dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 526 ข้าดูแลคนของข้าเสมอ
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 526 ข้าดูแลคนของข้าเสมอ
วันถัดมา ซูหยางก็ออกจากห้องยาด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ในขณะที่หวังชูเหรินต้องคลานด้วยมือเพื่อที่จะขยับเคลื่อนไหว
“ข้ามิควรหยุดพักหนึ่งสัปดาห์…” หวังชูเหรินร่ำร้องในใจ รู้สึกเมื่อยไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงล่าง
“อย่างไรก็ตามการขายโอสถสู่ปฐพีเป็นอย่างไรบ้าง” ซูหยางถามเธอหลังจากนั้นชั่วขณะ
“สุดท้ายการขายก็เริ่มช้าลง แต่พวกเราก็ได้เกือบพันล้านก้อนหินวิญญาณเฉพาะเดือนที่แล้ว” หวังชูเหรินกล่าว
และเธอก็กล่าวต่ออีกว่า “เจ้าคาดว่าตระกูลซีจะเข้ามาแทรกแซงกับธุรกิจของพวกเราหรือไม่ก็พยายามที่จะเข้ามามีส่วนแบ่งผลกำไร แต่พวกเขามิได้มีการติดต่อกับพวกเรามากนักในเรื่องที่พวกเรายึดคลองตลาด ข้าเดาว่าพวกเขาคงกลัวที่จะล่วงเกินเจ้า นักปรุงยาลึกลับ”
“ข้าพอจะพูดได้ว่าพวกเขานั้นระวังตัวมากกว่ากลัว ถ้าเจ้าอยู่ในตำแหน่งเดียวกับพวกเขา เจ้าจะทำอย่างไรถ้านักปรุงยาที่มิรู้ที่มาปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่าพร้อมด้วยตำรับยาที่สามารถเปลี่ยนยุทธภพได้อย่างง่ายดาย”
“…” หวังชูเหรินพูดไม่ออก ในเมื่อเธอเองก็ไม่รู้ว่าตนเองจะทำอะไรในสถานการณ์เช่นนั้น
“นั่นคือมุมมองของข้า ซึ่งเจ้ามิสามารถทำอะไรได้นอกจากรอ ถ้าเจ้าพยายามสร้างสถานการณ์ นั่นจักย้อนเข้าตัวเจ้าได้อย่างง่ายดาย”
“มิว่าอย่างไรเจ้าสามารถทำการยึดครองตลาดโอสถสู่ปฐพีได้ต่อไป นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยมีหินวิญญาณมากพอสำหรับอย่างน้อยหลายสิบปีแม้ว่าตัวข้าจากไปแล้ว”
“เจ้ามั่นใจรึ ถึงแม้ว่าเจ้ามิต้องการ พวกเราก็ยังคงสามารถที่จะส่งหินวิญญาณให้เจ้าสองสามล้านก้อนหินวิญญาณให้เจ้าได้ทุกเดือน” หวังชูเหรินกล่าว
“ข้าได้เอาใจพวกเขามามากพอแล้ว” เขาตอบพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากนั้นซูหยางก็ไปจากบ้านของหวังชูเหรินและกลับไปรับตัวจางซิวยิงก่อนที่จะกลับไปยังนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย
“ท่านมั่นใจว่าข้าได้รับความยินยอมให้เป็นศิษย์ที่นี่ ซูหยาง” จางซิวยิงพลันถามเขาขณะที่พวกเขาเข้าไปในนิกาย
“แน่นอน ทำไมเจ้าจึงถามในตอนนี้” เขาเลิกคิ้ว
“เอ้อ.. ข้าได้ยินเรื่องการทดสอบศิษย์และความยากลำบากของมัน และข้าเองก็มิได้มีพรสวรรค์หรือฐานะอะไร ดังนั้นข้าจึงมิมีคุณสมบัติที่จะอยู่ที่นี่ เหตุผลเดียวที่ข้ามาที่นี่ก็เป็นเพราะว่าข้ามีความสัมพันธ์กับท่าน และเมื่อข้าคิดถึงเรื่องคนหลายพันหลายหมื่นที่ได้ล้มเหลวในการเข้าสู่นิกาย ข้าก็มีความรู้สึกผิด…” จางซิวยิงเผยความรู้สึกผิดของตนเองออกมา
แต่ทว่าซูหยางเพียงแค่ยิ้มและกล่าวว่า “การมีความสัมพันธ์ก็เหมือนกับมีฐานะ และในโลกนี้ การมีความสัมพันธ์นั้นมีความสำคัญมากเท่ากับมีพรสวรรค์หรือไม่ก็มากยิ่งกว่านั้น เจ้ามิควรจะรู้สึกผิดที่มีความสัมพันธ์ กลับกัน เจ้าควรรู้สึกภูมิใจ ในเมื่อเจ้าได้รับความเชื่อใจจากข้า ซึ่งนั่นมิใช่เป็นสิ่งที่จะได้รับมาอย่างง่ายๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา จางซิวยิงก็รู้สึกดีขึ้นบ้างเล็กน้อย
หลังจากเวลาผ่านไป ซูหยางก็ยื่นส่งตราสีทองให้กับเธอและกล่าวว่า “นับตั้งแต่วันนี้เจ้าจักเป็นศิษย์ดั้งเดิมของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย เป็นตำแหน่งพิเศษภายในนิกายที่มีเพียงข้าเท่านั้นสามารถมอบให้ได้ ในฐานะศิษย์ดั้งเดิม เจ้าจักได้รับผลประโยชน์เช่นเดียวกับศิษย์หลักถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นศิษย์นอกหรือศิษย์ในก็ตาม มันเหนือกว่าตำแหน่งอื่นและตอนนี้มีเพียงศิษย์ผู้ได้อยู่ร่วมกับเราในขณะที่ทุกคนจากไปที่นี่ที่มีตรานี้ เมื่อรวมเจ้าเข้าไปแล้วก็ยังมีน้อยกว่าหนึ่งร้อยคนที่มีตรานี้”
“ท-ท่านมั่นใจรึ ข้าพึงพอใจแล้วที่ได้เป็นเพียงแค่ศิษย์ธรรมดาถึงแม้ว่าข้าจะเป็นศิษย์นอกก็ตาม ข้าได้รับมามากพอแล้วจากท่าน ซูหยาง ท่านมิควรจะเอาใจข้าจนเกินไป”
จางซิวยิงรู้สึกว่าเขานั้นใจกว้างพอแล้วที่ยอมให้เธอเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย อีกทั้งเธอไม่ต้องการที่จะรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองได้ถือโอกาสเอาเปรียบจากความใจดีของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเป็นคนที่เธอรัก ในเมื่อเธอมั่นใจอย่างแท้จริงว่าเธอไม่ได้ทำอะไรที่สมควรได้มากเช่นนั้น
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอ ซูหยางก็สัมผัสแก้มนุ่มของเธอด้วยมือของเขาและกล่าวว่า “ข้า ซูหยางย่อมดูแลคนของข้าเสมอ ถึงแม้ว่าการพบปะของเรานั้นจะเป็นอะไรที่แข็งขืน แต่ข้านั้นก็ได้ยอมรับเจ้าเป็นคนของข้าอย่างเต็มตัว และเพื่อการนั้นก็ต้องถือเป็นงานของข้าที่จะทำให้ชีวิตของเจ้ามิให้มีอะไรไปนอกจากความสุข”
“ซูหยาง…”
จางซิวยิงพูดไม่ออกอย่างสมบูรณ์ และดวงตาของเธอก็เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแห่งความสุข
“มากับข้า”
ซูหยางพลันโอบเอวแน่งน้อยของเธอและดึงเธอเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ภายในนิกายที่ยังมิได้มีการจับจอง
“มีอะไรรึ ซูหยาง” เธอถามเขาด้วยใบหน้าสงสัย
“แม้ว่านี่อาจจะฟังดูกระทันหัน ข้าจักบอกว่าข้าจะจากที่แห่งนี้ไปในอีกสองปีข้างหน้า” เขากล่าวกับเธอหลังจากที่ปิดประตู
“เอ๋ ท่านจักไปไหนรึ”
“บ้าน แต่ทว่าที่แห่งนั้นมิได้อยู่ในโลกแห่งนี้”
“ท-ท่านหมายความว่าอย่างไร..”
“จริงแล้วข้า…”
จากนั้นซูหยางก็ทำการเปิดเผยเบื้องหลังที่แท้จริงของเขาให้กับจางซิวยิง อธิบายให้เธอฟังถึงว่าเขาเคยเป็นเซียนในชาติก่อนและจากนั้นเขาก็มาจากโลกที่แตกต่างจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์
“เซียนรึ…”
จางซิวยิงฟังเขาด้วยสีหน้างงงัน ในเมื่อเธอพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าเขาเคยเป็นเซียน อย่างไรก็ตามไม่มีเหตุผลสำหรับซูหยางที่จะโกหกเธอ ดังนั้นสุดท้ายเธอก็จึงเชื่อเขา
“และนั่นก็เป็นเรื่องราวของข้า เป็นอย่างไร เจ้ายังคงต้องการที่จะไปกับข้าไหม” เขาถามเธอหลังจากที่ได้ทำการอธิบายเสร็จแล้ว
“ใช่… เธอพยักหน้าอย่างรวดเร็ว และเธอก็พูดต่อว่า “ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นอสูรกลับชาติมาเกิด ข้าก็จักยังคงอยู่ข้างกายท่าน…”
“เช่นนั้นเรามาร่วมฝึกกันในตอนนี้และทำให้มันเป็นทางการ” เขากล่าวกับเธอก่อนที่จะลากเธอไปยังห้องนอนห้องหนึ่ง ซึ่งเขาก็ได้ถอดเสื้อผ้าของเธอออกและเริ่มสร้างความพึงพอใจให้กับตัวเธอ
สองสามนาทีให้หลัง เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของจางซิวยิงก็ดังออกไปทั่วบ้านโดยไม่มีการยับยั้ง