Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 276
วาห์นรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับลงมาตรงใบหน้า เขาก็เลยหยุดใช้มือนวดเพื่อออมมือให้เป็นการชั่วคราว
ภายในของเฮสเทียกำลังสั่นไหวอย่างหนักและกินเวลานานมากซึ่งกว่ามันจะผ่อนคลายก็ปาเข้าไปอีกหลายวินาที
เขาเกิดสงสัยขึ้นมาทันทีว่าถ้าได้ร่วมรักกัน… มันจะเป็นความรู้สึกแบบไหนกันนะ?
ถึงจะไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่วาห์นก็เดาว่ามันคงไม่ต่างอะไรกับการถูกคีมหนีบ
ในขณะนั้นเอง เขาไม่รู้เลยว่าเทพสาวอีกคนทำอะไรอยู่
โลกิยังคงรุกล้ำริมฝีปากของเฮสเทียโดยใช้มือช่วยพยุงเพื่อไม่ให้เธอหล่นลงไปข้างๆ
พอสติของเฮสเทียเริ่มกลับมาบ้างแล้ว โลกิเลยเปลี่ยนจากรุกหนักมาเป็นแบบอ่อนโยนแทน
เธอจับหัวของอีกฝ่ายให้อยู่ในท่าหันข้างขณะที่ต่างฝ่ายยังใช้ลิ้นโลมเลียกันอย่างช้าๆ และหนักหน่วง
พอสติกลับมาแบบครบถ้วนแล้ว เฮสเทียถึงรู้ว่าตัวเองและอีกสองคนทำลังทำอะไรกันอยู่
เธอผละหัวออกมาแบบเขินๆ จนโลกิต้องพูดปราม
“ใจเย็นน่า เราไม่ใช่ศัตรูกันแล้วนะ… ฉันแค่อยากให้เธอดูสึกดีเท่านั้นเอง…”
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ดึงดันต่อและเริ่มพูดเสียงดังกับวาห์นแทน
“วาห์น ฉันจะเริ่้มแล้วนะ นายก็ช่วยเฮสเทียต่อไปนั่นแหละ แต่เบาๆ หน่อยล่ะ
ผู้หญิงจะอ่อนไหวที่สุดก็ตอนเพิ่งเสร็จนี่แหละ…
(พูดกับเฮสเทีย)
เฮสเทีย ดูนี่ให้ดีๆ นะ…”
พอได้ยินแบบนั้นแล้ว วาห์นจึงเริ่มใช้ลิ้นรุกล้ำเข้าไปอย่างแผ่วเบาซึ่งสิ่งแรกที่สัมผัสได้ก็คือมันร้อนกว่าเดิมมาก
เขารู้สึกว่าโลกิกำลังปรับมุมใหม่และทำให้ภายในของเธอคับแน่นสุดๆ
วาห์นผงะไปชั่วขณะจนเผลอหายใจออกมาแรงมาก ก่อนจะสูดหายใจกลับเข้าไปและรับเอากลิ่นของเฮสเทียเข้ามาแบบเต็มๆ
ทั้งสมองและต่อมรับกลิ่นแทบจะลัดวงจรไปตามๆ กัน แต่ไม่นานมันก็กลับมาเป็นปกติ
สัมผัสจากร่างกายส่วนล่างนั้นได้ความกลับมาว่าโลกิกำลังคลายตัวออกก่อนจะบีบรัดเข้ามาอีกครั้ง
ดีที่คราวนี้วาห์นเตรียมใจไว้แล้ว เขาจึงหันไปจัดการกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน
เฮสเทียดู ‘ผ่อนคลาย’ กว่าเดิมมาก แต่วาห์นก็คิดว่าเธอยังไม่พร้อมไปสู่ขั้นต่อไปอยู่ดี
ทุกครั้งที่เกร็งหน้าท้อง โลกิก็จะใช้กล้ามเนื้อส่วนล่างทั้งหมดเพื่อกระตุ้นและหยอกเย้าอาวุธของเขาไปเรื่อยๆ
เธอรู้สึกประทับใจกับความอึดของวาห์นจริงๆ เพราะถ้าเป็นเด็กหนุ่มคนอื่น ป่านนี้เธอคงนำไปแล้ว 1 – 0
โลกิเผยสีหน้าซุกซนและหันไปพูดกับเฮสเทียต่อ
“อย่าทำฉันตกนะ…”
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เฮสเทียก็พยักหน้ารับขณะมองอีกฝ่ายถอยออกไปเล็กน้อย
โลกิเปลี่ยนไปนั่งยองๆ ราวกับกำลังจะสควอชบนเตียง จากนั้นเธอก็เริ่มขยับเอวขึ้นลงตามมุมที่รู้สึกดีที่สุด
เพราะใช้เทคนิคไปหลายอย่าง ไม่นานเสียงครางของเธอก็ดังขึ้นจนเฮสเทียรู้สึกอายแทน
บางครั้งเทพตัวเล็กจะก้มหน้าลงไปมองจุดที่อีกสองคนกำลังห้ำหั่นกันและเห็นว่าของโลกินั้นขยายกว้างกว่าที่เธอจินตนาการไว้เสียอีก ดูจากการที่อีกฝ่ายสามารถรับวาห์นเข้าไปได้แบบเต็มๆ
ถึงจะรู้ว่ามัน ‘เป็นไปได้’ แต่เฮสเทียก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่ดีจนกระทั่งได้มาเห็นกับตาตัวเองนี่แหละ
เธอไม่เคยนึกเลยว่าของผู้หญิงจะขยายออกได้กว้างขนาดนั้น แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว ถ้าเทียบกับตัวเด็กทารก ของวาห์นก็คงดูเล็กไปถนัดตาเลย (TL: ถ้าพูดออกมาก็คงมีหดกันบ้างแหละ)
วาห์นเห็นว่าเฮสเทียดูผ่อนคลายขึ้นมาก แต่การต้องแบ่งสมาธิเพื่อรับมือ ‘การโจมตี’ ของโลกิก็เป็นเรื่องที่ยากอยู่ดี
ตอนนี้เธอพบมุมที่ทำให้ปลายอาวุธครูดไปกับผนังภายในซึ่งสร้างความเสียวซ่านให้กับเขาเป็นอย่างมาก
พอวาห์นได้สัมผัสกับจุดที่ด้านและขรุขระหน่อยๆ โลกิก็จะบิดและลดเอวลงเพื่อขยี้ซ้ำเข้าไปอีก
ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น วาห์นจะต้องทนรับแรงสั่นสะเทือนและแรงบีบมหาศาล ตามมาด้วยเสียงครวญครางที่ดังไพเราะเสนาะหู
ผ่านไปอีกประมาณ 10 นาที เฮสเทียก็เริ่มเกร็งอีกครั้งและพยายามก้มหัวลงเพื่อเก็บกดอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
ดีที่เฮสเทียยังไม่ลืมเรื่องที่โลกิบอกและคอยจับตัวเธอไว้ไม่ให้หงายหลังลงไป
โลกิยิ้ม ‘ขอบคุณ’ อีกฝ่ายแบบเหนื่อยๆ พร้อมกับพูดขึ้น
“นี่นาย… ล้อฉันเล่น… ใช่ไหม… วาห์นนนน~!?”
โลกิเองก็อึดไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกัน ทว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นั้นคือการใช้จุดอ่อนไหวของตัวเองเพื่อบดขยี้ให้วาห์นพ่ายแพ้
ความหงุดหงิดพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะเธอนั้นเสร็จแบบนิดๆ ไปหลายรอบแล้ว แต่อีกฝ่ายยังคงไปต่อได้โดยที่มีอาการกระตุกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
วาห์นหยุดสิ่งที่ทำอยู่เพื่อตอบเธอ นั่นทำให้เฮสเทียเป็นฝ่ายโวยขึ้นมาแทน
“ไม่นะ… ตาบ้า… หยุดทำไมกัน…”
เพราะเธอนั้นใกล้จะเสร็จอยู่แล้ว มาเบรกกันแบบนี้ก็เลยรู้สึกทรมานใช่เล่น
เฮสเทียเกิดนึกเองเออเองว่าวาห์นคงอยากแกล้งพวกเธอไปพร้อมๆ กัน เพราะขนาดเธอเองยังไม่เคยเห็นโลกิในสภาพนี้มาก่อนเลย
วาห์นผงะเล็กน้อยก่อนจะคว้าเอวของเฮสเทียและเริ่มออกตัว(ลิ้น)อีกครั้งโดยเน้นหนักตรง 3 จุดที่เขารู้แล้วว่าเป็น ‘พื้นที่อ่อนไหว’ ของเธอ
โลกิเห็นว่าเฮสเทียนั้นไปต่อไม่ไหวแล้ว เธอจึงโน้มตัวมาใกล้ๆ และพูดให้วาห์นได้ยิน
“วาห์น… ช่วยฉันหน่อยสิ… กระแทกเข้ามาแรงๆ เลย…”
จากนั้นก็ต่อด้วยเสียงกระซิบที่วาห์นไม่ได้ยิน
“เฮสเทีย… เรา…. ขึ้นไปด้วยกันนะ…”
ตอนแรกเฮสเทียก็ตกใจอยู่เหมือนกันเพราะนึกว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาจูบอีกรอบ
แต่พอวาห์นเริ่มขยับตัวตามคำขอ โลกิก็เข้ามาหนุนอกของเธอขณะทิ้งตัวลงไปเล็กน้อย
เฮสเทียเริ่มตกใจครั้งใหญ่เพราะความรู้สึกที่ได้มันต่างไปจากเดิมมาก
ทุกครั้งที่เขาขยับ เสียงของโลกิก็จะดังแว่วขึ้นมาจากด้านล่าง
ตอนนี้เฮสเทียทำได้แค่จับไหล่ของโลกิให้แน่นๆ และรอรับการโจมตีครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
ทว่าสิ่งที่คว้าได้กลับเป็นมือของอีกฝ่าย ตามมาด้วยเสียงกระซิบเบาๆ
“ขึ้นไปด้วยกันนะ…”
วาห์นกระแทกขึ้นมาอีกครั้งจนริมฝีปากของทั้งสองแนบติดกันครู่หนึ่ง
เฮสเทียนั้นไปต่อไม่ไหวแล้ว ส่วนใบหน้าของโลกิเองก็บ่งบอกสภาพที่ไม่ต่างกัน
ถึงจะได้รับการกระตุ้นคนละอย่าง แต่ทั้งคู่ก็สื่อถึงกันได้เพราะมีตัวกลางเดียวกัน… แม้ว่าเธออยากจะโฟกัสไปที่ตัวเองกับวาห์นก็เถอะ
วาห์นจู่โจมโลกิอย่างต่อเนื่องจนเธอต้องโน้มหน้าเข้ามาจูบเฮสเทียแบบสั้นๆ ด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม
ครั้งนี้เฮสเทียเริ่มจูบตอบกลับไปบ้าง ก่อนจะถอยออกเพื่อรอรับการเล้าโลมจากวาห์น
โลกิใช้ลิ้นเลียตรงริมฝีปากของตัวเองโดยจ้องประสานกับดวงตาสีฟ้าแบบไม่กระพริบ
เฮสเทียกลืนน้ำลายและสัมผัสได้ว่าวาห์นนั้นไม่ทำให้เธอผิดหวังจริงๆ
เมื่อการกระแทกครั้งต่อไปมาถึง โลกิก็ขยับเข้ามาประทับริมฝีปากอีกครั้ง
ครั้งนี้เฮสเทียรู้สึกลังเลน้อยลง ทั้งๆ ที่หัวใจกลับเต้นเร็วขึ้นจนแทบระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
การจับมือเฉยๆ ถูกเปลี่ยนไปเป็นการสวมกอดกัน
การจูบแบบผ่านๆ ถูกเปลี่ยนไปเป็นการจูบแบบดูดดื่มและเร่าร้อน
เฮสเทียหลับตาขณะลืมทุกอย่างไปชั่วขณะ ลืมว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ลืมว่าเคยทะเลาะกันมานานแค่ไหน…
จากด้านล่าง จู่ๆ วาห์นก็สัมผัสได้ว่าร่างของโลกินั้นดูมั่นคงขึ้นมาก เขาจึงกดเท้าลงกับเตียงและกระแทกเร็วขึ้น รุนแรงขึ้น เพราะตอนนี้เขาเองก็ใกล้จะถึงจุดสุดยอดเต็มทีแล้ว
ภายในของโลกิเริ่มบิดไปมามากกว่าครั้งไหนๆ เขาเลยรู้ว่าเที่ยวนี้ทุกคนคงจะได้ขึ้นไปเที่ยวพร้อมกัน
เมื่อจังหวะนั้นมาถึง วาห์นจึงต้องเกร็งสุดชีวิตเพื่อรอจนกว่าร่างกายของโลกิจะบีบอัดลงมาเป็นครั้งสุดท้าย
ทันใดนั้น เขาก็ปลดปล่อยทุกอย่างออกมาพร้อมกับใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เพื่อกระตุ้นเฮสเทียอีกต่อหนึ่ง
ในจังหวะที่ความหฤหรรษ์พุ่งผ่านร่างกายออกไป วาห์นก็รู้สึกได้ถึงหยาดน้ำบนใบหน้าขณะที่เทพสาวทั้งสองกำลังเข้าสู่โลกส่วนตัวแบบเงียบๆ
วาห์นพยายามยกเอวขึ้นอีก 2-3 ครั้งขณะที่ของเหลวร้อนๆ เริ่มไหลออกมาจากจุดที่เชื่อมต่อกับโลกิ
ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ถอนหายใจในขณะที่สองสาวด้านบนยังคงช่วยพยุงร่างของกันและกัน
ขณะเฝ้ารอให้พวกเธอสงบลง วาห์นก็รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งทำบางอย่างที่สุดยอดมากสำเร็จไปหมาดๆ
ผ่านไปอีกประมาณ 1 นาที เขาถึงได้รู้ว่าทั้งสองกำลังอะไรบางอย่างกันอยู่
ถึงจะยากสักหน่อย แต่สุดท้ายวาห์นก็มองลอดเนื้อหนังมังสาต่างๆ ขึ้นมาจนเห็นภาพที่ทั้งสองกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม
สมองหยุดทำงานไปชั่วขณะจนกระทั่งนึกถึงสิ่งที่โลกิพูด
เขาไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ แต่โลกิน่าจะเป็นฝ่ายเปิดก่อน ตามมาด้วยการคล้อยตามของเฮสเทีย สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นบรรยากาศตามภาพที่เห็น
วาห์นรู้สึกเหงาชอบกลและทำตัวไม่ถูกจนต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง
“เอ่อ…”
แต่ก่อนจะได้พูดอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เฮสเทียก็ตื่นจากภวังค์และลงมานั่งทับหน้าของเขาแทน
“ฮือออออ นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย~!?”
โลกิส่ายหัวอย่างจริงจังขณะตอบกลับ
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันแค่จะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น อย่าคิดเล็กคิดน้อยเลยน่า… เอาเวลาไปเตรียมตัวเตรียมใจต่อดีกว่า
หรือว่าอยากนั่งทับจนวาห์นขาดใจตายไปเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องทำต่อแล้ว~?”
เฮสเทียมองตามนิ้วที่โลกิชี้ออกมาจนเห็นว่าเธอกำลังอุดปากของวาห์นด้วยปากล่างของตัวเองอยู่
เธอถึงกับช็อคไปชั่วขณะก่อนจะรีบลุกออกมานั่งด้านข้างแทน
“วาห์น ฉันขอโทษ นายอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปน้าาาา~!”
ที่จริงวาห์นสามารถกลั้นหายใจได้นานหลายนาที เรื่องแค่นี้จึงถือว่าเล็กน้อยมาก
ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเฮสเทียเล่นเอาทั้งวาห์นและโลกิหลุดขำไปตามๆ กัน
ผ่านไปอีกสักพักนั่นแหละ เฮสเทียถึงรู้ว่ากำลังโดนอีกสองคนหัวเราะเยาะอยู่
โลกิเป็นคนแรกที่หยุดขำก่อน และหันมาสูดหายใจลึกๆ เพื่อเกร็งร่างกายส่วนล่างอีกครั้ง
นั่นทำให้วาห์นหยุดชะงักทันทีและส่งผลให้ตัวการแสยะยิ้มแบบสะใจ
เพราะโดนความอึดของวาห์นเล่นงานซะอ่วมเลย นี่จึงถือเป็นการเอาคืนเล็กๆ น้อยๆ ตามแบบฉบับของเธอ
โลกิค่อยๆ ยกเอวขึ้นโดยไม่ผ่อนคลายร่างกาย เรื่องง่ายๆ จึงกลายเป็นเรื่องที่ยากเกินความจำเป็น
ทันทีที่ออกมาได้สำเร็จ ทั้งสามก็ได้ยินเสียง ‘ป๊อบ’ ดังขึ้นพร้อมกับที่โลกิเอนตัวลงกับเตียงด้านหลังและถอนหายใจอย่างมีความสุข
“วาห์น นายนี่มันแน่นอนจริงๆ…”
วาห์นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกิจะสื่ออะไร ตอนนี้เขาเลยเปลี่ยนมาจ้องเธอบ้าง
โลกิไม่คิดจะหุบแข้งหุบขาเลยด้วยซ้ำ เขาจึงเห็นของเหลวที่ไหลออกมาจากกลีบดอกไม้สีชมพูกุหลาบได้อย่างชัดเจน
เธอลืมดวงตาสีแดงขึ้นมาจ้องตอบจนวาห์นเผลอหลุดพูดออกไปคำหนี่ง
“งดงามจริงๆ…”
เรือนรางผอมบางไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของโลกิลดต่ำลงเลย แถมเธอเพิ่งจะร่วมรักกับเขามาหมาดๆ นั่นทำให้วาห์นรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นหญิงสาวในสภาพเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยังดูเย้ายวน
โลกิยกแขนขึ้นมาบังตาและพูดเนือยๆ
“อือๆ รู้แล้วว่านายมันปากหวาน
นายรีบจัดการกับเฮสเทียก่อนที่เธอจะสงบลงมากไปกว่านี้เถอะ…”
หัวใจอันสั่นไหวทำให้โลกิแสดงท่าทางแบบนี้ออกมา เพราะจู่ๆ ความกลัวว่าตัวเองจะ ‘ฮุบไว้กินคนเดียว’ ก็ดันโผล่มาจากไหนไม่รู้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาหยอดคำหวานใส่ แต่คำพูดย่อมมีหมายมากกว่าเมื่อมันมาจากคนที่ดูซื่อจนเกินเหตุอย่างวาห์น
วาห์นจ้องมองเรือนร่างของอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเริ่มหันไปสนใจเฮสเทียที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเวลาของตัวเองได้มาถึงแล้ว
ออร่าที่ดูนิ่งเสถียรได้หายไปนานแล้ว ตอนนี้กลับเหลือแค่ไฟอันยุ่งเหยิงกองเล็กๆ เท่านั้นเอง
“เฮสเทีย เธอพร้อมแล้วใช่ไหม?” วาห์นถามอย่างอ่อนโยน
เฮสเทียสูดหายใจหลายครั้งและจ้องตอบด้วยดวงตาอันเปียกชื้น แต่เธอก็ไม่ได้พูดตอบอะไร
วาห์นรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่จู่ๆ เธอก็แสดงความไม่มั่นใจออกมา
ถึงจะจำคำพูดที่ว่า ‘คืนนี้ต้องสานต่อจนจบ’ ของเฮสเทียได้ แต่สภาพของเธอในตอนนี้นั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกมั่นใจขึ้นเลย
ทันใดนั้นเอง เสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นจากทางด้านซ้ายก่อนที่โลกิจะลุกขึ้นมา ‘จ้อง’ เขาพร้อมกับคลานเข้าไปหาเฮสเทีย
ขณะที่เทพตัวเล็กยังรู้สึกงงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น โลกิก็ผลักร่างของเฮสเทียและลงไปคร่อมทับอยู่ด้านบน
เนื่องจากทั้งคู่สูงต่างกันเกือบหนึ่งไม้บรรทัด การทำแบบนั้นจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ สำหรับคนที่ตัวสูงกว่า
เธอซ้อนขาของตัวเองไว้ใต้ขาเฮสเทีย ก่อนจะยกเข่าขึ้นและตรึงร่างเอาไว้แบบแนบชิด
เฮสเทียพยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่สุดท้ายเธอก็โดนสยบด้วยรสจูบอันเร่าร้อนภายใต้สายตาตกตะลึงของวาห์น
ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือกลีบดอกไม้งามที่ซ้อนทับกันอยู่ โดยที่ดอกบนนั้นเริ่มมี ‘น้ำเกสร’ ไหลออกมาเลอะดอกล่างเป็นทาง
นับเป็นภาพที่อันตรายมาก แต่สิ่งที่ทำให้วาห์นรู้สึกสับสนสุดๆ ก็คือโลกิไม่มีการบอกกล่าวอะไรกันก่อนเลย
เขามองเห็นออร่าอันยุ่งเหยิงของเฮสเทียและกำลังจะเข้ามาปราม แต่เจ้าออร่านั่นก็ดันสงบลงและทำให้เขาค้างอยู่ในท่ายกมือห้าม
ผ่านไปอีกชั่วอึดใจ โลกิก็ถอนปากออกและเริ่มมองข้ามไหล่มาพูดด้วย
“นี่นายจะปล่อยให้เธอรออีกนานแค่ไหน…?
(หันไปกระซิบกับเฮสเทีย)
กลัวใช่ไหม? ฉันเข้าใจดี… นี่เป็นคืนที่สำคัญมากสำหรับเธอ… แต่วาห์นน่ะสุภาพเกินไป
ถ้าเธอยังกลัวอยู่แบบนี้ เขาก็คงไม่กล้าทำต่อหรอก เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง… อย่ากลัวเลยนะ เฮสเทีย…”
เฮสเทียยังมีสีหน้าหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่คำพูดของโลกิก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากขึ้น
เธอรู้ว่าบรรยากาศน่าอึดอัดนี่เป็นฝีมือของตัวเอง แต่ความหงุดหงิดนี่มันอะไรกัน? เพราะวาห์นไม่ยอมสานต่อให้จบตามที่เขาให้สัญญาไว้งั้นเหรอ?
ต่อให้รู้สึกตื่นเต้นมากแค่ไหน แต่เยื่อบางๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่เฮสเทียปกปักษ์รักษามานานหลายล้านปี
การทิ้งมันไปนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก ต่อให้อีกฝ่ายเป็นเด็กหนุ่มที่เธอรักก็ตาม
ทันใดนั้นวาห์นก็รู้สึกละอายใจเมื่อเห็นแววตาของโลกิและเริ่มขยับตัวเข้ามาประจำที่ในขณะที่อีกฝ่ายหันหน้ากลับไปจูบเฮสเทียต่อ
ทั้งสองสาวนอนอยู่ในแนวเดียวกัน วาห์นจึงมองไม่เห็นใบหน้าของเฮสเทียที่ถูกโลกิบดบังอยู่ สิ่งเดียวที่เขารู้ในตอนนี้ก็คือ ‘จะผิดพลาดอีกไม่ได้แล้ว’
คำกล่าวของโลกิว่าด้วยเรื่อง ‘อย่าไปเชื่อออร่ามาก’ จู่ๆ ก็ลอยขึ้นมาในหัวทันที
วาห์นพยายามเล็งอาวุธโดยใช้สมาธิได้เพียงครึ่งเดียว เนื่องจากภาพ ‘ดอกไม้ซ้อนทับกัน’ มันออกจะตราตรึงใจไปสักหน่อย
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และใช้มือที่ว่างเกลี่ยให้ดอกล่างขยายออกเล็กน้อย
ออร่าของอีกฝ่ายดูใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องแบบนั้นแล้ว
เขาตั้งใจแนวแน่ขณะเคลื่อนเอวไปข้างหน้าและพบเข้ากับปากทางเข้าอันแน่นหนาของเฮสเทีย
วาห์นไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับมันเร็วขนาดนี้ แต่เขาก็พุ่งผ่านมันไปก่อนจะเจอเข้ากับกำแพงชั้นในทั้งๆ ที่เคลื่อนตัวเข้ามาเพียง 10 ซม. เท่านั้นเอง
เสียงกรีดร้องของเฮเทียเป็นสัญญาณเตือนให้โลกิผลักตัวออกไปด้านข้าง เพื่อที่อีกสองคนจะได้เห็นหน้ากัน
และทันทีที่เป็นแบบนั้น เฮสเทียก็ร้องเสียงดัง
“วาห์น! กอดฉันไว้ที มันเจ็บมากเลย!!”
เฮสเทียมีน้ำตาคลอเบ้า ส่วนออร่าของเธอก็ดูปั่นป่วนมากกว่าครั้งไหนๆ
วาห์นโน้มตัวลงไปกอดเฮสเทียไว้แทบจะทันที ส่วนอีกฝ่ายก็เอาแต่สะอื้นไม่หยุด
“ฮือออ… เจ็บ… เจ็บที่สุดเลย…”
วาห์นรู้สึกแย่มาก ถึงนี่จะไม่ได้เป็นการทำร้ายโดยตรงก็เถอะ
เขาเริ่มลูบหลังหัวของเธอพร้อมกับพูดจาปลอบโยน
“ไม่เป็นไรแล้วนะเฮสเทีย… ฉันอยู่นี่แล้ว… ฉันรักเธอนะ… ไม่เป็นไรแล้ว…”
โลกินอนไขว่ห้างจากด้านข้างพลางพยักหน้าก่อนจะเริ่มใช้สมองประมวลผล เธอพึมพำเสียงเบาๆ มากจนอีกสองคนไม่ได้ยิน
“ต้องหาคนสอนดีๆ แล้วล่ะ… แต่ใคร… สึบากิดีไหมนะ?”
ขณะที่ยังคิดต่อเรื่อยๆ โลกิก็ตัดสินใจงีบพักชั่วคราวเพราะรู้สึกล้าเต็มทีแล้ว
เธอคิดว่ากว่าอีกสองคนจะเสร็จกิจกันก็คงอีกนาน
ใครจะอยู่ดูเป็น ‘กขค’ ก็เอาเถอะ แต่เธอคนนึงล่ะที่ไม่ขอเอาด้วย…