dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - ตอนที่ 263
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - ตอนที่ 263
DC บทที่ 263: การตายอย่างฉับพลัน
ยามเมื่อเซียวลี่ลดตัวลงจากฟากฟ้าด้วยรูปร่างที่แท้จริง สายตาทั้งมวลที่จับจ้องยังตัวเธอล้วนเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นระคนความชื่นชม ในเมื่อไม่มีใครสักคนที่นั่นเคยเห็นเด็กหญิงที่สวยงามเช่นนั้นมาก่อน
แม้จะดูเหมือนว่าเธออายุประมาณสิบสามปี ความงามของเซียวลี่ก็เหนือเกินกว่าแม้กระทั่งโหลวหลานจีไปหลายเท่า และผู้คนก็ได้เพียงแต่จินตนาการว่าเธอจะโตขึ้นเป็นเทพธิดาอย่างไรเมื่อเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจอมยุทธจากนิกายล้านอสรพิษต้องการที่จะยืนอยู่ที่นั่นตลอดวันเพื่อชื่นชมความงามของเซียวลี่แต่กลิ่นอายกระหายเลือดก็ปลุกให้พวกเขาแตกตื่นกลับคืนมาสู่ความเป็นจริงอย่างรวดเร็ว
“ธ-ธ-เธอกำลังเหาะ”
หนึ่งในจอมยุทธรีบตั้งข้อสังเกต
มีเพียงผู้ฝึกวิชาเขตราชันย์วิญญาณขึ้นไปเท่านั้นที่มีความสามารถในการบินบนท้องฟ้าด้วยปราณไร้ลักษณ์ของตนเอง แต่ในที่แห่งนี้ที่เขตอัมพรวิญญาณเป็นระดับสูงสุด มีน้อยคนนักที่จะรู้จักเขตการฝึกปรือระดับนั้น
กล่าวไปแล้วเพราะว่าเขามีความรู้กว้างขวาง ผู้อาวุโสวันจึงพลันนึกขึ้นได้ว่าเซียวลี่เป็นผู้ฝึกวิชาระดับราชันย์วิญญาณ
“ร-ร-ราชันย์ นั่นเป็นราชันย์จริงๆ เหตุใดจึงมีสิ่งมีชีวิตในตำนานปรากฏตัวอยู่ในที่แห่งนี้ อีกทั้งยังปกป้องนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยที่ไม่สำคัญนี้ได้อย่างไร”
เท่าที่เขารู้ ผู้ฝึกวิชาเขตราชันย์วิญญาณมีเพียงในตำนาน อย่างไรก็ตามหลังจากเห็นความสามารถในการบินของเซียวลี่และรับรู้ถึงพลังกดดันอันรุนแรงของเธอ เขาจึงได้แต่มีเพียงข้อสรุปเช่นนั้น
ขณะที่ผู้อาวุโสวันกำลังประสบกับความตื่นตระหนกของชีวิตตนเอง เท้าเล็กๆของเซียวลี่สุดท้ายก็สัมผัสพื้น
เธอมองดูเหล่าจอมยุทธจากนิกายล้านอสรพิษด้วยสีหน้าเรียบเฉย ที่ดูเหมือนเย็นชาถึงที่สุดในมุมมองของพวกเขา
“พวกเจ้าทำให้นายข้าอารมณ์เสีย ดังนั้นข้าจักต้องฆ่าพวกเจ้า”
หลังจากพูดคำพูดเหล่านั้นแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องปล่อยให้บรรดาจอมยุทธได้มีปฏิกิริยา เซียวลี่สะบัดชายเสื้อ เกิดเป็นเสี้ยวปราณไร้ลักษณ์ที่คล้ายกับคมมีดที่มองไม่เห็นตวัดผ่านพื้นที่ตรงไปยังจอมยุทธทั้งสามสิบคน
คมปราณไร้ลักษณ์เคลื่อนด้วยความเร็วที่เร็วมากจนกระทั่งไม่มีใครจากนิกายล้านอสรพิษจะสามารถทันได้มีปฏิกิริยาใด ในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาทีมันก็เฉือนเอาศีรษะเก้าหัวออกจากตัวในกลุ่มจอมยุทธที่กำลังหวาดกลัว
ผู้อาวุโสวันและคนอื่นรู้สึกหนาวเยือกไปทั่วไขสันหลัง ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมได้ด้วยความสยดสยอง
เพียงแค่กระพริบตา หนึ่งในสามของกลุ่มพวกเขาก็ถูกฆ่า
นี่เป็นพลังอำนาจอันไร้เหตุผลประเภทไหนกัน ต้องเป็นสัตว์ประหลาดประเภทไหนจึงสามารถฆ่าจอมยุทธเขตปฐพีวิญญาณเก้าคนด้วยเพียงแค่การสะบัดชายเสื้อของเธอและทำเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นมดจริงๆ
“อาาาา”
จอมยุทธจากนิกายล้านอสรพิษบางคนพลันกรีดร้องด้วยเสียงหวาดกลัวหลังจากเห็นภาพนั้น กระทั่งล้มลงก้นจ้ำเบ้า บางคนก็ถึงกับฉี่ราดกางเกงหลังจากเห็นความแข็งแกร่งอันน่ากลัวของเซียวลี่
อย่างไรก็ตามความจริงก็คือเซียวลี่แทบจะไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งของเธอเลย เธอเพียงแค่เล่นสนุกกับคนเหล่านี้ ถ้าเธอต้องการฆ่าพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จริงๆ สิ่งที่เธอจำเป็นต้องทำก็คือจามออกมาด้วยเพียงไม่ต้องถึงครึ่งของพลังการฝึกปรือของเธอ และคนเหล่านี้ที่ได้ถูกขนานนามว่า “จอมยุทธ” ก็จะถูกลบออกไปจากพื้นผิวของโลกนี้
หลังจากฆ่าไปเก้าคน เซียวลี่ก็หันไปดูคนที่เหลืออีกยี่สิบ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความบันเทิง
ถึงแม้ว่าแมวภูติเป็นสัตว์ที่เชื่องตามธรรมชาติและยากที่จะฆ่าใครสักคน แต่ยามเมื่อพวกเธอเริ่มฆ่า นั่นมักจะเป็นเหตุให้เกิดการนองเลือดในที่สุด และนี่ยิ่งเป็นจริงกับจอมแมวภูติ นี่เป็นเหตุว่าทำไมผู้คนส่วนใหญ่จึงอยู่ห่างไกลจากพวกเธอ ในเมื่อพวกเธอไม่เพียงยากที่หาแต่พวกเธอยังอันตรายมากถ้าถูกล่วงเกิน
“ร-ร-รอสักครู่…ร-เรามาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเถอะ”
ผู้อาวุโสวันตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าแทนที่จะเป็นเซียวลี่ ในเมื่อเธอเพียงรับคำสั่งจากเสียงลึกลับ
“ร-เรามิเพียงปล่อยนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยไปนับแต่บัดนี้เป็นต้นไปแต่เรายังจะลืมความจริงที่ว่าคนของเราทั้งเก้าได้ตายในวันนี้ที่นี่ ส่วนสำหรับวิญญาณพิทักษ์ ท่านสามารถสามารถเอามันกลับไปได้”
ผู้อาวุโสวันย่อมยอมละทิ้งวิญญาณพิทักษ์ดีกว่าไปล่วงเกินผู้ฝึกวิชาเขตราชันย์วิญญาณมากกว่านี้ ส่วนที่ว่าผู้นำนิกายล้านอสรพิษจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับการกระทำของเขานั้น เขาจะต้องกลับไปรายงาน ถ้าเขาสามารถกลับไปอย่างมีชีวิต
อย่างไรก็ตามเสียงลึกล้ำนั้นเพียงแค่หัวเราะด้วยท่าทางเยาะหยัน
“ถ้าข้าฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดวันนี้ที่นี่ ข้าก็จักได้ผลลัพธ์เดียวกัน”
ผู้อาวุโสวันสั่นสะท้านเมื่อได้ยินคำพูดเหี้ยมโหดนั้น ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสคนนี้อันตรายยิ่งกว่าที่เขาคาดคิดไว้
“ทำไมท่านต้องทำเกินไปเช่นนี้ จะมีประโยชน์อะไรที่ท่านจักได้รับจากการฆ่าพวกเรา นั่นเพียงทำให้นิกายล้านอสรพิษโกรธยิ่งขึ้น ตามจริงทั้งนิกายล้านอสรพิษจะมาที่นี่ภายในวันพรุ่งนี้ถ้าไม่มีพวกเราคนใดกลับไป”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ช่างเป็นคำพูดที่คุ้นเคยที่ข้าเคยได้ยินมาจากที่ไหนมาก่อน โอ ใช่แล้ว…นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยได้ขอร้องเจ้าเช่นเดียวกันนี้เมื่อเก้านาทีก่อน…”
ความหวังที่จะรอดชีวิตของผู้อาวุโสวันเกือบทั้งหมดล้วนแตกสลายหลังจากได้ยินเสียงพูดนั้น มันชัดเจนสำหรับเขาที่ว่าพวกเขาได้ล่วงเกินเสียงนั้นจนถึงขั้นที่ว่าลำพังความเมตตาไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับเขาอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามขณะที่เขาคิดเช่นนั้น เสียงนั้นก็พูดต่อว่า
“อย่างไรก็ตามเจ้าพูดบางอย่างถูกต้อง ถ้ามิมีใครสักคนจากกลุ่มพวกเจ้ากลับไปเตือนพวกเขา ข้าจักต้องฆ่าทั้งนิกายล้านอสรพิษทิ้ง แต่ใช่ว่าข้าจะมีปัญหากับสิ่งนั้นแต่อย่างใด”
“เช่นนั้น..”
ขณะที่ผู้อาวุโสวันรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้างนั้น เสียงนั้นพลันตบหน้าเขาด้วยถ้อยคำอันโหดร้าย
“เซียวลี่ฆ่าพวกมันทั้งหมดยกเว้นเขา”
ในวินาทีถัดไปก่อนที่ผู้อาวุโสวันจะทันได้มีปฏิกิริยาใด เซียวลี่พลันสะบัดชายเสื้ออีกครั้ง จนทำให้เกิดริ้วคลื่นแพร่กระจายออกไป เกือบคล้ายกับตอนที่ก้อนหินตกลงไปในน้ำนิ่ง
คลื่นเคลื่อนไปด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อและทันทีที่มันสัมผัสกับจอมยุทธจากนิกายล้านอสรพิษร่างของพวกเขาทั้งหมดก็ระเบิดออกเป็นเลือดเลอะเลือน เกิดเป็นละอองเลือดสดโปรยปรอย
ในแทบจะทันทีทุกคนยกเว้นเพียงหนึ่งจากนิกายล้านอสรพิษถูกลบตัวตนออกไปโดยไม่มีแม้โอกาสจะกรีดร้อง
ผู้อาวุโสวันรู้สึกว่าสภาพจิตใจของตนเองล้มเหลวเมื่อชุดสีเขียวเข้มของเขาย้อมไปด้วยเลือดสดของศิษย์ร่วมสำนัก และเขาได้แต่ยืนอยู่ที่นั่นนับเนิ่นนาน เงียบงันและแข็งทื่อราวกับรูปปั้นจริงๆ