dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 559 ชุ่มโชกไปด้วยปราณหยิน
บทที่ 559 ชุ่มโชกไปด้วยปราณหยิน
“เอาล่ะ พวกเราไปยังที่พักของเจ้ากัน” ซูหยางกล่าวกับฟางเซี่ยวหรู
หลังจากนั้น
“พี่ชายท่านต้องระมัดระวังตัว ใครจะรู้ว่าเธอหรือตระกูลฟางวางแผน
อะไรกันบ้าง มันอาจจะเป็นกับดักก็ได้” ซูหยินกระซิบข้างหูเขาก่อน
ที่พวกเขาจะออกไปจากศาลาหยินหยาง
“ข้าจักจดจำไว้” เขาพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม
หลังจากที่ออกไปจากศาลาหยินหยางแล้ว ซูหยางก็ติดตามฟางเซี่ยว
หรูไปยังที่พักของเธอ
ครั้นเมื่อเข้าไปด้านในแล้ว ซูหยางก็ส่งวิชาการต่อสู้ที่เป็นรากฐาน
ของวิชาหมัดภูเขาสูงสุดให้กับเธอ
“มีกระบวนท่าต่อสู้หลักทั้งหมดหกกระบวนท่าที่เจ้าสามารถเรียนรู้
จากวิชานี้ หมัดภูเขาสูงสุดนั้นเป็นแค่กระบวนท่าที่อ่อนด้อยที่สุดใน
กระบวนท่าเหล่านั้น แน่นอนว่านี่ยังคงเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของวิชา
ทั้งหมดซึ่งมีกระบวนท่าทั้งหมดถึงสิบสองกระบวนท่า”
ฟางเซี่ยวหรูจ้องมองไปยังวิชาการต่อสู้นี้อย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะถาม
เขาหลังจากนั้นอีกชั่วขณะ “ท่านมิกังวลว่าข้าจักโกหกท่านรึ ซึ่งข้า
อาจจะวิ่งหนีไปพร้อมกับวิชาการต่อสู้ ซึ่งข้าก็อาจจะแบ่งปันให้กับ
ตระกูลฟางก็ได้”
ซูหยางยิ้มและกล่าวว่า “เพราะข้ามีความมั่นใจว่าข้าสามารถที่จะเอา
มันกลับคืนมาไม่ว่าเจ้าตัดสินใจจะยกมันให้ใครก็ตาม”
“ข้าเข้าใจแล้ว…” ฟางเซี่ยวหรูรับวิชาไว้หลังจากนั้นชั่วขณะ
หลังจากที่เก็บวิชาไว้ในแหวนมิติของเธอแล้ว เธอก็หันไปมองเขา
แล้วกล่าวว่า “ตามสัญญา ตอนนี้ข้าจักเสนอร่างกายให้กับท่าน…”
เธอเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าจากตรงนั้น เปิดเผยถึงร่างแบบบางสะสวย
ของเธอ
“…”
ซูหยางมองร่างไร้ที่ติของเธออย่างเงียบ ๆ ซึ่งก็สมกับเป็นน้องสาว
ของฟางซีหลาน เธอสวยเช่นเดียวกับพี่สาว
“ข้ามิเคยทำเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นข้าจำเป็นจักต้องให้ท่านนำข้า…”
เธอกล่าวหลังจากนั้นด้วยเสียงที่เบาและเอียงอาย
ซูหยางพยักหน้าและดึงเธอเข้าไปในห้องหนึ่ง ก่อนที่จะวางเธอลง
ไปบนเตียง
“อาา… นี่น่าอายยิ่งกว่าที่ข้าคิดว่ามันควรจะเป็น…” เธอพึมพำ รู้สึก
ถึงสายตาแหลมคมของซูหยางที่โลมเลียไปทั่วทั้งร่างเปลือยเปล่า
ของเธอ
“ให้ข้าทำให้เจ้าได้ผ่อนคลายก่อนก็แล้วกัน” ซูหยางกล่าวกับเธอ
ก่อนที่เขาจะใช้ปากของเขาประกบกับกลีบดอกไม้ที่อยู่ตรงขาของ
เธอ
“อาาาา…” ฟางเซี่ยวหรูครางออกมาเสียงดังเมื่อเธอรู้สึกว่าลิ้นของ
เขาสัมผัสกับเกสรอันอ่อนนุ่มของเธอ
สองสามวินาทีถัดจากนั้น ปราณหยินก็ทะลักออกมาจากช่องรักของ
เธอ พุ่งเข้าเต็มหน้าซูหยาง
“อา ข-ข้าเสียใจ… มันออกมาอย่างกะทันหัน…” เธอขอโทษเขา
หลังจากนั้น
“มิมีความจำเป็นที่จะต้องขอโทษ ข้าสามารถที่จะหลีกเลี่ยงมันใน
เมื่อข้ารู้ว่ามันกำลังจะออกมา แต่ข้าถือว่าเป็นเกียรติที่ได้อาบด้วย
ปราณหยิน” ซูหยางกล่าวขณะที่เขาเลียปราณหยินบนใบหน้าตนเอง
อย่างใจเย็นด้วยท่าทางเปี่ยมเสน่ห์
ใบหน้าของฟางเซี่ยวหรูแดงขึ้นมาหลังจากที่เห็นการกระทำของเขา
สองสามอึดใจให้หลัง ซูหยางก็ถอดเสื้อผ้าของตนเองออก เปิดเผย
ร่างกายอันหล่อเหลาของเขาให้กับเธอ
“ใหญ่จัง…” ฟางเซี่ยวหรูปิดปากของเธอด้วยความตกใจ หลังจากที่
เห็นกระบองขนาดใหญ่น่ากลัวที่อยู่ตรงหว่างขาของเขา
“ข้ากำลังจะดันมันเข้าไปแล้วนะในตอนนี้” เขาเตือนเธอ
“ได้เลย” เธอพยักหน้า
ซูหยางเริ่มดันส่วนปลายของกระบี่ของเขาเข้าไปในช่องแคบระหว่าง
ขาของเธอ ฉีกช่องเล็ก ๆ ของเธอให้ขยายกว้างขึ้น
“อืมมมม” ฟางเซี่ยวหรูกัดริมฝีปากเพื่อทนต่อความเจ็บปวด และเธอ
ก็สามารถรับรู้ได้ว่าช่องรักของเธอนั้นแผดเผาไปด้วยไฟปรารถนา
ครั้นเมื่อกระบี่ของเขาทั้งแท่งนั้นสอดเข้าไปภายในร่างของเธอแล้ว
ซูหยางก็เริ่มขยับสะโพก ดันและถูไถกระบองใหญ่ของเขากับถ้ำ
สวาทของเธอ
“อาาาาา…”
“อาาาาาา…”
“อาาาา”
ฟางเซี่ยวหรูครวญครางดังลั่นขณะที่ซูหยางทิ่มแทงช่องคับแน่นของ
เธออย่างถี่ยิบ รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเธอสุมรุมเร้าไปด้วยไฟ เป็น
ประสบการณ์ประดุจสรวงสวรรค์ที่ไม่อาจที่จะอธิบายออกมาเป็น
คำพูดได้
“อืมมมม…”
“โออออ”
“อาาาา…”
“ม-มันจะออกมาอีกแล้ว”
ฟางเซี่ยวหรูร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง และในอึดใจถัดไป กระแส
ปราณหยินอีกสายก็พุ่งทะลักออกมาจากช่องรักของเธอ
อย่างไรก็ตามซูหยางไม่ได้หยุดชะงักกับการขยับสะโพกของเขา เขา
ยังคงทำการทิ่มแทงเข้าไปในร่างของเธอในขณะที่เธอปลดปล่อย
ปราณหยินออกมา จนทำให้ปราณหยินยิ่งทะลักออกมามากยิ่งขึ้น
“อาาาา ข้ามิอาจที่จะหยุดมิให้มันออกมาได้” ฟางเซี่ยวหรูอุทานออกมา
ด้วยเสียงประหม่า ขณะที่ร่างของเธอยังคงปลดปล่อยปราณหยิน
ออกมาต่อเนื่องอย่างควบคุมไม่ได้แม้ว่าจะผ่านไปได้สักพักหนึ่งแล้ว
ก็ตาม
“มิจำเป็นที่จะต้องกลัว ปล่อยมันออกมาให้หมด” ซูหยางกล่าวกับ
เธอในขณะที่ร่างกายท่อนล่างของเขานั้นยังคงทะลุทะลวงถ้ำคับ
แน่นตรงหน้าเขา
เพียงแค่ไม่กี่นาที ฟางเซี่ยวหรูก็ถึงจุดสุดยอดมากกว่าสิบครั้ง รู้สึก
หมดแรงหลังจากนั้น ราวกับว่าเธอเพิ่งเสร็จสิ้นจากการวิ่งมาราธอน
รอบโลก
“นั่นช่าง… น่าอัศจรรย์…” ฟางเซี่ยวหรูกล่าวกับเขาด้วยเสียงเบา
หอบเหนื่อย
ซูหยางยิ้มและกล่าวว่า “น้ำพุของเจ้าก็น่าอัศจรรย์เช่นกัน ข้าชุ่มโชก
ไปด้วยปราณหยินของเจ้า”
หน้าของฟางเซี่ยวหรูฉีดสีแดงออกมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา
มองดูหน้าตาของซูหยางในตอนนี้ เขาเหมือนกับว่าเพิ่งอาบน้ำมา
เมื่อทั้งร่างกายและเส้นผมของเขาล้วนชุ่มโชกไปด้วยน้ำศักด์ิสิทธ์ิ
ของเธอ
“เจ้ายังต้องการต่อหรือไม่ เรามีเวลามากมายในวันนี้” ซูหยางถามเธอ
ในเวลาต่อมา
“อื้อ” เธอพยักหน้าอย่างช้า ๆ
สองสามอึดใจให้หลัง ซูหยางก็สอดกระบี่ของเขาเข้าไปในถ้ำของ
เธอ และพวกเขาก็เริ่มฝึกคู่กันอีกครั้ง
ถัดจากนั้นอีกสองสามชั่วโมง ซูหยางกับฟางเซี่ยวหรูก็ร่วมฝึกด้วยกัน
นับครั้งไม่ถ้วน และฟางเซี่ยวหรูก็ปลดปล่อยปราณหยินของเธอ
หลายครั้งจนเธอเลิกนับไปแล้ว
“ขอบคุณ ซูหยาง สำหรับประสบการณ์ที่มหัศจรรย์นี้ ข้าจักจดจำมัน
ไปจนตราบชั่วชีวิตของข้า…” เธอกล่าวกับเขาหลังจากนั้น
ซูหยางเพียงแค่ยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าสามารถไปหาข้าได้เมื่อไหร่ที่เจ้า
รู้สึกอยากจะฝึกอีกครั้ง ข้าจักสร้างความสุขสันต์ให้แก่เจ้าถ้าข้ามี
เวลา”
“ถ้างั้นข้าก็มิเกรงใจแล้ว…” เธอกล่าวจากนั้นเธอก็พูดต่ออีกว่า
“แน่นอนว่าข้าจักตามให้ทันพี่สาว”
“ฟางซีหลานรึ” ซูหยางหัวเราะเบา ๆ “เช่นนั้นเจ้าจักต้องมีเรื่อง “ไล่
ตาม” มากมายให้ทำ”
“จริงรึ…” เธอมองไปยังเขาด้วยสีหน้างงงัน
“ควรจะเป็นตามนั้นอยู่แล้ว ในเมื่อเธอได้เป็นศิษย์ที่นี่มานานมากกว่า
เจ้านัก และพวกเราก็ได้ร่วมฝึกกันเกือบทุกวันเป็นเวลาต่อเนื่องกว่า
ครึ่งปี ทั้งยังทำหลายครั้งต่อวันอีกด้วย” เขากล่าว
“ข้าเข้าใจแล้ว…” เธอพยักหน้าหลังจากนั้น ดวงตาเธอเปี่ยมไปด้วย
ความมุ่งมั่นที่จะ “ไล่ตาม” ฟางซีหลาน