dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 427 หมู่บ้านของชนเผ่าหมูป่ า
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 427 หมู่บ้านของชนเผ่าหมูป่ า
บทที่ 427 หมู่บ้านของชนเผ่าหมูป่ า
ขณะที่กลุ่มของซูหยางติดตามชนพื้นเมืองไปยังหมู่บ้านของพวกเขา
ซูหยางก็ได้ถามหนึ่งในนั้นว่า “ข้าต้องการที่จะถามว่าทำไมพวกเจ้า
จึงเอาแต่เรียกเธอว่าเป็นเทพธิดา”
เขากล่าวขณะที่ชี้ไปยังชิวเยว่ซึ่งพลันเริ่มหน้าแดงอีกครั้ง
ชนพื้นเมืองมองดูเขาและกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เทพธิดาเสด็จลง
มาจากสวรรค์ในวันหนึ่ง และรูปร่างหน้าตาของเธอก็ตรงกับคำอธิบาย
ในตำนาน ผมและดวงตาสีเงินพร้อมด้วยผิวพรรณที่บริสุทธ์ิ”
“ตำนานรึ ตำนานอะไร”
“ตำนานที่ว่ามีเซียนเสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อปกป้องชนเผ่าหมูป่ า
ในช่วงเวลาวิกฤต และก็เหมือนกับที่ตำนานทำนายเอาไว้ เทพธิดา
ได้เสด็จลงมาจากสวรรค์และปกป้องพวกเราจากศัตรู ชนเผ่าเสือ
โคร่ง เมื่อพวกนั้นต้องการที่จะกวาดล้างหมู่บ้านของพวกเรา” หญิง
สาวชาวพื้นเมืองกล่าว
ซูหยางหันไปมองชิวเยว่ ซึ่งยักไหล่กล่าวว่า “ข้าเพียงผ่านทางมายังที่
แห่งนี้เพื่อถามพวกเธอเกี่ยวกับกระจกนิลกาฬ แต่ด้วยเหตุบังเอิญอีก
ชนเผ่าได้ปรากฏตัวมาสร้างปัญหาในระหว่างการสนทนาดังนั้นข้า
จึงไล่พวกนั้นไป”
“อย่างไรก็ตามหยุดเรียกข้าว่าเทพธิดาได้แล้ว” ชิวเยว่กล่าวกับชน
พื้นเมือง
“แต่ตำนาน…” ชนพื้นเมืองแสดงสีหน้าลังเล
“ข้ามิสนเรื่องตำนานของพวกเจ้า ข้ามิใช่เทพธิดาของพวกเจ้า”
ชนพื้นเมืองสบตากันด้วยสายตาลังเลอีกครั้ง
ไม่นานหลังจากนั้นหนึ่งในพวกเธอก็พูดขึ้นว่า “เช่นนั้น.. พอจะ
อนุญาตให้พวกเราเรียกท่านว่าเป็นผู้กอบกู้ได้หรือไม่”
“แม้ว่านั่นจะฟังดูระคายหูอยู่บ้าง แต่ก็ดีกว่าถูกเรียกว่าเทพธิดามาก
นัก” ชิวเยว่พยักหน้า
“เจ้าค่ะท่านผู้กอบกู้” ชนพื้นเมืองคำนับเธอด้วยท่าทางสำนึกบุญคุณ
เวลาผ่านไปพวกเขาก็ไปถึงหมู่บ้านของชนพื้นเมือง
หมู่บ้านรายล้อมไปด้วยรั้วไม้ มีที่พักอาศัยประมาณร้อยหลังที่เกือบ
ทั้งหมดเป็นไม้และมีหนังสัตว์อยู่ภายใน
“ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านหมูป่ าของพวกเรา ท่านแขกผู้มีเกียรติ” ชน
พื้นเมืองกล่าวกับพวกเขายามเมื่อไปถึง
“ท-ท่านเทพธิดากลับมาแล้ว” หนึ่งในชนพื้นเมืองที่ยืนยามอยู่ตรง
ประตูหมู่บ้านพลันตะโกนหลังจากที่เห็นพวกเขา และเกือบทันที
หลังจากนั้นก็จะเห็นผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านวิ่งออกมาจากบ้าน
ไม่นานหลังจากนั้น คนประมาณสามร้อยคนก็มารวมตัวกันที่ประตู
ทางหมู่บ้านและคุกเข่าให้กับชิวเยว่ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
กระทั่งคนที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดก็ยังยินดีที่จะทำการเคารพชิวเยว่
“ยินดีต้อนรับกลับมาท่านเทพธิดา” พวกเขาพากันตะโกนออกมา
อย่างพร้อมเพรียงกัน
“ช่างยิ่งใหญ่” ซูหยางเผยรอยยิ้ม
“อะแฮ่ม” ชิวเยว่กระแอมเสียงดังก่อนที่จะกล่าวขึ้น “ข้าได้พูดเรื่องนี้
กับพวกเจ้าบางคนแล้วและจงหยุดทำเหมือนกับข้าเป็นเทพธิดาของ
พวกเจ้า”
ชนพื้นเมืองสบสายตากันอย่างงุนงงจากนั้นคนที่ได้ติดตามกลุ่ม
ซูหยางก็ได้อธิบายเรื่องราวให้กับชนพื้นเมืองที่ยังไม่รู้
“ความประสงค์ของท่านเทพธิดาก็คือต้องการให้เรียกท่านแบบอื่น
ดังนั้นเราจักเรียกเธอว่าผู้กอบกู้นับตั้งแต่ตอนนี้”
“โอ ข้าเข้าใจแล้ว…”
ชนพื้นเมืองเข้าใจเรื่องราวอย่างรวดเร็ว
“อย่างไรก็ตามคนสองคนนั้นเป็นผู้ติดตามท่านเทพธิดา– ผู้กอบกู้
ของพวกเรา…” หนึ่งในพวกเธอถาม
“ข้ามิรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขากับท่านผู้กอบกู้ แต่พวกเขาดูค่อนข้าง
สนิทสนมกัน ดังนั้นให้ปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนกับการปฏิบัติต่อ
ท่านผู้กอบกู้”
“ข้าเข้าใจแล้ว…”
สองสามอึดใจหลังจากนั้น หนึ่งในชนพื้นเมืองก็เข้าไปหาชิวเยว่
“ยินดีต้อนรับสู่ชนเผ่าหมูป่ าของเราท่านผู้กอบกู้และเพื่อนผู้มีเกียรติ
ของท่าน ข้าคือหัวหน้าเผ่านี้ ชินเหลียงหยู” เด็กสาวชนพื้นเมืองที่ดูมี
อายุใกล้เคียงกับซูหยางและหงอวี้เอ๋อร์กล่าว “เป็นเกียรติและความ
ยินดีอย่างยิ่งเมื่อการปรากฏตัวของพวกท่านนับเป็นพรอันประเสริฐ
แก่สถานที่อันไร้ค่าแห่งนี้”
“เจ้าค่อนข้างจะอายุน้อยสำหรับการเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน” หงอวี้เอ๋อร์
กล่าวขณะที่เธอมองไปยังร่างผิวสีแทนดูเหมือนว่ากำลังตรวจสอบ
อีกฝ่าย
“หัวหน้าคนก่อน พ่อของข้าสิ้นใจไปมินานมานี้ และจนกว่าพวกเรา
จักแต่งตั้งหัวหน้าคนใหม่ ข้าก็จักเป็นหัวหน้ารักษาการไปก่อน” ชิน
เหลียงหยูกล่าว “โปรดเข้ามาด้านใน”
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ชินเหลียงหยูก็นำซูหยางและกลุ่มของเขาเข้า
ไปในกระท่อมหลังใหญ่และต้อนรับด้วยน้ำชา
“ข้าได้รับรายงานจากคนอื่นว่าพวกท่านต้องการที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับ
กระจกนิลกาฬมากกว่านี้” ชินเหลียงหยูกล่าวกับพวกเขาขณะที่เธอ
นำเอาม้วนคัมภีร์ที่ดูโบราณออกมาสองสามม้วน
“ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่พวกเรามีเกี่ยวกับกระจกนิลกาฬ ย้อนกลับไป
ยังเมื่อห้าร้อยปีก่อนนับตั้งแต่มันถูกค้นพบครั้งแรก”
“ขอบคุณ” ซูหยางกล่าวขณะที่เขารับม้วนคัมภีร์จากมือเธอ
“อา…”
เมื่อซูหยางเข้าไปรับม้วนคัมภีร์ นิ้วของเขาเผอิญไปสัมผัสกับมือของ
ชินเหลียงหยูทำให้เธอมีปฏิกิริยาตอบโต้ในทันที
“ข-ข้าต้องขออภัยที่บังเอิญสัมผัสท่าน” ชินเหลียงหยูพลันโค้งคำนับ
เขา
แม้ว่าค่อนข้างประหลาดใจกับปฏิกิริยาที่เกินไปของเธอ ซูหยางก็ยัง
โบกมือและกล่าวว่า “เจ้ามิต้องกังวลมากมายเพียงนั้น ใช่ว่าเจ้าจักทำ
ให้ข้าแปดเปื้อนจากการสัมผัสข้า”
จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปจับมือเธออย่างสุภาพและติดตามมาด้วย
รอยยิ้มหล่อเหลา “เห็นไหม ข้ามิถือสา”
“…”
ทั้งใบหน้าของชินเหลียงหยูแดงขึ้นมาขณะที่เธอจ้องไปยังมือใหญ่
ของเขาที่กำลังกุมมือเธอ
“อา… เขาทำแบบนี้อีกแล้ว…” หงอวี้เอ๋อร์ส่ายหน้า
“หือ” ชิวเยว่มองดูอีกฝ่ายอย่างสับสน
“เจ้าไม่รู้รึ เขามักจะหว่านเสน่ห์สาว ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจด้วยการกระทำ
ของเขา เพราะบุคลิกของเขา เขาจึงมักจะเป็นที่ต้องตาติดใจแม้กระทั่ง
นั่นจะมิใช่เจตนาของเขาก็ตาม และก็เป็นเช่นนี้กระทั่งในสวรรค์
ศักด์ิสิทธ์ิทั้งสี่ ข้าเดาเอาว่าการกลับมาถือกำเนิดใหม่มิอาจจะเปลี่ยน
ธรรมชาติของเขาได้ เฮ้อ”
ชิวเยว่มองดูซูหยาง ทำไมเธอจึงไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนหน้านี้นะ
จริงด้วยนั่นเป็นเหมือนกับว่าเขามีความสามารถในการหว่านเสน่ห์
หญิงโดยสัญชาตญาณ
“ด-เดี๋ยวข้ากลับมา” ชินเหลียงหยูพลันกล่าวก่อนที่จะรีบออกไป
นอกกระท่อม
“เจ้าทำให้เธอวิ่งหนีไป ที่รัก” หงอวี้เอ๋อร์หัวเราะคิกคักตามหลัง
“…” ซูหยางพูดไม่ออก เขามิคาดว่าผู้คนที่นี่จะช่างขี้อาย ไม่ว่า
อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ปกติ
แล้วจะไม่ขี้อายเช่นนี้ ตามความเป็นจริงพวกเธอส่วนใหญ่แล้วมักจะ
เป็นคนกล้าและใจถึง
“อย่างไรก็ตามพวกเรามาดูว่านี่เป็นข้อมูลประเภทไหนกันที่พวกเขา
มีต่อกระจกนิลกาฬหลังจากผ่านการค้นคว้ามานานถึงห้าร้อยปี” ซู
หยางกล่าวขณะที่โยนม้วนคัมภีร์ไปให้พวกเธอก่อนที่พวกเขาจะเริ่ม
อ่าน