dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 529 วิชาฝึ กคู่
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 529 วิชาฝึ กคู่
บทที่ 529 วิชาฝึ กคู่
หลังจากที่อธิบายให้ศิษย์ฟังถึงความแตกต่างระหว่างผู้ฝึกวิชาคู่และ
ผู้ฝึกวิชาปกติและข้อได้เปรียบเสียเปรียบแล้ว ซูหยางก็ยื่นส่งวิชา
ฝีมือระดับเซียนให้กับศิษย์ชายที่จะช่วยพวกเขาเปลี่ยนปราณหยิน
ของหญิงให้กลายเป็นปราณไร้ลักษณ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนสำหรับศิษย์หญิงนั้นเขาก็มอบวิชาฝีมือระดับเซียนที่จะช่วย
พวกเธอเปลี่ยนปราณหยางให้กลายเป็นปราณไร้ลักษณ์เช่นเดียวกัน
ครั้นเมื่อศิษย์ทุกคนได้รับวิชาฝีมือแล้วซูหยางก็พูดต่อว่า “ตอนนี้เมื่อ
พวกเจ้าทุกคนได้วิชาฝีมือแล้ว ก็จะเป็นช่วงเวลามาสนุกกัน สำหรับ
ผู้ฝึกวิชาธรรมดา เป็นความจริงที่ว่าพวกเขาจะมีวิชาการต่อสู้ที่ใช้
สำหรับในการต่อสู้ แต่ทว่าสำหรับพวกเราผู้ฝึกวิชาคู่ “การต่อสู้”
ของพวกเราปกติแล้วจะอยู่บนเตียงซึ่งถือว่าเป็นสนามรบหลักของ
พวกเรา ดังนั้นพวกเราจึงจำเป็นต้องมีวิชาการต่อสู้ที่สร้างขึ้นมา
โดยเฉพาะสำหรับ “สนามรบ” เฉพาะเช่นนั้น”
จากนั้นเขาก็หันไปมองศิษย์ชายและกล่าวว่า “ข้าจักเริ่มกับศิษย์ชาย
ก่อนเป็นอันดับแรก”
จากนั้นเขาก็นำเอาม้วนคัมภีร์ออกมาจากเสื้อและกล่าวต่อว่า “ข้ามี
วิชาสามวิชาที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีความเป็นชายในใจ
ที่นี่ วิชาแรกเป็นวิชาสองวิชาในหนึ่งเดียว และศิษย์รุ่นเยาว์ที่ได้มา
อยู่ที่นี่มาก่อนพวกเจ้าทุกคนก็ได้เรียนวิชานี้ไปเรียบร้อยแล้ว มันมี
ชื่อว่า “ดรรชนีสมปรารถนา” และ “วิมานคนธรรพ์” ”
“ดรรชนีสมปรารถนาจะสอนพวกเจ้าถึงวิธีที่จะระบุจุดไวต่อความ
รู้สึกบนร่างของคู่ฝึกของเจ้า ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขอย่างมาก
เพียงแค่สัมผัสมัน ส่วนสำหรับ “วิมานคนธรรพ์” นั้น มันจักเพิ่มทั้ง
ความรู้สึกเป็นสุขของทั้งเจ้าและคู่ของเจ้าในระหว่างการฝึก กระทั่ง
ยังเพิ่มปริมาณของปราณที่พวกเจ้าทั้งคู่สร้างขึ้นมาอีกด้วย”
“วิชาที่สองเรียกว่า “มังกรรำ” ซึ่งจักสอนเจ้าถึงวิธีขยับเขยื้อนร่างกาย
ของเจ้าโดยเฉพาะสะโพกในระหว่างการฝึก ถ้าหากเชี่ยวชาญมัน
แล้ว คู่ฝึกของเจ้าก็จักหลงลืมอยู่แต่ในการฝึกปรือจนกระทั่งร่างท่อน
ล่างของเธอเจ็บปวดไปหมด วิชาสุดท้ายเรียกว่า “หัตถ์เทพ” และก็
เหมือนกับที่ชื่อบอกไว้ มันเป็นวิชาการใช้มือหลายแบบที่จักช่วยเจ้า
สร้างความพึงพอใจให้คู่ของเจ้าด้วยมือเปล่าของเจ้า”
“ครั้นเมื่อเจ้าเชี่ยวชาญวิชาพื้นฐานทั้งสามนี้แล้ว ข้าก็จักให้วิชากับ
เจ้ามากกว่านี้ อย่างเช่นวิชาสำหรับการใช้ลิ้นของเจ้าและกระทั่งการ
ใช้เท้าถ้าเจ้าต้องการ”
“ข-ขอบคุณท่านผู้นำนิกาย พวกเราจักมิทำให้ท่านผิดหวัง”
เหล่าศิษย์ชายต่างพากันคำนับเขาหลังจากที่ได้รับวิชาเทพทั้งสาม
วิชานี้
หลังจากนั้นไม่นาน ซูหยางก็หันไปมองดูศิษย์หญิงซึ่งจ้องมองเขา
ด้วยดวงตาเป็นประกาย จากนั้นเขาก็นำเอาวิชาออกมาเพิ่ม แต่คราว
นี้พวกมันมีไว้สำหรับผู้หญิง
“วิชา “ดรรชนีสมปรารถนา” และ “วิมานคนธรรพ์” มิได้เฉพาะเจาะจง
จำกัดเฉพาะชาย ดังนั้นหญิงก็สามารถฝึกได้เช่นกัน” เขากล่าวกับ
พวกเธอ
“วิชาที่สอง “หงส์ร่อน” เป็นวิชาสำหรับหญิงที่เทียบได้กับวิชา
“มังกรรำ” ของชาย และมันจักสอนเจ้าถึงวิธีการขยับร่างกายและ
สะโพกของเจ้าในวิธีที่จักทำให้คู่ฝึกของเจ้าสั่นสะท้านไปด้วย
ความสุขและยอมศิโรราบต่อหน้าเจ้า”
“วิชาที่สามก็ยังคงเป็น “หัตถ์เทพ” และมันก็เป็นวิชาที่สามารถใช้ได้
ทั้งหญิงและชาย”
“และก็เหมือนกับศิษย์ชาย ครั้นเมื่อเจ้าเชี่ยวชาญวิชาพื้นฐานนี้แล้ว
เจ้าสามารถร้องขอวิชาใหม่มากกว่านี้ได้ แม้ว่าข้ามิได้มีวิชาสำหรับ
หญิงมากมายเมื่อเปรียบกับชายแล้ว ข้าก็มีอย่างน้อยหนึ่งวิชาสำหรับ
ทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการวิชาสำหรับพื้นที่เฉพาะ
ส่วน อย่าลังเลที่จะขอพวกมัน”
“ขอบคุณท่านผู้นำนิกาย” เหล่าศิษย์หญิงพากันคำนับเขาหลังจากที่
ได้รับวิชาแล้ว
“ตอนนี้เมื่อทุกคนที่นี่ได้รับวิชาของตนเองแล้ว ข้าต้องการให้พวก
เจ้าใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ในการฝึกฝนพวกมัน” ซูหยางกล่าวกับ
พวกเขา
“แม้ว่าจริงแล้วเจ้ามิจำเป็นต้องมีคู่ฝึกสำหรับฝึกวิชาพวกนี้จริง ๆ แต่
ก็ขอแนะนำให้มีสักคน ในเมื่อนี่จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ในการฝึกฝนพวกมัน ถ้าเจ้ายังมิได้มีคู่ฝึกแล้ว พวกเจ้าก็สามารถจับคู่
กับใครสักคนชั่วคราวได้”
“ข้าจักให้เวลาพวกเจ้าตลอดทั้งเดือนนี้ฝึกฝนวิชาเหล่านี้ ครั้นเมื่อ
เวลาหนึ่งเดือนหมดลง ข้าก็จักดูความก้าวหน้าของพวกเจ้าด้วย
ตนเอง และถ้าหากว่าพวกเจ้าเป็นศิษย์หญิงที่มิได้มีคู่ฝึกและยินดีที่
จะร่วมฝึกกับข้า เจ้าก็สามารถที่จะแสดงให้ข้าเห็นความก้าวหน้าด้วย
วิชาเหล่านี้ด้วยตนเองบน “สนามรบ””
เมื่อบรรดาศิษย์หญิงได้ยินประโยคสุดท้ายของเขา ดวงตาของพวก
เธอก็เป็นประกายไปด้วยความตื่นเต้น และรอยยิ้มน่าประทับใจก็
ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเธอ
“ข้าสามารถฝึกกับท่านผู้นำนิกายได้ในอีกหนึ่งเดือน” พวกเธอต่าง
พากันตื่นเต้นกับความคิดนั้นและเกือบจะไม่สามารถเก็บความ
ตื่นเต้นนั้นไว้กับตัวได้
“นั่นคือสิ่งที่ข้ามีให้สำหรับพวกเจ้าในวันนี้ จนกว่าจะถึงเดือนหน้า”
หลังจากที่ปล่อยศิษย์สาขาฝึกคู่ไปแล้ว ซูหยางก็กลับไปยังศาลาหยิน
หยางที่ซึ่งโหลวหลานจีรอคอยเขาอยู่ภายในห้องนอนของเธอเพื่อ
เติมเต็มร่องรักของเธอด้วยปราณหยางอีกครั้ง
“ถ้าให้ข้าเดา ไม่มีศิษย์ชายคนไหนที่สามารถจะชักจูงศิษย์หญิงให้
กลายเป็นคู่ของพวกเขาได้” โหลวหลานจีกล่าวกับเขาทันทีที่เขาเข้า
ไปในห้องในขณะที่เธอซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียง
“ในฐานะผู้นำนิกาย เจ้ามิเชื่อในศิษย์ของตนเองบ้างรึ” ซูหยางกล่าว
ด้วยรอยยิ้ม “พวกเขาสองคนสามารถหาคู่ฝึกให้ตนเองได้”
“จริงรึ มีมากกว่าที่ข้าคาดคิดไว้ถึงสองคน… ข้ารู้สึกประหลาดใจ
จริง ๆ” โหลวหลานจีกล่าวด้วยดวงตาเบิกกว้าง ในเมื่อตามจริงแล้ว
เธอไม่ได้คาดคิดถึงผลลัพธ์นี้
“อย่างไรก็ตามข้าได้ให้เวลาพวกเขาหนึ่งเดือนในการฝึกวิชาก่อนที่
ข้าจะทดสอบความสามารถของพวกเขา ส่วนสำหรับเหล่าศิษย์หญิง
ข้าก็จักร่วมฝึกกับพวกเธอในเวลานั้นเช่นกัน” เขากล่าว
“เฮ้อ… เจ้ามิเป็นคนโชคดีเกินไปหรือเปล่า เจ้าต้องยิ้มกว้างจนถึงหู
ในใจแน่ที่ได้มีหญิงสาวมากมายปานนี้รอคอยฝึกร่วมกับเจ้า ข้าพนัน
ว่าพวกเธอส่วนใหญ่ยังคงเป็นสาวบริสุทธ์ิ” โหลวหลานจีหัวเราะเบา ๆ
“นั่นมิมีอะไรแปลกใหม่” เขาตอบด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น
“แน่นอนก็เจ้าคุ้นเคยกับการที่มีหญิงสาวรอคอยเจ้าอยู่ ตอนนี้ทำไม
เจ้ามิให้ข้าได้รับรู้ด้วยตนเองว่าวิชาเหล่านั้นที่เจ้าสอนศิษย์ไปนั้น
เป็นอย่างไร” โหลวหลานจีกล่าวกับเขาขณะที่เธอพลิกผ้าห่มที่ซ่อน
ร่างเปลือยเปล่าของเธอเอาไว้อย่างมิดชิดมาตลอดออก
เมื่อเห็นผิวที่เนียนนุ่มและขาเรียวยาวของเธอ ซูหยางก็เข้าไปหาเธอ
อย่างเยือกเย็น
“เจ้าพูดอะไรกัน ในฐานะผู้นำนิกาย เจ้าเองก็ต้องเรียนวิชาเหล่านี้
เช่นกัน และข้าก็กำลังจะสอนวิชาเหล่านี้ให้กับเจ้าด้วยเช่นกัน” เขา
กล่าวขณะที่ถอดเสื้อผ้าออก
“โอ” โหลวหลานจีอุทานด้วยความประหลาดใจ