่อนที่ข้าจะใกล้หมด”
หัวหน้าหลงคิดในใจ
“…”
เมื่อเห็นรอยยิ้มมั่นใจบนใบหน้าของหัวหน้าหลง ซูหยางก็สามารถ
เดาได้ว่าเขาคิดอะไรได้อย่างง่ายดายจึงพูดว่า “ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถ
รอให้ข้าหมดพลังวิญญาณอย่างง่าย ๆ เช่นนั้นข้าจะคงต้องสร้างความ
ผิดหวังให้กับเจ้าในเมื่อข้ามีพลังวิญญาณเก็บกักไว้มากพอที่จะใช้
หลบหลีกเช่นนี้ไปหลายวันโดยไม่ต้องพัก”
“อ-อะไรนะ… เป็นไปไม่ได้ คิดหรือว่าข้าจะตกหลุมพรางเช่นนั้น
ต่อให้เจ้าความแข็งแกร่งมากกว่าข้า ปกติแล้วก็มิมีทางสำหรับคนที่
อยู่ในระดับ 3 เขตอัมพรวิญญาณจะสามารถมีพลังวิญญาณมากกว่า
คนที่อยู่ในระดับสูงสุดของเขตอัมพรวิญญาณได้” หัวหน้าหลงยิ้ม
เย้ย แม้กระทั่งก็เด็กยังไม่หลงถ้อยคำหลอกลวงที่ชัดเจนเช่นนี้
“เจ้ามิจำเป็นที่จะเชื่อข้าในเมื่อเจ้าก็จักยอมรับมันในภายหลัง ตาม
ความเป็นจริงทำไมเรามิเพิ่มความเร็วกันอีกสักเล็กน้อยล่ะ”
การเคลื่อนไหวขาของซูหยางพลันเปลี่ยนไปและความเร็วของเขาก็
เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในทันที
“อ-อะไรกัน”
หัวหน้าหลงหยุดไล่ตามซูหยางหลังจากที่เห็นความเร็วผิดมนุษย์ของ
อีกฝ่ายซึ่งไม่ทิ้งแม้กระทั่งเงาไว้ข้างหลัง เขารู้สึกเหมือนกับว่าเป็น
คนธรรมดาที่กำลังพยายามที่จะจับสายฟ้าซึ่งปกติแล้วเป็นเรื่องที่
เป็นไปไม่ได้
“นี่เป็นวิชาการเคลื่อนไหวอะไรกัน” กระทั่งชิวเยว่ก็ยังประหลาดใจ
กับการเคลื่อนไหวแบบใหม่ของซูหยาง แม้ว่าพวกมันจะดูคล้ายคลึง
กับก้าวเก้าดาราแต่มันก็ลึกล้ำและก้าวหน้ากว่า
“แม้ว่ามันดูเหมือนจะเป็นวิชาการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน แต่จริง ๆ
แล้วเขาก็ยังใช้ก้าวเก้าดารา รู้ไหม” ถังหลินชีพลันปรากฏตัวข้างชิว
เยว่และกล่าวขึ้น
“พี่สาวคนโต ท่านหมายความว่าอย่างไร หรือว่าเขาใช้วิชาปลอม ๆ
มาโดยตลอด”
“นี่ควรจะถือว่าเป็นความลับที่มีเพียงแต่ผู้ที่ได้เรียนวิชานี้ที่จะรู้ แต่
ในเมื่อข้าถือว่าเจ้าเป็นครอบครัวเดียวกันกับข้า ดังนั้นข้าจะให้เจ้าได้
รู้ ก้าวเก้าดาราเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวิชาเดียว แต่ในความเป็นจริงมัน
เป็นวิชาการเคลื่อนไหวเก้าแบบซ่อนอยู่ในนั้น” ถังหลินชีกล่าว
“ก้าวเก้าดาราเป็นวิชาก้าวเท้าโบราณที่มีอยู่กระทั่งก่อนยุคดึกดำบรรพ์
และก็เหมือนกับที่ชื่อของมันกล่าวไว้ มันประกอบด้วยวิชาการเคลื่อน
ไหวเก้าขั้น แต่ละขั้นจะแข็งแกร่งและรวดเร็วกว่าเดิม ซูหยางได้แต่
เพียงใช้การเคลื่อนไหวขั้นแรกมาจนถึงจุดนี้เนื่องจากว่าเขาขาดพลัง
การฝึกปรือและตอนนี้เมื่อเขาได้เข้าถึงเขตอัมพรวิญญาณ สุดท้ายเขา
ก็สามารถใช้ขั้นที่สองของวิชานี้ได้”
หลังจากที่ได้ยินถังหลินชีอธิบาย ชิวเยว่ก็อดที่จะอุทานด้วยเสียง
แตกตื่นไม่ได้ว่า “ถ้าหากว่าขั้นที่สองก็ยังรวดเร็วปานนี้แล้วขั้นที่เก้า
จะเร็วปานไหน”
ถังหลินชียิ้มและกล่าวว่า “ในกรณีของข้าเมื่อข้าใช้ขั้นที่เก้า ข้าสามารถ
เดินทางจากดวงดาวดวงหนึ่งไปยังอีกดวงหนึ่งในเวลาชั่วพริบตา
มันสามารถกระทั่งฝืนกฎของมิติและเวลาสามารถเคลื่อนที่ผ่านมิติ
คล้ายกลับอสูรช่องมิติ”
“…”
ชิวเยว่พูดไม่ออก สมกับเป็นคนที่มาจากสายเลือดเทพอาชูร่าหนึ่งใน
ผู้มีพลังอำนาจแข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์ศักด์ิสิทธ์ิทั้งสี่ ไม่เพียงแต่คน
ของพวกเขามีพลังอำนาจที่ผิดมนุษย์แต่วิชาที่พวกเขาฝึกฝนก็เป็น
เช่นเดียวกัน
“เจ้าเป็นตัวอะไรกัน แมลงสาบสกปรกอย่างนั้นรึ หยุดวิ่งหนีและมา
สู้กับข้าเหมือนกับนักรบตัวจริง” หัวหน้าหลงเริ่มหงุดหงิดและเบื่อ
หน่ายกับการกระทำของซูหยาง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาคงหมดสิ้น
พลังก่อนที่จะได้ขวานมังกรดำ
“หากเจ้ากำลังบอกข้าว่าให้เพียงแค่ยืนเฉย ๆ ปล่อยให้เจ้าแตะต้องตัว
ข้าด้วยพิษ เช่นนั้นข้าคงต้องขอปฏิเสธข้อเสนอของเจ้า” ซูหยางตอบ
ในเวลาถัดจากนั้น
“เช่นนั้นเจ้าก็คงทำให้ข้าไม่มีทางเลือกอื่นอีก” หัวหน้าหลงพลันหยุด
ไล่ตามและหันไปมองยังทิศทางหนึ่งก่อนที่จะวิ่งไปยังทิศทางนั้น
“?!?!” ชินเหลียงหยูตกตะลึงเมื่อหัวหน้าหลงพลันมองไปที่เธอด้วย
สายตามุ่งร้าย
“มาดูกันว่าเจ้าจะสามารถช่วยหญิงสาวคนนี้ได้หรือไม่ในขณะที่
หลบการโจมตีของข้า” หัวหน้าหลงตะโกนขณะที่กรงเล็บของเขามุ่ง
ตรงไปยังชินเหลียงหยูที่ซึ่งกำลังตกตะลึง