Earth’s Best Gamer - ตอนที่ 144
ตอนที่ 144 การเลือกอาวุธ
“มีสองเรื่องที่จะหารือสําหรับการประชุมในวันนี้เป็นหลัก!”
“เรื่องแรก ฉันต้อการแจ้งให้พวกนายทราบเกี่ยวกับการตัดสินใจว่าป้อมปราการภูเขามังกรคู่จะก่อตั้งบริษัทบนโลกและทํางานร่วมกับบริษัทของซูหมิงเฉิงเพื่อศึกษาโคลนสีดําและนมศิลา พวกนายมีอิสระที่จะเสนอแนะในเรื่องนี้”
“เรื่องที่สอง เราต้องคุยกันว่าเราควรจัดการกับมนุษย์อินทรีสําหรับภารกิจการแข่งขันสิบสายพันธุ์อย่างไร!”
ในห้องประชุมบนภูเขามังกรคู่ จีเย่กล่าวจากที่นั่งของประธาน
ในงันที่ห้าหลังจากผู้เล่นกลุ่มที่สองออกจากระบบ การประชุมที่จัดขึ้นเฉพาะของผู้ถูกเลือกก็ถูกจัดขึ้นที่ป้อมปราการภูเขามังกรคู่!
ในวันนี้ ทุกคนที่มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมกลับมาเข้าสู่ระบบอีกครั้ง ไม่มีใครขาด
อันที่จริง ตามแผนของจีเย่ พวกเขาเป็นบุคลากรกลุ่มแรกที่จะมีสิทธิได้รับผลกําไรจากความร่วมมือกับบริษัทของซูหมิงเฉิง
“เราจะตั้งบริษัทบนโลกงั้นเหรอ?”
คนส่วนใหญ่ดูประหลาดใจที่ได้ยินสิ่งที่จีเย่กล่าว
“บริษัทของซูหมิงเฉิง? นั่นเป็นชื่อที่คุ้นมาก”
ชาวเมืองหยางบางคนจําบริษัทนี้ได้ และผู้อาวุโสเจี้ยวกับคนอื่นที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างซูนงอิ๋งกับบริษัทต่างก็เหลือบมองเธอซึ่งนั่งข้างจีเย่
“อืมม… นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเงื่อนไขของความร่วมมือ ตามทฤษฎีแล้ว ทุกคนที่นี่มีสิทธิ์ที่จะแบ่งปันผลกําไรของบริษัท!”
จากนั้นซูนงอิ๋งก็บอกทุกคนถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วน ตลอดจนแผนสําหรับการพัฒนาในอนาคตของป้อมปราการภูเขามังกรคู่บนโลก
ผู้เล่นส่วนใหญ่ตื่นเต้นหลังจากได้ยินเธอกล่าวออกมา
ไม่ใช่เพียงเพราะโอกาสทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะป้อมปราการภูเขามังกรคู่ได้เริ่มวางแผนบนโลกแล้ว และบางที่พวกเขาอาจเติบโตเป็นคนดังคนสําคัญบนโลกสักวันหนึ่ง!
แต่การสนทนาเกี่ยวกับการวางแผนบนโลกก็สิ้นสุดลงในไม่ช้า เพราะมันเป็นโครงสร้างในปัจจุบัน และมันสามารถดําเนินต่อไปได้เมื่อป้อมปราการภูเขามังกรคู่ชนะการแข่งขันสิบสายพันธุ์!
ดังนั้นในไม่ช้าทุกคนก็มุ่งหน้าความสนใจไปที่มนุษย์อินทรีซึ่งเป็นคู่แข่งเพียงเผ่าเดียวของมนุษย์ในตอนนี้
“ตามคํากล่าวของผู้นําหย่วน มนุษย์อินทรีไม่มีการกระทําหรือการระดมพลที่ผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าพวกมันจะป้องกันตัวเองด้วยความตื่นตัวสูง!”
“อาจเป็นเพราะพวกมันรู้ว่าสายลับของพวกมันถูกพี่ชายจีสังหารแล้ว” ซูนงอิ๋งกล่าวออกมา
“มนุษย์อินทรีก็กําลังวางแผนอยู่หรือเปล่า?”
“ฉันมีคําถามเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงความไร้การควบคุมของมนุษย์อินทรี พวกมันควรพยายามสังหารเราบางคนเพื่อแก้แค้นหลังจากที่รู้ว่าผู้บัญชาการของพวกมันถูกสังหารโดยพวกเราใช่มั้ย?”
“ถูกต้อง ฉันเห็นในฟอรั่มว่ามนุษย์อินทรีที่ถิ่นฐานอื่นนั้นทั้งแข็งแกร่งและโหดเหี้ยม ฉันไม่คิดว่ามนุษย์อินทรีของเราจะตอบสนองตามปกติ!”
หลายคนสับสนเกี่ยวกับการตอบสนองของมนุษย์อินทรี
“อันที่จริง นี่คือสิ่งที่ถูกต้องสําหรับมนุษย์อินทรี!”
“อย่าแงรก ในด้านของความเร็วความก้าวหน้าของถิ่นฐานและจํานวนอาณาเขตมนุษย์ต่างดาวที่เราครอบครอง เราเร็วกว่ามนุษย์อินทรีมาก หลังจากที่สายลับของพวกมันเสียชีวิตและเราระวังตัวมากขึ้น พวกเขาอาจประสบความสูญเสียครั้งใหญ่และสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับเราหากพวกมันบุกเข้าไปในอาณาเขตของเราโดยประเมินเลินเล่อ!”
“อย่างที่สอง พวกมันสูญเสียสมบัติที่ยอดเยี่ยมหลังจากสายลับตาย ตอนนี้พวกมันกังวลว่าเราอาจแอบเข้าไปในอาณาเขตของพวกมัน ดังนั้นการตอบสนองของพวกมันจึงไม่แปลกนัก”
อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสเพิ่งลูบเคราของเขาและอนุมานว่ามนุษย์อินทรีกําลังคิดอะไรอยู่
“อย่างที่สาม มนุษย์อินทรีรุนแรงต่อถิ่นฐานของมนุษย์อื่นเพียงเพราะถิ่นฐานเหล่านั้นไม่ใช่ป้อมปราการภูเขามังกรคู่!”
จีเย่เปิดปากพูดและกล่าวเสริม
“อันที่จริง เราไม่จําเป็นต้องคาดเดาว่าแผยของมนุษย์อินทรีคืออะไร เนื่องจากยากที่จะคาดเดาว่ามีอะไรอยู่ในใจของสายพันธุ์และอารยธรรมอื่น”
“เราอาจมุ่งความสนใจไปที่ความสามารถในากรต่อสู้ของมนุษย์กับมนุษย์อินทรี และพิจารณาว่าเรามีข้อได้เปรียบในการต่อสู้แต่ละครั้งอย่างไร ตอนนี้เรามีประชากรมากขึ้น หากแข็งแกร่งส่วนบุคคลของเรามากกว่าพวกมัน จะเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะเอาชนะเราได้!”
เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เข้าสู่ระบบได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์อินทรีบนฟอรั่มเช่นกัน
อย่างไรก็ตามภูเขามังกรคู่ไม่จําเป็นต้องกลัวมนุษย์อินทรีเลย!
ป้อมปราการภูเขามังกรคู่ไม่เพียงแค่มีทหารระดับวิสามัญหลายสิบคนเท่านั้น แต่ยังมีผู้บัญชาการเกือบสิบคน!
นอกจากนี้ผู้บัญชาการเหล่านั้นทั้งหมดอยู่สูงกว่าขั้นยอดเยี่ยม ไม่ต้องกล่าวถึงว่าอู่ซงประสบความสําเร็จในการถึงระดับวิสามัญอันดับ 5 ในวันก่อนแล้วเช่นกัน
เมื่อพวกเขามีข้อได้เปรียบในด้านความแข็งแกร่ง โอกาสที่มนุษย์อินทรีจะชนะการต่อสู้ด้วยแผนการนั้นน้อยมาก
อันที่จริงจีเย่กังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่มนุษย์อินทรีจะซ่อนตัวอยู่ในถิ่นฐานของพวกมันซึ่งทําให้ยากที่จะจัดการกับพวกมัน
ในขณะที่มีการประกาศภารกิจการแข่งขันสิบสายพันธุ์ โดยพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับถารกิจของถิ่นฐานครั้งแรก ภารกิจในดินแดนแห่งมรดกไม่ได้บังคับ
หากมนุษย์อินทรีไม่สนใจภารกิจและเพียงแค่ใช้กลยุทธ์ป้องกัน ป้อมปราการภูเขามังกรคู่ก็มีทางเลือกเดียวคือการโจมตี และจะเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปหากพวกเขาบุกเข้าไปในอาณาเขตของมนุษย์อินทรี
“แสงสีทองบนมนุษย์อินทรีแต่ละตัวมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง และแสงสีเขยวของพวกมันก็เพิ่มความเร็วได้อย่างมีนัยสําคัญ และทําให้ลูกศรพุ่งไกลกว่าสามร้อยเมตรในขณะที่ยังคงแรงและความแม่นยําเอาไว้”
“นอกจากนี้พวกมันยังมีเทคโนโลยีบางอย่างที่สามารถช่วยให้มนุษย์อินทรีทั่วไปใช้พลังระดับวิสามัญได้ด้วยเช่นกัน!”
“พวกมันมีข้อได้เปรียบตามธรรมชาติเพื่อปกป้องถิ่นฐานของพวกมัน ข้อได้เปรียบของพวกมันนั้นมากยิ่งกว่ามนุษย์โลหะ!” จีเย่กล่าวออกมา
ข้อสรุปที่สองมาจากอู่เซียง
“อู่เซียง” เดิมเป็นทหารระดับสามัญอันดับ 6 แม้ว่าเขาจะถูกควบคุมโดยผู้บัญชาการมนุษย์อินทรี แต่เขาก็ไม่ควรใช้แสงสีทองและแสงสีเขียวได้ซึ่งเป็นสกิลเฉพาะของมนุษย์อินทรีเพราะพวกมันไม่ใช่สกิลวีญญาณอย่างแน่นอน
ความจริงที่ว่าเขาใช้สกิลเหล่านั้นพิสูจน์ให้เห็นว่ามนุษย์อินทรีมีวิธีให้สมาชิกระดับสามัญใช้พลังวิสามัญทางอ้อมได้
อย่างไรก็ตามชาวโลกก็ยังมีวิธีที่จะทําให้คนระดับสามัญควบคุมพลังระดับวิสามัญทางอ้อมและวิธีเหล่านั้นก็คือปืน!
“ดังนั้นงานที่สําคัญที่สุดของเราในตอนนี้ก็คือการผลิตปืนให้เร็วที่สุด”
“นอกจากนี้ตามความเฉลียวฉลาดในปัจจุบันของเขา ปืนที่ใช้ต่อสู้กับมนุษย์อินทรีทั่วไปต้องมีระยะการทําลายล้างอย่างน้อยสามร้อยเมตร!”
“คําแนะนําของฉันก็คือเราจะมุ่งเน้นไปที่ปืนไรเฟิลและแยกปืนกลกับปืนพกไว้ก่อน”
“ระยะการยิงของปืนพกสั้นเกินไปและไม่สามารถสังหารมนุษย์อินทรีได้ และปืนกลก็จะกินกระสุนมากเกินไป ดินปืนสีแดงที่เรามีนั้นกลั่นมาจากแร่จากอาณาเขตของมอนเตอร์โคลน มันคือทรัพยากรระดับวิสามัญ และผลผลิตของมันยังไม่สูงพอสําหรับปืนกล”
หลังจากได้รับคําใบ้จากจีเย่ หลี่ชิงผู้ที่ได้รับมอบหมายให้รวบรวมเทคโนโลยีการผลิตปืนก่อนที่จะออกจากระบบก็เริ่มกล่าวออกมา
“นอกจากนี้ฉันขอแนะนําให้เราสร้างปืนไรเฟิลซุ่มยิงพิเศษเพื่อสู้กับมนุษย์อินทรีระดับวิสามัญ ฉันได้เขียนข้อกําหนดบางอย่างเกี่ยวกับปืน พวกนายสามารถบอกฉันได้ว่าปืนไหนเหมาะสมที่สุด”
หลี่ชิงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาซึ่งมีการเขียนพารามิเตอร์กับประสิทธิภาพของปืนบางกระบอกและมอบให้กับทุกคน
มันเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง ผู้เล่นที่ทํางานในโรงงานกระดาษชําระได้พบจุดประสงค์สําหรับต้นไม้สีเขียวซึ่งมีจํานวนมากที่สุดในอาณาเขตของมอนเตอร์โคลน ต้นไม้เหล่านั้นเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นวัสดุกระดาษชําระ
อย่างน้อยที่สุดผู้เล่นของป้อมปราการภูเขามังกรคู่ก็ไม่ต้องกังวลกับการไปเข้าห้องน้ำเหมือนกับถิ่นฐานอื่น
“ AK47 ระยะการยิงที่มีประสิทธิภาพ : 300 เมตร มีความทนทานและมีอัตราความผิดพลาดต่ำ สามารถใช้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ และสร้างขึ้นได้อย่างง่ายดาย ข้อเสีย : แรงถีบกลับสูงและขาดความแม่นยําเมื่อยิงต่อเนื่อง…”
“Barett M82A1 ระยะการยิงที่มีประสิทธิภาพ… มันทรงพลังและทะลุทะลวงได้อย่างน่าทึ่ง ข้อเสีย : ความเณัวในการยิงต่ำและหนัก…”
“M16 AWM…”
ข้อมูลของปืนมากกว่าสิบกระบอกถูกเขียนบนกระดาษที่หลี่ชิงหยิบออกมา!
ดวงตาของซางเยียนเบิกกว้าง
เธอไม่แปลกใตเลยที่หลี่ชิงจะรู้ข้อมูลที่เป็นความลับ
อันที่จริงภายใต้ระบบเกียรติยศของรัฐบาลสมาพันธ์ เราอาจได้รับเทคโนโลยีเพื่อสร้างระเบิดนิวเคลียร์หากพวกเขามีเกียรติยศมากพอ
บางบริษัท เพื่อเอาชนะใจผู้เล่น ได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตนเองฟรี และส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คําแนะนําเป็นการส่วนตัว!
อย่างไรก็ตามการเข้าถึงข้อมูลจะเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ก็ต้องจดจําและนํามันกลับมายังดินแดนแห่งมดรก
“อืม ฉันประสานความสามารถในการจดจําของฉันด้วยแต้มเกียรติยศหายากก่อนที่ฉันจะออกจากระบบ” หลี่ชิงพยักหน้าและกล่าวออกมา
นมศิลาในป้อมปราการภูเขามังกรคู่สามารถทําให้สมองปลอดโปร่งได้ ในฐานะนายพรานรุ่นเก๋า หลี่ชิงจึงมีความจําที่ดีตั้งแต่แรก และหลังจากประสานความสามารถเหล่านี้แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่กล้ากล่าวว่าเขาจําทุกอย่างที่เขาเห็นได้ เขามั่นใจที่จะคัดลอกการออกแบบหลังจากพยายามจดจําพวกเขา!
อันที่จริงไม่ใช่แค่หลี่ชิง ผู้อาวุโสเจี้ยว ผู้อาวุโสเมิ่ง และคนอื่นที่ได้รับมอบหมายหน้าที่เฉพาะก็ยังได้ประสานความสามารถในการจดจําของพวกเขาซึ่งถูกเสริมพลังโดยนมศิลา
เนื่องจากจะใช้พลังแห่งโชคชะตาของถิ่นฐานเพื่อให้พวกเขาออกจากระบบ สิ่งนี้จะสามารถเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดสําหรับการออกจากระบบแต่ละครั้งของพวกเขา
จีเย่ค่อนข้างพึงพอใจกับเรื่องนี้ เมื่อทุกคนคิดถึงอนาคตของป้อมปราการภูเขามังกรคู่ มนุษย์อินทรีจะเอาชนะพวกเขาได้ยังไง?
“ตกลง ฉันจะปล่อยปืนให้กับนายและอาวุโสเจี้ยว” จีเย่มองไปที่หลี่ชิงและกล่าวออกมา
“ฉันจะขอให้ถังหลงและหลิงเฉินร่วมงานกับนาย เพียงแค่ขอกับนงวิ่งหากนายต้องการวัสดุหรือชิ้นส่วนที่ต้องการแลกเปลี่ยนผ่านหินแห่งอารยธรรม ไม่จําเป็นต้องบอกฉันก่อน”
“มาลองผลิตปืนก่อนการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับมนุษย์อินทรี!”
หน้าที่หลักของหลี่ชิงเมื่อเขาออกจากระบบก็คือการเรียนรู้โครงสร้างของปืน ในขณะที่ผู้อาวุโสเจี้ยวคือการเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรที่พวกเขาสามารถใช้ทําปืนได้
ตั้งแต่แรก ป้อมปราการภูเขามังกรคู่ไม่เคยสร้างปืนระดับวิสามัญหนึ่งหรือสองกระบอกสําหรับตัวเอง พวกเขามุ่งหวังที่จะผลิตปืนจํานวนมาก
พวกเขามั่นใจที่จะทําเช่นนั้นเพราะ “ไฟฟ้า” ซึ่งเป็นข้อกําหนดเบื้องต้นที่สําคัญสําหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมได้รับการจัดการไปบางส่วน
อันที่จริงหลังจากการพิชิตอาณาเขตของมนุษย์โลหะ สินสงครามของป้อมปราการภูเขามังกรคู่ก็ไม่ได้รวมเฉพาะสาดุโลหะเท่านั้น
ทะเลสาบของเหลวสีเงินซึ่งเคยเป็นแกนกลางถิ่นฐานของมนุษย์โลหะสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อของเหลวสีเงินบางส่วนถูกนําออกมา มันสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานได้ และเมื่อไฟฟ้าในนั้นหมด มันก็สามารถชาร์จในทะเลสาบได้อีกครั้ง!
“นอกจากนี้เนื่องจากอาณาเขตของมนุษย์โลหะนั้นอยู่ไกลจากมนุษย์อินทรี เราจึงสามารถสร้างเวิร์คช็อปที่แท้จริงในอาณาเขตของมนุษย์โลหะและเปลี่ยนให้เป็นฐานอุตสาหกรรมของเราได้”
ใบหน้าของผู้อาวุโสเจี้ยวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นชายหนุ่มที่ขยันขันแข็งอย่างที่เขาเคยเป็น