dungeon defense - ตอนที่ 39 ราตรีวัลเพอกีส(4)
“…….”
ผมยังคงยืนอยู่อย่างนั้น
ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวผมคือ มันคงจะดีถ้ามีปากกาหรืออะไรให้ผมควงเล่นแก้เบื่อ ณ ตอนนี้เลย
แต่ผมไม่ควรสนใจความคิดนั้น ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่า อีกฝ่ายจะเอากรณีของอันโดรมาลิอุสมาใช้อย่างนี้ ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่า จะมีจอมมารเอาใจใส่จอมมารตนอื่นด้วย
“อีกะหรี่นี่มันพ่นอะไรไร้สาระอีกแล้ว ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า มีการพิจารณาคดีหรืออะไรพวกนั้น”
“อันดับ 10 และสูงกว่ามีสิทธิ์ในการขอการพิจารณาคดี”
“ห้ะ? เอาจริงดิ?”
“ล่าสุดที่ใช้ก็เกือบ 500 กว่าปีแล้ว,ไพมอน นี่เจ้ากำลังจะทำให้การตายของคนจรจัดกลายเป็นเรื่องใหญ่…….”
เหล่าจอมมารเริ่มหัวข้อที่เดือดระอุ
คิดสิ ผมต้องคิด
นี่เป็นโอกาสเดียวที่ผมจะทำได้ ผมต้องคิดถึงให้ออกระหว่างที่พวกเขากำลังเถียงกัน เหตุผลทำไม จอมมารถึงคัดค้านการพิจาณาคดี นั่นไม่ใช่เพราะพวกเขาชอบผม แต่เพราะพวกเขาเกลียดไพมอน โอกาสที่พวกเขาจะช่วยผมนั้นมีน้อยนิด
ผู้หญิงที่ใช้น้ำเสียงเด็กๆบ่นว่า นั่นคือ อันดับ 8 จอมมาร บาร์บาทอส( Rank 8 Demon Lord Barbatos)และชายที่รอบคอบและพยายามให้ทุกคนเย็นลง นั่นคือ อันดับ 5 จอมมาร มาร์บาส( Rank 5 Demon Lord Marbas)
พวกเขาทั้งหมดเป็นตัวละครเด่นใน .
จอมมารอันดับ 9 ไพมอน(Rank 9 Demon Lord Paimon)มีความสัมพันธ์เป็นมิตรกับมนุษย์อย่างมาก ส่วน อันดับ8 บาร์บาทอสนั้นยืนอยู่ฝั่งที่จะทำร้ายมนุษย์โดยไม่มีเงื่อนไข ส่วนอันดับ 5 บาร์มาสนั้น เป็นกลาง
ความแตกต่างทางบุคลิกภาพนั้นนำไปสู่ความขัดแย้งตรงจุดนี้
ทำไมไพมอนถึงเลือกโจมตีผมในวันที่เราเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก? ผมไม่เข้าใจ ให้ตายเหอะ ผมพยายามเร่งหัวสมองที่ช้าลงเพราะค่าสแตท ความฉลาดลดลง ใบหน้าผมบิดเบี้ยวอย่างมากจากการที่พยายามเค้นทุกอย่างในหัวออกมา
‘อันโดรมาลิอุส อาจเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังฝ่ายไพมอน’
นั่นก็หมายความว่า การพยายามพิจารณาคดีนี้เป็นไปเพื่อแสดงให้ผู้คนเห็นว่า เธอนั้นห่วงใยใส่ใจกับคนในฝ่ายของเธออย่างนั้นหรือ?
‘ไพมอนเป็นบุคคลที่หัวการเมืองขนาดนั้นในเกมหรือเปล่า?’
คำตอบว่า ‘ไม่’ เข้ามาในหัวของผมทันที
เพื่อโต้ตอบต่อคำพูดอันร้ายกาจของเธอ ไพมอนนั้นเป็นตัวละครโรคจิต เธอชอบออกไปปลอมตัวเป็นมนุษย์แล้วออกล่าทั้งผู้ชายและผู้หญิงในเมืองมนุษย์
ในเกม ไพมอนและตัวเอกได้พบเจอกันครั้งแรกในเมืองมนุษย์และความจริงที่ว่า เธอเป็นจอมมารนั้นก็เปิดเผยในทันทีที่เธอชำเลืองมองตัวเอก
หลังจากนั้นไพมอนก็ตามตื้อตัวเอกอยู่เสมอ ด้วยความจริงที่ว่า เขาเป็นชายคนแรกที่ไม่ตกหลุมรักเธอ วิธีการก่อกวนเขานั้นไม่ใช่วิธีการปกติอย่างเดียว เธอยังส่งกองกำลังมอนสเตอร์นับไม่ถ้วนไปติดตามตัวเอกด้วย
—ในฐานะที่ตัวฉันนั้นมาอยู่หน้าปากทางแห่งความตาย ท่านช่วยจูบลาเลดี้ผู้นี้ได้ไหม?—
แม้แต่ลมหายใจสุดท้าย เธอก็ยังไม่หยุดรุกฮีโร่ ฮีโร่คิดไม่นานนักก่อนจะมอบจูบให้ไพมอนที่ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาสาวน้อย แม้เขาจะห้อมล้อมไปด้วยสมาชิกในฮาเร็มเป็นโหลแต่จอมมารตนนั้นก็ได้แย่งจูบแรกของเขาไปก่อนใครเพื่อน
ตอนนั้นเองที่ผู้เล่นมากมายต่างถกเถียงกันเรื่องที่ว่า ไพมอนน่ะ แท้จริงแล้วเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์หรือเป็นแค่เพียงอีตัวสกปรก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยตกอันดับ ตัวละครหญิงท็อป 10 เลยสักครั้ง แถมยังมีบางกลุ่มร้องขอให้ผู้พัฒนาให้สามารถจีบเธอได้ เช่นเดียวกับที่บางกลุ่มร้องแบบเดียวกันกับ ลอร่า เดอ ฟาร์เนเซ่
โดยส่วนตัวแล้ว ผมเกลียดไพมอน ผมมีประสบการณ์เกมโอเวอร์สองครั้งเพราะเธอ นอกจากนี้ ถ้าแพ้จอมมารตนอื่นคุณจะถูกฆ่าทันที แต่ไพมอนนั้นต่างออกไป เธอจะเอาคุณเป็นทาสกามถ้าคุณแพ้เธอ
‘ไพมอนอาจเป็นอีโรคจิต แต่หลักการของเธอนั้นเรียบง่าย’
พูดง่ายๆว่า เธอนั้นเป็นพวกคลั่งมนุษย์ เธอชอบมนุษย์ เลียนแบบมนุษย์และพยายามปกป้องมนุษย์ แม้ความสัมพันธ์ระหว่างปีศาจกับมนุษย์จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ไพมอนและพรรคพวกจอมมารกลุ่มหนึ่งก็ยังงดเว้นการฆ่าล้างมนุษย์ตามอำเภอใจ
ผมอาจจะไม่ชอบด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ผมไม่อยากจะเป็นของเล่นของเธอ แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถพิสูจน์การกระทำผ่านคำพูดที่ว่า
‘ในฐานะจอมมาร เธอจะทำให้เกียรติของตนเสื่อมเสียหากเธอสนุกไปกับการฆ่าล้าง’ ได้
แม้เธอจะมีดูแลตัวเองในระดับน่ากลัว แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่แสดงออกต่อหน้าผู้อื่นว่าเป็นผู้หวงแหกอำนาจและศักดิ์ศรีอย่างโดดเด่น พูดได้ว่า เธอเป็นจอมมารที่มีเอกลักษณ์อย่างมาก
‘ในขณะที่อีกทางหนึ่ง อันโดรมาลิอุสนั้นเป็นไอ้ระยำที่ทำกับมนุษย์เหมือนแมลง’
พอผมอนุมานมาถึงจุดนี้ก็พบว่า มันแทบเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำที่อันโดรมาลิอุสจะเป็นพวกในฝ่ายของไพมอน แถมยังชัดเลยว่า การที่ไพมอนร้องขอการพิจารณาคดีนั้นมีเป้าหมายอื่นในใจที่ไม่ใช่เพื่ออันโดรมาลิอุส
สรุปเป้าหมายไม่ใช่เพื่ออันโดรมาลิอุส แต่เป็นผม?
ทำไมกัน?
‘ผมไปคุกคามไพมอนตอนไหน? ไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว’
หากไม่นับปฏิสัมพันธ์ที่ผมมีกับอันโดรมาลิอุส นี่เป็นการพบเจอกันครั้งแรกของผมกับจอมมารตนอื่นๆ
โอเค ผมอาจจะถูกถ้ามันไม่ใช่เรื่องอันโดรมาลิอุส แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่อาจลืมได้ถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไพมอน ผมยังหาคำตอบไม่ได้ ผมเริ่มท้อแท้ หากผมไม่รู้จุดมุ่งหมายของอีกฝ่าย ผมก็เหมือนแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรที่ดำมืด
‘แม่งเอ้ย แล้วผมจะไปหา…….’
ณ เวลานั้นเองที่มีอะไรบางอย่างเข้ามาจับมือขวาผมไว้
ผมหันไปมองข้างๆด้วยความตกใจ ลาพิสกำลังมองผม
“…….”
ดวงตาที่เชื่อมั่นและแน่วแน่มองผมอย่างเงียบๆ ผมได้รับประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมได้ในชั่วขณะนั้น มันเป็นอะไรบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นเพียงห้าหรือหกครั้งในชีวิตคนๆหนึ่ง
ฉันรู้ว่า ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไร และฉันก็รู้จักคุณดี และลึกยิ่งกว่าที่คุณรู้จักตัวคุณเองอีก นี่คือ เหตุผลที่ฉันอยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นั่นคือสิ่งที่ตาของเธอกำลังบอกผม ลาพิสนั้นสามารถพูดสิ่งเหล่านั้นออกมาได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด,การแสดงสีหน้าหรือแม้แต่ท่าทางใด
ในเมื่อไม่มีคำพูดก็ไม่มีการเข้าใจผิด
เมื่อไม่มีการแสดงสีหน้าก็ไม่มีการแสดงออกเกินจริง
และเมื่อไม่มีท่าทางก็มีแต่ความจริงใจ
ความสิ้นหวังของผมหายไปทันที
มีเพียงความเงียบสงบที่ยังเหลืออยู่ ผมรู้สึกขอบคุณที่ตัวเองได้พบคนนิสัยดีอยู่ข้างกาย คนที่มีภายในแสดงออกมาไม่ต่างจากภายนอก
ความสามารถจอมมารไม่ได้มีแต่อ่านอารมณ์ของผู้คนเท่านั้น ยังสามารถหลอมรวมประสานอารมณ์กับผู้อื่นด้วย
“…….”
ลาพิสกับผม เรามองกันและกันอยู่พักหนึ่ง ระหว่างที่พวกเราทำอย่างนั้น ผู้คนต่างทุ่มเถียงกัน ผมพลันรู้สึกว่า การครุ่นคิดเรื่องไพมอนนั้นเป็นสิ่งที่น่าขำ แม้ความคิดทั้งหมดจะยังไม่หายไปโดยสิ้นเชิง
แต่ผมก็สามารถมองเห็นความคิดเหล่านั้นจากมุมสูงได้แล้ว
‘ใช่แล้วล่ะ ไม่มีเหตุผลที่ไพมอนจะต้องมาทำร้ายผม’
ผมยิ้ม มันก็ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วนี่ ผมได้ทำสิ่งที่ควรค่าแก่การสนใจเพียงสิ่งเดียว ถ้าการกระทำของผมนั้นจะเกี่ยวข้องกับไพมอนเป็นพิเศษ มันก็ง่ายที่จะคาดเดาได้ว่า ทำไมเธอจึงใช้อันโดรมาลิอุสเพื่อกดดันผม
หัวข้อที่ดุเดือดจากเหล่าจอมมารได้มาถึงจุดสิ้นสุด จอมมารลำดับ 5 มาร์บาสพูดถึงด้วยเสียงต่ำ
“ข้าที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในทีนี้ ข้าเชื่อว่าเป็นการดีหากจะให้ตัวข้าเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาคดี ข้าเป็นห่วงว่าจะมีอคติเกิดขึ้นหากให้ผู้อื่นที่ระดับต่ำกว่าเป็นผู้ดำเนินการ”
เขาจ้องไปที่อิวาร์แห่งบริษัทเคียนคุสก้า อิวาร์นั้นโค้งให้แทนการขอโทษ อิวาร์ที่เป็นเจ้าภาพเดิม มาร์บาสที่ได้ตำหนิเขาเนื่องจากไม่สามารถทำให้จอมมารสงบลงได้
แต่สิ่งที่ผมคิดต่างออกไป
‘บริษัทเคียนคุสก้านั้นตั้งใจนิ่งเฉยอยู่แล้ว’
ผมจึงแอบถามลาพิสเงียบๆ
“ไพมอนนั้นเป็นลูกค้าของเคียนคุสก้าด้วยใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ ทอร์เค่ล ที่เป็นหนึ่งในผู้บริหารสูงสุดของบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบเธอ เขาเคยพบท่านครั้งหนึ่งค่ะ ท่านดันทาเลี่ยน”
“ก็อบลินแก่นั่นสินะ”
ก็อบลินที่อยู่ๆก็โผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้แล้วพูดเรื่อง โรคระบาดอะไรนิดหน่อยเมื่อเดือนก่อน เขาเป็นรับผิดชอบดูแลไพมอนสินะ? พอมาคิดๆดูว่า เขาอาจจะตอบโต้เพราะผมปฏิเสธที่จะพูดคุยกับเขาโดยไม่มีลาพิสก็ได้
มาร์บาสเดินเข้ามาที่กลางห้องบอลรูม
“ขอตอบรับ คำขอพิจารณาคดีของ ลำดับ 9 จอมมารแห่งการทำลายล้าง,ไพมอน
ขอแนะนำตัวเอง ข้า ลำดับ 5 จอมมารแห่งการควบคุม,มาร์บาส
และฝ่ายที่มีปัญหาด้วยคือ ลำดับ 71 จอมมารหลากหน้า*,ดันทาเลี่ยน”
เขามองผมโดยสื่อความหมายว่า ให้ผมก้าวมาข้างหน้า ผมเสียดายที่จะต้องปล่อยมือจากลาพิส แม้จะยังประหม่าเล็กน้อยแต่ก็เดินอย่างสบายๆ ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกห่วงใยของลาพิสจากด้านหลัง
เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก,ลาพิส
‘ผมไม่ยอมเล่น แบบไม่จริงจัง จนโดนNPCหวดตายหรอก’
มาร์บาสนั้นอยู่ระหว่างพวกเรา ผมยืนและเผชิญหน้ากับไพมอน ไพมอนนั้นมองผมด้วยรอยยิ้มโรคจิต แต่มันไม่ได้กวนใจอะไร ผมจึงยิ้มกลับไปให้
“ไพมอนมีสิทธิ์ที่จะถามดันทาเลี่ยน และ ดันทาเลี่ยนมีสิทธิ์ที่จะตอบไพมอน ข้าจะพิจารณาคดีสั้นๆในโอกาสแห่งค่ำคืนวัลเพอกีส
ดังนั้นทั้งสองฝ่ายงดเว้นจากการพูดสุนทรพจน์ยาว และพิจารณาคดีหลังถามตอบจบในทันที
พวกเราจะตัดสินใจว่า ฝ่ายไหนถูกจากประเพณีการโหวตที่มีมาอย่างยาวนาน”
จอมมารทั้งหลายต่างกระชับวงรวมตัวอย่างช้าๆ พวกที่อยู่ใกล้ๆผมนั้นทำท่าคล้ายกับมาเชียร์มวย มองสลับกันไปมาระหว่างพวกเราด้วยสายตาที่ลุ้นระทึก
“ข้าขอมอบให้ไพมอน,ผู้ยื่นคำขอพิจารณาคดี มีสิทธิ์ในการถาม เชิญเลย ไพมอน”
“ขอขอบคุณท่านเป็นอย่างดีที่รับฟังคำขอของเลดี้ผู้นี้”
ไพมอนมองไปรอบๆด้วยแววตาที่พออกพอใจ แม้ท่าทางงจะดูเหมือนดัดจริตแต่มันเป็นนิสัยของเธอ
ผมได้ยินเสียง ลำดับ 8 บาร์บาทอสพูดว่า ‘เฮอะ นังกะหรี่นี่’ด้วยน้ำเสียงที่รำคาญเต็มทน ผมพึ่งมาสังเกตเห็นว่า มีเพียงจอมมารที่ระดับสูงกว่า10อันดับเท่านั้นที่จะพูดเสียงดังออกมา ส่วนตนอื่นๆต่างหุบปากเงียบ
นั่นเป็นการแสดงออกว่า พวกเขาแน่แค่ไหน
คนตรงหน้าผมก็เช่นกัน
“ตัวฉันปรารถนาที่จะแถลงความจริง”
ไพมอนยิ้มใส่ผม ผมเห็นเจตนาคุกคามเบื้องหลังดวงตานั้นชัดเจน
“ดันทาเลี่ยน 9วันก่อน ท่านได้ฆ่า ลำดับ 72 จอมมาร อันโดรมาลิอุส ใช่หรือไม่?
“ใช่”
ผมผงกหัวอย่างสงบ
“ท่านได้ฆ่าเขาทั้งที่รู้ว่า พวกเราต่างเป็นจอมมารเหมือนกัน ใช่หรือไม่??”
“นั่นก็ยังคงใช่”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านก็เจตนาจะฆ่าจอมมาร แม้ท่านจะเป็นจอมมารเช่นกัน สำหรับทุกคนที่มาอยู่ในราตรีวัลเพอกีสนี้ พวกเราทุกคนต่างรู้ดีกว่าใครๆว่า การเป็นจอมมารนั้นเป็นบทบาทที่ยากเย็นแสนเข็ญมาก”
ไพมอนมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง
“ตัวฉันมิได้ปรารถนาที่จะมาที่นี่เพื่อพูดซ้ำคำโต้เถียงกับใครๆเรื่องการมีบุคลิกภาพเดียว ถึงกระนั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน คือ พวกเรานั้นต่างมี ‘พวกเรา’ ที่มากมายอยู่ในตัวเรา อารมณ์ของผู้อื่นได้ผสมแล้วผสมอีกกับอารมณ์ของพวกเราจนยากเหลือเกินที่จะแยกออกว่า สิ่งไหนคืออารมณ์ของท่าน และสิ่งไหนที่มิใช่
ณ จุดนี้จึงไม่มีสิ่งใดเลยที่จอมมารจะกล้าเรียกได้ว่าเป็น ‘ฉัน’ ได้อย่างชัดแจ้ง
ความเงียบเข้าครอบงำบอลรูม
“ดังนั้นพวกเราก็ไม่มีสิ่งไหนเหมือนกันที่จะกล้าเรียกว่า เป็น ‘เธอ’โดยไม่ลังเล ดังนั้นคำเรียกสรรพนามแทนตัว ที่จะอนุญาตสำหรับพวกเรา ก็คือ ‘เรา’ นี่คือ โชคชะตาของจอมมาร
เลดี้ผู้นี้เชื่อว่า มันเป็นหน้าที่ เราไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากจะอดทนต่อผู้ที่เข้ามาเป็นจอมมาร โดยไม่มีข้อยกเว้น จอมมารตนอื่นก็เป็นเช่นเรา.”
เธอกางแขนสองข้างออกด้วยท่าทางโอเวอร์ แต่กลับดูเป็นธรรมชาติสำหรับเธอ การเคลื่อนไหวของเธอนั้นเหมือนกับคุ้นชินกับการพูดแบบนี้
“ในโลกที่เป็นดั่งนรก อันเป็นสถานที่ที่พวกเราใช้ความสามารถอย่างต่อเนื่องทางจิตใจเพื่อแบ่งแยกอารมณ์ของพวกเรา และอารมณ์ที่ไม่ใช่ของพวกเรา แม้อย่างน้อยที่สุด เมื่อเราอยู่ข้างจอมมารอีกตน เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนั้น
เมื่อเราอยู่กับจอมมารตนอื่น มันรู้สึกเหมือนพวกเราได้กลับไปเป็นคนธรรมดา ที่มีความรู้สึกเป็นของตนเอง พูดในสิ่งที่อยาก คิดในสิ่งที่ต้องการ เพียงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันนั้นเอง ที่เราสามารถรับรู้ ‘ตัวตนของเรา’ นั่นคือ สาเหตุที่ว่า ทำไมจอมมารถึงได้ล้ำค่า”
เสียงของไพมอนจริงจังหนักขึ้น
“พวกเราอาจจะเป็นศัตรูกัน ทำร้ายกัน ทะเลาะกัน แต่พวกเราก็รู้จักกันและกัน พวกเราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนี้ ในบรรดา 72 ตัวตนที่มีอยู่ในโลกใบนี้
มันจริงอยู่ที่ในบรรดาจอมมารทั้งหมด อันโดรมาลิอุสนั้นเป็นขยะโดยสมบูรณ์
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครในหมู่เราฆ่าอันโดรมาลิอุส มันเป็นธรรมชาติ!
นี่เขามิใช่สหายจอมมารที่ถูกวางไว้บนโลกนี้เพื่อทำหน้าที่เดียวกับเราหรือ?”
เธอยกแขนลงและเงียบขณะที่มองผม เธอไม่ได้ปิดซ่อนเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อย เธอกล่าวประณามผมอย่างเปิดเผยให้ทุกคนเห็น
“แต่ถึงอย่างนั้นดันทาเลี่ยนได้เป็นเหตุให้อันโดรมาลิอุสตายโดยไร้ซึ่งความลังเล เลดี้ผู้นี้ไม่อาจแสดงสีหน้าอื่นใดได้นอกจากความสงสัยของเธอ นี่เขาเป็นจอมมารเหมือนอย่างพวกเราจริงหรือ? เป็นไปได้อย่างไรกันที่จอมมารจะฆ่าจอมมารด้วยกันง่ายดายเช่นนี้?
เลดี้ผู้นี้มิได้ตั้งคำถามดันทาเลี่ยนในฐานะปัจเจกชน หากแต่ยังต้องการเป็นตัวแทนของ72 จอมมารที่มีตัวตนอยู่ ตัวฉันขอตั้งคำถามว่า ชายผู้นี้ยังมีสิทธิ์คู่ควรเป็นจอมมารอยู่หรือไม่”
แม้แต่เสียงกระซิบเล็กน้อยก็เงียบหายไป ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจขณะที่กำลังจับตาดูพวกเรา ไพมอนจึงพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“เลดี้ผู้นี้ขอแนะนำให้พวกเราทั้งหลายลงโทษกักบริเวณดันทาเลี่ยนในคุก ณ ดินแดนเยือกแข็ง เป็นเวลา 300ปี”
———-
* Rank 71 Demon lord of Manyface ,Dantalian