dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 499 ผู้ชมที่มีตำแหน่งสูง
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 499 ผู้ชมที่มีตำแหน่งสูง
บทที่ 499 ผู้ชมที่มีตำแหน่งสูง
“ก่อนอื่นให้ข้าอธิบายพวกเจ้าทั้งหมดถึงความต้องการในการทดสอบ
ครั้งนี้” ซูหยางพูดขณะที่กวดสายตาอันสงบไปทั่วหมู่ชนหลายพัน
เบื้องหน้าเขา
“หนึ่ง พวกเจ้ามิจำเป็นต้องเป็นผู้ฝึกยุทธในการเข้าร่วมการทดสอบ
สองพวกเจ้าต้องมิมีอายุเกิน 24 ปี และสุดท้าย มีการทดสอบแยกกัน
อยู่สี่ส่วนที่พวกเจ้าต้องผ่านก่อนที่จะได้รับการยอมรับเป็นศิษย์ของ
นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย”
เมื่อซูหยางอธิบายกฎให้กับผู้คนฟัง ก็มีร่างคนบางร่างที่มีตัวตนอัน
ยิ่งใหญ่ปรากฏตัวขึ้นทีละคนสองคน
เมื่อผู้คนที่นั่นรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นใคร พวกเขาต่างพากันประหลาดใจ
อย่างใหญ่หลวง
“นั่นคือหวังชูเหรินจากนิกายดอกบัวเพลิง ทำไมคนแบบเธอจึงมาทำ
อะไรในการคัดเลือกศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยนี่”
“มองทางนั้นสิ เจ้าสำนักหงส์สวรรค์ ไป่ ลี่ฮัวก็อยู่ที่นี่เช่นกัน”
“หือ กระทั่งเจ้าสำนักกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิก็ปรากฏตัวด้วยรึ ทำไมเหล่า
คนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเหล่านี้มาทำอะไรที่แค่งานทดสอบศิษย์ของ
สำนักอื่น”
อย่างไรก็ตามคนที่น่าประหลาดใจมากที่สุดที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ไม่
ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นคนที่คลุมหน้าที่มีรูปร่างเป็นหญิงสวมเสื้อผ้า
หรูหรา
“น-นั้นคงมิใช่…”
“เป็นไปมิได้ เธอมาทำอะไรถึงที่นี่”
แม้ว่าผู้คนอาจจะไม่สามารถจดจำตัวตนของเธอจากรูปร่างหน้าตา
ของเธอได้ แต่ทหารองครักษ์ที่ยืนรายล้อมเธอช่วยเปิดเผยตัวตนของ
เธอง่ายขึ้น ในเมื่อพวกเขาต่างสวมเกราะที่เป็นของตระกูลซี
“องค์หญิง”
ผู้คนที่นั่นต่างพากันโค้งคำนับให้กับซีซิงฟางในทันที
“ได้โปรด อย่ากังวลในเรื่องข้า ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อชมการทดสอบ” ซี
ซิงฟางโบกมือ
ดังนั้น หวังชูเหริน ไป่ ลี่ฮัว เจ้าสำนักกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิจง และซีซิงฟาง
ก็เริ่มชมการทดสอบจากระยะไกล อย่างไรก็ตามตัวตนของพวกเขา
นั้นโดยปกติแล้วมีอำนาจมากจนเกินไป จนทำให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบ
ยิ่งเป็นกังวล
ไม่เพียงแต่พวกเขาจะต้องกังวลเกี่ยวกับการผ่านการทดสอบแต่พวก
เขาก็ยังต้องใส่ใจกับบุคคลผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ที่มาดูพวกเขาอยู่ในตอนนี้
“ซูหยาง…” ฟางซีหลานมองดูเขาด้วยสายตาเป็นกังวล ในเมื่อเธอไม่
คาดคิดว่าเหล่าบุคคลสำคัญเหล่านี้จะมาชมการคัดเลือกศิษย์ของพวก
เขา
แต่ทว่าซูหยางเพียงแค่พูดด้วยรอยยิ้ม “มิต้องใส่ใจพวกเขา ถ้าพวก
เขาต้องการดู ก็ให้พวกเขาสนุกไปกับการแสดง”
หลังจากที่กล่าวคำพูดเหล่านั้นแล้วเขาก็ทำการพูดกับผู้คนต่อไป “ข้า
มั่นใจว่าพวกเจ้าส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ได้ยินเรื่องนี้ก่อนที่จะมาที่นี่แล้ว
แต่ข้ายังคงที่จะย้ำสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ในเรื่องความเปลี่ยนแปลงนี้ นิกาย
กุสุมาลย์พ้นพิสัยจักแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับผู้ที่
ปรารถนาที่จะฝึกฝนอย่างปกติ และอีกส่วนหนึ่งสำหรับผู้ที่ปรารถนา
ที่จะฝึกฝนการฝึกวิชาคู่”
“ในแต่ละส่วนจะมีวิชา ผลประโยชน์ และพรสวรรค์แตกต่างกันไป
แต่สุดท้ายพวกเจ้าก็ล้วนอยู่ในสำนักเดียวกัน และข้าต้องการให้พวก
เจ้าจดจำไว้ในใจตราบเท่าที่พวกเจ้าได้เป็นศิษย์ของที่นี่”
“ตอนนี้สำหรับสิ่งสุดท้ายก่อนที่เราเริ่มการทดสอบ”
ซูหยางกวาดสายตาผ่านฝูงชน จนทำให้พวกเขาสั่นสะท้านด้วยความ
หวาดกลัว แล้วเขาก็กล่าวต่อว่า “มีคนนับหมื่นคนที่นี่ในวันนี้และก็
จะมีมากกว่านี้ตามมาทีหลัง แต่สำหรับตอนนี้ นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย
จักรับศิษย์สูงสุดเพียงห้าร้อยคนสำหรับศิษย์ภาคปกติ และอีกห้าร้อย
คนสำหรับศิษย์ภาคการฝึกวิชาคู่ ดังนั้นมีเพียงคนเพียงหนึ่งพันคน
ในหมู่พวกเจ้าเท่านั้นที่จะได้รับเป็นศิษย์ แน่นอนว่ามาตรฐานของ
เราก็จะแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ ดังนั้นอาจจะมีไม่ถึงหนึ่งพันคนที่
จะได้กลายมาเป็นศิษย์”
เมื่อผู้คนได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ผู้คนย่อมคาดหวังว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยจะรับศิษย์มากเท่าที่สุดที่
จะเป็นไปได้ เพราะว่าในสถานการณ์ปัจจุบันของนิกาย ก็คือขาดศิษย์
แน่นอนว่าศิษย์หนึ่งพันคนไม่ใช่ศิษย์จำนวนน้อยที่จะรับในเวลาหนึ่ง
วันแต่สำหรับทั้งสำนักแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักที่ตอนนี้เป็นอันดับ
หนึ่งแล้ว ศิษย์หนึ่งพันคนก็เหมือนกับไม่ได้อะไรเลยแม้แต่น้อย
ตัวอย่างเช่นสำนักกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิ แม้ว่าจะรับศิษย์น้อยกว่าหนึ่งร้อย
คนในทุกเดือน พวกเขาก็มีศิษย์มากกว่าห้าหมื่นคนที่ทำกิจกรรมอยู่
ในสำนัก
กระทั่งนิกายดอกบัวเพลิงและสำนักหงส์สวรรค์ก็มีศิษย์มากกว่าสอง
หมื่นคน ดังนั้นสำหรับนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยที่มีศิษย์เพียงแค่หนึ่ง
พันคน ก็ถือได้ว่าค่อนข้างต่ำ
สองสามอึดใจถัดไป ซูหยางก็กล่าวต่อว่า “ตอนนี้เมื่อทุกได้ดำเนิน
มาถึงตอนนี้แล้ว พวกเราก็มาเริ่มการคัดเลือกศิษย์ประจำปีของนิกาย
กุสุมาลย์พ้นพิสัยกัน ซึ่งจักใช้เวลานานทั้งหมดเจ็ดวัน”
จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังด้านหลังเขาแล้วกล่าวว่า “ด้านหลังข้าเป็นพื้นที่
ทดสอบ”
ผู้คนต่างพากันมองไปที่ด้านหลังของเขา ซึ่งมีลานประลองขนาดใหญ่
อยู่สี่แห่ง เวทีแรกเป็นเทวรูปอายุกระดูก และเทวรูปวิญญาณจัดตั้งอยู่
เวทีที่สองมีขาตั้งอยู่ตรงกลางโดยมีเม็ดยาสีแดงเม็ดหนึ่งวางอยู่บนขา
ตั้งนั้น เวทีที่สามมีอ่างบรรจุน้ำขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง แต่เวทีที่
สี่นั้นกลับว่างเปล่า
“อย่างที่เห็น การทดสอบแรกจักเป็นการทดสอบอายุและพลังการ
ฝึกปรือ การทดสอบที่สองจักทดสอบวิถีจิตของเจ้า สำหรับการทดสอบ
ที่สามนั้นเราจักทดสอบพรสวรรค์ของเจ้าผ่านเลือดของพวกเจ้า และ
ส่วนสำหรับการทดสอบสุดท้ายนั้น เจ้าจักต้องประลองกับศิษย์ของ
เราหนึ่งคน แต่นอนว่าพวกเรามิได้คาดหวังว่าพวกเจ้าคนใดจักเอาชนะ
ศิษย์เราได้ ดังนั้นการพ่ายแพ้มิได้หมายความว่าเจ้าล้มเหลวโดย
อัตโนมัติ”
เมื่อผู้คนได้ยินการทดสอบที่พวกเขาจะต้องทำ พวกเขาก็ค่อนข้างงง
งันอยู่บ้าง ในเมื่อมันง่ายดายเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้
ปกติแล้วสำหนักจะทำการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบได้รับการทดสอบ
ที่รุนแรงเพื่อหาขีดจำกัดของพวกเขาซึ่งบางครั้งต้องการให้พวกเขา
ต่อสู้กับสัตว์ร้ายในภูเขาเป็นเวลาสองสามวัน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ
การทดสอบเหล่านี้ การทดสอบของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยนั้นเรียบ
ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังง่ายดายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อพวกเขาจะรับศิษย์อย่างมากที่สุดเพียงหนึ่งพัน
คนเท่านั้น การทดสอบเหล่านี้อาจจะดูเหมือนง่ายเพื่อล่อหลอกให้
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันประมาทก็เป็นได้
“ตอนนี้เมื่อข้าได้อธิบายทุกสิ่งให้แก่พวกเจ้าแล้ว สุดท้ายพวกเราก็มา
เริ่มการทดสอบนี้กันเถอะ”
จากนั้นซูหยางก็หันไปมองดูซุนจิงจิง ฟางซีหลาน และหลานลี่ชิง
เมื่อพวกเธอเห็นเขามองไปยังพวกเธอ พวกเธอก็พยักหน้าและเริ่ม
เดินไปบนเวที
ครั้นเมื่อพวกเธอแต่ละคนขึ้นไปยืนบนเวทีเรียบร้อยแล้ว การทดสอบ
ก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ