dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 487 แมวขี้สงสัย
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 487 แมวขี้สงสัย
บทที่ 487 แมวขี้สงสัย
หลังจากที่ “ทำความสะอาด” ซูหยางและซุนจิงจิงก็เข้านอนในเตียง
เดียวกันพร้อมกับกอดอีกฝ่ายไว้ ในเวลานั้นเซียวหรงก็หลับอยู่ข้างซู
หยางบนเตียงเดียวกันเช่นกัน
โชคดีสำหรับซุนจิงจิง เมื่อเตียงเธอใหญ่พอที่จะบรรจุพวกเขาทั้ง
สามคนและยังมีพื้นที่ว่างเหลือ
แต่โชคร้ายสำหรับเซียวหรง เธอไม่สามารถที่จะหลับลงได้แม้ว่าจะ
ผ่านไปหลายนาที
รสชาติของปราณหยางของซูหยางนั้นอร่อยเกินไปที่จะเพิกเฉย ดังนั้น
เธอจึงใช้เวลาเกือบทั้งหมดของคืนนั้นนึกถึงรสชาติของมัน
“ความรู้สึกอบอุ่นในร่างกายของข้านี้คืออะไรกัน…” เซียวหรงตระหนัก
ว่าร่างของเธอนั้นร้อนขึ้น มันรู้สึกเหมือนกับตอนที่เมื่อซูหยางเลีย
แขนเธอ ทำให้ร่างของเธอเสียวซ่านไปทั่ว
เวลาหลังจากนั้น มือของเธอก็เคลื่อนไปยังส่วนล่างของร่างกายเธอ
ตามสัญชาตญาณ สัมผัสกับร่องที่เปียกอยู่เล็กน้อยระหว่างขาของเธอ
“โอ… ความรู้สึกนี้ดีมาก….” เซียวหรงคิดในใจขณะที่เธอเริ่ม
ปรนเปรอตนเองตลอดคืนโดยไม่รู้ตัว และเธอก็เริ่มเข้าใจอย่างช้า ๆ
ว่าทำไมซุนจิงจิงกับซูหยางจึงทำอะไรกันแบบนี้
หลังจากที่เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ เซียวหรงก็ผลอยหลับไป
จากการปรนเปรอตนเอง
เช้าตรู่ ซูหยางก็ตื่นขึ้นมาจากการถูกประกบสองข้างจากสองสาวสวย
“ทำไมห้องจึงเต็มไปด้วยปราณหยินหนาแน่นปานนี้…” ซูหยางงง
งันเมื่อเขาตระหนักว่าห้องนั้นเต็มไปด้วยปราณหยิน ในเมื่อมันยังไม่
ปรากฏเมื่อคืนก่อนที่เขาจะหลับไป
จากนั้นเขาก็หันไปมองยังเซียวหรง ซึ่งกำลังหลับอย่างเป็นสุขข้าง
กายเขา
สายตาของเขาเลื่อนต่ำลงไปจากใบหน้าสวยของเธอไปยังขาที่ซึ่งมือ
ของเซียวหรงยังคงอยู่ภายในกางเกง
ครั้นเมื่อเขารู้เหตุผลถึงปราณหยินในห้อง เขาก็ครุ่นคิดในใจ “เธอ
กำลังปลุกธรรมชาติที่แท้ของเธอขึ้นมาอย่างช้า ๆ … หวังว่าเธอจะ
เติบโตเป็นผู้ใหญ่พอเมื่อเวลาที่ธรรมชาติของเธอตื่นขึ้นมาเต็มที่…”
แม้ว่าเซียวหรงจะเป็นแมวจอมภูตตัวแรกที่เขาได้ข้องแวะ แต่เขาก็
เห็นแมวจอมภูตอยู่บ้างในชีวิตก่อน และในเมื่อแมวจอมภูตนั้นโดย
พื้นฐานแล้วเป็นบรรพบุรุษของแมวภูต เป็นเรื่องปลอดภัยที่จะ
อนุมานว่าพวกมันจะมีธรรมชาติคล้ายคลึงกัน
ในขณะที่แมวภูตจะเกิดขึ้นมาโดยปราศจากความรู้สึกตัณหาหรือราคะ
และใช้ชีวิตตามปกติไปตลอดชีวิตของพวกมันไปโดยปราศจากความ
รู้สึกเช่นนั้นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่สามารถเรียนรู้
ความรู้สึกตัณหาหรือราคะ ตามความเป็นจริงถ้าแมวภูตได้เรียนรู้
ความรู้สึกเช่นนั้น พวกมันจะยิ่งกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยราคะ
ถึงที่สุดที่ซึ่งจะทำทุกวิถีทางในการล่วงละเมิดชายทุกคนที่เข้ากับ
รสนิยมของมัน และพวกมันก็จะล่วงเกินชายคนนั้นจนกว่าพวกเขา
จะสิ้นลมหายใจ
“เพราะว่าธรรมชาติซ่อนเร้นของพวกมันที่สามารถกลายเป็นหายนะ
ได้ ดังนั้นเธอจึงรวบรวมแมวภูตเกือบทั้งหมดภายในโลกมาสอน
พวกมันให้รู้จักควบคุมความปรารถนาราคะ” ซูหยางนึกถึงเพื่อน
ของเขาที่ได้ทำการฝึกสอนแมวภูตจำนวนมาก
แน่นอนว่าเขาไม่ได้กลัวการตื่นขึ้นมาของธรรมชาติอันหื่นกระหาย
ของเซียวหรง ในเมื่อเขาได้รับวิธีที่จะช่วยเธอควบคุมความปรารถนา
ราคะไว้แล้วหากว่าพวกมันถูกปลุกขึ้นมา ซึ่งเขาได้มาจากเพื่อนที่
สอนแมวภูตให้รู้จักดำรงชีพ
ซูหยางพลันถอนหายใจเสียงเบา “ฮ้าาาา ช่างเป็นปราณหยินที่สูญเปล่า
เสียจริง ๆ ห้องนี้เต็มไปด้วยปราณหยินที่มาจากสาวพรหมจรรย์ใน
เขตตำนาน แต่ข้ากลับมิสามารถที่จะฝึกฝนมันได้ นี่ก็เหมือนกับให้
อาหารอร่อยแต่มีพิษที่สามารถฆ่าใครก็ได้ แก่ชายไร้บ้านที่หิวโหย
เป็นธรรมดาที่คนอย่างข้าจะต้องทุกข์ทรมาน”
“…นายท่านรึ”
เสียงบ่นของซูหยางปลุกเซียวหรงให้ตื่นจากการหลับใหล
“นายท่าน เมื่อคืน เซียวหรง…” เธอมองดูตำแหน่งระหว่างขาของ
ตัวเองด้วยใบหน้าสับสน ในเมื่อเธอไม่สามารถอธิบายให้กับเขาได้
ว่าเธอประสบกับอะไรบ้างเมื่อคืนนี้
ซูหยางเพียงแค่ยิ้มและกล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าอาจจะมิรู้ แต่ว่าเจ้าได้โต
เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีกหน่อยแล้ว”
“จริงรึ เซียวหรงโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นรึ เช่นนั้นข้าคงสามารถลิ้มรสของ
เหนียวสีขาวรสดีนั่นตอนนี้แล้วละสิ” เธอมองดูเขาด้วยดวงตาตื่นเต้น
ซูหยางหัวเราะเล็กน้อยกับความกระตือรือร้นของเธอแล้วกล่าวว่า
“เพียงเพราะว่าเจ้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่เล็กน้อยมิได้ทำให้เจ้ากลายเป็น
ผู้ใหญ่ เซียวหรง เจ้ายังคงมีเส้นทางอีกยาวไกลในการเติบโตเป็น
ผู้ใหญ่ก่อนที่ข้าจะสามารถทำสิ่งนั้นกับเจ้าได้”
“โอ…” เซียวหรงก้มหน้าของเธอลงด้วยท่าทางหดหู่หลังจากที่ได้ยิน
คำพูดของซูหยาง
ในขณะที่เหตุผลอย่างหนึ่งของซูหยางที่ไม่ร่วมฝึกกับเซียวหรงเป็น
เพราะว่าเธอยังมีจิตใจเป็นเด็ก ความจริงก็คือเขายังไม่ได้เตรียมตัวที่
จะช่วยเธอควบคุมความปรารถนาราคะของเธอ ดังนั้นเขาจึงได้แต่
เพียงถ่วงเวลาเธอไปจนกว่าเขาจะเตรียมตัวพร้อมแล้ว
“อย่ากังวล มันมิได้นานมากเกินไปกว่าที่เจ้าจะสามารถได้ลิ้มรสสาร
เหนียวนั่นอีกครั้ง” ซูหยางพลันกล่าวกับเธอ
“จริงรึ” เซียวหรงเงยหน้าเธอขึ้นอย่างรวดเร็วและมองดูเขาด้วย
ดวงตาไร้เดียงสา
ซูหยางพยักหน้าพร้อมยิ้ม
หลังจากนั้นซุนจิงจิงก็ตื่นขึ้นมาเช่นเดียวกัน และพวกเขาก็เตรียมตัว
สำหรับวันนั้น
“สวัสดียามเช้า ท่านพ่อ ท่านแม่” ซุนจิงจิงทักทายพวกเขาในห้องนั่งเล่น
หลังจากที่ล้างหน้าและจัดแต่งทรงผมแล้ว
“อ-โอ… สวัสดียามเช้า จิงจิง..”
พ่อแม่ทักทายเธอด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนและรอยยิ้มเหนื่อยล้า
แม้ว่าพวกเขาจะพยายามที่จะลืมเรื่องเมื่อวานนี้ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่พูด
ง่ายทำยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งซุนเหรินซึ่งอดไม่ได้ที่จะจินตนาการ
ตลอดทั้งคืนถึงการที่ลูกสาวของเธอกำลังร่วมฝึกวิชาคู่กับซูหยาง
“ท่านดูเหมือนเหนื่อย ท่านแม่ ท่านมิได้หลับพอเมื่อคืนนี้อย่างนั้นรึ”
ซุนจิงจิงสังเกตเห็นถุงดำใต้ตาของเธอและกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“อ-อะไรประมาณนั้นแหละ แล้วเจ้าล่ะ เป็นอย่างไรบ้างเมื่อคืนนี้”
ซุนเหรินถามเธอ
“ข้าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เธอตอบด้วยรอยยิ้ม
สองสามอึดใจให้หลัง ซูหยางก็เข้ามาในห้องพร้อมกับเซียวหรงใน
รูปของแมวเกาะอยู่บนไหล่ของเขา
“ส-สวัสดียามเช้า ซูหยาง…”
“สวัสดียามเช้า คุณนายซุน” ซูหยางทักทายเธอด้วยรอยยิ้มหล่อเหลา
และสดใส จนทำให้เธอหน้าแดงเล็กน้อย
“ว-ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับเสื้อผ้าของพวกเจ้า พวกเจ้าจะออกไปข้าง
นอกในวันนี้รึ” ซุนเหรินกระแอมและชี้ไปยังเสื้อผ้าของพวกเขา
ซุนจิงจิงสวมชุดเสื้อผ้าสีแดงสง่างามที่ช่วยขับเน้นเสน่ห์และความ
สวยงามของเธอไปอีกระดับหนึ่ง ในขณะที่ซูหยางสวมเสื้อผ้าสีดำ
หรูหราที่ช่วยทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขายิ่งชวนฝันมากยิ่งขึ้น
“ใช่ พวกเรากำลังจะออกเดทกันต่อจากนี้” ซุนจิงจิงตอบกลับด้วย
รอยยิ้ม
“อ-ออกเดท เจ้าพูดอย่างนั้นรึ…” ซุนเหรินมองดูเธอด้วยใบหน้างงงัน