dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 498 ศิษย์ดั้งเดิม
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 498 ศิษย์ดั้งเดิม
บทที่ 498 ศิษย์ดั้งเดิม
สองวันหลังจากนั้น ซูหยางก็ออกจากศาลาหยินหยางขณะที่โหลว
หลานจีหลับสนิทจากอาการหมดแรง
แต่ก่อนที่จะจากไป เขาได้ทิ้งวิชาฝึกปราณที่อยู่ในระดับเซียนโดยไม่
เปิดเผยถึงระดับของวิชาให้กับเธอ ไม่ว่าเธอจะมีพรสวรรค์เพียงใด
หากปราศจากวิชาระดับเซียน ก็เกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุเขต
อัมพรวิญญาณในโลกนี้เนื่องมาจากขาดปราณไร้ลักษณ์
ครั้นเมื่อเขาออกไปจากศาลาหยินหยางแล้ว ซูหยางก็ไปยังนิกาย
ดอกบัวเพลิงหนึ่งวันเพื่อฝึกอบรมหวังชูเหรินอีกครั้ง
“ข้าต้องกล่าวว่า… ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าตกใจมาก” หวังชูเหรินกล่าว
“นั่นยังไม่ถึงเดือนแต่ฝีมือของข้าก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด”
“เจ้ายังคงมีหนทางอีกยาวไกล ชูเหริน แม้ว่าฝีมือของเจ้านั้นจะได้
พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่เมื่อเจ้าเริ่มฝึก นั่น
ก็ยังไม่ได้ใกล้เคียงกับระดับที่ข้าต้องการให้เจ้าเป็น” ซูหยางกล่าวกับ
เธอ
“แต่อย่างไรก็ตามนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยจักเริ่มรับศิษย์ใหม่ภายใน
อีกสามวันใช่ไหม เกือบทั้งทวีปได้รอด้วยคามคาดหวัง กระทั่งสำนัก
กระบี่ศักด์ิสิทธ์ิก็ไม่สามารถทำให้คนตื่นเต้นกับการเพียงแค่รับศิษย์
ใหม่ บางทีข้าควรจะไปนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยและเฝ้าสังเกตการณ์
ข้าได้ฝึกทุกวันไม่ได้หยุดดังนั้นข้าควรจะพักสักหน่อย”
“ทำตามที่เจ้าต้องการ”
หลังจากที่การสอนหวังชูเหรินจบลง ซูหยางก็กลับไปยังนิกายกุสุมาลย์
พ้นพิสัยเพื่อเตรียมตัวการทดสอบศิษย์
ขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย เขาก็สังเกตเห็นผู้คน
ต่างพากันรวมตัวกันหน้าพื้นที่ทดสอบที่เขาจะใช้เป็นพื้นที่ทดสอบ
ศิษย์เรียบร้อยแล้ว และมีคนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้นหลายพันคน
มีผู้คนทุกช่วงอายุ มีกระทั่งผู้คนที่เห็นได้ว่าไม่อยู่ในช่วงอายุที่ต้องการ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ใช่ผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบ แต่ก็
อาจจะเป็นผู้ชมแทนก็ได้
หลังจากที่กลับถึงนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ซูหยางก็ขอให้ซุนจิงจิงและ
ฟางซีหลานช่วยเขาในระหว่างการคัดเลือกศิษย์ และพวกเธอก็ตกลง
อย่างรวดเร็ว
สามวันให้หลัง ในวันทดสอบ เหล่าศิษย์ปัจจุบันต่างก็มารวมตัวกันที่
หอประชุม
“ซูหยาง เจ้ามั่นใจว่าเจ้าต้องการที่จะจัดการเรื่องนี้ตามลำพัง เมื่อตอน
ที่ข้าแอบมองไปด้านนอกวานนี้ มีคนนับหมื่นคนที่รอคอยอยู่ด้าน
นอกแล้ว ใครจะรู้ว่าจะมีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนอีกเท่าไหร่ในตอนนี้”
โหลวหลานจีกล่าวกับเขา
“อย่ากังวล ข้ามีซุนจิงจิงและฟางซีหลานช่วยอยู่” เขากล่าวด้วยท่าทาง
ผ่อนคลาย
“อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ากังวลเช่นนั้น เจ้าสามารถมาดูการทดสอบได้
ด้วยตนเอง”
จากนั้นเขาก็หันไปมองดูศิษย์คนอื่นและกล่าวว่า “ขอบคุณที่อยู่กับ
นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยตลอดมานี้ แม้ว่าสิ่งต่าง ๆ ในนิกายจะเปลี่ยน
แปลงไปนับตั้งแต่วันนี้ พวกเจ้าสามารถมั่นใจได้ว่าข้าจักมิเปลี่ยน
แปลงวิธีที่ข้าได้ดูแลพวกเจ้า”
“ดังนั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจักให้พวกเจ้าทั้งหมดได้ตำแหน่ง
เป็น ศิษย์ดั้งเดิม”
“ศิษย์ดั้งเดิมรึ นั่นคืออะไร”
ลืมพวกศิษย์ไปได้เลย ในเมื่อกระทั่งผู้อาวุโสนิกายและโหลวหลานจี
ก็ไม่เคยได้ยินศัพท์นี้มาก่อน
“นี่เป็นตำแหน่งที่ปกติแล้วจะมอบให้กับเหล่าศิษย์ที่มีอยู่ก่อนที่จะ
เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ภายในนิกายหรือก่อนที่จะถึงยุคใหม่
ในกรณีของพวกเรา นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ดังนั้น
ใครก็ตามที่อยู่ที่นี่ก่อนที่จะเป็นยุคใหม่นี้ก็จะรู้จักกันในนาม ศิษย์
ดั้งเดิม”
“แน่นอนว่า ศิษย์ดั้งเดิมนั้น จะมีขึ้นหรือไม่ ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับผู้นำ
นิกาย และข้าต้องการที่จะทำให้มันมีขึ้นภายในนิกายกุสุมาลย์พ้น
พิสัย เจ้าเห็นด้วยกับสิ่งนี้หรือไม่” ซูหยางหันไปมองดูโหลวหลานจี
โหลวหลานจีพยักหน้าหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา และเธอพูดขึ้น
บ้างว่า “ข้ามิถือ แต่ว่ามีความแตกต่างอย่างไรกันระหว่างศิษย์ดั้งเดิม
กับศิษย์อื่น ๆ”
“การเป็นศิษย์ดั้งเดิมนั้นเป็นมากกว่าแค่ตำแหน่ง มันเป็นฐานะที่
คล้ายกับชนชั้นสูง ยกตัวอย่างเช่น แม้ว่าคนผู้หนึ่งอาจจะเป็นเพียงแค่
ศิษย์นอก แต่เขาก็สามารถเป็นศิษย์ดั้งเดิมได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น
ผลประโยชน์ของการเป็นศิษย์ดั้งเดิมนั้นขึ้นกับผู้นำนิกาย และในเวลา
นี้ข้าจักให้ศิษย์ดั้งเดิมทุกคนมีสิทธิพิเศษเท่ากับศิษย์หลัก ดังนั้นแม้ว่า
พวกเขาเป็นเพียงศิษย์รุ่นเยาว์ พวกเขาก็ยังสามารถได้รับผลประโยชน์
ทั้งหมดเช่นเดียวกับที่ศิษย์หลักจะพึงได้รับ”
“แน่นอนว่า ยังมีผลประโยชน์อื่นในฐานะศิษย์ดั้งเดิมมากกว่าเพียง
แค่มีสิทธิคล้ายกับศิษย์หลัก แต่ข้าจักอธิบายให้ฟังเพิ่มในภายหลัง”
จากนั้นซูหยางก็โบกชายเสื้อ ส่งตราจำนวนมากที่จัดสร้างจากหยก
ไปให้ทุกคนที่อยู่ภายในห้อง
ตรานี้เปล่งพลังงานที่ลึกลับลึกล้ำออกมา จนทำให้เหล่าศิษย์ต่างพา
กันสะท้านเมื่อได้สัมผัสมัน
“นั่นจักเป็นหลักฐานประจำตัวระบุว่าพวกเจ้าเป็นศิษย์ดั้งเดิม แม้ว่า
จริงแล้วพวกมันไม่มีประโยชน์ในตอนนี้ แต่พวกเจ้าจักต้องการใช้
มันในอนาคต”
หลังจากที่พูดกับเหล่าศิษย์ต่ออีกสองสามนาที ซูหยางก็ออกไปจาก
หอประชุมมุ่งหน้าไปยังโถงทดสอบพร้อมกับซุนจิงจิงและฟางซี
หลาน
แน่นอนว่าศิษย์ที่เหลือต่างก็พากันสนใจในการทดสอบเช่นเดียวกัน
ดังนั้นพวกเขาจึงติดตามด้านหลังเขาไปด้วย
เวลาหลังจากนั้น พวกเขาก็ไปถึงที่โถงทดสอบ
“โอพระเจ้า… มีคนมากมายอยู่ที่นี่…” เหล่าศิษย์ต่างพากันงงงันไป
กับทะเลมนุษย์ที่มารวมตัวกันหน้าโถงทดสอบ
“ต้องขอบคุณที่เราได้เพิ่มความจุสำหรับโถงทดสอบล่วงหน้า แต่ถึง
จะมีความจุเพิ่มขึ้น มันก็ยังมีผู้คนหนาแน่นอย่างรวดเร็ว” ฟางซีหลาน
กล่าวด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างงุนงงอยู่เล็กน้อย ในเมื่อเธอไม่คาดคิดว่า
จะมีคนมากมายปรากฏตัวขึ้นเพื่อรับการทดสอบ
“ดูสิ นั่นนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย พวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว”
“ข้าเห็นนางฟ้าซุนกับนางฟ้าฟางด้วย”
“อัจฉริยะอันดับหนึ่ง ซูหยาง ก็อยู่กับพวกเขาด้วยเช่นกัน”
เมื่อผู้คนที่พากันรวมตัวด้านนอกสังเกตเห็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์
พ้นพิสัยตรงมาหาพวกเขา ที่ซึ่งเสียงดังอยู่แล้วก็ยิ่งดังเซ็งแซ่มาก
กว่าเดิม
“อะแฮ่ม” ซูหยางพลันกระแอม จนทำให้เกิดคลื่นอันลึกล้ำแผ่กระจาย
ไปทั่วทั้งพื้นที่และส่งความหนาวยะเยือกไปยังทุกผู้คน
ที่แห่งนั้นพลันเงียบสงัดภายในไม่กี่วินาที
“ขอบคุณทุกท่านที่มาที่นี่ในวันนี้ การทดสอบศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์
พ้นพิสัยสำหรับศิษย์ใหม่จะเริ่มในเวลาอันสั้นหลังจากที่ข้าได้กล่าว
ถ้อยคำสองสามคำ”