dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 494 คำขอร้องของเซียวหรง
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 494 คำขอร้องของเซียวหรง
บทที่ 494 คำขอร้องของเซียวหรง
หลังจากที่พวกเขากลับไปถึงนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยแล้ว ซูหยางก็
กล่าวกับซุนจิงจิงว่า “ถ้าเจ้ามีเวลา ลองไปพบกับหลานลี่ชิง”
“เอ๋ ผู้อาวุโสตำหนักโอสถรึ ทำไมล่ะ” ซุนจิงจิงเอียงคอด้วยท่าทาง
สงสัย
“ข้ามีความรู้สึกว่าพวกเจ้าสองคนอาจจะมีบางอย่างที่ต้องการคุยกัน”
“จริงรึ แต่ข้ามิเคยพูดกับเธอมาก่อนจริง ๆ”
“เจ้าจักเข้าใจยามเมื่อเจ้าพบกับเธอแล้ว” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ท่านจะทำอะไรต่อไปในตอนนี้ ซูหยาง”
“ข้าจะไปพบกับโหลวหลานจีเกี่ยวกับการทดสอบศิษย์และเรื่องอื่น ๆ”
เขากล่าว
“ตกลง เช่นนั้นข้าก็จักไปพบกับท่านในภายหลัง”
ซุนจิงจิงไปจากสถานที่นั้นหลังจากนั้นไม่นาน และซูหยางก็ไปพบ
กับโหลวหลานจี
ในเวลานั้น เซียวหรงก็กลับไปยังที่พักที่ซึ่งชิวเยว่และชินเหลียงหยู
กำลังฝึกวิชาอยู่อย่างเงียบ ๆ
“เจ้าคือ…” ความสนใจของชินเหลียงหยูพลันเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่
เห็นเซียวหรง ในเมื่อเธอไม่เคยได้มีโอกาสที่จะพบกับเธอมาก่อน
“นั่นเป็นสัตว์วิญญาณของซูหยาง เซียวหรง” ชิวเยว่แนะนำเธอให้กับ
ชิงเหลียงหยู
“สัตว์วิญญาณรึ เหมือนกับสัตว์จับมาเลี้ยงรึ แต่เห็นชัดว่าเธอเป็น
มนุษย์…”
“แม้ว่าจะมีความต้องการแตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์ สัตว์
วิญญาณทั้งหมดก็มีความสามารถที่จะเปลี่ยนตัวเองไปเป็นมนุษย์
โดยมีอวัยวะภายในเหมือนกันทุกประการเมื่อพวกเขามีพลังการ
ฝึกปรือไปถึงช่วงระยะหนึ่ง”
ขณะที่เธอกำลังได้รับการแนะนำจากชิวเยว่ เซียวหรงก็ตรงเข้าไปหา
อีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“จ-เจ้าต้องการอะไร” คิ้วของชิวเยว่สั่นสะท้านเมื่อรู้สึกได้ถึงการจ้อง
มองอย่างแน่วแน่ของอีกฝ่าย
แม้ว่าเธอจะดูเหมือนเป็นเด็กหญิงไร้เดียงสา ชิวเยว่ก็ไม่อาจจะเพิกเฉย
ต่อแรงกดดันที่น่าหวาดหวั่นซึ่งเป็นของจอมยุทธเขตตำนานที่แผ่
ออกมาจากร่างของเซียวหรงได้ และสัญชาตญาณของเธอก็บอกเธอ
ให้อยู่ห่างจากเซียวหรงนอกจากว่าจะมีซูหยางอยู่ใกล้ ๆ ไม่ว่าอย่างไร
พวกเธอก็ไม่ได้เป็นมิตรกันสักเท่าไหร่
“สอนเซียวหรงถึงวิธีที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่” เธอพลันกล่าวขึ้น สร้าง
ความงุนงงให้กับชิวเยว่
“ขอโทษนะ เจ้าต้องการให้ข้าสอนเจ้าถึงวิธีที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่รึ”
“อื้อ” เธอพยักหน้าอย่างสงบ
“ไม่น่าเชื่อ…” ชิวเยว่จ้องมองเธอด้วยดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วย
ความไม่อยากเชื่อ ทำไมสัตว์วิญญาณจึงสนใจกับการโตขึ้นด้วย และ
ทำไมเธอถึงต้องบากบั่นมาที่นี่เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ
“ทุกคนล้วนโตเป็นผู้ใหญ่ในที่สุด ดังนั้นเจ้าก็จำเป็นเพียงแค่อดทน
รอคอย…”
แต่ทว่า เซียวหรงกลับส่ายหน้าและกล่าวว่า “เซียวหรงต้องการที่จะ
โตเป็นผู้ใหญ่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“มีเหตุผลพิเศษอะไรที่เจ้าต้องการโตเป็นผู้ใหญ่ให้เร็วขึ้นรึ”
“เพื่อที่จะได้ลิ้มรสของอร่อย ๆ จากนายท่าน” เธอพยักหน้ารับ
“ของอร่อย… จากซูหยาง…”
ทั้งชินเหลียงหยูและชิวเยว่ต่างพากันสบสายตากัน เห็นได้ชัดว่างุนงง
กับคำพูดของเซียวหรง
“ของสีขาวเหนียว ๆ ที่มาจากที่ตรงนี้” เซียวหรงกล่าวต่อในทันใด
ทั้งยังชี้นิ้วไปยังบริเวณเป้ากางเกง
“นั่น…” ชินเหลียงหยูพลันเข้าใจสิ่งที่เซียวหรงอ้างถึงว่าเป็น “ของ
อร่อย” และหน้าแดง
“เจ้าหมายถึงปราณหยางของเขารึ…” เธอถามเพื่อให้ความแน่ใจ
เซียวหรงนึกถึงว่าเคยได้ยินศัพท์นี้จากซูหยางมาก่อนและพยักหน้า
ของเธอ
“เอ่อ แน่นอนว่าปราณหยางของเขามีรสชาติหวานพิเศษเฉพาะ ดังนั้น
ข้าจึงพอเข้าใจ…” ชินเหลียงหยูพลันกล่าวขึ้น จนทำให้ชิวเยว่ต้อง
มองดูเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“แต่มิเป็นไรจริงรึสำหรับการที่สัตว์วิญญาณทำอะไรประเภทนั้นกับ
มนุษย์ ข้ามิเคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อน”
“สัตว์วิญญาณในร่างมนุษย์โดยเนื้อแท้ก็คือมนุษย์ และจริงแล้วก็เป็น
เรื่องที่ค่อนข้างปกติสำหรับดินแดนที่พวกเราจากมา” ชิวเยว่ถอน
หายใจ
“อย่างไรก็ตาม ข้ามิได้มีเวลาหรือความอดทนที่จะช่วยเจ้ากับคำขอ
ของเจ้า” ชิวเยว่กล่าวก่อนที่จะปิดขังตัวเองในห้อง
“ข้ามิอยากเชื่อ ทำไมสัตว์วิญญาณอย่างเซียวหรงถึงกับนำหน้าข้าไป
ได้” ชิวเยว่ร่ำร้องในใจหลังจากนั้น แม้ว่าเธอไม่ต้องการที่จะพูด แต่
เหตุผลที่เธอไม่ช่วยเซียวหรงหลัก ๆ แล้วก็คือความอิจฉา รู้สึกพ่ายแพ้
ว่าแม้กระทั่งคนอย่างเซียวหรงก็ยังสามารถได้ลิ้มรสของซูหยางได้
ในเวลานั้น หลังจากที่ชิวเยว่ปฏิเสธที่จะช่วยเธอ เซียวหรงก็หันไป
จ้องมองชินเหลียงหยูด้วยสีหน้าหดหู่เล็กน้อย
รอยยิ้มกระอักกระอ่วนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชินเหลียงหยู่ก่อนที่
เธอจะพูดขึ้นว่า “แม้ว่าข้ามิรู้ว่าข้าจักช่วยเจ้าได้จริงหรือไม่ แต่ถ้าเจ้า
มิรังเกียจที่จะรับความช่วยเหลือจากข้า ข้าสามารถช่วยเจ้าตามคำขอ
ของเจ้าได้…”
ดวงตาของเซียวหรงเป็นประกายด้วยความยินดีหลังจากที่ได้ยินคำพูด
ของชินเหลียงหยู และเธอก็พยักหน้าด้วยความกระตือรือร้น
ดังนั้นจึงกลายเป็นผู้ฝึกสอนให้กับสิ่งมีชีวิตเขตตำนานโดยไม่ได้
คาดคิด
ในเวลานั้น ซูหยางก็ไปยังศาลาหยินหยางเพื่อพบกับโหลวหลานจี
“ท่านทำงานหนักนะ” เขากล่าวกับโหลวหลานจีด้วยรอยยิ้มหลังจาก
ที่เห็นร่างเธอนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ดูเหมือนกับเด็กที่เพิ่งกลับมา
จากการไปวิ่ง
“ซูหยาง เจ้ากลับมาเมื่อไหร่รึ”
ราวกับว่าการเห็นเขานั้นทำให้เธอมีพลังขึ้นมา โหลวหลานจีพลันลุก
ขึ้นนั่งบนเตียง
“เมื่อกี้นี้”
“ฮาาาา…” โหลวหลานจีพลันถอนหายใจยาวแล้วกล่าวขึ้นว่า “ข้า
มิได้ทำอะไรเลยนอกจากต้อนรับแขกนับตั้งแต่เมื่อพวกเรากลับมา
จากการแข่งขันระดับภูมิภาค ข้ามิเคยรู้สึกหมดสิ้นเรี่ยวแรงทั้ง
ร่างกายและจิตใจปานนี้มาก่อน”
“เจ้าทำอะไรไปก่อนหน้านั้น ซูหยาง”
“เตรียมตัวการทดสอบศิษย์อาทิตย์หน้า คิดว่างั้น” ซูหยางโกหกด้วย
รอยยิ้มบนใบหน้า โหลวหลานจีอาจจะเสียใจตายถ้าเธอรู้ว่าเขาไป
สนุกสนานกับชีวิตในขณะที่เธอถูกทนทรมานด้วยบรรดาแขกจากที่
ผ่านมาสามอาทิตย์
“โอ ใช่… การทดสอบนั้นเป็นอาทิตย์หน้า เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก
นับตั้งแต่พวกเราได้กลับมา” เธอกล่าว
จากนั้นเธอก็กล่าวต่อด้วยสีหน้าสงสัยว่า “ข้าหวังว่าเจ้ามิได้มาที่นี่
เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะว่ายังมีแขกอีกหลายร้อยคนที่รอคอยที่
จะพูดกับข้า… ข้าเพียงแค่ถือโอกาสพักชั่วขณะในตอนนี้”
ซูหยางหัวเราะเบา ๆ และกล่าวว่า “ท่านสามารถพักได้ ข้ามาที่นี่ด้วย
จุดประสงค์อื่น”
จากนั้นเขาก็นำเอาเม็ดยาเม็ดหนึ่งออกมาจากแหวนมิติและโยนมัน
เข้าไปในปากของตนเอง
“เอ๋” โหลวหลานจีมองดูด้วยใบหน้าสงสัย
สองสามอึดใจหลังจากนั้น รูปลักษณ์ของซูหยางก็เริ่มเปลี่ยนแปลง
ร่างของเขาเติบใหญ่และสูงขึ้น ใบหน้าของเขาก็ดูแก่ลง
ในเพียงแค่ไม่กี่วินาที เขาก็เปลี่ยนไปจากชายหนุ่มรูปงามเกินใครไป
เป็นชายวัยกลางคนที่หล่อน้อยกว่าแต่มีความเฉียบคมกว่า
เมื่อการเปลี่ยนแปลงจบสิ้น โหลวหลานจีก็ได้แต่จ้องมองเขาด้วย
ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตระหนก
“ผู้อาวุโส…” เธอพึมพำเสียงเบา