dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน - Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 524 วิชาระดับเทพ
- Home
- dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน
- Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน - บทที่ 524 วิชาระดับเทพ
“ถึงแม้ว่าพวกเจ้าทุกคนจะเลือกตัวเลือกที่สอง ข้าก็ยังจะให้พวกเจ้ารู้ถึงตัวเลือกที่สาม ซึ่งจักยอมให้พวกเจ้าเปลี่ยนไปเลือกอีกแผนกเพื่อฝึกวิชาแบบปกติ” ซูหยางกล่าวหลังจากนั้นชั่วขณะ
“อย่างไรก็ตามก่อนที่ข้าจะยอมให้พวกเจ้าหญิงสาวตัดสินใจ ข้าก็จักให้โอกาศผู้ชายหนึ่งสัปดาห์เต็มในการหาคู่ฝึกของตนเองก่อนเป็นอันดับแรก”
“…”
ศิษย์ชายหันไปมองสาวสวยนับร้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาและกลืนน้ำลายอย่างเป็นกังวล นั่นปกติแล้วมีตัวเลือกมากเกินไป และถึงแม้ว่าพวกเขาเลือกใครสักคนนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าศิษย์หญิงจะยินดียอมเป็นคู่ของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นเพราะว่าศิษย์หญิงรู้ว่าถ่าพวกเธอเลือกคู่ฝึก โอกาสที่พวกเธอจะฝึกกับซูหยางซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่พวกเธอมาเป็นผู้ฝึกวิชาคู่ย่อมลดลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
ใช่แล้วนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงมีศิษย์หญิงมากมายกว่าศิษย์ชาย ในเมื่อในเมื่อเกือบทั้งหมดหรืออาจจะทั้งหมดของหญิงที่มายังนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยก็เพราะว่าซูหยางหวังที่จะฝึกร่วมกับเขา
แน่นอนว่าซูหยางย่อมรู้ถึงปัญหานี้ แต่ทว่าใช่ว่าเขาจะสามารถบีบให้ศิษย์หญิงเหล่านี้ให้เลือกคู่ได้ และถึงแม้ว่าจะขาดศิษย์ชาย แต่ถ้าศิษย์หญิงปฏิเสธที่จะฝึกกับศิษย์ชาย แน่นอนว่าเขาก็ย่อมไม่สามารถทำอะไรได้
“ส่วนสำหรับศิษย์หญิง ข้าต้องการให้เจ้าอย่างน้อยให้โอกาสผู้ชายเหล่านี้ ชีวิตมิได้เสมอภาคเสมอไป ในเมื่อย่อมจักมีเวลาที่เจ้ามิมีทางเลือก แน่นอนว่าข้าย่อมมิบอกพวกเจ้าให้เลือกคู่ฝึกซึ่งเจ้ามิได้ชอบ แต่ถ้าเจ้าเกิดความสนใจในตัวพวกเขา อย่ากังวลที่จะเป็นคู่ฝึกกับพวกเขา ในเมื่อการฝึกวิชาคู่นั้นมีความหมายยิ่งกว่าเพียงแค่สร้างความพึงพอใจและเพศสัมพันธ์”
“นับตั้งแต่วันนี้ และต่อไปอีกเจ็ดวัน ข้าต้องการให้ศิษย์ชายไปเคาะประตูของศิษย์หญิงทุกคนและพูดคุยกับพวกเธอ ในฐานะผู้ชายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะผู้ฝึกวิชาคู่ที่ใหม่ต่อภาพฉากนี้ ถ้าเจ้ามิถือโอกาสเริ่มต้น เจ้าก็แทบจักมิมีโอกาสได้พบเจอคู่ฝึก และเจ้าก็มิอาจจะโทษใครได้นอกจากตัวเจ้าเองที่ใจเสาะ”
หลังจากนั้น ซูหยางก็เลิกประชุมศิษย์ และเหล่าศิษย์ชายก็เริ่มพูดคุยกับเหล่าศิษย์หญิงในทันที
“ซูหยาง… เจ้าคิดจริงๆ รึว่าศิษย์หญิงเหล่านี้จักยินดีที่จะยอมรับคู่ฝึกคนอื่นที่มิใช่เจ้า ข้าสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าทั้งหมดทุกคนของศิษย์หญิงเหล่านี้มาที่นิกายนี้ก็เพราะเจ้า” โหลวหลานจีกล่าวกับเขาหลังจากนั้น ในเมื่อเธอก็รู้ถึงปัญหานี้เช่นกัน
“และด้วยความจริงใจอย่างถึงที่สุด ถ้าข้าอยู่ในกลุ่มศิษย์หญิงเหล่านี้เช่นกัน ข้าก็จักปฏิเสธเหล่าศิษย์ชายก็เพราะว่าจะได้เป็นคู่ของเจ้าเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นการชั่วคราวก็ตาม เจ้าจักทำอะไรถ้าหากว่าศิษย์หญิงทุกคนล้วนอยู่ในกรณีนี้ ย่อมมิมีความหมายสำหรับการที่จะมีศิษย์เพื่อฝึกวิชาคู่ถ้าหากว่ามีเพียงแต่ศิษย์หญิงที่ต้องการที่จะร่วมฝึกกับเจ้า”
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ซูหยางก็พูดขึ้นว่า “ถึงแม้ว่าจะเกิดกรณีนี้ขึ้น จริงแล้วก็มิมีอะไรที่ข้าจักสามารถทำได้ในเวลานี้ วิธีเดียวที่เป็นไปได้ในการจัดการกับปัญหานี้ก็คือข้าจากนิกายนี้ไปซึ่งก็จักเกิดขึ้นในอีกสองปีข้างหน้านับจากนี้”
“อย่างไรก็ตาม ข้าได้คาดว่าสิ่งนี้จักเกิดขึ้นก่อนการคัดเลือกศิษย์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าจึงจำกัดจำนวนของศิษย์ที่พวกเราจะรับในปีนี้”
“เอ๋ เจ้ามีแผนอะไรรึ” โหลวหลานจีเอียงคอ
จากนั้นซูหยางก็ตอบด้วยเสียงเยือกเย็น “ในอีกหนึ่งสัปดาห์ มิว่าศิษย์ชายจะหาคู่ได้หรือไม่ ข้าก็จักร่วมฝึกกับศิษย์หญิงที่ยังมิมีคู่ จากนั้นข้าก็จักฝึกพวกเธอทุกคนให้กลายเป็นศิษย์หลักหรือไม่ก็ผู้อาวุโสนิกายก่อนที่จะถึงการทดสอบศิษย์ในปีหน้า ซึ่งข้าก็จักลดมาตรฐานลงและเพิ่มปริมาณศิษย์ที่เรารับได้ขึ้น ครั้นเมื่อได้ทำเช่นนั้นแล้ว พวกเราก็จักมีศิษย์หญิงและศิษย์ชายจำนวนมากมาย และถึงแม้ว่าอัตราส่วนจะยังมิสมดุลเต็มที่ แต่อย่างน้อยก็จักมิได้เป็นปัญหามากดังเช่นปัจจุบันนี้”
“และจากนั้นภายในสองปี เมื่อถึงเวลาที่ข้าต้องจากไป ศิษย์เหล่านี้ก็จักต้องหาคู่ใหม่จากนิกายหรือไม่ก็จากโลกภายนอก”
เมื่อได้ยินแผนของเขา โหลวหลานจีก็ถอนใจ “นั่นค่อนข้างโหดร้าย เจ้ารู้ไหม ครั้นเมื่อพวกเธอได้รับรู้รสชาติของของความสามารถขอเจ้า มาตรฐานของพวกเธอในความพึงพอใจก็จักกลายเป็นห่วงที่จำกัดตัวเลือกของพวกเธออย่างรุนแรง ทำให้มันเป็นได้ยากถึงที่สุดสำหรับพวกเธอที่จะหาคู่ซึ่งจักสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพวกเธอได้”
“ข้ารู้… แต่พวกเธอก็จักเติบโตพ้นจากตรงนั้นได้ในที่สุด อีกอย่างอย่าดูถูกอนาคตของการฝึกวิชาคู่ในโลกนี้ในอนาคต แน่นอนว่าข้าจักเพิ่มมาตรฐานของโลกนี้ในการสร้างความพึงพอใจก่อนที่ข้าจะจากไป และมันก็จักเติบโตต่อไปแม้ว่าข้าจักจากไปแล้วเพราะว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยจักยังคงอยู่ที่นี่”
“หวังว่าคงจะเป็นไปเช่นนั้น…”
“อย่างไรก็ตามข้าจักจากนิกายไปในวันพรุ่งนี้ ในเมื่อข้ามีธุระอะไรบางอย่างที่นิกายดอกบัวเพลิง” ซูหยางกล่าว
“ได้” โหลวหลานจีพยักหน้
หลังจากเวลาผ่านไป ครั้นเมื่อทุกคนข้างกายซูหยางและเยี่ยนเยี่ยนได้จากไปแล้ว เยี่ยนเยี่ยนก็ถามเขาว่า “อาจารย์ ข้าควรทำอะไรต่อไปในตอนนี้”
เขามองดูเธอและกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้ายังมิสามารถฝึกวิชาคู่ได้จนกว่าเจ้าจะมีอายุถึง เราก็ต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งพื้นฐานของเจ้าก่อนจนกว่าเจ้าจะสามารถฝึกได้ และเพื่อการเสริมสร้างความแข็งแกร่งพื้นฐานของเจ้า เจ้าก็ควรจะฝึกฝนตามปกติไปก่อนในตอนนี้”
“ตามข้ามา”
เยี่ยนเยี่ยนพยักหน้าและติดตามกลับไปยังที่พักของเขา
ครั้นเมื่อพวกเขาเข้าไปข้างในแล้ว ซูหยางก็เริ่มเขียนม้วนกระดาษแผ่นหนึ่ง
“นี่ของเจ้า” เขายื่นส่งม้วนกระดาษให้กับเธอหลังจากที่มันสมบูรณ์แล้ว และเขาก็พูดต่อว่า “นี่เป็นวิชาฝึกปราณระดับเทพ ที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ด้วยเพื่อนที่สนิทมากๆของข้าซึ่งมีพรสวรรค์ดุจเดียวกับเจ้า มันเป็นวิชาระดับที่สูงกว่าวิชาระดับเซียน”
จากนั้นเขาก็ยื่นส่งแหวนมิติให้เธอ “มีหินวิญญาณสิบล้านก้อนอยู่ภายในนั้น ใช้มันในการฝึกวิชาของเจ้า มันควรจะอยู่ได้จนกระทั่งเจ้าอายุถึงสิบหกปี”
“…”
เยี่ยนเยี่ยนจ้องมองแหวนมิติและวิชาฝึกปราณในมือของเธอแต่ละข้างด้วยใบหน้างงงัน ดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อ