dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 464
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 464
บทที่ 464 ความอึดที่น่าอัศจรรย์
หญิงสาวอีกสามคนต่างพากันดูด้วยใบหน้าประหลาดใจขณะที่เห็น
ซุนจิงจิงขี่ไปบนแก่นเกร็งของซูหยางเหมือนกับว่าเธอกำลังขี่ม้า ขยับ
สะโพกของเธออย่างเร่งร้อน
ในเวลาเดียวกันเมื่อซูหยางเห็นอกที่สั่นกระเพื่อมอยู่ตรงหน้า เขาก็
ฝังใบหน้าเข้าไประหว่างนั้นตามสัญชาตญาณก่อนที่จะเลื่อนริม
ฝีปากไปยังปลายยอดถัน ดูดดื่มกับตุ่มไตสีชมพู
ซุนจิงจิงครางออกมาเสียงดังอีกครั้งหลังจากที่รู้สึกถึงลิ้นอันอ่อนนุ่ม
ของเขานวดไปบนยอดถันของเธอ
ครึ่งชั่วโมงให้หลังร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
และปราณหยินก็ไหลหลั่งออกมาจากด้านล่าง
“เอ๋ เธอสำเร็จแล้วรึ”
ฟางซีหลานงงงันเมื่อเห็นซุนจิงจิงจบเร็วเกินไป ในเมื่อปกติแล้วเธอ
จะอยู่ได้หลายชั่วโมง หรือว่าซูหยางเพิ่มความเข้มข้นอีกงั้นหรือ
หลังจากที่ซุนจิงจิงนั่งพัก โหลวหลานจีก็ตรงเข้าไปหาซูหยางอย่าง
อุกอาจและสอดใส่แก่นเกร็งแกร่งของเขาเข้าไปในส่วนล่างของร่าง
เธอ ราวกับว่าความอดทนของเธอมีจำกัด
“โอ เทพ… แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าใหญ่กว่าก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อย
แต่มันรู้สึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่ออยู่ภายในนี้ ราวกับว่ามันใหญ่ขึ้น
เป็นสองเท่า” โหลวหลานจีพูดขณะที่ร่างยั่วสวาทของเธอขยับขึ้นลง
ทำให้ห้องเล็กนั้นเต็มไปด้วยเสียงอันรัญจวนใจ
สองสามนาทีให้หลัง โหลวหลานจีก็นั่งลงด้วยสีหน้าหมดเรี่ยวแรง
เช่นกัน
“ข้าจักเป็นคนถัดไป” ฟางซีหลานยืนขึ้นและตรงเข้าไปหาเขา ก่อนที่
เธอจะหันหลังให้กับเขาและนั่งลงบนตักของเขา บีบรัดแท่งสังวาส
ของเขาด้วยช่องสังวาสคับแน่นของตนเอง
ครั้นเมื่อฟางซีหลานเริ่มขยับ มือของซูหยางก็จับอกของเธอไว้อย่าง
มั่นคงจากด้านหลัง รู้สึกถึงความอ่อนนุ่มดังขึ้นสวรรค์จนกระทั่งเขา
พึงพอใจก่อนที่จะลูบไล้นิ้วมือของตนเองอย่างอ่อนโยนตรงจุดปลาย
สุดของอกของเธอ
ฟางซีหลานครวญครางอย่างไหลหลง และสะโพกของเธอก็เริ่มขยับ
เร็วขึ้น
ในเวลานั้นชินเหลียงหยูได้ดูพวกเธอด้วยสายตาที่ถูกสะกดไว้ เมื่อ
เห็นว่าร่างกายของพวกเธอขยับด้วยความมั่นใจและง่ายดายอย่างไร
เธอก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าหญิงสาวทั้งสามนี้ได้ทำเช่นนี้มา
หลายครั้งกับซูหยางมาก่อนแล้วและคุ้นเคยกับร่างกายของเขาเป็น
อย่างมาก
เวลาถัดไป สุดท้ายก็เป็นตาของชินเหลียงหยูที่จะนั่งลงบนตักของซู
หยาง
อย่างไรก็ตามเธอไม่เหมือนกับศิษย์ที่มีประสบการณ์ ชินเหลียงหยู
เข้าหาซูหยางอย่างช้า ๆ กระทั่งยังต้องใช้เวลาอยู่บ้างในการจัด
ตำแหน่งร่างกายของตนเอง
“น่ารักจัง…” ซุนจิงจิงหัวเราะคิกคักอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่เห็นการ
เคลื่อนไหวที่ไร้ประสบการณ์ของอีกฝ่าย มันชัดเจนราวกับกลางวัน
ว่าไม่ได้นานเลยนับตั้งแต่ชินเหลียงหยูพ้นสภาพการเป็นสาวบริสุทธ์ิ
แต่ทว่ายามเมื่อชินเหลียงหยูร่วมฝึกคู่กับซูหยาง หญิงสาวทั้งสามคน
ที่เหลือต่างก็พากันเพิ่มความประหลาดใจมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งพวก
เธอเต็มไปด้วยความตกใจ
เห็นได้ชัดว่าชินเหลียงหยูเป็นมือใหม่ในเรื่องของการร่วมฝึกวิชาคู่
แต่ว่าระดับความอึดของเธอนั้นน่าอัศจรรย์เกินกว่าจะพูดออกมา ใน
เมื่อเธอสามารถที่จะร่วมฝึกคู่โดยไม่ได้พักมานานเกินกว่าหนึ่งชั่วโมง
แล้วตอนนี้
พวกเธอคิดว่าซูหยางปล่อยผ่านเธอเพราะว่าเป็นมือใหม่ในด้านนี้ แต่
เมื่อตรวจสอบดูอย่างใกล้ชิด พวกเธอก็ตระหนักว่าจริงแล้วซูหยาง
เพิ่มความเข้มข้นให้กับเธอมากกว่าตอนที่เขาทำกับพวกเธอเสียอีก
เมื่อพวกเธอรู้ความจริงนี้ ใบหน้าของพวกเธอก็มีสีหน้ายอมรับนับถือ
ชินเหลียงหยูและพวกเธอจึงพากันเข้าใจว่าทำไมเขาจึงยอมรับเธอมา
เป็นคู่ครองของเขา
ไม่กี่วันถัดมาเมื่อพวกเธอทั้งสี่หมดแรงและไม่สามารถที่จะดำเนินการ
ต่อไปได้ ซูหยางก็ปล่อยพวกเธอพักในขณะที่เขาไปเยี่ยมรถม้าคันอื่นที่
ซึ่งศิษย์คนอื่นอยู่เพื่อดูว่าพวกเธอต้องการที่จะ “ตามให้ทัน” หรือไม่
แน่นอนว่าพวกเธอทั้งหมดล้วนตกลงด้วยความยินดี
“เจ้าช่างน่าประทับใจมาก น้องชิน” โหลวหลานจีกล่าวกับเธอหลังจาก
ผ่านกระบวนการฝึกฝนแล้ว “ถ้าเจ้าเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้น
พิสัยก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น แน่นอนว่าเจ้าต้องกลายเป็นหนึ่งใน
ศิษย์ระดับสูง”
“เจ้ามั่นใจรึว่าเจ้าเป็นมือใหม่ในด้านนี้” ฟางซีหลานถามอีกฝ่ายด้วย
สายตาสงสัย กระทั่งเธอก็ยังไม่ได้มีระดับความอึดดังเช่นที่อีกฝ่าย
เป็นอยู่ในตอนนี้เมื่อเธอเริ่มต้น และเธอก็ไม่ได้ฝึกร่วมกับซูหยาง
ด้วยในตอนนั้น
“ใช่ กระทั่งคนที่มีประสบการณ์อย่างเช่นตัวข้าก็ยังมิอาจที่จะอยู่ได้
นานกว่าสองสามนาทีเมื่อตอนที่ข้าร่วมฝึกวิชากับเขา แต่เจ้ากลับ
สามารถยื้อเวลาการร่วมฝึกกับเขาได้มากกว่าพวกเราทั้งสามคนรวม
กัน กระทั่งสร้างความละอายใจให้กับข้าที่ต้องพูดเช่นนั้น” โหลว
หลานจีถอนหายใจ
“ข้าพอจะเข้าใจว่าทำไมซูหยางจึงยอมรับเจ้าเป็นคู่ครอง” ซุนจิงจิง
กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฮี่ฮี่…” ชินเหลียงหยูใบหน้ามีแต่สีแดงซ่านหลังจากที่ได้ยินคำพูด
ของพวกเธอ ขอบคุณร่างสวรรค์ของตนเองอยู่อย่างเงียบ ๆ สำหรับ
ความอึดที่น่าอัศจรรย์
ผ่านไปอีกสองสามวันให้หลัง เมื่อพวกเขาเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง
ห่างจากนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ซูหยางก็กลับคืนมายังรถม้า
“พวกเราควรจะไปถึงในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง” โหลวหลานจีกล่าว
ในเวลาหลังจากนั้น รถม้าก็พลันหยุดเคลื่อนไหว
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเราถึงหยุด หรือว่าพวกเราถึงเรียบร้อยแล้ว”
“ไม่ พวกเราควรจะยังคงอยู่ห่างอีกสองสามกิโลเมตรกว่าพวกเราจะ
ไปถึงนิกาย” โหลวหลานจีส่ายหน้า
เหล่าศิษย์ต่างพากันสงสัย ดังนั้นพวกเธอจึงพากันเปิดหน้าต่างและ
แอบมองออกไปด้านนอก
“เกิดอะไรขึ้นในนามของสวรรค์*”
(ผู้แปล – *พวกนี้เขาอุทานกันแปลก ๆ นะ จะแทนด้วย อกอีแป้น
แตก ก็ดูจะไม่เข้าที)
เมื่อโหลวหลานจีและเหล่าศิษย์เห็นภาพด้านนอก พวกเธอทั้งหมด
ต่างพากันประเดประดังไปด้วยความแตกตื่นและสับสน
“ทำไมจึงมีคนมากมายปานนี้มาเข้าแถวอยู่ที่นี่” ซุนจิงจิงอุทานออกมา
หลังจากที่เห็นผู้คนจำนวนมหาศาลต่อแถวยาวไปถึงสุดขอบฟ้าด้าน
หน้าพวกเธอ
ในเวลานั้นเมื่อผู้คนในแถวสังเกตเห็นรถม้าของพวกเธอและรู้ว่า
ตัวตนของพวกเธอเป็นใคร พวกเขาต่างพากันทำตาโตด้วยความ
ตระหนก
“นั่นเป็นนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยอยู่ที่นี่” บาง
คนพลันตะโกนขึ้นจนทำให้ทุกคนในแถวหันกลับมามองพวกเธอ
“เป็นนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยจริง ๆ ด้วย”
เพียงแค่ไม่กี่อึดใจสั้น ๆ ผู้คนนับร้อยก็พากันรุมล้อมรถม้าเหมือนกับ
ฝูงหมาที่อยู่ต่อหน้าอาหาร
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเราจึงพลันถูกล้อม”
เหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ต่างพากันหวาดกลัวกับฉากเบื้องนอก
ในเวลานั้นผู้อาวุโสนิกายและโหลวหลานจีก็ออกมาจากรถม้าเพื่อทำ
ความเข้าใจกับสถานการณ์
“พวกท่านเป็นใครกัน และต้องการอะไรจากพวกเรา” ผู้อาวุโสซุน
ถาม
“หลังจากที่ได้ยินว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยได้รับชัยชนะการแข่งขัน
ระดับภูมิภาค ทุกคนที่นี่ต่างพากันตัดสินใจที่จะมาเยี่ยมนิกาย อย่างไร
ก็ตามพวกเราได้รับคำบอกให้เข้าแถวและรอคอยจนกว่าผู้นำนิกาย
จะกลับมา ดังนั้นพวกเราจึงรอคอยกันอยู่ที่นี่”
“ร-รอ.. จากที่นี่รึ นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยอยู่ห่างไปอีกตั้งสองสาม
กิโลเมตร พวกท่านรู้ไหม” ผู้อาวุโสซุนกล่าวขณะที่เขาชี้ไปยังสุด
ขอบฟ้า
“พวกเรารู้แต่ว่านั่นก็มีคนมากมายที่รอคอยจนทำให้แถวยืดยาวมาถึง
ด้านหลังที่นี่” หนึ่งในพวกนั้นอธิบาย
เหล่าศิษย์จากนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยงุนงงกับสถานการณ์ พวกเธอ
ล้วนคาดว่าจะมีแขกมาเยี่ยมมากมายหลังจากที่ได้รับชัยชนะการแข่งขัน
เรียบร้อยแล้ว แต่แน่ใจได้ว่าพวกเธอก็ไม่ได้คาดว่าจะมากเกินควบคุม
เช่นนี้