dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 486 เซียวหรงต้องการลิ้มรสของเหนียว ๆ สีขาวมากกว่านี้
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 486 เซียวหรงต้องการลิ้มรสของเหนียว ๆ สีขาวมากกว่านี้
บทที่ 486 เซียวหรงต้องการลิ้มรสของเหนียว ๆ สีขาวมากกว่านี้
ที่ไหนสักแห่งในห้องของซุนจิงจิง เซียวหรงกลมกลืนเข้ากับความ
มืด สายตาของเธอจ้องมองไปยังเตียงโดยไม่กระพริบ จ้องมองซุน
จิงจิงและซูหยางร่วมฝึกวิชากันอย่างเงียบ ๆ ด้วยความสนใจ
ในฐานะที่เป็นแมวจอมภูต เซียวหรงมีความสามารถในการซ่อนตัวตน
ได้อย่างสมบูรณ์ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับหายใจ ราวกับว่าเป็น
ธรรมชาติ ทำให้แม้กระทั่งเซียนที่แข็งแกร่งก็ยังเป็นไปไม่ได้สำหรับ
พวกเขาที่จะหาตัวพวกเธอได้โดยปราศจากสมบัติพิเศษเฉพาะหรือ
วิชาระดับเทพ
“พวกเขาทำอะไรกัน…” เซียวหรงครุ่นคิดในใจขณะที่เธอมองดูซูหยาง
ขยับสะโพก สอดใส่แท่งยาวใหญ่ที่อยู่ตรงขาของเขาเข้าไปในร่างของ
ซุนจิงจิง
สัตว์ส่วนใหญ่เข้าใจธรรมชาติของการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติและ
ไม่ต้องการให้ใครสอน แต่ในเมื่อเธอเป็นเผ่าพันธุ์พิเศษเฉพาะที่ไม่
ต้องการการผสมพันธุ์ เซียวหรงจึงไม่รู้ถึงความหมายว่าอะไรคือการ
ผสมพันธุ์กับผู้อื่น
“ดูน่าสนุก…” เซียหรงคิดในใจหลังจากที่เห็นความตื่นเต้นบนใบหน้า
ของซุนจิงจิง ถึงแม้ว่าเธอไม่เข้าใจอารมณ์ว่า “ความกำหนัด” หรือ
“ราคะ” คืออะไร เธอก็ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึก “สนุก” และ “ตื่นเต้น”
จากสีหน้าของซุนจิงจิง
หลังจากที่จ้องมองไปยังใบหน้าหื่นกระหายของซุนจิงจิงอยู่สองสาม
นาที เธอก็หันความสนใจไปยังกลิ่นเข้มข้นที่อยู่ในอากาศ
“กลิ่นน่ากิน…”
เซียวหรงคิดในใจ แม้ว่านี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกของเธอที่ได้กลิ่นนี้มา
จากตัวของซูหยาง เธอก็ยังไม่รู้ว่าอะไรที่สร้างกลิ่นหอมนี้
หลังจากนั้นเมื่อซูหยางปลดปล่อยปราณหยางของเขาเข้าไปในร่าง
ของซุนจิงจิง กลิ่นหอมในอากาศก็เข้มข้นและหนาแน่นขึ้น จนกระทั่ง
จมูกของเซียวหรงกระดุกกระดิก
“ข้าคิดว่าข้าสามารถหลับลงได้อย่างง่ายดายแล้วในตอนนี้ ซูหยาง…”
ซุนจิงจิงกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้มขณะที่ร่างของเธอล้มลงไปบนเตียง
ซูหยางเพียงแค่ยิ้มและถอดแท่งของเขาออกมาจากถ้ำของซุนจิงจิง
“นี่ ให้ข้าทำความสะอาดมันให้กับท่าน…” ซุนจิงจิงอ้าปากกว้าง
พร้อมกับแลบลิ้นออกมาอย่างหื่นกระหาย
แต่ทว่าก่อนที่ลิ้นของเธอจะทันได้ถึงแท่งของซูหยาง ลิ้นอื่นก็พลัน
ปรากฏขึ้นข้างเธอและเริ่มเลียปราณหยางจากแท่งของซูหยาง
“อ-อะไรกัน จ-เจ้าคือ” ซุนจิงจิงอุทานออกมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก
เมื่อเซียงหรงปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่าในรูปร่างของมนุษย์
และเริ่มเลียแท่งของซูหยางอย่างสง่างามและนุ่มนวลราวกับแมวที่
เลียใบหน้าเจ้าของ
“อา เจ้ามาจากทางไหนกัน” กระทั่งซูหยางก็ยังประหลาดใจกับการ
บุกรุกกะทันหันของเซียวหรง จนทำให้เขาก้นจ้ำเบ้า
“อร่อย…” เซียวหรงเลียริมฝีปากของเธออย่างไร้เดียงสาหลังจากที่
ได้ลิ้มรสปราณหยางของเขา
“นายท่าน ให้ข้ามากกว่านี้ เซียวหรงต้องการลิ้มรสของเหนียว ๆ สี
ขาวนั่นมากกว่านี้” เซียวหรงกล่าวขณะที่เธอเริ่มคลานเข้าไปหาแท่ง
ของซูหยางอีกครั้ง
“ร-รอเดี๋ยว” ซุนจิงจิงรีบจับเซียวหรงไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างเพื่อที่จะ
ยึดเธอไว้
“มีอะไรรึ” เซียวหรงหันมาถามด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
“ข้า… อือ…” ซุนจิงจิงไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรและหันไปมองดูซู
หยางเพื่อขอความช่วยเหลือ
ซูหยางกระแอมและพูดว่า “เจ้าต้องการพลังวิญญาณใช่หรือไม่ ข้า
จักป้อนเจ้าด้วยปราณไร้ลักษณ์ในภายหลัง…”
ในเมื่อซูหยางเป็นเจ้านายของเธอ ส่วนใหญ่แล้วเซียวหรงก็จะอาศัย
พลังวิญญาณของเขาในการเติบโตแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม แต่ในเมื่อ
เธออยู่ในเขตตำนานในขณะที่ซูหยางยังคงอยู่ที่เขตอัมพรวิญญาณ
ต่อให้เธอกลืนกินทุกหยดหยาดของปราณไร้ลักษณ์ในตัวของเขา
มันก็ไม่ได้ให้ประโยชน์แก่เธอแม้แต่น้อย ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วเธอ
จึงกินปราณไร้ลักษณ์ของเขาเหมือนเป็นของว่าง
แต่ทว่าเซียวหรงรีบส่ายหน้าของเธอและกล่าวว่า “ข้ามิได้ต้องการ
ปราณไร้ลักษณ์ ข้าต้องการกินของเหลวสีขาวเหนียวนั่น”
เธอกล่าวขณะที่ชี้ไปยังแท่งของเขา
“ท-ท่านสามารถกระทั่งป้อนปราณหยางให้กับสัตว์วิญญาณได้ด้วยรึ
ข้ามิเคยได้ยินเช่นนั้นมาก่อน” ซุนจิงจิงกล่าว
“แน่นอนถึงแม้ว่ามันจะมิใช่เรื่องปกติสำหรับในหมู่ผู้ฝึกวิชาทั่วไป
แต่นี่ก็เป็นวิธีที่ผู้ฝึกวิชาคู่บางคนที่มีสัตว์วิญญาณใช้เพิ่มความแข็งแกร่ง
ให้กับสัตว์วิญญาณของตนเอง และก็มิใช่เรื่องผิดปกติสำหรับผู้ที่ฝึก
วิชาคู่ในการฝึกวิชาร่วมกับสัตว์วิญญาณที่สามารถกลายร่างเป็น
มนุษย์แต่อย่างใด ในเมื่อโดยพื้นฐานแล้วไม่มีความแตกต่างระหว่าง
มนุษย์และสัตว์วิญญาณครั้นเมื่อพวกเธอกลายร่างแล้ว ถ้าพวกเธอ
แข็งแกร่งพอ สัตว์วิญญาณก็ยังสามารถที่จะตั้งครรภ์กับมนุษย์ได้
ด้วย” ซูหยางอธิบายให้กับเธอ
“กระทั่งในชีวิตก่อนของข้า ข้าก็ได้ร่วมฝึกกับสัตว์วิญญาณในร่าง
มนุษย์นับไม่ถ้วน แต่ทว่าข้าต้องหลีกเลี่ยงสิ่งนั่นกับเซียวหรง ในเมื่อ
เธอเป็นตัวตนที่ผิดปกติ”
“ท่านหมายความว่าอย่างไรเช่นนั้น” ซุนจิงจิงถาม
“เอ้อ สำหรับผู้เริ่มต้น พลังการฝึกปรือของเธอนั้นโดยปกติแล้วสูง
กว่าข้ามาก ถ้าข้าพยายามที่จะฝึกฝนปราณหยินของเธอ แน่นอนว่า
ข้าจักต้องตายในทันที ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าเธอจะมีตัวตนมานับ
หลายร้อยปี จิตใจของเธอก็ยังค่อนข้างเป็นเด็กและไร้เดียงสา ดังนั้น
จึงมีความรู้สึกไม่ถูกต้องที่จะร่วมฝึกกับเธอ”
“ตอนนี้เมื่อท่านพูดถึง เธอก็มีพฤติกรรมเหมือนกับเด็กไร้เดียงสา
จริงด้วย…” ซุนจิงจิงพึมพำ
“เช่นนั้น…” จากนั้นซูหยางก็ตบหัวเซียวหรงเบา ๆ และกล่าวว่า “ถ้า
เจ้าโตเป็นผู้ใหญ่อีกสักหน่อย ข้าก็จักยอมให้เจ้ากินปราณหยางได้
มากเท่าที่เจ้าต้องการ”
“ข้าจะโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ได้อย่างไร” เธอถามเขาด้วยใบหน้า
งุนงง
“นั่นเป็นสิ่งที่ข้ามิสามารถที่จะตอบเจ้าได้ ถ้าเจ้าต้องการที่จะเติบโต
เป็นผู้ใหญ่ อย่างน้อยเจ้าควรจะเข้าใจว่าอะไรคือความหมายของการ
เป็นผู้ใหญ่” ซูหยางกล่าว
“อย่ากังวล ตามธรรมชาติแล้วเจ้าจักเติบโตเป็นผู้ใหญ่ตราบเท่าที่เจ้า
ใช้เวลามากขึ้นในโลกนี้ เมื่อสุดท้ายแล้วเจ้าก็ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ใน
ชีวิตอยู่ภายในเครื่องมือวิญญาณ อย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่เจ้าจำได้”
“ก็ได้…” เซียวหรงพยักหน้า แต่ว่าสายตาของเธอยังคงจ้องไปยังสาร
สีขาวรอบแท่งของซูหยาง
“ว่าไปแล้ว ให้ข้าทำความสะอาดมันเถอะ…” ซุนจิงจิงปล่อยการ
กอดรัดเซียวหรงไว้ แล้วทำการทำความสะอาดน้องชายของซูหยาง
ด้วยปากของเธอราวกับผู้เชี่ยวชาญ
“…”
เซียวหรงจ้องมองซุนจิงจิงกินปราณหยางของเขาจนหมดด้วยสายตา
อิจฉา
“โตเป็นผู้ใหญ่… เซียวหรงต้องกลายเป็นผู้ใหญ่เพื่อที่จะได้ลิ้มรส
สารอร่อยนั่นอีกครั้ง” เธอคิดในใจด้วยดวงตาที่เป็นประกาย