dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 431 คำแนะนำจากพี่สาวใหญ่
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 431 คำแนะนำจากพี่สาวใหญ่
บทที่ 431 คำแนะนำจากพี่สาวใหญ่
“ท่านพ่– ซูหยาง ข้ากำลังจะไปฝึกวิชาที่ห้องของข้า ถ้าท่านจะไปฝึก
วิชา ท่านสามารถใช้ห้องอื่นได้” ชิวเยว่พลันปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า
พวกเขาและกล่าวขณะที่มองไปที่ถังหลินชี
ได้ยินคำพูดของเธอ ถังหลินชีเผยรอยยิ้มและกล่าวว่า “โชคดีสำหรับ
เจ้าแต่โชคร้ายสำหรับข้า ข้ายังจักมิร่วมฝึกกับเขา ดังนั้นเจ้าจึงมิต้อง
เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น”
“เอ๋” ชิวเยว่มองดูอีกฝ่ายด้วยหน้าประหลาดใจ ทำไมเธอจึงไม่ฝึก
ร่วมกับเขากัน คนต่างก็ต้องคาดว่าทั้งคู่คงต้องโอบกอดกันหลังจาก
ที่แยกจากกันมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเป็นคน
รักกัน
“เพราะว่านี่มิใช่ร่างของข้า” ถังหลินชีกล่าว “แม้ว่าข้าต้องการถอด
เสื้อผ้าเขาออกในตอนนี้และเล่นสนุกกับร่างของเขามากเท่าไหร่ก็
ตาม ข้าก็ได้สัญญากับหงอวี้เอ๋อร์ว่าข้าจักมิทำอะไรที่ทำให้ร่างกาย
เธอเป็นมลทินในขณะที่ข้ายืมร่างเธอใช้”
“ช่างน่าเสียใจจริง แต่ข้าจักรอเจ้ากลับไปยังสวรรค์ศักด์ิสิทธ์ิทั้งสี่
ก่อนที่เราจะทำอะไรที่เร่าร้อนเป็นพิเศษ” เธอกล่าวกับซูหยางซึ่งส่าย
หน้าอย่างสบาย ๆ หลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของเธอ
“มิมีปัญหา ข้าพึงพอใจแล้วกับเพียงแค่สามารถได้พูดกับเจ้าอีกครั้ง
ต่อให้พวกเราฝึกร่วมกันตอนนี้นั่นก็จักมิรู้สึกเหมือนเดิม ในเมื่อร่าง
ของเจ้าในตอนนี้ย่อมมิสามารถที่จะทนมันทั้งหมดได้อยู่ดี” ซูหยาง
กล่าว
“…”
ชิวเยว่ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกและหายเข้าไปในห้องของเธอสอง
สามอึดใจหลังจากนั้น
“เธอเรียกเจ้าว่า “พ่อ” รึ ช่างน่ารักจัง” ถังหลินชีหัวเราะคิกคัก
หลังจากที่ชิวเยว่ไปแล้ว
“เอ้อ ข้าเป็นอะไรที่เหมือนกับตัวแทนพ่อสำหรับเธอ” เขากล่าวด้วย
รอยยิ้ม
“วิหารเทพจันทราเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งสันโดษที่สุดในสวรรค์
ศักด์ิสิทธ์ิทั้งสี่ เป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่เจ้าได้รับการยินยอมให้ไปเยี่ยมที่
นั่น ยิ่งไปกว่านั้นได้ร่วมรักกับเทพธิดาจันทราเยว่ไฮ”
“นั่นเป็นเพียงเหตุบังเอิญล้วน ๆ ที่ข้าได้ค้นพบวิชาที่ยอมให้คนที่มี
สายเลือดพิเศษได้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ถ้ามิใช่วิชานั้นวิหาร
เทพจันทราก็คงไม่แม้กระทั่งจะเหลือบมองข้า”
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ถังหลินชีก็กล่าวขึ้นว่า “เฮ้ ที่รัก เจ้า
วางแผนที่จะรับชิวเยว่เข้าในตระกูลของเรารึ”
“ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา ข้าก็จักยินดีรับเธอไว้” ซูหยางพยัก
หน้าโดยไม่ลังเล
“ข้ามิควรจะถามคำถามที่มีคำตอบชัดเจนเช่นนั้นอยู่แล้ว” ถังหลินชี
ส่ายหน้าและกล่าวต่อว่า “เช่นนั้นเจ้าเตรียมตัวที่จะสู้กับวิหารเทพ
จันทราเพื่อเธอรึ เจ้าควรจะรู้ว่าพวกนั้นย่อมมิมีวันยอมให้สายเลือด
พิเศษของตนเองเล็ดลอดพ้นไปจากบ้านของพวกเขา โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งเมื่อเธอเป็นลูกสาวเยว่ไฮซึ่งมีสายเลือดบริสุทธ์ิที่สุดในหมู่
พวกนั้นทั้งหมด”
“แน่นอนมิเพียงแต่ข้าจักสู้เพื่อชิวเยว่ แต่ข้าจักสู้เพื่อทุกคนในวิหาร
เทพจันทรา คำสาปนี้ที่ผูกยึดชะตากรรมของพวกเธอไว้ ข้าจักทำลาย
มันด้วยมือของข้าเอง” ซูหยางกล่าวขณะที่กำหมัดแน่น
“หากเป็นเช่นนั้นเมื่อเวลามาถึงและเจ้าต้องการความช่วยเหลือ
สายเลือดเทพอาชูร่าย่อมจักยินดีช่วยเหลือเจ้า” ถังหลินชีกล่าว
อย่างไรก็ตามซูหยางส่ายหน้าและกล่าวว่า “สิ่งที่สายเลือดเทพอาชูร่า
เข้าไปเกี่ยวข้อง จักรพรรดิสวรรค์ย่อมต้องใส่ใจ ข้ามิอาจให้ตัวตน
ของข้าเปิดเผยให้เขาเห็น อย่างน้อยก็จนกว่าข้ามีความมั่นใจว่าข้า
สามารถปกป้องตระกูลของข้าได้แม้ว่าจักรพรรดิสวรรค์มาถึงประตู
บ้านข้า ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นการแก้แค้นของตัวข้าเอง ความโกรธของ
ข้าย่อมจักมิบรรเทาลงจนกว่าข้าได้แก้แค้นให้กับเยว่ไฮด้วยตัวข้าเอง”
“เจ้าช่างมีความรับผิดชอบนัก” ถังหลินชีหัวเราะคิกคัก
ซูหยางและถังหลินชีทำการพูดคุยกันตลอดทั้งคืน
เช้าวันใหม่ ซูหยาง ถังหลินชี และชิวเยว่เตรียมตัวที่จะกลับไปยัง
หมู่บ้านของชนเผ่าหมูป่า
“เฮ้ ที่รัก” ถังหลินชีเรียกเขาก่อนที่พวกเขาจะออกจากยานบิน
“มีอะไรรึ”
ขณะที่ซูหยางหันตัวไป ถังหลินชีถือโอกาสก้าวไปหาเขาและจูบ
แก้มเขาเบา ๆ
“ในเมื่อเรามิอาจจะฝึกในตอนนี้ นี่ก็คงจะเพียงพอ” เธอกล่าวด้วย
รอยยิ้ม
“…”
ชิวเยว่พูดไม่ออก ภาพลักษณ์ของสายเลือดเทพอาชูร่าของเธอแตก
สลายลงต่อหน้า
ในใจของเธอ สายเลือดเทพอาชูร่าเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยอาชญากร
ที่จะทำทุกสิ่งที่พวกเขาสามารถเพื่อล่วงเกินจักรพรรดิสวรรค์อีกทั้ง
ยังต่อต้านกระทั่งสวรรค์ บ้าไปแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยพบกับถัง
หลิงชีก่อนที่จะมายังที่นี่ เธอก็ได้ยินเรื่องราวที่สยองขวัญมากมาย
เกี่ยวกับเธอ อย่างไรก็ตามถังหลินชีคนนี้ซึ่งถือว่าเป็นองค์หญิงของ
สายเลือดที่ชั่วร้ายเช่นนั้นและเป็นหนึ่งในคนที่อันตรายที่สุดใน
สวรรค์ศักด์ิสิทธ์ิทั้งสี่กลับทำตัวไม่ต่างไปจากภรรยาที่ห่วงหาทั่วไป
ในตอนนี้
“ถ้าเจ้าอิจฉา ทำไมมิจูบเขาเช่นกันบ้างล่ะ”
เมื่อเห็นชิวเยว่จ้องมองเธอพร้อมเบิกตากว้าง ถังหลินชีจึงกล่าวกับ
เธอด้วยเสียงล้อเลียน
“ข-ข้ามิรู้ว่าท่านพูดถึงเรื่องอะไร” ใบหน้าชิวเยว่แดงขึ้นมาอย่าง
รวดเร็วก่อนที่เธอจะหันกลับและเริ่มเดินจากไป
“หรือว่าคนจากสายเลือดจันทราศักด์ิสิทธ์ิล้วนขี้อายเช่นนี้ ทุกคนที่
ข้าได้พบที่มาจากสถานที่นั้นล้วนทำตัวจองหองและหลงตัวเอง” ถัง
หลินชีกล่าว
“เธอเป็นองค์หญิงตัวน้อยที่พิเศษอย่างแท้จริง ต้องขอบคุณแม่ของ
เธอ เยว่ไฮ สำหรับเรื่องนั้น” ซูหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ถังหลินชีหัวเราะคิกคักก่อนที่จะติดตามชิวเยว่ไป
“เฮ้ ชิวเยว่” ถังหลินชีพลันเรียกอีกฝ่ายหลังจากตามทัน
“มีอะไรรึ พี่หญิงถัง” ชิวเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงนบนอบ
“พี่หญิงถังรึ เจ้าสามารถทิ้งความเป็นพิธีการไป เพียงเรียกข้าว่าพี่สาว
หลินชี”
“แต่…” ชิวเยว่พลันลังเล ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนเธอก็ยังยืนอยู่ต่อ
หน้าของคนที่มีความแข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในสวรรค์ศักด์ิสิทธ์ิทั้งสี่
และเธอก็ไม่กล้าที่จะแสดงความไม่เคารพแม้แต่น้อยต่อถังหลินชี
“ซูหยางได้บอกข้าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าเมื่อคืน ดังนั้นจึงมิ
ถือว่าเป็นเรื่องเกินจริงที่จะพูดว่าเราอยู่ในตระกูลเดียวกันแล้วใน
ตอนนี้” ถังหลินชีกล่าว “แม้ว่าพวกเรายังคงหมั้นหมาย ข้าก็ถือว่าเรา
เป็นสามีภรรยากันเรียบร้อยแล้ว และเจ้าก็ควรจะทำเช่นเดียวกัน”
“นั่นค่อนข้าง…” ชิวเยว่พลันงงงัน ทำไมถังหลินชีจึงบอกเรื่อง
ทั้งหมดนี้กับเธอ
“เจ้าควรหยุดทำท่าทางเอียงอายได้แล้วเช่นกัน ถ้าเจ้ายังทำตัวแบบ
นั้นต่อไป เจ้าย่อมจักมิอาจเอาชนะหญิงอื่นได้”
“หญิงอื่นรึ” ชิวเยว่เลิกคิ้วสีหน้าดูสับสน ทำไมเธอจำเป็นต้องเอาชนะ
หญิงอื่นด้วย
“ข้ามิรู้ว่าเจ้ารู้เรื่องราวอะไรบ้างเกี่ยวกับซูหยาง แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้า
มิได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับเขา ถ้าเจ้าจริงจังกับการติดตามเขาไปชั่ว
นิรันดร์ เจ้าจักจำเป็นต้องเตรียมตัวในอนาคตเมื่อพวกเจ้าทั้งสองคน
กลับไปยังสวรรค์ศักด์ิสิทธ์ิทั้งสี่” ถังหลินชีกล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้ม
ลึกลับ
“พวกเจ้าสองคนอยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษเฉพาะเป็นอย่างมากในตอนนี้
และถ้าเจ้ามิถือโอกาสของเจ้ากับเขาในเวลานี้ เจ้าจักเสียใจอย่างลึกซึ้ง
ที่มิใช้เวลาให้มากพอกับเขาครั้นเมื่อเจ้าจากที่แห่งนี้ไปกับเขา นี่เป็น
คำแนะนำแรกสำหรับเจ้าในฐานะพี่สาวใหญ่และก็ยังมิใช่คำแนะนำ
สุดท้าย”
“…”
ชิวเยว่พูดไม่ออก เมื่อเธอยังไม่สามารถตีความถ้อยคำของถังหลินชีที่
ฟังดูเหมือนกับคำเตือนได้ครบถ้วน
“ข้าจักเสียใจที่มิใช้เวลาร่วมกับเขารึ ทำไมเธอจึงพูดอะไรแบบนั้น”
ชิวเยว่ครุ่นคิดขณะที่พวกเขาไปยังหมู่บ้านของชนเผ่าหมูป่ า