Emperor Of The Cosmos จักรพรรดิดวงดาว - ตอนที่ 579
ตอนที่ 579 อารยธรรมลึกลับ
“ประกาศสงครามกับเรา?”เจียง หลี่ ยิ้มออกมา”ก็จริงว่าในอดีตมนุษยชาติของเราเคยรุกรานโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังเเละต้องการดำเนินการกับเจตจำนงค์สวรรค์ของพวกคุณเเต่พวกคุณเองก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเราเเม้เเต่น้อยหากพวกคุณร่วมมือกันนิกายจักรพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่จะพังทลาย?เจตจำนงค์สวรรค์จะเลือกเข้าหาฝั่งเรา?”
“ในอดีตการรุกรานของเผ่าพันธุ์มนุษยชาติถือว่าร้ายเเรงมากเเละตอนนี้เผ่าพันธุ์มนุษยชาติได้เเพร่กระจายผู้คนจำนวนมากไปยังโลกของเราไม่ว่าจะทั้ง เเม่น้ำ,ภูเขาหรือทุ่งหญ้า ล้วนเเล้วเเต่เป็นคนของเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยเเท้จริง รวมถึงการสร้างเมืองที่ราวกับมะเร็งที่รุกรานภายในโลกของเรามันได้เเพร่ระบาดเเละบ่อนทำลายจริยธรรมของเรา”เซนต์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งกล่าวออกมา
เซนต์ศักดิ์สิทธิ์อาวุโสคนนี้เเผ่กลิ่นอายพลังงานที่เเข็งเเกร่งของมามันไม่ได้มีกลิ่นอายที่ชั่วร้ายเเต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามรวมถึงดวงจิตวิญญาณของเขาราวกับสว่างสไวภายใต้ขนบธรรมเนียมดั้งเดิม
เขาคือจ้าวนิกาย พั่วหยาง
นิกาย พั่วหยาง คือนิกายที่มีจิตบริสุทธิ์พวกเขาส่งเสริมความสามารถของเหล่าสิทธิ์ด้วยเปลวเพลิงเเห่งเต๋าเเละจริยธรรมรวมถึงคุณธรรมพวกเขาเปรียบเสมือนความยุติธรรมของโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง
อิทธิพลของนิกายนี้ถือว่ารุนเเรงมากมันได้เเพร่ระบาดในหลายภูมิภาครวมถึงทั่วโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังเเละลัทธิต่างๆ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ เจียง หลี่ ได้จัดตั้ง สถาบันไร้ขอบเขตขึ้น เขาได้เพิ่มหลักการสอนทางปรัชญาการบ่มเพาะพลังที่คนของโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังสามารถเข้าถึงได้โดยง่ายสิ่งนี้ทำให้นิกกยพั่วหยางได้ประสบความเสียหายอย่างร้ายเเรง
เป็นธรรมชาติที่ จ้าวนิกายพั่วหยาง จะไม่สามารถทนต่อสิ่งนี้ได้
เผ่าพันธุ์มนุษยชาติได้สร้างหลักโครงสร้างทางสังคมของพวกเขาซึ่งจุดนี้มันได้ลบทำลายจริยธรรมดั้งเดิมของโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้เพราะยุคของพวกเขาคือยุคระบบศักดินา
“เเท้จริงเเล้วคุณก็คือ จ้าวนิกาย พั่วหยาง,ศิษย์ของคุณเองก็ได้เข้าร่วมกับสถาบันไร้ขอบเขตของฉันหลังจากได้ฟังการบรรยายศิษย์นิกายของคุณก็เผยเเพร่หลักการเหล่านี้ไปทั้งที่มันส่งผลดีเเต่พวกคุณกลับต่อต้านพวกเรา?”เจียง หลี่ ค่อนข้างเเปลกใจ
“หึ…”จ้าวนิกายพั่วหยาง กล่าวออกมา”เจ้าคนไร้มารยาท…ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เเม้เเต่น้อย เจ้ามันไม่ได้คิดถึงหลักความเป็นอยู่เเละอารยธรรมของเรา โลกที่ไม่ได้เคารพการบูชาเเละเชื่อมั่นในเทพเจ้า มันคือตัวตนที่ขาดวินัยในการอบรมฝึกฝนจิตใจจิตวิญญาณที่เป็นอิสระนั้น สิ่งนี้ถึงทำให้พวกเจ้ากลายเป็นปีศาจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าเเท้จริงเเล้วกลับเป็นปีศาจที่นำพาหายนะมาสู่พวกเรา”
“จิตวิญญาณที่เป็นอิสระ…”เจียง หลี่ หยุดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา”คุณกลับคิดแบบนั้นจริงๆ?”
“ในจิตวิญญาณของเจ้าไม่ได้มีความเคารพเเละปราถนาในการเชื่อมั่นทั้งการปลดปล่อยจิตวิญญาณให้ฟลุ้งซ่านนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์”จ้าวนิกายพั่วหยาง กล่าว”จิตวิญญาณที่ไม่ได้รับการเชื่อมั่นก็เปรียบเสมือนเรี่ยวเเรงที่หดหายอุดมคติของเจ้าเปรียบเสมือนเส้นทางเเห่งการฆ่าโดยอ้อม หากเจ้าต้องการเช่นนี้ นิกายพั่วหยาง ของเรา ขอดำเนินการสู้รบกับเจ้า”
เจียง หลี่ กล่าวออกมา”ความจริงอารยธรรมมนุษยชาติของเราสามารถให้เวลาคุณเพื่อให้คุณเห็นว่ายุคของคุณนั้นมันล้าหลังเกินไปเเล้วคุณจำเป็นต้องเดินหน้าต่อเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่ที่รุ่งเรืองยิ่งกว่า”
“เราไม่สนใจสิ่งใดเราจะกำจัดปีศาจเพื่อปกป้องศีลธรรมแบบเดิมของเรา”เซนต์ศักดิ์สิทธิ์อีกคนหนึ่งกล่าวออกมา นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ผู้เชี่ยวชาญระดับวิถี
“จ้าวนิกาย เต๋าเเห่งพระเจ้า?”จักรพรรดินี ฉิงชิว กล่าวออกมา
“คุณเองก็ไม่เห็นพ้องกับฉันงั้นหรือ?”เจียง หลี่ กวาดสายตาออกไป”เเม้ว่าพวกคุณจะต่อต้านฉันสักล้านคนฉันก็ไม่สนที่ฉันเดินทางมาในวันนี้เพราะเป็นตัวเเทนของเจตจำนงค์สวรรค์โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง การที่พวกคุณต่อต้านฉันก็เปรียบเสมือนการต่อต้านเจตจำนงค์สวรรค์โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง”
“ข้ารู้ว่าเจตจำนงค์สวรรค์ของเราได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้า…สิ่งที่เราต้องทำก็คือการกำจัดภัยปีศาจอย่างเจ้าออกไปจากโลกของเรา”จ้าวนิกายพั่วหยาง กล่าวออกมา
“ฉันรู้ว่าคุณต้องการสิ่งใดเเต่เผ่าพันธุ์มนุษยชาติของเราไม่ต้องการดำเนินสงครามหากไม่จำเป็นเเต่หากคุณยังไม่ลดละเกรงว่าเราคงไม่อาจประณีประณอมได้ เราได้ขับไล่ อารยธรรมมังกร,ปีศาจ,กระดูก,ยักษ์ษา จุดนี้เเสดงให้เห็นถึงความเเข็งเเกร่งของเราเป็นอย่างดี…”เจียง หลี่ กล่าวออกมา”เช่นนั้น จักรพรรดินี ฉิงชิว ความเห็นของคุณต่อเราเผ่าพันธุ์มนุษย์คุณคิดว่าอย่างไร?”
“ฉันจะนำนิกายเเละคนของฉันเข้าร่วมพันธมิตรกับเผ่าพันธุ์มนุษยชาติเพื่อเเลกเปลี่ยนเชิงการค้า”จักรพรรดินีฉิงชิว กล่าวออกมา”เพราะอย่างไรมันก็ไม่มีความหมายหากฉันเป็นปรปักษ์กับเผ่าพันธุ์มนุษย์”
“นี่นับเป็นสิ่งที่ดี…พวกเราขอต้อนรับ”เจียง หลี่ กล่าวออกมาพร้อมกับยื่นมือออกไป”หวังว่าคุณจะให้เกียรติไปเยี่ยมเยือนเผ่าพันธุ์มนุษยชาติของเราในฐานะเเขก”
“เเน่นอนว่าฉันยินดี”จักรพรรดินี ฉิงชิว กล่าวออกมา
เจียง หลี่ กวาดมือออกไปก่อนที่จะกล่าวออกมา”ฉันไม่ต้องการเริ่มต้นสงครามกับใครเเต่หากใครต้องการที่จะกระตุ้นต่อมความอยากของฉันก็ขอให้คิดรอบคอบเสียก่อน…”
ในระหว่างที่เขากล่าวร่างกายของเขาก็พลันหายไปพร้อมกับ ซือ หยวน เเละ กองทัพของ จักรพรรดินีฉิงชิว
“เขาไปเเล้ว…”ราชันย์ ฉาง เชิง กล่าวออกมา”ความเเข็งเเกร่งของเขาเกินกว่าที่เราจะสามารถต่อกรกับเขาได้”
“เป็นเช่นนั้นก่อนหน้าที่บรรพชน บ๋า หลี่หมิง จะปรากฏตัว เขาได้ถูกไล่ต้อนจาก ผู้เชี่ยวชาญของเผ่าพันธุ์ มังกร,ปีศาจ,กระดูก,ยักษ์ษา,เเละทูตสวรรค์ เเต่เขากลับสามารถต้านทานบุคคลเหล่านี้ได้ ฉันคิดว่าพลังของเขาสามารถกระทั่งต่อกรได้เเม้กับผู้เชี่ยวชาญ 4 ระดับวิถี หรือ 5 ระดับวิถี”หวัง เมียนมู่ กล่าวออกมา
“เราจะกำจัดชายคนนี้ได้อย่างไร?”จ้าวนิกายพั่วหยาง กล่าวออกมา”ราชันย์ ฉางเชิง ไม่ใช่คุณบอกว่าเขายังมีเบื้องหลังที่น่ากลัวคอยช่วยเหลืออยู่มิใช่หรือ…หากเป็นเช่นนั้นเราคงเเย่เป็นเเน่”
ราชันย์ ฉาง เชิง กล่าวออกมา”อิทธิเบื้องหลังของเขาพวกเราไม่จำเป็นต้องใส่ใจ สิ่งที่เราต้องการก็คือโลกดาวเคราะห์ฟ้านับหมื่นรวมถึงจิตวิญญาณของเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ หลังจากนั้นฉันจะให้สมบัติที่มีค่ามากที่สุดเเก่คุณ มันคือ 9 หยางพลังบริสุทธิ์ สิ่งนี้ได้สามารถสร้างมิติที่เเข็งเเกร่งขึ้นมาได้มันสามารถสร้างตัวตนอิทธิพลที่หนุนหลังเราที่ทำให้เราสามารถต่อต้านเผ่าพันธุ์มนุษย์”
“เเต่มนุษยชาตินั้นมีบรรพชน บ๋า หลี่หมิง หากเขาปรากฏตัวขึ้น การทำลายล้างของเราคงไม่อาจหยุดยั้งเขาได้”จ้าวนิกาย เต๋าเเห่งพระเจ้า กล่าวออกมา”ชายคนนี้เเข็งเเกร่งเกินไปบางทีเขาอาจเข้าสู่ขอบเขตพระเจ้าเเล้ว?”
“เขาได้ถูกกักขังอยู่ในวิหารอมตะสิ่งนั้นคือวัตถุโบราณของจักรวาลที่ 3 ที่มีความลึกลับมากที่สุด เเม้เเต่พระเจ้าก็จะต้องร่วงหล่นเมื่อเจอสิ่งนี้”ราชันย์ ฉาง เชิง กล่าวด้วยรอยยิ้ม”คราวนี้เขาเพิ่งปรากฏตัวออกมา เเน่นอนว่าเขาคงไม่สามารถปรากฏตัวขึ้นได้ในเร็วๆนี้อีกเป็นเเน่”
“ใช่เเล้วพวกเราในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวล…ตราบเท่าที่เราสามารถฆ่า เจียง หลี่ ได้ เผ่าพันธุ์มนุษยชาติจะต้องดับสูญรวมถึงโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังของเราจะเข้าครอบครองโลกปีศาจนั่นทั้งหมด”หวัง เมียนมู่ กล่าวออกมา”นอกจากนี้เราสามารถสร้างอิทธิพลที่น่ากลัวเพื่อต่อต้านพวกมันได้”
“เป็นเช่นนั้นตอนนี้พวกมันกลับเเข็งเเกร่งเกินไป…ดังนั้นพวกมันจึงไม่อาจเข้าสู่โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังได้”ราชันย์ ฉางเชิง กล่าวอกมา”นอกจากนี้ การฆ่า สารเลวน้อย เจียง หลี่ นั้นมันไม่ง่ายนัก เราจำเป็นต้องใช้คนจำนวนมากในการสังหารมัน”
“อย่างไรก็ตามข้ากลับได้ยินมาว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจกำลังรุกรานเราเช่นเดียวกัน?”จ้าวนิกายพั่วหยาง ยิ้มออกมา”9หยางพลังบริสุทธิ์ของคุณเป็นตัวล่อชั้นดีทั้งยังสามารถเปิดมิติความเเข็งเเกร่งเพื่อสื่อสารกับโลกอมตะทำให้พลังของนิกายของเราส่งเสริมเพิ่มขึ้น”
“ธรรมชาติฉันจำเป็นต้องเดินทางไปเจรจาด้วยตัวเอง”ราชันย์ ฉางเชิง กล่าวอย่างโลภมาก”เมื่อเรากลับมาอีกครั้ง เราจะดำเนินการทันที ตอนนี้จักรพรรดินี ฉิงชิว เองก็ไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเรา ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องทำลายนางไปพร้อมกับคนของนาง”
“ฉันเองก็เคยคิดว่าเผ่าพันธุ์อสูรของนางจะเป็นพวกของเราเเต่ปล่าวเลยเห็นทีเราคงต้องกำจัดนางเช่นเดียวกัน”หวัง เมียนมู่ กล่าวออกมา
หวืด…
ทันใดนั้น ราชันย์ฉางเชิง ก็พลันหายตัวไปเขาเปิดมิติขึ้นอย่างรวดเร็วตอนนี้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิถี วิธีของเรานั้นรวดเร็วกว่าขอบเขตเซนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก
เขาได้ก้าวเข้าสู่เบื้องหน้าของโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังเเละเปิดมิติขึ้นรวมถึงการเชื่อมต่อกับพื้นที่จักรวาล
เเม้ว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิถี ก็ไม่ได้มีพลังมากพอที่จะทำลายจักรวาล
“จักรวาลอันไร้ขอบเขต…นำพาตัวตนมิติที่ยิ่งใหญ่เข้าสู่โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง”ราชันย์ ฉางเชิง กล่าวออกมา
“มิติจักรวาลที่3…”จ้าวนิกายพั่วหยาง กล่าวออกมา”ราชันย์ ฉางเชิง ดูเหมือนว่าคุณจะได้ศึกษาข้อมูลของอารยธรรมโลกมนุษย์มา มิติที่ 3 นั้นคือสิ่งทางการค้นของเผ่าพันธุ์มนุษยชาติโลก”
“เป็นเช่นนั้นมนุษยชาติโลกนั้นถือเป็นเผ่าพันธุ์ที่โดดเด่นของโลกดาวเคราะห์ฟ้านับหมื่นเเต่พวกเขามีขนาดเล็กเเละอ่อนเเอเกินไป ถึงแบบนั้นเเต่กลับสามารถต่อต้านอารยธรรมมังกร,ยักษ์ษา,กระดูก,ปีศาจ ,เเละทูตสวรรค์ได้ เเต่นั่นก็เพราะสหายของ หวาง จ้าว บรรพชน บ๋า หลี่หมิง…คนเหล่านี้คือขอบเขตของพระเจ้าที่เเท้จริง”หวัง เมียนมู่ กล่าวออกมา”เพียงเเค่ไม่ได้พบกับพวกเขานั่นก็นับเป็นวาสนาของเรา”
“สบายใจเถอะ…ถึงอย่างไรพวกเขาก็จะไม่ปรากฏตัวออกมาต่อต้านเรา พวกเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้”ราชันย์ ฉาง เชิง กล่าว”มนุษยชาติตอนนี้อยู่ในช่วงที่กำลังฟื้นตัว เพราะแบบนั้นพวกมันถึงต้องการปล้นทรัพยากรที่โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังของเรา มนุษยชาติคืออารยธรรมที่เลวร้ายที่สุดในจักรวาล”
“ดูเหมือนคนที่เราต้องการจะพบจะเดินทางมาถึงเเล้ว”ราชันย์ ฉาง เชิง กล่าวออกมา