Earth’s Best Gamer - ตอนที่ 19
“นายหมายตวามว่าเขาประสบความสำเร็จงั้นเหรอ?”
ภายในฐานผู้เล่นเมืองหยาง หลิงเฉินถามซิงพร้อมกับขมวดคิ้ว เขาเพิ่งถูก ‘เตะออก’ จากการสตรีมสด
“เพราะผมไม่เห็นว่างูดำตายหรือไม่แม้ว่าสตรีมสดจะจบแล้ว แต่ผมก็คิดว่าเขาประสบความสำเร็จตามสถานการณ์ ผมหมายถึงทุกอย่างนอกจากหัวงูดำนั้นถูกเผาจนไหม้เกรียม มันน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน!”
ยังคงมีความหวาดกลัวในแววตาของซิง
เมื่ออยู่ในสตรีมสด เขารู้สึกไร้พลังในตอนที่เมฆสีดำพุ่งเข้ามาที่เขา ทำให้เขาจมอยู่ในกลิ่นเหม็นของเลือดพิษ
“งั้นนายก็ไม่มั่นใจใช่มั้ย?”
“พูดตามหลักเหตุและผล มันตายเพราะหัวใจ หรืออย่างน้อยผมก็คิดว่ามันถูกย่าง มันจะตายแน่นอนหากมันมาจากโลก”
หลิงเฉินอยู่ที่นั่นเพื่อฟังการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างจีเย่กับผูเเชี่ยวชาญเรื่องงู ดังนั้นเขาจึงได้เรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้
“แต่นี่คือดินแดนแห่งมรดก งูดำตัวนั้นจะมีวิธีการรักษาตัวเองมั้ย?”
“จากสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาจนถึงตอนนี้ มอนเตอร์จากดินแดนแห่งมรดกอาจมีพลังพิเศษ แต่ก็ไม่มีอะไรที่ทรงพลังเกินไป เราสามารถสมมติว่ามีโอกาส 90% ที่งูดำจะตายซึ่งหมายความว่า… เขาทำภารกิจการตั้งถิ่นฐานสำเร็จแล้ว”
หลังจากลังเลใจ ในที่สุดหลิงเฉินก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะสังหารได้สำเร็จ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ สีหน้าแห่งความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสีแทนของเขา
“เขา? คุณรู้ได้ไงว่าเป็นผู้ชาย? และคุณหมายถึงอะไรที่ทำให้ผมประหลาดใจ?”
ซิงถามด้วยความงงงวย
“คิดเอาด้วยตัวเอง ฉันกำลังจะมุ่งหน้าไปที่หอพัก นายควรพบทีมจัดการข้อมูลและเริ่มบันทึกสิ่งที่นายจำได้จากสตรีม”
หลิงเฉินไม่สนใจซิง เขาส่ายหัวในขณะที่เขาหันกลับมาและวิ่งไปยังหน่วยที่หนึ่งที่ ‘ผู้เล่น’ อาศัยอยู่
แม้ว่าเขาจะคาดเดาได้ส่วนใหญ่แล้ว แต่เขาก็ไม่เห็นใบหน้าของคนคนนั้น เขายังคงต้องได้รับการยืนยันขั้นสุดท้าย
บุคคลที่อยู่ในใจของเขาคือคนที่ทำภารกิจสำเร็จหรือไม่?
“อ่า? ให้ผมเขียนรายงานอีกแล้วเหรอ ผมไม่ได้นอนมา 12 ชั่วโมงแล้ว ผมง่วงมาก…”
ซิงผู้ซึ่งยังคงสวมชุดนอนของเขาอยู่ด้วย มีสีหน้าเศร้าหมอง
…
ฟอรั่มย่อยที่เมืองหยางใช้เกือบจะระเบิดเนื่องจากผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
“มันน่าทึ่งมาก!”
“สุดยอดมาก”
“เขาวิ่งไต่หน้าผาในฉากสุดท้าย วิธีที่เขาเคลื่อนไหวนั้นดีและสมจริงยิ่งกว่าภาพยนตร์สามมิติเหล่านั้นมาก!”
“เชื่อมั้ยว่าขาของฉันชาไปหมดเมื่อเขากระโดด ฉันคิดว่าเขาฆ่าตัวตายอย่างแท้จริง…”
คนกูเกือบ 100,000 คนของสตรีมรีบกลับไปที่ฟอรั่มทันทีที่สตรีมสิ้นสุดลง
พวกเขาแสดงความตื่นเต้นของพวกเขาเกี่ยวกับประสบการณ์อันน่าทึ่งที่ได้รับจากสตรีมสด
“ฉันหลอนอย่างมาก ส่วนใหญ่ของร่างกายของงูดำนั้นถูกเผาจนกรอบ แต่มันก็ยังเคลื่อนไหวได้ พระเจ้า ดินแดนแห่งมรดกไม่ใช่เรื่องตลก”
“ฉันไม่คิดว่าทุกอย่างในดินแดนแห่งมรดกจะแข็งแกร่งขนาดนั้น นอกจากนี้ผู้เล่นเมืองหยางของเราก็ทำมันสำเร็จ ดังนั้นพวกมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่ามนุษย์ใช่มั้ย?”
“งูดำตัวนั้นคลั่ง กัดทีเดียวหินแตกเป็นชิ้นๆ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันถูกฆ่ามั้ย… หากจำไม่ผิดนี่เป็นสตรีมแรกในโลกที่แสดงให้เห็นถึงการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างผู้เล่นกับมอนเตอร์ในถิ่นทุรกันดารใช่มั้ย?”
ส่วนฟอรั่มทั้งหมดของเมืองหยางถูกสแปมโดยโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถรองนรับผู้ใช้จำนวนได้มาก ส่วนหนึ่งของพวกเขาก็เลือกที่จะไปฟอรั่มย่อยของจังหวัดหรือเมืองอื่นเพื่อแสดงความดีใจแนะอวด
“เฮ้ หยุดความประหลาดใจ บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนสุดท้าย!”
“ใช่แล้ว ทำไมพวกนายถึงหยุดพูดในทันที ตอนนี้พวกคุณทุกคนกลับมาแล้ว และฉันไม่สามารถติดตามโพสต์ต่างๆ ได้ทัน”
ผู้ที่ไม่สามารถเข้าสู่สตรีมนั้นหงุดหงิดอย่างมาก พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกระตุ้นคนดูบอกสิ่งที่เห็น
“ฉันจะพูดคร่าวๆ มุมมองเปลี่ยนไป ดังนั้นพวกเราจึงมองผ่านสายตาของสตรีมเมอร์คนนั้น คนคนนี้ใช้หน้าไม้และจัดการงูดำจากระยะทางกว่าร้อยเมตร… งูที่ได้รับบาดเจ็บนั้นโกรธมาก… ในขณะที่งูดำเคลื่อนที่เร็วมาก ลูกศรนัดที่สามก็พลาดเป้าจากท้องของมันและพุ่งไปที่ด้านหลังแทน งูดำถูกยิงสามนัดติดต่อกัน แต่มันก็ไม่ตาย… ในท้ายที่สุดเขาก็ใช้ลูกศรสีเงิน ด้วยพลังที่พิเศษ มันปลดปล่อยพลังออกมาคล้ายกับจรวดทำให้งูดำเป็นอัมพาต… อย่างไรก็ตามมันก็แกล้งตาย…”
บางคนเริ่มอธิบายความเข้าใจในเรื่องนี้ให้คนที่ไม่ได้ดูสตรีมฟัง
“นั่นเป็นวิธีที่… ลูกศรสีเงินนั้นอาจจะถูกผสานกับเวทย์ไฟ!”
“ทำไมฉันรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นอุปกรณ์บางอย่างจากอารยธรรมการบ่มเพาะล่ะ?”
“สิ่งที่ฉันกังวลคือหากเป็นในกรณีนั้น เราสามารถรวบรวมวิธีการผลิตอาวุธสมัยใหม่บนอินเทอร์เน็ต เมื่อเขาเข้าไปในดินแดนแห่งมรดก เราก็จะสามารถสร้างพวกมันได้และไม่ต้องกลัวมอนเตอร์”
“ความคิดที่ดี แต่ในการสตรีมสดครั้งนี้มันไม่ได้อาศัยอาวุธเป็นหลักเพื่อชนะ”
พลเมืองเมืองหยางที่เข้าใจกระบวนการนี้ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเริ่มพูดคุยกันหลังจากข้อสงสัยของพวกเขาได้รับการแก้ไข
“ไม่ พวกนายไม่เข้าใจอะไรเลย!”
อย่างไรก็ตาม มีการโต้แย้งใต้โพสต์
“อันที่จริง กระบวนการไม่ใช้อย่างที่พวกนายคิด!”
ในโรงเก็บของขนาดใหญ่มีงูหลายพันตัวอยู่ เจียงเหวินหมิงไม่สามารถทำช่วยอะไรได้นอกจากพิมพ์ด้วยนิ้วที่สั่นของเขา
ในฐานะนักเพาะพันธุ์มืออาชีพที่ทำงานเกี่ยวกับงูมานานกว่า 30 ปี เขาเพิ่งถูกพาตัวกลับไปที่บ้านเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน หลังจากการเยี่ยมชมฐานผู้เล่นของเมืองหยาง
เดิมทีเขาวางแผนที่จะเกษียณในคืนนี้ เขาทำงานภายใต้ข้อตกลงการรักษาความลับที่ฐาน และไม่สามารถเปิดเผยความยากลำบากต่อสาธารณะได้ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสตรีมสด
ทันทีที่เขาเข้าร่วมสตรีมและเห็นงูดำ เขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มันเป็นคนคนนั้น!
เมื่อเขาเห็นเป้าหมายของลูกศรนัดแรกของผู้โจมตีลึกลับ เจียงเหวินหมิงก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น
“อันที่จริงแล้ว เป้าหมายของลูกศรนัดแรกก็คือจุดที่มีหัวใจสำหรับงูขนาดใหญ่ที่สุด มันถูกเรียกอีกอย่างว่าจุด ‘เจ็ดนิ้ว’ หัวใจของงูเห่าก็อยู่ที่จุุดนั้น แต่หลังจากถูกโจมตีแล้ว งูดำก็ไม่ตาย หมายความว่าหัวใจของมันไม่ได้อยู่ที่นั่น”
“จากนั้นเขาก็เล็งไปที่เกล็ดหน้าท้องชิ้นที่ 48 ด้านล่างช่องท้องของงูดำซึ่งเป็นจุดที่เป็นหัวใจสำหรับงูที่มีขนาดเล็กกว่า”
“อย่างไรก็ตาม มันน่าเสียดายที่หัวใจของงูดำไม่ได้อยู่ที่นั่น ยิ่งไปกว่านั้น การรับรู้ของงูดำนั้นเหนือจินตนาการอย่างแท้จริง มันพบผู้โจมตีที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรหลังจากยิงสองนัดและไล่ตามเขาไปอย่างรวดเร็ว”
“เมื่อเป็นแบบนี้ งูนั้นเลื้อยอยู่บนพื้นทำให้เขาไม่สามารถยิงที่ท้องของมันได้ ดังนั้นเขาจึงยิงไปที่กระดูกสันหลังของมันแทน นอกจากนี้ยังเป็นตำแหน่ง ‘สามนิ้ว’ อีกด้วย หลังจากถูกทำลายแล้ว งูก็ไม่สามารถทำร้ายใครได้อีกต่อไป!”
“ในความจริง นัดนี้เป็นนัดที่ยิงยากที่สุด!”
“ลองคิดดู เขาจำเป็นต้องยิงลูกศรเข้ากลางกระดูกสันหลังของงูจากระยะทางกว่าร้อยเมตร ในขณะที่เป้าหมายเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเต็มที่ มันน่าสนใจแค่ไหน? มันไม่ใช่การยิงพลาดอย่างที่พวกนายคิด!”
“ต้องขอบคุณการโจมตีครั้งนี้ งูจึงโค้งลำตัวและเปิดเผยหน้าท้องของมันอีกครั้ง ทำให้ลูกศรสีเงินนัดที่สี่สามารถก่อให้เกิดการโจมตีที่รุนแรงได้ ไม่อย่างนั้นด้วยการแสดงพลังครั้งสุดท้ายของงูดำ ถึงแม้ว่ามันจะถูกโจมตีหัวใจก็ตาม แต่มันก็อาจจะมีความสามารถในการโต้กลับ!”
เมื่อเทียบกับโพสต์เหล่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจและความตกใจอย่างแท้จริงซึ่งทั้งหมดนี้คล้ายคลึงงกันมาก
ความคิดเห็นระดับมืออาชีพของเจียงเหวินหมิงได้รับการยอมรับจากผู้ดูแลระบบในไม่ช้า และถูกปักหมุดไว้ให้ทุกคนสามารถอ่านได้
“โอ้พระเจ้า ถ้าเป็นแบบนั้น นั่นก็น่าทึ่งมาก!”
“ท่าทาง ความสามารถในการยิง และความรู้ระดับมืออาชีพ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จโดยขาดอะไรไปสักอย่าง เขายังเป็นมนุษย์อยู่งั้นเหรอ?”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาถูกสตรีมสด ฉันรู้ดีว่าถ้าเขาสามารถฆ่างูดำที่ดุร้ายได้อย่างแท้จริงด้วยลูกศรสีเงินลูกสุดท้าย มีแค่คนโง่เท่านั้นที่บอกว่ามันไม่ใช่เวลานาน”
“ผู้โพสต์คนก่อนหน้านี้ ฉันจำได้ว่าโพสต์ที่นายเพิ่งโพสต์ นายบอกว่าควรใช้แค่ลูกศรสีเงิน อย่าลบมันสิ… นายเร็วมาก!”
หลังจากโพสต์ถูกปักหมุด มันก็ทำให้เกิดความรู้สึกอย่างล้นหลาม
เมื่อถึงจุดนี้ คนส่วนใหญ่เชื่อว่าการต่อสู้นั้นซับซ้อนมากกว่าการใช้ลูกศรสีเงินเพียงอย่างเดียว
“แต่มีใครรู้บ้างว่าคนคนนั้นคือใคร?”
“ใช่แล้ว เราไม่พบเขาจากด้านบน เรามองไม่เห็นใบหน้าของเขาเมื่อเราไปที่มุมมองบุคคลที่หนึ่ง”
“นั่นต้องเป็นฉินเยว่หยู แชมป์ยิงธนูระดับประเทศของเรา เธอมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าสู่ดินแดนแห่งมรดก…”
นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติเกี่ยวกับตัวตนของบุคคลลึกลับที่ไม่ได้แสดงใบหน้าของตัวเองในสตรีมสด
ในฐานะแชมป์ยิงธนูหญิงคนเดียวในเมืองหยางตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเนื่องจากรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์และสวยงามของเธอ ฉินเหย่หยูผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเมืองหยาง จึงกลายเป็นที่คาดเดาของผู้คนมากมาย
“ไม่ใช่ฉินเยว่หยู แต่เป็น…”
เจียงเหวินหมิงรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่ไม่สามารถหยุดได้ที่จะเปิดเผยคำตอบ
แต่เขาก็ไม่สามารทำได้ เขาได้ลงนามในข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูลกับฐานแล้ว
“ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้ถูกเลือกให้เข้าสู่ดินแดนแห่งมรดก นอกจากนี้ ฉันก็ไม่สามารถยิงนัดนั้นออกไปได้!”
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ บุคคลที่มีไอดี ‘มูนเฟเธอร์’ ก็ได้โพสต์ตอบกลับ
ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบ ในไม่ช้าผู้คนก็รู้ว่ามูนเฟเธอร์ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวฉินเยว่หยู คนส่วนใหญ่ในเมืองหยางรู้จักเธอเพราะเธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของพิพิธภัฑ์ทริสตาร์
“ให้สังเกตว่าเขาใช้หน้าไม้ ไม่ใช่ธนู”
“หน้าไม้เคยเป็นราชาแห่งอาวุธในยุคอาวุธเย็น หลังจากราชวงศ์หมิงค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยอาวุธปืนในสมัยโบราณของประเทศเรา หน้าไม้ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ หน้าไม้แขนศักดิ์สิทธิ์ หน้าไม้เหลืองยิ่งใหญ่ หน้าไม้ฉิน…”
“และสิ่งที่เขาใช้ก็คือหน้าไม้กลซึ่งคล้ายกับหน้าไม้ขงเบ้งในตำนาน นี่เป็นสิ่งที่น่าตกใจที่สุดสำหรับฉัน มันควรจะรู้ว่าหน้าไม้ชนิดนี้ไม่มีความแม่นยำเลย ไม่ต้องพูดถึงการยิงจากระยะร้อยเมตร…”
ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของพิพิธภัณฑ์ เธอไม่ลืมงานของเธอและเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับคันธนูและหน้าไม้ในฟอรั่ม
“ที่สำคัญกว่านั้น คุณไม่สังเกตเห็นว่านั้นเป็นแขนของผู้ชายเหรอ? แขนของฉันไม่มีแรงขนาดนั้น…”
ในตอนท้าย ฉินเยว่หยูก็พูดติดตลก
อันที่จริง ไม่มีใครเห็นมันชัดเจนเพราะจีเย่สวมชุดคลุมล่องหนของตั๊กแตนตำข้าว ทั้งมือของเขาถูกพรางไว้
อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของฉินเยว่หยูและคำอธิบายในฟอรั่มแสดงให้เห็นอย่างไม่ต้องสงสัยว่าบุคคลลึกลับคนนั้นพิเศษอย่างไร
“เป็นอย่างงี้นี่เอง ขอบคุณมาก ฉินคนสวย สำหรับคำอธิบายของคุณ เมื่อก่อนฉันไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้ฉันอยากจะคุกเข่าให้กับความยอดเยี่ยมของนายหน้าไม้จริงๆ!”
“นายหน้าไม้? ฟังดูอ่อนแอพอๆ กับสาวแพนด้าจากเมืองหลวงเลย อย่างน้อยที่สุดเขาก็ควรถูกเรียกว่าราชาหน้าไม้”
“ราชาหน้าไม้ยังไม่พอ เขาควรถูกเรียกว่าจักพรรดิหน้าไม้!”
“เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับผู้คนที่จะอิจฉาฉายาของจักพรรดิหน้าไม้ ฉันคิดว่าควรเรียกเขาว่าจอมปราชญ์หน้าไม้ดีกว่า!”
ในฟอรั่ม พวกเขาพูดถึงชื่อที่โดดเด่นและน่าสนใจสำหรับผู้เล่นคนแรกในเมืองหยางที่ถูกสตรีมสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงที่น่าทึ่งของเขา
โชคดีที่จีเย่ไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อดูฉายาที่น่าอึดอัดสำหรับเขา ซึ่งเกิดจากอาวุธที่เขาเลือก ไม่อย่างนั้น เขาจะไม่มีวันยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ต่อสู้กับงูดำหลังจากงุนงงชั่วขณะ!