Earth’s Best Gamer - ตอนที่ 59
“ฉันได้ยินผิดหรือเปล่า?”
“นักวิชาการเจี้ยวฉางเซิง ผู้อาวุโสเมิ่ง ฉินเยว่หยู และซวีเสวีย… พวกเขาทั้งหมดอยู่ในถิ่นฐานของคุณ!?”
เนื่องจากความต่างของเวลา หลิงเฉินผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำวันในเมืองก็ได้ยืนอยู่ตรงข้ามจีเย่พร้อมกับอ้าปากค้าง
“นอกจากนี้ แม้กระทั่งพี่ชายเจียงและซางเยี่ยนก็อยู่ในถิ่นฐานของคนอีก นี่… คือข้อดีของการเมินในระดับสมบูรณ์แบบ มันได้บดขยี้ถิ่นฐานธรรมดาอย่างสิ้นเชิง!”
หลิงเฉินถอนหายใจ
หลังจากยืนยันการคาดการณ์จากคำตอบของหลิงเฉิน จีเย่ก็ถามเขาด้วยความสับสน “สองสามวันนี้ นายไม่ยุ่งหรอกเหรอ? ทำไมนายถึงอยู่ฐาน?”
“อย่าพูดถึงมัน ฉันวิ่งวุ่นตลอดสี่วันแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฉันที่จะได้กลับมาที่ฐานเพื่อจัดการบางอย่าง ในท้ายที่สุดฉันก็มาเจอกับคุณที่ออกจากระบบมาพอดี” หลิงเฉินกล่าวเบาๆ
“ซูนงอิ๋ง! เธอก็อยู่ในถิ่นฐานของคุณ?”
เมื่อเขาได้ยินจีเย่กล่าวถึงชื่อของซูนงอิ๋ง หลิงเฉินก็มองไปที่จีเย่ด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
“นายรู้จักเธองั้นเหรอ?”
“แน่นอนฉันรู้ เหมือนกับคุณ ฉันพาเธอมาที่ฐานเอง ตัวตนของเธอ… อืมม ตามทฤษฏีแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นความลับ ฉันไม่ควรบอกคุณ”
“อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหาได้ในโลกออนไลน์”
“คุณรู้จักบริษัทซูไบโอมั้ย? มันเป็นบริษัทเดียวในเมืองหยางที่เป็นบริษัทอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่มีชื่อเสียงในประเทศ มันเป็นกิจการครอบครัวที่มีมูลค่าหลายพันล้าน”
“ตอนที่ฉันกลับมาที่นี่ ประธานซูก็ได้ส่งคนขับรถมาส่งของให้ฉัน เขาขอให้ฉันดูแลลูกสาวของเขาที่อยู่ในฐาน ฉันไม่ยอมรับมันในตอนแรก แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันทำพลาด ด้วยความสามารถของคุณ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น”
หลิงเฉินกล่าวติดตลกด้วยน้ำเสียง ‘เสียใจ’
“ฉันจะบอกให้ พี่ชาย คุณต้องคว้าโอกาสไว้ให้ได้นะ ชิๆ มีสาวงามสี่คน ดารา แพทย์ นักกีฬา และหญิงสาวที่ร่ำรวย!”
จากนั้นเขาก็ขยิบตาให้จีเย่ ทำให้ใบหน้าที่ขุ่นมัวของเขาเต็มไปด้วยความชอบธรรม
“ในกรณีนั้น เธอควรมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการ…”
จีเย่กล่าวเบาๆ ในขณะที่เขาครุ่นคิด เขาไม่สังเกตเห็นสีหน้าของหลิงเฉินเลย
“คุณนี่จริงๆ เลย… ผู้เล่นกลุ่มแรกหลายคนใช้ผู้เล่นกลุ่มที่สองเพื่อสร้างความสัมพันธ์และแก้ปัญหาส่วนตัว แต่สำหรับคุณ… ฉันจะไม่รู้จะพูดอะไรดี? เห้อ…”
หลิงเฉินถอนหายใจอย่างขมขื่น
เขาไม่รู้จะพูดอะไรกับนิสัยของจีเย่ดี
“อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้อาวุโสเมิ่งอยู่ในถิ่นฐานของคุณ”
จากนั้นเขาก็เปลี่ยนหัวข้อจากสาวงามเป็นชายชรา
“โอ ?”
“เดี๋ยวคุณก็จะรู้เมื่อคุณพบผู้อำนวยการโจว!”
หลิงเฉินยิ้มอย่างมีเลศนัยในขณะที่เขาทำท่าแขวนคอ
…
“นักวิชาการเจี้ยวเลือกเมืองหยางของเราจริงด้วย ตามความคาดหมายของผู้เชี่ยวชาญจากเมืองหยางของเรา เขายังคงคิดถึงบ้านเกิดของเขา!”
ในสำนักงานของผู้อำนวยการสมาพันธ์เมืองหยาง ผู้อำนวยการโจวถอนหายใจ
“ฉันเชื่อว่าอาจารย์เมิ่งอยู่กับคุณ”
“คุณอาจจะไม่รู้ แต่ฉันมาจากโรงเรียนสอนภาษาของเมืองหยางเช่นเดียวกัน และเขาก็สอนฉันเป็นการส่วนตัว ฉันเป็นรุ่นพี่ของคุณ!”
จากนั้นผู้อำนวยการโจวก็ยิ้มและกล่าวกับจีเย่
“ถ้าอย่างนั้นรุ่นพี่โจวก็ควรรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาแล้วใช่มั้ย?”
คำเหล่านี้ชัดเจนมาก แม้ว่าจีเย่จะเคยชินกับการอยู่เพียงลำพัง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้วิธีพูดคุยกับคนอื่น เขาเปลี่ยนวิธีการพูดกับผู้อำนวยการโจวอย่างเป็นธรรมชาติ ในเวลาเดียวกันเขาก็เข้าใจว่าผู้อำนวยการโจวหมายถึงอะไร
หลังจากที่เขาออกจากระบบ เขาก็ได้ตรวจสอบข้อมูลในฟอรั่มแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้อมูลบางอย่างสามารถหาได้จากสำนักงานสมาพันธ์เท่านั้น
ตัวอย่างเช่น สถิติภายในองค์กร
ผู้ถูกเลือกรอบสองประกอบด้วยชั้นยอดและคนธรรมดา มากกว่าครึ่งประกอบด้วยชั้นยอด ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งดูเหมือนจะถูกสุ่มเลือก
แน่นอนว่ายังคงมีการจำกัดอายุของผู้ถูกเลือก อายุมากกว่า 14 ปี
อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือจีเย่พบข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์อินทรีในระบบเครือข่ายภายในสำนักงาน
ถิ่นฐานในยุคไอน้ำของประเทศตะวันตกได้พบกับมนุษย์อินทรี และเกิดการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือหายนะ อัตราการเสียชีวิตใกล้เคียงกับห้าต่อหนึ่ง!
อีกฝ่ายถูกสงสัยว่าเป็นสิ่งมีชีวิตจากดาวเคราะห์ ‘แฟนตาซีตะวันออก’ เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมายและที่มนุษยทั่วไปไม่สามารถเทียบได้
นี่ทำให้สีหน้าของจีเย่เปลี่ยนไปอย่างจริงจัง
สำหรับโทษความตาย มันแตกต่างจากการคาดการณ์เดิมของเขาเล็กน้อย มันไม่ได้อยู้ในรูปแบบของเมือง จังหวัด หรือประเทศ แต่เป็นเหมือน ‘ขอบเขตมนุษย์’ มากกว่า
ทุกคนควรถูกกำหนดให้เข้าร่วม ‘กลุ่ม’ หลังจากการเลือกครั้งแรกของพวกเขา หลังจากที่ตาย พวกเขาก็จะออกจาก ‘กลุ่ม’ นี้ และหากพวกเขาตายอีกครั้ง พวกเขาก็จะออกจาก “กลุ่ม” ที่ใหญ่กว่า…
สิ่งนี้ยุติธรรมกว่าการใช้ภูมิภาคอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วมีประเทศเล็กๆ สองสามประเทศที่มีประชากรเพียงไม่กี่แสนคน หากพวกเขาเกิดใหม่ตามภูมิภาค บทลงโทษความตายสองครั้งก็จะทำให้พวกเขาแทบจะไม่เหลือที่เกิดใหม่ในโลกอีก
จีเย่อ่านข้อมูลบนแท็บเล็ตอย่างตั้งใจจนกระทั่งเขาได้รับข้อมูลใหม่จากผู้อำนวยการโจว
“ฉันเพิ่งได้รับข่าวว่าหมู่บ้านเร็นถูกผีทำลาย!”
ผู้อำนวยการโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ลุงเก้าอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ? ทำไมมันถึงถูกผีทำลายล่ะ?”
จีเย่ตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม เขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่หนัง ลุงเก้าไม่มีรัศของตัวเอก มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถเอาชนะสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดได้อย่างแน่นอน
“อันที่จริง พูดให้ชัดเจน มันไม่ใช่ผี แต่เป็นมนุษย์ต่างดาว คนกลุ่มแรกที่พบมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ได้ตั้งชื่อให้พวกมันว่าเผ่าวิญญาณ มันสามารถใช้พลังวิญญาณสีดำเพื่อควบคุมซากศพได้ นอกจากนี้มันยังอยู่ในสภาะคล้ายกับผี”
“ดังนั้น วิธีที่ใช้ในการจัดการกับผีจึงมีประสิทธิภาพกับพวกมันมาก เมื่อลุงเก้าออกไปกวาดล้างผี เขายังได้ฆ่าชาววิญญาณที่โผล่ออกมาอย่างกระทันหัน”
“จากนั้นพวกเขาก็ถูกดจมตีจากเผ่าวิญญาณทั้งหมด!”
ผู้อำนวยการโจวอธืบายเรื่องนี้กับจีเย่
พูดง่ายๆ ก็คือลุงเก้าถูกศิษย์ใหม่ของเขาหลอก ในช่วงเวลาสำคัญ เขาได้นำสิ่งประดิษฐ์ผิดอันออกมา ทำให้เขาพลาดใจการต่อสู้กับผู้บัญชาการของเผ่าวิญญาณ!
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในภูมิหลังแบบสาธารณรัฐ และทีมลาดตระเวนในหมู่บ้านก็มีปืน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับความสามารถอันแปลกประหลาดของเผ่าวิญญาณ พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้
ในท้ายที่สุด ลุงเก้าก็ได้ตายไปพร้อมกับหัวหน้าหมู่บ้าน ลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้านซึ่งเป็น ‘คู่หมั่น’ ของชาวจีนที่เกิดในประเทศอินทรีผู้ที่ซึ่งรู้สึกสบายมากเมื่อไม่กี่วันก่อนก็เสียชีวิต ไม่มีใครในถิ่นฐานหมู่บ้านเร็นรอดจากการถูกสังหาร
“นอกจากนี้ สาเหตุที่มันถูกทำลายอย่างรวดเร็วก็เป็นเพราะความไม่พอใจของคนประเทศอินทรีในผู้เล่นกลุ่มที่สอง”
แม้ว่าถิ่นฐานจะเป็นไปตามภูมิหลังสาธารณรัฐ เนื่องจากอยู่ในประเทศอินทรี แต่ผู้เล่นกลุ่มที่สองก็มีสัดส่วนเป็นคนประเทศอินทรีหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ พวกเขาคงไม่มีความสุขแน่นอนที่ได้พบกับภูมิหลังที่พิเศษแบบนี้ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะมีบทบาททำให้สถานการณ์เลวร้ายลง!
แม้ว่าประเทศอินทรีจะหาทางปิดกั้นข่าวนี้
แต่ในฐานะ ‘ถิ่นฐานแรก’ ของเผ่ามนุษย์ทั้งหมดในดินแดนแห่งมรดก มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่่จะได้รับความสนใจจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่สำนักงานสมาพันธ์ของประเทศมังกรจะสามารถรับรู้ข้อมูลภายในได้
“ผู้เล่นในถิ่นฐานที่ถูกทำลายสามารถเข้าสู่ระบบได้หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน แล้วชนพื้นเมืองล่ะ? เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากัน?”
จีเย่มองไปที่ผู้อำนวยการโจว
ถ้าหมู่บ้านเร็นถูกทำลาย คนที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านอย่าง ‘ลุงเก้า’ ล่ะ? พวกเขาจะมีการสลายวิญญาณของพวกเขาในดินแดนแห่งมรดกเหมือนผีในหนังเหรอ?
“เรายังไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น!”
“อันที่จริงแล้ว ถิ่นฐานที่ถูกมนุษย์ต่างดาวโจมตีไม่ใช่แค่หมู่บ้านเร็น นี่เป็นเพราะทุกถิ่นฐานที่อยู่ใกล้กับมนุษย์ต่างดาวสายพันธ์ุอื่น เมื่อพบกับสายพันธุ์ที่มีสติปัญญาสูงเพราะความกลัวซึ่งกันและกัน ส่วนใหญ่จึงมักจะใช้เพียงการตรวจสอบอยู่ในปัจจุบัน”
“อย่างไรก็ตาม หากเราต้องเผชิญหน้ากับการต่อมนุษย์ต่างดาวที่ไม่มีสมองมีแต่กล้ามเนื้อ พวกมันอาจทำการโจมตีโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่ตามมาตั้งแต่แรก มันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์เราก็อยู่เพียงอันดับ 4 หรือ 5 ในระดับสามัญเท่านั้น นอกจากนี้เราก็ไม่มีความสามารถพิเศษเลย ข้อดีเพียงอย่างเดียวก็คือมนุษย์ต่างดาวที่แข็งแกร่งที่สุดที่เราค้นพบในตอนนี้ก็อยู่นะดับสามัญอันดับ 9”
รุ่นพี่อาวุโสโจวถือแก้วกาแฟและกล่าวอย่างกังวล
“โอ้ ไม่ควรมีสิ่งกีดขวางบางประเภทกั้นระหว่างถิ่นฐานทำให้ยากกต่อการโจมตีในตอนแรกหรอกเหรอ?” ทันใดนั้นจีเย่ก็เงยหน้าขึ้นมาและเอ่ยถาม
“ฉันไม่คิดว่าฉันเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ถิ่นฐานหลายแห่งอยู่ติดกันโดยตรง”
ผู้อำนวยการโจวตกตะลึง
จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและคิดสักพักก่อนที่จะส่ายหัว
“ฉันต้องเข้าสู่ระบบ รุ่นพี่โจว แล้วพบกันใหม่”
จีเย่ยื่นขึ้นอย่างกระทันหันและส่งแท็บเล็ตคืนให้ผู้อำนวยการโจวก่อนที่จะหันไปเปิดประตู
“สวัสดี!”
ชายหนุ่มที่หล่อเหลาผู้ที่กำลังจะเคราะประตูเมื่อเห็นประตูถูกจีเย่เปิดออกมา เขาก็ตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม เขาก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและพยักหน้ให้จีเย่ด้วยรอยยิ้มอันสดใส
“สวัสดี!”
จีเย่พยักหน้าให้เขา
เขาจำคนคนนี้ได้ ชื่อของเขาคือมู่หรง ลูกชายของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ทที่สุดในเมืองหยาง เขาเป็นผู้เล่นเบต้าด้วยเช่นกัน
“ลุงโจว พ่อของฉันขอให้ฉันมาทักทายคุณในนามของเขา…”
หลังจากจีเย่จากไป มู่หรงก็กล่าวทักทายผู้อำนวยการโจวด้วยความเคารพ
“รุ่นพี่โจว โปรดแจ้งให้กับครอบครัวของพวกเขาทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขา”
ในตอนนี้ จีเย่ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกในขณะที่เขาหันกลับมาและกล่าวกับผู้อำนวยการโจว
“ได้เลย ฉันจะจัดการทันที…”
ผู้อำนวยการโจวพยักหน้า จากการตอบสนองของจีเย่ เขาสามารถบอกได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
“โอ้ พวกคุณกำลังพูดอะไรกัน?”
“โอ้ ลุงโจว ฉันต้องการให้คุณตรวจสอบ…”
‘ลูกชายแห่งอสังหาริมทรัพย์’ ของเมืองหยาง มู่หรงเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเขา
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป