Earth’s Best Gamer - ตอนที่ 7
“คุณเคยได้ยินมั้ย? สตรีมเมอร์ ‘มิสแพนด้า’ ได้ยื่นขอทุนจากสำนักงานสมาพันธ์เพื่อรับทีมผู้เชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนาเธอในเกม…”
ผู้เล่นหญิงสองคนนั่งโต๊ะข้างๆ จีเย่พร้อมกับอาหารของพวกเธอ หนึ่งในนั้นมีหน้าตาที่ค่อนข้างดี
“เธอมาจากเมืองต่างจังหวัดใช่มั้ย? นั่นเป็นเมืองที่ใหญ่กว่าของพวกเรา ฉันได้ยินมาว่าเมืองหลวงอย่างเมืองหยานได้รวบรวมนักวิชาการอาวุโสจำนวนมากเพื่อให้คำแนะนำที่ครอบคลุมแก่ผู้ที่ผ่านการทดสอบ…”
“พวกนั้นผ่านการทดสอบและมีพรสวรรค์ ไม่เหมือนกับพวกเรา…”
ผู้พูดจิบน้ำมะนาวของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงอิจฉา
การนั่งอยู่ที่นั่นหมายความว่าพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่ตนชำนาญ ดังนั้นจึงไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาด้อยกว่าคนอื่นในการทดสอบ พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาแค่โชคร้าย
แต่ความแตกต่างในอนาคตของพวกเขาเริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว!
“พี่ชายจู คุณต้องได้รับสกิลพรสวรรค์ระดับสมบูรณ์แบบใช่มั้ย?”
เมื่อได้ยินหัวข้อ ‘พรสวรรค์’ แววตาของโฮ่วเฉียนก็สว่างขึ้นในขณะที่เขามองไปที่เจ้าอ้วนจูด้วยความคาดหวัง
“อะแฮ่ม ไม่ น่าเสียดายที่มันเป็นเแค่ระดับเหนือชั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับระดับสมบูรณ์แบบ! ”
เจ้าอ้วนจูไออย่างเชื่องช้าและส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ
ตามที่ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ในฟอรั่มกล่าว อันดับของสกิลพรสวรรค์ที่ได้รับจะเป็นคะแนนสุดท้ายสำหรับผู้เล่นคนนั้นเมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นการทดสอบ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเกม การแสดงหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจูมู่ก็คือ ‘ระดับสมบูรณ์แบบ’ อย่างไรก็ตามความยากลำบากในภารกิจของเขาพิสูจน์แล้วว่าเป็นไปไม่ได้
เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยบนโลก การถูกโยนไปยังต่างโลกที่เต็มไปด้วยมอนเตอร์ดุร้ายอย่างกระทันหันทำให้เขาตกใจ และเอาแต่คิดวิธีที่จะกลับมายังโลก เขาจะตัดสินใจอย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้งโดยไม่มีข้อผิดพลาดได้อย่างไร?
การวิเคราะห์ในฟอรั่มยังคงเชื่อว่าการได้รับพรสวรรค์ ‘ระดับสมบูรณ์แบบ’ ในการทดสอบไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์แบบ พวกเขาเชื่อว่ามันจำเป็นที่จะต้องบรรลุสิ่งที่ดีที่สุดในบางแง่มุม
อย่างไรก็ตามนี่เป็นงานที่ยากมากอย่างไม่ต้องสงสัย!
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเราไม่รู้ว่าการตายในดินแดนแห่งมรดกหมายถึงความตายที่แท้จริงหรือไม่ เมื่อทุกคนประสบปัญหาในการทดสอบ พงกเขาจะจัดลำดับความสำคัญของชีวิตเท่านั้นและไม่กล้าเสี่ยง…”
“ไม่อย่างนั้น ฉันมั่นใจอย่างแท้จริงว่าจะบรรลุความสมบูรณ์แบบในบางแง่มุมได้”
เจ้าอ้วนจูเอียงคอและดื่มเบียร์กระป๋องใหญ่ อย่างไรก็ตามเขามองไปที่การตอบสนองของจีเย่จากมุมของสายตาของเขา
สีหน้าของจีเย่สงบเหมือนเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
ดวงตาของเจ้าอ้วนจูเบิกกว้าง
เขาตัดสินว่าอย่างน้อยจีเย่ก็มีพรสวรรค์ที่สูงยิ่งกว่าเขา
ในความจริง มันอาจจะเป็นแม้กระทั่งพรสวรรค์ ‘ระดับสมบูรณ์แบบ’ ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับ
เขาไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่การปรากฏตัวของเขาทำให้ผู้เล่นหญิงหลายคนแอบมองเพื่อนบ้านของพวกเธอ ดูเหมือนว่าเขาจะคาดไม่ถึง!
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรเลย แม้ว่าความสามารถของเขาจะอยู่ที่ระดับ ‘เหนือชั้น’ เท่านั้น
แต่ยังคงมีคำว่า ‘หายาก’ อยู่ด้านหลังสกิลพรสวรรค์ของเขา เขารู้สึกว่ามันไม่ควรด้อยไปกว่าพรสวรรค์ระดับสมบูรณ์แบบ!
“ถูกต้อง เราไม่คิดเลยว่าเราจะไม่ตายจริงๆ มันไม่ยุติธรรมเกินไปสำหรับเราที่ได้ไปชุดแรก!”
โฮ่วเฉียนพยักหน้าอย่างแรง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเห็นด้วยกับเจ้าอ้วนจู
มันไม่ยุติธรรมสำหรับคนกลุ่มแรกที่เข้าสู่ดินแดนแห่งมรดกเพื่อเข้าร่วมการทดสอบเมื่อข้อมูลนั้นแทบจะไม่มี!
มันไม่เป็นที่ทราบกันว่า ดินแดนแห่งมรดกได้ชดเชยข้อเสียดังกล่าวแล้ว สกิลพรสวรรค์ที่พวกเขาได้รับในตอนท้ายจะมีอันดับที่สูงกว่าประสิทธิภาพที่พวกเขาสมควรได้รับโดยอัตโนมัติ
สำหรับผู้ทดสอบที่ผ่าน พรสวรรค์ที่เลวร้ายที่สุดที่พวกเขาจะได้รับก็คือระดับขัดเกลา (หายาก) และเหนือชั้น (หายาก) อันที่จริงหมายถึงยอดเยี่ยม (หายาก)
ต่อจากนี้ ชุดหลังจะต้องพึ่งพาโชคของพวกเขาเพื่อที่จะได้รับพรสวรรค์มรดก
“ความตายมาพร้อมกับราคาที่แย่มาก!”
โฮ่วเฉียนหงุดหงิดและแทงปูนวมตัวใหญ่บนจานด้วยส้อมราวกับว่าเขากำลังปลดล็อคตัวล็อค
แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ ‘ความตาย’ ในดินแดนแห่งมรดกไม่เกี่ยวข้องกับความตายบนโลก แต่ผู้ที่เพิ่งตายไปจะได้รับ ‘นาฬิกาทราย’ ในความคิด พวกเขาจะถูกห้ามไม่ให้ ‘เข้าสู่ระบบ’ อีกก่อนที่เวลาจะสิ้นสุด
ยิ่งไปกว่านั้น ความพยายามครั้งต่อไปจะส่งพวกเขาไปยังถิ่นทุรกันดารที่โหดร้ายที่สุดเสมอ พวกเขาจะไม่สามารถซื้อไอเทมเริ่มต้นอย่างจี้หยกรักษาหรือหมวกสื่อสารได้
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ที่จะจินตนาการได้ว่าคนกลุ่มนี้จะตายในไม่ช้าหลังจากกลับเข้ามาใหม่
หลังจากกลับมายังโลก พวกเขาตระหนักว่าการนับถอยหลังของนาฬิกาทรายในความคิดของพวกเขาจะช้ากว่าเดิมประมาณ 10 เท่า
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อตายแต่ละครั้ง เวลาที่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า!
“หลังจากรู้ว่าฉันจะเกิดในถิ่นทุรกันดารด้วยอัตราการตายสูงสุดเมื่อเข้าสู่ระบบอีกครั้ง ฉันก็จะไม่เข้าสู่ระบบในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา”
“ฉันคิดว่าจะรอจนกว่าจะมีการเลือกผู้สมัครชุดที่สอง ด้วยกฎของดินแดนแห่งมรดกนั้นคล้ายกับเกม มันอาจมีตัวเลือกที่คล้ายกับการจัดปาร์ตี้”
“พี่จูคิดว่าเป็นไปได้มั้ยว่าเมื่อถึงเวลา จุดเกิดจะถูกกำหนดตามความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในโลกจริง?”
โฮ่วเฉียนมองไปที่เจ้าอ้วนจูด้วยความคาดหวังและตื่นเต้น
‘อาจจะนะ…’
เจ้าอ้วนจูอยากจะบอกว่าไม่ แต่ก็ไม่อยากทำให้โฮ่วเฉียนผิดหวัง
สำหรับอฟนตัวยง สิ่งที่ไอดอลของพวกเขาพูดนั้นถูกต้องเสมอ
“แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม พี่ชายจีเจอการทดสอบแบบไหนเหรอ?”
โฮ่วเฉียนที่คุยกับเจ้าอ้วนจูมานาน ในที่สุดก็หันกลับไปมองจีเย่
“มนุษย์ vs ป่า!”
จีเย่คีบาเต็กบาร์บีคิวเข้าปากของเขา น้ำเสียงของเขาสงบเป็นอย่างมาก
“มนุษย์ vs ป่า ว้าววว ฟังดูน่าอนาถยิ่งกว่าของฉัน มันเหมือนกับ…”
“เดี๋ยวก่อน พี่ชายจี… กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือคุณได้ทำการทดสอบโดยการเอาชีวิตรอดมานานกว่าหนึ่งเดือนในถิ่นทุรกันดารงั้นเหรอ?”
ดวงตาของโฮ่วเฉียนเบิกกว้างในขณะที่เขามองไปที่จีเย่ราวกับมองสัตว์ประหลาด
“มีบางอย่างเกิดขึ้น!”
ก่อนที่เจ้าอ้วนจูที่ตกใจไม่แพ้กันจะพูดอะไร ผู้เล่นในโรงอาหารก็ตะโกนออกมา
“เฮ้พวก! ใครบางคนในฟอรั่มประกาศว่าผู้ที่ยังอยู่ในการทดสอบได้รับภารกิจใหม่ มันจะนำเราไปสู่ฐานการรวมตัวของผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ รวมถึงเบาะแสเกี่ยวกับผู้เล่นกลุ่มที่สอง!”
จีเย่และเจ้าอ้วนจูมองหน้ากันก่อนที่จะวางถาดลงและรีบลุกขึ้น