dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 451 จินตนาการอันรุ่มร้อน
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 451 จินตนาการอันรุ่มร้อน
บทที่ 451 จินตนาการอันรุ่มร้อน
เสียงครวญครางในกระท่อมเบื้องหลังชินเหลียงหยูมีแต่จะดังขึ้นเมื่อ
เวลาผ่านไป ตามความเป็นจริงมันดังเสียจนถึงจุดที่คนอื่น ๆ ที่อยู่
ภายในกระท่อมของตนเองก็สามารถได้ยินเสียงครางนี้อย่างชัดเจน
“พระเจ้าช่วย ข้าจักต้องยืนอยู่ที่นี่ฟังเสียงเหล่านี้จนกระทั่งพวกเขา
เสร็จสิ้นกันเลยรึ นี่เรียกได้ว่าเป็นการทรมาน” ชินเหลียงหยูร่ำร้อง
ในใจในเมื่อเธอไม่มีอำนาจที่จะหยุดเสียงรบกวนที่ดังมาจากด้านหลัง
เธอ
ครึ่งชั่วโมงถัดมาเสียงครวญครางก็ส่งผลกระทบกับชินเหลียงหยู
มากเสียจนกระทั่งจิตใจของเธอไม่มีอะไรไปนอกจากความคิดลามก
จินตนาการว่าตัวเธอเองได้อยู่ในฐานะเดียวกับคนที่กำลังครวญคราง
อยู่ในที่กำบังนั้น
ในความคิดของเธอนั้น เธอกำลังถูกซูหยางกอดและทั้งคู่ก็ล้วนเปล่า
เปลือย เขาได้โลมเลียไปทั่วสรรพางค์กายของเธอ และเธอก็ทำเช่น
เดียวให้กับเขา จากนั้นเธอก็จินตนาการว่ากลีบดอกไม้ของเธอได้ถูก
ซูหยางลูบไล้ จากนั้นก็เป็นตาของเธอใช้ปากโลมเล้าเจ้าโลกของเขา
สุดท้ายเธอก็จินตนาการว่าซูหยางได้สอดใส่อวัยวะเพศของเขาเข้า
ไปในอวัยวะเพศของเธอ รวมเป็นหนึ่งเดียวกันในเวลานั้น
แต่ทว่าท่ามกลางความฝันของเธอ ถังหลินชีได้ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ
และกล่าวว่า “ข้าลืมปิดล้อมสถานที่แห่งนี้ด้วยค่ายกลปิ ดเสียง”
ไม่นานนักหลังจากนั้น เกราะที่มองไม่เห็นก็ปิดล้อมกระท่อมทำให้
เสียงครวญครางทั้งหมดจากภายในหมดสิ้นไป
“เจ้ายังดีอยู่ไหม เจ้าดูหอบหายใจค่อนข้างหนัก” ถังหลินชีกล่าวกับ
เธอหลังจากนั้นพร้อมกับรอยยิ้มลึกลับบนใบหน้า
“ข-ข้าสบายดี” ชินเหลียงหยูตอบอย่างเร่งร้อน เธอไม่อาจปล่อยให้
ถังหลินชีรู้ว่าเธอได้รับผลกระทบจากเสียงครวญครางและฝันกลางวัน
ว่าได้ร่วมเรียงเคียงคู่กับซูหยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ปฏิเสธ
ที่จะเป็นคู่ให้กับเขาเนื่องมาจากตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านของเธอ
“เช่นนั้นถ้าเจ้าต้องการอะไร เจ้าสามารถไปหาข้าได้ที่เรือบิน” ถัง
หลินชีกล่าวกับเธอก่อนที่จะจากไป
“…”
ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าถังหลินชีได้ป้องกันไม่ให้เสียงครวญครางเล็ด
ลอดออกมาจากกระท่อมและทรมานเธออีกต่อไปแล้วก็ตาม ร่างของ
ชินเหลียงหยูก็ยังคงไม่อาจจะเยือกเย็นลงไปได้ ตามความเป็นจริง
เธอยิ่งรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นกว่าเดิมจากความเงียบนั้นเมื่อมันทำให้
เธอจินตนาการสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
“อา…นี่ไม่เข้าท่าแล้ว…ข้ามิอยากจะเชื่อว่าข้าจักมีความคิดหยาบคาย
เช่นนี้กับผู้อาวุโสซู”
กระทั่งชินเหลียงหยูยังรู้สึกประหลาดใจในความสามารถในการคิด
ลามกของจิตใจตนเองในเมื่อสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ราวกับว่าเธอ
เป็นคนที่ลามกนานมาแล้ว และการได้ยินเสียงครวญครางก็เป็นการ
ปลุกความลามกของเธอที่หลับใหลอยู่ในสันดานให้ตื่นขึ้น
ท้ายที่สุดแล้วถึงแม้ว่าเธอจะถือตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้าน
ระดับสูงแห่งหนึ่งภายในทวีปใต้ ชินเหลียงหยูก็ยังคงเป็นหญิงสาว
วัยยี่สิบต้น ๆ ที่มีจิตใจและร่างกายที่สมบูรณ์ จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับ
หญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอจะมีความคิดปรารถนาแบบนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเธอได้อยู่ตรงหน้าชายในฝันอย่างเช่นซู
หยาง
ในเวลานั้นภายในกระท่อม ซูหยางเพิ่งได้สอดใส่ลึงค์ของเขาเข้าไป
ในหญิงคนที่สิบสาม
“โอพระเจ้า มันรู้สึกใหญ่กว่าเดิมเมื่ออยู่ในตัวข้า” หญิงสาวคราง
ออกมาเสียงดังลั่นเมื่อรู้สึกว่าแท่งสังวาสอวบใหญ่ขอบซูหยางได้
เต้นตุบตับอยู่ภายในช่องสังวาสเปียกแฉะของเธอ
หลังจากที่ทิ่มทะลวงประตูที่ปิดอยู่ของหญิงคนนั้นแล้ว ซูหยางก็เริ่ม
ขยับสะโพกถูไถอวัยวะเพศชายเข้ากับผนังภายในอันอ่อนนุ่มของ
เธอทำให้เกิดเสียงฉ่ำแฉะ
“อาาา อาาา อาาาาา”
หญิงสาวครวญครางอย่างดิบเถื่อนในขณะที่ดอกไม้ของเธอพ่นฟู
ฝอยปราณหยินออกมา
เมื่ออาบไปด้วยปราณหยิน ซูหยางก็ดูดซับมันเข้าไปเติมปราณไร้
ลักษณ์ของเขาอย่างเงียบ ๆ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หยุดขยับสะโพก
ถึงแม้ในขณะที่เขากำลังดูดซับปราณหยินอยู่ก็ตามซึ่งปกติแล้วต้อง
ใช้สมาธิอย่างสูงสุด
นี่เป็นสิ่งที่จะสามารถทำได้ก็เพียงคนที่สามารถร่วมฝึกวิชาคู่ได้อย่าง
ง่ายโดยไม่ต้องคิดนึกเหมือนกับการหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่มีเพียงซูหยาง
เท่านั้นที่ทำได้
“ข-ข้ามิอาจจะทนได้แล้ว ถ้ามากไปกว่านี้ข้าจักต้องบ้าแน่ ๆ เลย”
นั่นใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของซูหยาง
ในการยอมแพ้เนื่องจากหมดแรง เมื่อการกระตุ้นนั้นรุนแรงเกินไป
สำหรับร่างกายของเธอที่จะรับไหว และครั้นเมื่อเธอถอยไปยังด้าน
ข้างเตียงเพื่อพักผ่อน หญิงคนต่อไปก็เข้าแทนที่เธอในอ้อมกอดของ
ซูหยาง ให้เขาได้ร่วมรักอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดพัก
เวลาสามชั่วโมงหลังจากนั้น หญิงสาวทั้งหมดสามสิบสองคนนั้น
ต่างก็ล้วนได้รับรู้ถึงกลเม็ดของซูหยางอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และก็ไม่มี
พวกเธอคนไหนที่ไม่พึงพอใจกับสัมผัสระดับเทพของเขา
อย่างไรก็ตามซูหยางไม่มีแม้เหงื่อสักหยดหลังจากที่ร่วมรักกับหญิง
สาวทั้งสามสิบสองคนนี้ ตามความเป็นจริงปราณไร้ลักษณ์ของเขาก็
ได้ฟื้นคืนมาบ้างประมาณหนึ่งในสิบของปริมาณทั้งหมด
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาคงต้องร่วมฝึกกับพวกเธออย่างน้อยสิบครั้ง
ภายในสองวันถัดไปก่อนที่เขาจะฟื้นคืนปราณไร้ลักษณ์ของเขาได้
เต็มที่
แน่นอนว่านี่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับซูหยางซึ่งครั้งหนึ่งเคยรองรับ
หญิงมากกว่าสามหมื่นคนในครั้งเดียว กลับกันปัญหาตกอยู่กับคู่
นอนของเขาทั้งสามสิบสองคนในเมื่อเกือบเป็นไปไม่ได้ที่พวกเธอ
จะสามารถอยู่ได้นานปานนั้นถึงแม้ว่าพวกเธอจะได้พักระหว่างแต่
ละยก
จากสิ่งที่กล่าวมาแล้วนี้ เขาไม่จำเป็นต้องฟื้นฟูปราณไร้ลักษณ์ของ
เขาจนสมบูรณ์ เพียงแค่พอให้อาการของเขาคงตัว
“ตอนนี้ข้าจักฝึกฝนรวบรวมปราณหยินที่ข้ารวบรวมไว้ได้ ครั้นเมื่อ
พวกเจ้าได้ฟื้นฟูเรี่ยวแรงมากพอแล้วและต้องการที่จะต่อรอบสองก็
เพียงแค่บอกให้ข้ารู้ ถ้าเจ้ามิต้องการที่จะต่อ เช่นนั้นเจ้าก็สามารถ
จากไปได้ทุกเวลา”
ซูหยางกล่าวกับพวกเธอก่อนที่เขาจะหลับตาลงเพื่อทำสมาธิฟื้นคืน
ความแข็งแกร่งของตนเอง
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงหนึ่งในบรรดาหญิงสาวในนั้นก็เข้าไปหาซู
หยางและพูดว่า “ซูหยางข้าพร้อมสำหรับยกที่สองแล้ว”
หญิงสาวรู้ว่านี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิตและนั่นอาจจะไม่มีวันเกิด
ขึ้นอีกครั้งตราบเท่าที่พวกเธอยังอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นเธอ
จึงต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ปัจจุบันให้เต็มที่ในการ
ร่วมฝึกกับซูหยางให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนที่เขาจะจากไป
ตลอดกาล
ซูหยางลืมตาขึ้นมามองดูหญิงสาวร่างเล็กและเขาก็พยักหน้าพร้อม
ด้วยรอยยิ้ม
“มานี่สิ”
จากนั้นหญิงสาวจึงทำการกางขาของเธอและนั่งคร่อมลงไปบนตัก
ของเขา ดันศิวลึงค์ขนาดมหึมาตรงเข้าไปยังรูฉ่ำแฉะที่อยู่ระหว่างขา
ของเธอ
“โอออ”
ครั้นเมื่อเธอรู้สึกว่าเพศชายของซูหยางได้ฝังเข้าไปเต็มร่องหลืบของ
เธอแล้ว เธอก็เริ่มขี่มันปลดปล่อยตนเองไปกับความหฤหรรษ์ที่
ติดตามมาอย่างรวดเร็ว