dungeon defense - ตอนที่ 27 การล่ามนุษย์(8)
“เฮ่อ……ตอนนี้ได้หายใจได้คล่องซะที ขอบคุณมากนะครับ ฉันซาบซึ้งบุญคุณจริงๆ”
“เพื่อนก็ต้องช่วยเหลือกันเป็นธรรมดา”
พวกเราคุยเล่นกันสักพัก หัวข้อของพวกเราโดยมากก็เกี่ยวกับความเสียหาย หายนะที่เกิดในเมือง ว่าเกิดจากใครและทำไปเพื่ออะไร
แจ็คพยายามโชว์ความรู้เรื่องปัญหาการเมืองระดับชาติด้วยน้ำเสียงที่เร่าร้อน ความเห็นของเขาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่าง ฝ่ายเจ้าชายราชอาณาจักรซาดิเนีย กับ การแทรกแซงของโบสถ์
ความวิตกของเขาพลันหายไปเพราะเขาเชื่อว่า ตอนนี้เขาพ้นจากอันตรายแล้ว
รถม้าหยุดพักชั่วครู่ พวกเรามาถึงชายป่าที่อยู่ ณ ชานเมือง พวกเราลงจากรถม้าแล้วนั่งที่ผืนหญ้า
พวกเรายังคงเห็นกลุ่มควันกระจายตัวเหนือกำแพงเมืองจากที่ไกลๆ แจ็คเดาะลิ้นทันทีที่เห็น
“ชิ พาเวียน่ะมักจะมีปัญหากับพวกโบสถ์เสมอ เอิร์ลพาเวียเองก็ต้องการมากที่จะให้ฝ่ายโบสถ์รับผิดชอบเรื่องโรคระบาด แถมโบสถ์เองก็ต่อต้านเรื่องระบบทาส ดังนั้นเป็นไปได้ที่พวกเขาจะก่อการร้ายด้วยเหตุผลนี้แหละ”
ผมผงกหัวทำทีเป็นเห็นด้วยกับเหตุผลที่ฟังขึ้น แต่ในความจริงนั้นผมกลั้นหัวเราะแทบตาย ผมล่ะอยากจะบอกกับเขาเหลือเกินว่า
‘ไอ้ที่ทำไปทั้งหมดน่ะ เพื่อเอาทาสของนาย’
แต่ผมก็ต้องยั้งตัวเองไว้ ลอร่านั่งอยู่ข้างผมและยังคงฟังบทสนทนาของเรา
แต่เธอยังคงจ้องมองที่ผมอยู่ มันยากที่จะทำเป็นไม่สนใจ แถมเป็นเรื่องน่ารำคาญหน่อยๆที่ผมไม่สามารถอ่านอารมณ์ของมนุษย์ได้โดยตรง
แจ็คมองไปเรื่อยเปื่อยเหมือนคำพูดของเขา
“ฉันว่า ตลาดค้าทาสจะต้องหยุดชั่วคราว”
ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง พอโรงประมูลถูกโจมตี หากยังหาผู้ลงมือไม่ได้ ผู้คนก็จะยังคงเลี่ยงการไปตลาดค้าทาสไปอีกสักพัก ผมจึงถามด้วยสีหน้าห่วงใย
“แล้วจะไม่เป็นปัญหากับธุรกิจของนายหรือ?”
“เอาจริงๆนะ เป็นปัญหาแหละ”
แจ็คถอนใจออกมา
“พ่อน่ะ มอบให้ฉันเป็นตัวแทนในงานประมูลครั้งนี้ ชื่อเสียงในธุรกิจของพ่อเพิ่มสูงขึ้นจากการค้าทาสคุณภาพดี และชื่อเสียงทางธุรกิจของผมก็จะสูงขึ้นในบริษัทจากการขายทาสได้ ก็อย่างที่รู้แหละว่า ความสำเร็จเนี่ยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดใน สมาคมพ่อค้า……พวกเราจะแบ่งปันสิ่งนี้”
แจ็คนั้นเผยความปรารถนาภายในที่ไม่เคยแสดงออกในสาธารณะ เป็นไปได้ว่าคงเชื่อใจผมอย่างมาก
“แจ็ค แม้แต่ฉันยังบอกได้เลยนะว่า นี่มันการค้าที่สำคัญมาก พ่อของนายให้โอกาสนี้ เขาต้องการทดสอบนายดูว่า สามารถที่จะจัดการงานใหญ่ได้หรือไม่”
“……ฉันก็คิดอย่างนั้นแหละ โธ่เว้ย ทุกอย่างพังทลายไปหมด”
“แล้วถ้าจะขายทาสนั่นให้ฉันล่ะ?”
ตาของแจ็คเบิกโต
“นายน่ะเหรอ? นายพูดจริงเหรอ?”
“พ่อค้าไม่พูดเล่นเรื่องการซื้อขาย”
แจ็คดูวุ่นวายใจขึ้นมาทันที
“ต-แต่ ท่านหญิง เดอ ฟาร์เนเซ่ นั้นแพงนะ ราคาสูงแบบนั้นจะทำให้นายลำบาก…….”
“หืมม”
นี่เขาพยายามที่จะปฏิเสธเพราะความจริงใจอย่างนั้นเหรอเนี่ย?
ผมมองไปที่สเตตัสของแจ็ค
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
ชื่อ: แจ็ค เอแลนด์
เผ่า: มนุษย์ ฝ่าย: บริษัทเมโดรันม์(บริษัทในเครือลอมบาร์ด)
สถานะ: ดี Good(+45)
เลเวล: 5 ชื่อเสียง: 57
อาชีพ: พ่อค้า(E)
ความเป็นผู้นำ: 10 อำนาจ: 5 ความฉลาด: 23
ไหวพริบ: 20 เสนห์: 9 เทคนิค: 6
ค่าความชอบ: 50
Current thought: ‘ถ้าเขาซื้อหล่อน……ไม่สิ ,ผมไม่อยากทำผิดพลาดกับเพื่อนแต่…….’
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
‘นี่นายคิดแบบนั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า’
ผมเกือบพูดออกมาด้วยความชื่นชมเขาแล้ว นี่เขาเป็นห่วงเรื่องความเป็นเพื่อนของเราตอนนี้เนี่ยนะ? เอาจริงดิ? ในสถานการณ์ที่เขาอาจทรยศความเชื่อใจของพ่อ และเสียโอกาสทางธุรกิจสำหรับบริษัทตัวเองไป ถ้าผมเป็นแจ็คผมคงคิดให้ถี่ถ้วนเพื่อเอาราคาที่สูงขึ้นจากอีกฝ่าย
‘แจ็ค ลึกลงไปถึงแก่นแล้ว ชีวิตพ่อค้าไม่เหมาะกับนายหรอก’
แม้มันจะดีสำหรับผมในหลายมุมมอง แต่ผมกลับรู้สึกสบายใจแปลกๆเพราะพฤติกรรมโง่ๆของเขา ผมรู้สึกเหมือนจะไม่ต้องใช้การแสดงต่อหน้าคนๆนี้ด้วยซ้ำ แจ็คเป็นชายที่พร้อมจะโดนหลอกด้วยคำสวยๆอยู่แล้ว
“อย่าบอกนะว่า นายเป็นห่วงว่า มันจะเป็นภาระของฉันน่ะ?”
แจ็คโบกมืออย่างลนลานตอนที่เขาเห็นผมย่นหน้าผาก
“ป-เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น……มันก็แค่”
“แหม ช่างเป็นคนที่ซื่อสัตย์เสียจริง ฉันเป็นพ่อค้านะ ฉันน่ะจะหาแต่สิ่งที่ทำกำไรได้ การที่ฉันปรารถนาจะซื้อ ท่านหญิง เออ ฟาร์เนเซ่ ก็เพราะว่าฉันรู้ว่า เธอมีค่าสูงกว่านั้น”
ผมขยิบตาให้
“เป็นที่แน่นอนว่า ความสนใจส่วนตัวของฉันเนี่ยจะทำให้นายเกิดความรู้สึกสับสน ก็ไม่ปฏิเสธตรงจุดนั้น แต่ถึงอย่างนั้น ความสัมพันธ์กับนายไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่า แรงขับเคลื่อนเล็กๆ ถ้าฉันซื้อท่านหญิง เดอ ฟาร์เนเซ่ แล้วไม่อาจทำกำไรอะไรได้ ฉันก็คงไม่คิดจะสนใจซื้อเธอแต่แรกแล้ว”
“โลลิต้า…….”
แจ็คมองผมด้วยดวงตาที่เปียกชื้น ตาของเขานั้นราวกับกำลังจะพูดว่า
‘นายช่างเป็นชายที่สุดยอดจริงๆ!’
อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาก็แทบจะบูชาผมเป็นเจ้าลัทธิแล้ว ผมล่ะสงสัยจังเลยว่า ในโลกที่ผมจากมา คนที่ทำธุรกิจอันดีงาม ก็คงจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน
“อืมม ราคาเสนอสูงสึดอยู่ที่ 1,650 โกลด์, ถูกไหม?”
ผมพูดขณะที่แตะเปิดแถบ
“ผมจะซื้อสดเลย ราคา 2,000 โกลด์ถ้วน. คิดว่ายังไงล่ะ?”
“2,000 โกลด์?!”
แจ็คถอยหลังด้วยความตะลึง
“อะไรน่ะ?มันไม่พอเหรอ?”
“ม-ไม่ใช่! ไม่ใช่อย่างนั้นสูงไปด้วยซ้ำ!”
“ฉันเชื่อว่า มันจะสูงได้มากกว่านี้ ถ้าโรงประมูลยังดำเนินการต่อไปตามปรกติ”
“ไม่มีทาง! ถึงจะเป็นอย่างนั้น ตอนนี้โรงประมูลก็พังไปแล้ว ฉันไม่ต้องจ่ายค่าดำเนินการของโรงประมูลแล้ว ดังนั้นจะให้มันถูกกว่านั้นก็ได้ ฉันจะขายเธอให้นายในราคา 1,500 โกลด์”
ผมเบ้หน้าทันที
“ไร้สาระน่า สินค้านั้นน่ะมีราคาประมาณ 2,000 โกลด์ด้วยซ้ำ”
“ไม่มีทางจินตนาการได้หรอก ว่าโรงประมูลจะดันราคาสูงไปถึงไหน แต่ราคานั้นน่ะมันเป็นราคาประมูลแข่งกัน อันที่จริงฉันขอรับเงิน 1,500 โกลด์ สำหรับทาสคนเดียวก็ถือว่า เป็นราคาที่สูงเกินแล้ว”
“เดอ ฟาร์เนเซ่ เป็นทาสธรรมดาๆสินะ?”
แจ็คพยักหน้า
“1,500 โกลด์ ฉันจะไม่ขายเธอให้ ถ้ามันสูงกว่านี้”
“ดื้อรั้นชะมัด”
ผมยอมยกธงขาว มันเป็นบรรยากาศที่บ้าบอมาก ผู้ขายพยายามขายราคาต่ำในขณะที่ผู้ซื้อกลับเสนอราคาที่สูงแทน
แต่คงหาจุดสิ้นสุดไม่ได้สำหรับแจ็คจอมดื้อรั้น ถ้าหากคุณรู้เส้นทางของลอร่าที่จะเดินไปในอนาคต จะ 2,000 โกลด์ หรือ 20,000 โกลด์ นั่นแทบไม่พอด้วยซ้ำ
“ช่วยไม่ได้นะ ให้ราคามันหยุดที่ 1,600 โกลด์ดีกว่า”
“พูดจริงๆนะ นาย…… ได้ แบบนั้นก็ได้ ฉันจะขายเธอให้นาย ในราคา 1,600 โกลด์”
แจ็คพูดด้วยน้ำเสียงที่ยอมผ่อนลงมา เพราะดูเหมือนจะเอาชนะผมไม่ได้
เฮอะ แย่งคำพูดผมไปซะอย่างนั้น เจ้าคนดื้อ แม้จะดูน่าขบขัน แต่ผมก็เขย่ามือกับแจ็คด้วยความยินดี
เขาพูดกับผมด้วยรอยยิ้ม
“แล้วเราจะทำการซื้อขายที่ไหนกันล่ะ?”
“นั่นสิ อาจจะน่าเหนื่อยหน่าย แต่เราจะทำที่นี่ตอนนี้แหละ”
แจ็คส่ายหัว
“นายพูดอะไรน่ะ? ถ้าอยากเป็นเจ้านายทาส นายก็ต้องลงทะเบียนกับทางหลวง”
“……โอ้, อย่างนั้นเองหรือ?”
“แน่นอน การไปสำนักงานของหลวงเพื่อยืนยันบุคคลที่เป็นปัญหา, หลังจากแน่ใจแล้วเราก็ไปทำขั้นตอนต่อไปที่สมาคมพ่อค้าใกล้ๆ”
“…….”
ความคิดของผมที่เคยสว่างไสวเป็นประกายก็กลายเป็นเย็นเฉียบในทันที
“นั่นสินะ อืม ถูกแล้วล่ะ”
น้ำเสียงของผมเย็นเยือกในระดับที่แม้แต่ตัวเองก็รู้สึกได้
อย่างนี้มันชักไม่ดีแล้วล่ะ
ผมพยายามทำเสียงให้สดใส พยายามใช้ความคิดให้ดี ผมได้หาคำโกหกที่พอน่าเชื่อ สิ่งเดียวที่พัฒนาขึ้นเมื่อมาสู่โลกนี้ก็คือ ความสามารถในการโกหกนี่แหละ
“แจ็ค ขอโทษที,แต่เราไม่สามารถทำสัญญากันตรงนี้ได้จริงหรือ?”
“……หรือนายมีปัญหาส่วนตัวอะไรรึเปล่า?”
“นายรู้ว่า ฉันมีสมุนไพรที่รักษากาฬโรคได้,ใช่ไหม?”
“แน่อยู่แล้ว ไม่มีทางลืมหรอก”
“สมาคมพ่อค้าที่พาลเวียน่ะ คอยจับตาดูฉันอยู่เพราะเรื่องนี้แหละ พวกเขาอาจจะพยายามหาทางจัดการฉันด้วยวิธีการใดก็ได้ ส่วนสาเหตุก็เพราะความโลภนั่นแหละ พวกเขารู้ว่าจะสามารถทำเงินจากฉันได้มาก”
“ห่า ไอ้พวกเจ้าขี้ขลาด หน้าไม่อายนี่!”
แจ็คโกรธขึ้นทันที
“พวกมันก็เป็นแบบนี้เสมอแหละ ทั้งที่ควรจะปกป้องพ่อค้าด้วยกันแท้ๆ แต่กลับมาก่อกวนกันแทน!”
“น่าเสียดายที่ ฉันทำอะไรมากกับเรื่องนี้ไม่ได้ นี่คือ สาเหตุที่ว่า ทำไมฉันถึงไม่อยากไปทำการค้าที่สมาคมพ่อค้า ถ้าเป็นไปได้นะ
ฉันไม่รู้ว่า พวกเขาจะหาทางทำให้ฉันเป็นหนี้เพื่อช่วงชิงสินค้าของผมไปด้วยวิธีไหนบ้าง…….”
“อืมมม”
แจ็คเอามือก่ายหน้าผาก ผมเดาว่า สาเหตุที่เขาอยากจะทำธุรกรรมที่สมาคมพ่อค้านั่นเพราะเขาต้องการความสำเร็จไม่ใช่ตัวเงิน
เรื่องการเงินนั้นยังพอจัดการได้ตราบที่พ่อยังสนับสนุนเขาอยู่ แต่ความสำเร็จของพ่อค้านั้นเป็นสิ่งที่จะต้องได้มาด้วยตัวเอง
สำหรับแจ็คแล้ว การทำธุรกรรม 2,000 โกลด์ ในสมาคมพ่อค้าที่เหล่าพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จได้บริหารอยู่ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับเขา
บริษัทที่ผมอ้างขึ้นมานั้น ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าบริษัทผี แม้เราจะไปทำธุรกรรมกันที่สมาคมพ่อค้า แต่ก็จะเกิดคำถามเกี่ยวกับตัวตนของผมในฐานะพ่อค้า และยิ่งไปกว่านั้นผมไม่อยากอยู่ในเมืองมนุษย์นานมากไปกว่านี้แล้ว ไม่มีทางรู้ว่า ตัวตนในฐานะปีศาจของผมจะเปิดเผยเมื่อไหร่
‘อย่าทำให้ผมผิดหวัง,แจ็ค’
ผมชอบแจ็คในบางมุมนะ แม้จะเป็นมนุษย์ในโลกนี้ออกจะไร้เดียงสา อ่อนหัดและใสซื่อโดยเป็นคนจำพวกตรงข้ามกับผม แต่แจ็คใกล้เคียงกับพวกใสซื่อมากกว่า
แม้ผมจะดูถูกพวกอ่อนหัด แต่ไม่เลย ผมไม่ได้ดูถูกพวกใสซื่อที่ดูมีเสน่ห์น่าเอ็นดูสำหรับผม ผมจึงเฝ้าดูอย่างใจเย็นตอนที่แจ็คกำลังใช้ความคิดจนทรมานสมองตัวเอง
“……โอเค”
ในที่สุดแจ็คก็เปิดปากพูด
“งั้นพวกเราทำอย่างนี้นะ มีบริษัทลูกที่พ่อของฉันบริหารอยู่ในเมือง แล้วก็ใช้เวลา 4 วัน กว่าจะไปถึง สมาคมพ่อค้าที่นั่นอยู่ใต้การดูแลของพ่อผม ถ้าเราทำธุรกรรมที่นั่น นายก็จะไม่ถูกคุกคามอย่างแน่นอน,โลลิต้า”
โอ้ ช่างเป็นแผนที่เยี่ยมยอด
มันเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
แต่ถึงอย่างนั้นนะ,แจ็ค
มันไม่ใช่คำตอบที่ผมต้องการหรอก
“เพื่อนเรา อย่าเข้าใจผิดไป ฉันจะร่างสัญญา 2,000 โกลด์ ไม่ใช่ 1,600 โกลด์ ขอเพียงแต่เราทำกันอย่างลับๆระหว่างสองเรา ฉันต้องการสัญญาที่จะรู้เพียงเราสองคน ฉันไม่อยากให้เรื่องมันไปถึง สมาคมการค้าบ้านั่น”
“ฉันไม่ต้องการเงินเพิ่ม”
แจ็คขมวดคิ้ว
“ถึงอย่างนั้น นายก็สามารถไว้ใจสมาคมพ่อค้าที่นี่ได้นะ พูดจริงๆนะ ดูเหมือนฉันจะหลอกนายเหรอ? ไม่เอาน่า อย่าบอกนะว่านายคิดอย่างนั้น”
“……”
“ฉันเข้าใจนะ ถึงการคุกคามที่นายเจอมาจากสมาคมพ่อค้า แต่ไม่หรอก ฉันเข้าใจยิ่งกว่าใครทั้งนั้น พวกมันน่ะเป็นฉลามโหยที่ไม่มีทางจะทำธุรกิจตัวเองอย่างเดียวแต่ยังเข้ามายุ่มย่ามเงินคนอื่นอยู่เบื้องหลังด้วย พวกมันน่ะ ไม่มีความซื่อสัตย์หรือจริยธรรมทางธุรกิจหรอก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันมีพรรคพวกที่ป้องกันเจ้าพวกนั้นได้”
“3,000 โกลด์”
แจ็คหยุดไปชั่วครู่
“อะไรนะ……?”
“ฉันจะซื้อเธอในราคา 3,000 โกลด์ แจ็ค นี่คือ ข้อต่อรองสุดท้ายแล้ว ฉันเต็มใจที่จะพูดเลยว่า นี่เพื่อนายเลยนะ ฉันจะไม่เอาความเป็นเพื่อนของเรามาเสี่ยงที่นี่ มาซื้อขายแลกเปลี่ยนที่นี่ ในราคา 3,000 โกลด์เถอะ”
“…….”
“นายส่ง เดอ ฟาร์เนเซ่ มา แล้วฉันก็จ่าย 3,000 โกลด์ให้นาย การซื้อขายก็จบลงเท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีใครยืนยันสัญญาของเรา ไม่มีใครโทษนาย ไม่มีใครมายุ่มย่าม มันเป็นสัญญาระหว่างเราสองคน”
ผมไม่สามารถจ่ายได้เกิน 3,000 โกลด์แล้ว
เงินที่มีโดยมากหมดไปกับการซื้อคัมภีร์เวทย์และการจ้างมือวางเพลิงในเมือง
หาผมทำเงินได้มากกว่าก็อาจจะลงทุนใหญ่กว่านี้ แต่ผมก็ต้องประหยัดเผื่อไว้เพื่อเอาชีวิตรอดในอนาคตด้วย 3,000 โกลด์จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ผมสามารถจ่ายได้
แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจ ถึงความจริงใจที่ผมมี
“โลลิต้า……ตัวฉันนั้นไม่ใช่คนละโมบเงิน
ไม่ว่าจะ 1,500 โกลด์ หรือ 3,000 โกลด์ มันก็ไม่มีความสุขเท่ากับที่ทำได้เกินหลายพันโกลด์จากการเดินทางครั้งนี้
อันที่จริงแล้ว การแสดงความสำเร็จแสดงให้พ่อของฉันเห็น และผู้คนในบริษัทรู้ จากที่เคยคิดว่า ฉันมันไร้ความสามารถซึ่งนั่นก็จริงบางส่วน แต่ฉันไม่อยากพลาดโอกาสที่จะเอาชื่อแย่ๆแบบนั้นออกไป”
ดวงตาของแจ็คนั้นจริงจังมาก
“ฉันนั้นมีความฝัน ฝันที่อยากจะเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่และทำธุรกิจที่จริงใจและมีจริยธรรม ให้แพร่ขยายไปทั่วทั้งโลก เพื่อการนั้น ชื่อเสียงและความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญมาก โลลิต้า,
ฉันไม่อยากจบลงแค่เป็นเด็กคนหนึ่งที่ถูกทิ้งแล้ววิ่งไล่ตามความฝันต่อไป มันเป็นโชคดีที่ฉันนั้นได้เปรียบตั้งแต่เกิด พ่อของฉันนั้นเป็นประธานบริษัทใหญ่!”
เขาพูดไหลรื่นราวกับร้องเพลง
“นี่มันไม่ใช่พรอันใหญ่หลวงเหรอ? มันน่าประทับใจมากนะ ถ้าเป็นพ่อค้าทั่วไปที่เริ่มจากการเป็นพ่อค้าเร่น่ะ ถ้าฉันไม่จริงจังต่อข้อได้เปรียบที่มีนี้ ฉันคงอภัยให้ตัวเองไม่ได้
ฉันว่า ตอนนี้ฉันจริงใจต่อตัวเองที่สุดแล้ว 3,000 โกลด์เหรอ?
มันอาจเป็นกำไรก้อนใหญ่สำหรับฉันในตอนนี้ แต่ฉันต้องการที่จะค่อยๆก่อร่างสร้างองค์กรขึ้นมา
โลลิต้า นั่นก็เพื่อจะได้ทำการค้าขายเพื่อช่วยเหลือผู้คนทั่วทั้งทวีปเหมือนอย่างนายไงล่ะ”
“…….”
“หากนายยังไม่สะดวกใจเรื่อง สมาคมพ่อค้า งั้นเอาแบบนี้ไหม เราไปที่เมืองตอนนี้เลย พอไปถึงที่นั่น ฉันจะส่งลูกน้องของฉันไปที่ย่านธุรกิจ เราจะมอบตราทาสผ่านเขากัน”
ฮ่าช ผมถอนใจเฮือกใหญ่ออกมา
“ใช่แล้วล่ะ นั่นสินะ ช่วยไม่ได้จริงๆ จะมาเพิกเฉยต่อความปรารถนาที่นายมีมันก็ไม่ได้นั่นแหละนะ”
ใบหน้าของแจ็คนั้นสดใสขึ้น
“นายเข้าใจใช่ไหมล่ะ?”
“แน่นอน ฉันรู้มาตลอดว่า นายน่ะเป็นคนที่น่านับถือ ฉันไม่รู้ว่า นายเชื่อฉันไหม แต่ความซื่อสัตย์ของนายน่ะทำให้ฉันพอใจเสมอ ไม่เพียงแต่เรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านะ แต่ตอนนี้นายยังไม่เต็มใจนักที่จะซื้อขายแลกเปลี่ยนทาสด้วยวิธีที่ไม่ซื่อสัตย์ด้วยใช่ไหมล่ะ?
“หือ? อ่า ใช่ นั่นเป็นปัญหาเลยล่ะ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ถ้าหากนายไม่ลงทะเบียนกับทางหลวง สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นอาชญากรรม”
ผมยิ้มอย่างขมขื่น
“นายนี่ช่างมีคุณธรรมจนน่าหน่ายเสียจริงนะ, แจ็ค”
“ฮ่าฮ่า ถ้าเทียบกับนายแล้ว ฉันก็ยังมีน้อยอยู่นะ”
“ไม่เสมอไปหรอก มีหนทางมากมายในชีวิตที่ไม่อาจไปด้วยเส้นทางที่ถูกต้อง มีหลายสถานการณ์เลยที่ นายไม่สามารถไปตามหนทางที่ถูกตั้งแต่เริ่ม ฉันพึ่งมาตระหนักรู้ถึงเรื่องนี้ได้เมื่อครู่นี่เอง”
ผมบีบมือขวา แจ็คยังคงยิ้มอย่างอบอุ่นเช่นเดียวกับที่จับมือผมไว้ พวกเราจับมือกันแน่น จนสัมผัสได้ถึงความอุ่นที่ฝ่ามือของเขา
“แต่นายกำลังเดินบนเส้นทางที่ถูกต้องนะ,โลลิต้า นายน่ะสุดยอดไปเลย”
“ฉันก็สงสัยตัวเองเรื่องนั้นแหละ โอ้ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันซื้อทาสน่ะ เลยสงสัยว่า พวกเขาแลกเปลี่ยนตราทาสกันได้ยังไง?
“มันง่ายมาก นักเวทย์ในเครือของสมาคมพ่อค้าน่ะมีเวทย์มนตร์ย้ายตรา เลยเป็นสาเหตุที่ว่าทำไม พ่อค้าบางคนในกลุ่มนั้นถึงได้ออกนอกลู่นอกทางบ่อยๆ เพราะสมาคมพ่อค้าน่ะชำนาญเรื่อง การค้าทาสเป็นพิเศษน่ะ พวกเขาจะทำเรื่องตราส่วนทางฝั่งสำนักงานหลวงก็จะทำการรับคำขอ ถ้าเราไปแลกเปลี่ยนกันในเมือง เงินที่ต้องจ่ายให้เมจน่ะ ไม่ต้องจ่ายเลยนะ ฮ่าฮ่า”
พวกเราหัวเราะด้วยกัน
“เวทย์นั้นใช้ยากรึเปล่า?”
“โอ้……ไม่รู้แฮะ ฉันไม่รู้อะไรเรื่องเวทย์มนตร์เลย แต่เท่าที่แอบสังเกตมาจากการที่นักเวทย์ในบริษัทไปเรียนมานะ มันดูง่ายมากเลยล่ะ”
“อ้อ อย่างนั้นเหรอ”
ผมผงกหัวก่อนจะพูดอะไรบางอย่างออกมาเงียบๆ
“ลาพิส ฟันไหล่ขวา”
“ห้ะ?”
แจ็คมองผมด้วยความสงสัย ใช้เวลาไม่เกิน 3 วินาทีก่อนจะกลายเป็นสีหน้าบิดเบี้ยว
ชิ้ง!
ดาบยาวฟันแขนของแจ็ค ใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทีแรกเขานั้นมองมาที่ผมด้วยความตกใจ ก่อนจะหันกลับไปดูที่แขนขวาของเขา
ผ่านไปวินาทีนึง ก่อนแจ็คจะล้มลงและเริ่มกรีดร้อง
“อุว้ากกกก, อ๊ากกกก! แว๊กกกกกกกกกกกกก⎯⎯⎯!”
แจ็คนั้นตัวบิดงอและคว่ำตัวลงผืนหญ้า เขาจับไหล่ขวาด้วยแขนซ้าย ราวกับเขาทำตามสัญชาตญาณในการห้ามเลือด? เส้นเลือดที่คอเต้นตุบๆอย่างรุนแรง เลือดนั้นพุ่งสูงเช่นเดียวกับเสียงกรีดร้องของเขา
“อั่ก! อุ่กกกกก! อ๊ากกกกก! ฮว้ากกกกกกกก!”
ลาพิสเก็บดาบของเธอเข้าฝัก เป็นการตัดที่งดงาม ไม่มีความบกพร่องใดๆในท่วงท่า สมแล้วที่เธอมีอาชีพนักดาบ อย่างน้อยๆก็ในสายตาของคนที่ไม่เคยฝึก
ผมพยักหน้าให้ลาพิสคล้ายบอกเธอว่า ทำได้ดี ลาพิสนั้นโค้งกลับมาเป็นการตอบกลับว่า ‘ไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ’
ผมมองไปยังลอร่าที่ยังนั่งอยู่ ลอร่านั้นยังนิ่งเฉยราวกับว่า เธอคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ดี ถ้าหากเธอประหลาดใจ ผมคงผิดหวัง บุคคลเดียวที่คาดเดาสถานการณ์นี้ไม่ได้ตอนนี้กำลังนอนกองอยู่กับพื้น
“อ่าาา แจ็ค……นี่มัน ช่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก”
“อุ่กอั่กกกก! อ๊ากก! โลลิต้า!? โลลิต้ากกกก!?”
“ฉันถามนายถึงสามครั้ง เอาจริงๆนะ สามครั้ง ความใจกว้างนั้นมีจำกัด มันเป็นคำขอที่ไม่ควรถูกปฏิเสธ”
หากเป็นไปได้ ผมอยากส่งแจ็คกลับไปอย่างปลอดภัย
ผมพูดจริงนะ
“ถ้าหากข้าไม่ได้พึงพอใจในตัวนายเลย คงจะฆ่านายในทันทีไปแล้ว.”
ผมเหยียบลงไปที่ท้องของแจ็คอย่างนุ่มนวล แจ็คก็ยังคงร้องโหยหวนอยู่
“ข้าเข้าใจนะว่า มันเจ็บ แต่นายก็เสียงดังเกินไป
เฮ้ย แจ็ค! แจ็ค! ได้ยินไหม หา?
ข้าซาบซึ้งใจนะ ที่เจ้าเงียบเสียงลงได้บ้าง
เสียงดังไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แจ็ค! หุบปากโว้ย!
ถ้าแกยังเมินเฉยต่อคำขอของข้าอีก คราวนี้จะฟันแขนซ้ายแกด้วย
เข้าใจไหม? ข้าจะแยกส่วนตรงไหล่ซ้ายของแก”
ผมได้ยินเสียงชักดาบจากด้านหลัง ลาพิสข่มขู่เขาโดยที่ไม่รอคำสั่งผม แต่ก็อย่างที่คิดไว้ การกระทำของลาพิสนั้นส่งผลกับแจ็ค เขารีบกัดริมฝีปากแน่นสนิท แม้จะมีเสียงครางเล็ดออกมาบ้าง แต่ก็ลดน้อยกว่าก่อนหน้ามาก
“อุก,ฮึก……กะฮึก……!”
“ดีมาก ยอดเยี่ยมมาก,แจ็ค ทำได้ดีมาก ถ้าแกยังทำได้ต่อไป จะไม่ต้องมีการนองเลือด ข้าสัญญาเลย”
ผมถอนเท้าออกจากท้องของแจ็ค แล้วคุกเข่าลง พอทำอย่างนั้นผมก็เผชิญกับสายตาของแจ็ค ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยน้ำตา
ผมเป็นห่วงว่า เขาอาจจะมองไม่เห็นผม เพื่อไม่ให้เป็นอย่างนั้น ผมจึงปาดน้ำตาให้ด้วยนิ้วมือ หลังจากเช็ดอยู่สักพักหนึ่ง อีกฝ่ายก็มองมายังผม ผมยิ้มออกมาอย่างขบขนครั้งหนึ่ง
“เอาล่ะ, เรามาเริ่มการเจรจากันเถอะ”