dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 562 กลับคืนไปยังเมืองหิมะโปรย
บทที่ 562 กลับคืนไปยังเมืองหิมะโปรย
“ผู้อาวุโสหลาน ท่านก็มีตราประจำตระกูลของซูหยางใช่ไหม” ซุน
จิงจิงถามอีกฝ่ายเพื่อความมั่นใจ
ซูลี่ชิงพยักหน้าและเธอก็พูดขึ้นว่า “อีกอย่าง ข้าเปลี่ยนมาใช้สกุล
ของซูหยาง ดังนั้นข้ามิได้ชื่อหลานลี่ชิงอีกต่อไปแต่เป็น ซูลี่ชิง”
“มิน่าเชื่อ… ข้าถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับตัวท่านตอนที่ข้า
เห็นท่านที่การทดสอบศิษย์ ความสัมพันธ์ของท่านกับซูหยางเริ่มขึ้น
เมื่อไหร่รึ ข้าคงมิคาดคิดว่าพวกท่านทั้งสองนั้นสนิทสนมกันแน่หาก
มิใช่เพราะตราประจำตระกูล” ซุนจิงจิงถามด้วยดวงตาที่เปี่ยมไป
ด้วยความสนใจ
“ข้าควรเริ่มจากตรงไหนดี” ซูลี่ชิงเผยรอยยิ้ม และเธอก็เริ่มนึกไปถึง
อดีตของเธอกับซูหยาง เริ่มตั้งแต่เมื่อตอนเขาเป็นเพียงแค่ศิษย์นอก
ในเมื่อซุนจิงจิงก็มีตราประจำตระกูลเช่นเดียวกัน นั่นก็หมายความว่า
ซูหยางได้เชื่อถืออีกฝ่ายอย่างแท้จริงแล้ว ดังนั้นซูลี่ชิงจึงเล่าให้ซุน
จิงจิงฟังระหว่างเธอกับซูหยางได้อย่างสบายใจ ทั้งยังรู้สึกดีใจอีก
ด้วย ที่สุดท้ายเธอก็มีคนที่สามารถพูดด้วยได้อย่างเต็มที่
หลังจากนั้นเมื่อได้ฟังเรื่องราวของซูลี่ชิงแล้ว ซุนจิงจิงก็มีสีหน้าทั้ง
ประหลาดใจและยอมรับนับถือ
“พี่สาว ท่านช่างกล้ากว่าที่ข้าคาดคิดไว้อย่างแท้จริง เมื่อมาคิดว่าท่าน
ได้มีความสัมพันธ์กับซูหยางนับตั้งแต่เขาเป็นเพียงแค่ศิษย์นอก
กระทั่งถึงกับมิสนใจในกฎของนิกาย ข้ามิรู้ว่าข้าจักสามารถทำ
เช่นเดียวกันกับท่านได้หรือไม่หากว่าข้าสวมบทบาทเดียวกับท่าน”
ซูลี่ชิงหัวเราะอย่างสง่างาม แล้วเธอก็กล่าวขึ้นว่า “ตอนนี้เมื่อข้าได้
บอกเรื่องราวของข้าแก่เจ้าแล้ว ทำไมเจ้าจึงมิบอกข้าเรื่องของเจ้า
บ้าง”
ซุนจิงจิงพยักหน้าและเริ่มบอกเรื่องราวของตนเอง จากนั้นพวกเธอ
ทั้งสองคนก็ได้อยู่ภายในห้อง พูดคุยเกี่ยวกับประวัติความเป็นมากับ
เรื่องของซูหยางเป็นเวลาหลายนาที ทำเหมือนกับว่าพวกเธอนั้นเป็น
พี่น้องกันจริง ๆ
ในเวลานั้น หลังจากที่ซูหยางได้ตระเตรียมสิ่งของต่าง ๆ เรียบร้อย
แล้ว เขาก็ไปตรวจดูเยี่ยนเยี่ยน
“สมกับเป็นคนที่ได้รับความชื่นชอบจากสวรรค์… เป็นเพียงเวลา
ไม่กี่วันนับตั้งแต่ข้าเห็นเจ้า และพลังการฝึกปรือของเจ้าก็ได้เพิ่มขึ้น
ไปอีกระดับหนึ่งเรียบร้อยแล้ว” ซูหยางชมความเร็วในการฝึกฝนที่
น่าเหลือเชื่อของเธอ
“ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะวิชาการฝึกปรือที่ท่านให้กับข้า อาจารย์”
เยี่ยนเยี่ยนกล่าว และเธอก็กล่าวต่ออีกว่า “รวมไปถึงความช่วยเหลือ
จากหินวิญญาณจำนวนมากนั่น”
ซูหยางพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เจ้าจักเข้าถึงเขตอัมพรวิญญาณในสิ้น
ปีนี้หากไปด้วยความเร็วระดับนี้”
หลังจากที่ตรวจสอบเยี่ยนเยี่ยนแล้ว ซูหยางก็ไปหาจางซิวยิง ซึ่งก็ก็
ฝึกฝนไปได้อย่างราบรื่นด้วยวิชาฝีมือที่เขาสร้างขึ้นให้กับเธอ
“ซูหยาง วิชาการฝึกปรือที่ท่านสร้างขึ้นนั้นช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ มัน
ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าข้ายังคงฝึกวิชาของนิกายดอกบัวเพลิง แต่มัน
เร็วกว่าเดิมมิรู้กี่เท่า” จางซิวยิงกล่าว
“ข้าดีใจที่เจ้าชอบ อย่างไรก็ตามข้าจักจากนิกายไปสักสองสามวัน
ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการอะไร ก็เพียงไปหาโหลวหลานจี หรือเจ้าติดต่อ
ข้าผ่านหินวิญญาณก็ได้” เขากล่าว
จางซิวยิงพยักหน้า
ในเวลาหลังจากนั้น ซูหยางก็จากนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยไปหาหวังชู
เหรินที่นิกายดอกบัวเพลิง
“ซูหยาง ท่านมาถึงเร็วกว่าที่ข้าได้คาดคิดไว้” หวังชูเหรินกล่าว
หลังจากที่ให้เขาเข้ามาในบ้าน
“ข้าต้องการปรุงยาบางตัวก่อนงานชุมนุม และวัตถุดิบทั้งหมดก็อยู่
ที่นี่แล้ว”
“โอ ข้าสามารถดูได้หรือไม่” เธอรีบถามเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วย
คามตื่นเต้น
“ทำตามที่เจ้าต้องการ” เขากล่าวก่อนที่จะเข้าไปยังห้องยา
สองสามนาทีให้หลัง ซูหยางก็เริ่มปรุงยาในขณะที่หวังชูเหรินมองดู
เขาอยู่ที่มุมห้อง ดูเหมือนเด็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงใจ
“มันช่างน่าตื่นเต้นมิว่าจะกี่ครั้งที่ข้าดูเขาปรุงยาก มีบางอย่างที่น่า
หลงใหลกับการเคลื่อนไหวของเขา รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังดูมหรสพ”
ในความรู้สึกที่เหมือนเพิ่งผ่านไปเพียงพริบตาของเธอ ซูหยางก็ปรุง
ยาที่แตกต่างเฉพาะตัวเสร็จสิ้นไปนับโหล
“ท่านจะทำอะไรกับยาเหล่านี้รึ” เธอถามเขาหลังจากนั้น
“เจ้าจักเห็นเมื่อตอนระหว่างงานชุมนุม” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มลึกลับ
“ว่าแต่ว่า เจ้าพร้อมสำหรับงานชุมนุมแล้วรึ” เขาถามเธอในเวลาต่อมา
“ใช่ สถานที่สำหรับงานชุมนุมได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว และข้าก็
เพียงแค่รอคอยท่าน”
ซูหยางพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ดี เช่นนั้นพวกเราไปยังสถานที่นั้นกัน
ตอนนี้เลย”
“ตอนนี้ งานชุมนุมยังมิเริ่มจนกว่าจะถึงสัปดาห์หน้า” เธอกล่าว
“มันใช้เวลาเพียงแค่สองสามนาทีเอง”
ในเวลาต่อมา ซูหยางก็ได้นำหวังชูเหรินขึ้นไปยังยานบินเป็นครั้ง
แรก
“เราต้องไปที่ไหน” เขาถามเธอ
“เมืองหิมะโปรย” หวังชูเหรินตอบโดยเร็ว
ซูหยางเลิกคิ้ว เขาไม่คิดว่าเขาจะกลับไปยังที่นั่นเร็วปานนี้
“ภายในเมืองจะมีพื้นที่ชุมนุมที่พิเศษมากเหมาะสมสำหรับคนนับพัน
มารวมตัวกันได้ง่าย ปกติจะถูกตระกูลซีใช้เมื่อพวกเขามีการชุมนุม
ตระกูลและสำนักต่าง ๆ ร่วมกัน ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสมที่
จะให้พวกเราไปรวมตัวกัน ข้าได้ขอสิทธ์ิในการใช้กับตระกูลซีแล้ว
และในเมื่อเจ้าซีเองก็จักเข้าร่วมงานชุมนุมด้วยเช่นกัน เขาจึงยอมให้
พวกเราใช้โดยไม่มีปัญหาขัดแย้งใด ๆ”
“ดีมาก เกาะให้แน่น ๆ” ซูหยางกล่าวกับเธอ
หวังชูเหรินไม่ได้คิดมากนัก เธอเกาะยานบินไว้แน่น
วืดดด
เมื่อยานบินเริ่มเคลื่อนไหว หวังชูเหรินก็รู้สึกราวกับว่าวิญญาณของ
เธอได้ถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลังกับความเร็วที่ประหนึ่งพายุบ้าคลั่ง
ขณะที่พวกเขาได้เดินทาง และก่อนที่เธอจะทันได้สงบใจ พวกเขาก็
ไปถึงเมืองหิมะโปรยเรียบร้อยแล้ว
“อึ๊ก… ข้ารู้สึกเหมือนกับถูกเหวี่ยง…” หวังชูเหรินมีปัญหากับการ
ยืนให้มั่นหลังจากนั้น ถึงกับสะดุดเรือเมื่อตอนที่เธอพยายามที่จะ
ออกจากเรือ
“พวกเราอยู่ที่เมืองหิมะโปรยแล้วรึ ว่าแต่ว่ายานบินนี้เดินทางได้เร็ว
เท่าไหร่”
“มันสามารถที่จะเดินทางได้หลายพันกิโลเมตรเพียงแค่ชั่วกระพริบ
ตา” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่น่าเชื่อ…”
ครั้นเมื่อหวังชูเหรินสงบใจลงแล้ว พวกเขาทั้งคู่ก็เข้าไปในเมือง
แม้ว่ามันไม่สามารถที่จะเปรียบได้กับตอนการแข่งขันระดับภูมิภาค
ที่ซึ่งมีคนหลายล้านพยายามที่จะเข้าไปในเมือง แต่ก็ยังคงถือว่า
จำนวนคนที่พยายามจะเข้าไปในเมืองในเวลานี้นั้นมากโขอยู่
และที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนหน้านั้น พวกเขาสามารถที่จะเข้าไป
ในเมืองได้โดยไม่มีปัญหาใด
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขาเข้าไปในเมืองแล้วนั้น ซูหยางก็ได้
ยินเสียงฟาดแส้ ตามมาด้วยเสียงที่คุ้นเคยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด