Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 10
เมื่อ ‘น้ำยาเสริมแกร่งร่างกาย’ หมดฤทธิ์ลง วาห์นก็อยากรู้ว่าร่างกายของเขาเติบโตไปมากแค่ไหนภายในเวลาสิบวันที่ผ่านมา
‘หน้าต่างสถานะ’
ชื่อ: วาห์น เมสัน
อายุ: 14
เผ่าพันธุ์: มนุษย์, *ถูกผนึก*
ค่าสถานะ: ดันมาจิ
-เลเวล:1(0)
-พละกำลัง: I-40(0) -> H-146(0)
-ความอดทน: I-70(0) -> G-203(0)
-ความแม่นยำ: I-23(0) -> I-95(0)
-ความว่องไว: I-38(0) -> H-153(0)
-พลังเวท: H-120(0) -> H-130(0)
-ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ดวงวิญญาณระดับ 1 (วิญญาณมนุษย์)
กรรม:108
แม้เวลาจะผ่านไปเพียงยี่สิบวันนับตั้งแต่ที่เขามาถึงโลกใบนี้ วาห์นก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้นไปมากกว่า 100 แต้มยกเว้นแต่เพียงค่าพลังเวทเท่านั้น การฝึกฝนอย่างหนักของเขาทำให้สรรพคุณของ ‘น้ำยาเสริมแกร่งร่างกาย’ ส่งผลออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ค่าพารามิเตอร์ทางกายภาพเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก การฝึกวิ่งและยกน้ำหนักทุกวันของเขาก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน
ตอนนี้วาห์นก็พร้อมที่จะฝึกขั้นต่อไปแล้ว เขาแทนที่เมนูการฝึกช่วงเช้าด้วยการล่าสัตว์ เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ที่เขามาที่โลกใบนี้ การประทังชีวิตด้วยถั่วและผลไม้นั้นไม่พออีกต่อไป ตั้งแต่ตอนที่เขาได้รับหินก่อไฟมา เขาก็หมายมั่นที่จะออกล่าสัตว์ขนาดเล็ก นอกจากนี้เขายังคิดว่ามันเป็นวิธีที่ดีในการหาเงินก่อนที่จะเข้าเมืองเพราะเขาสามารถนำขนสัตว์ที่ทำความสะอาดแล้วไปแลกเปลี่ยนได้
ตอนนี้เขามีแต้ม OP อยู่ทั้งหมด 29 แต้มซึ่งใช้ไป 10 แต้มเพื่อแลกเปลี่ยนกับคู่มือในการสร้างกับดักขั้นพื้นฐาน ใช้อีก 9 แต้มเพื่อซื้อกับดักและขดลวดขนาดเล็กจำนวนมากเพื่อนำไปติดตั้งบนทางสัตว์เดินที่เรียงรายอยู่มากมายในป่า จากนั้นเขาก็แลกเปลี่ยนแต้มที่เหลือเพื่อซื้อธนูคันใหม่
‘ธนูสั้นไม้ยูที่อาบแสงอาทิตย์’
ระดับ: (C)
ช่อง: 1
พลังโจมตี: 60+150(x30)
พลังโจมตีเวท: 0
ธนูขนาดเล็กทำจากไม้ยูที่มีความยืดหยุ่น มันได้ผ่านพิธีกรรมพิเศษในระหว่างที่ถูกทำขึ้นซึ่งทำให้สามารถปล่อยความอบอุ่นที่อ่อนโยนและกลิ่นไอที่คล้ายกับแสงแดดออกมาได้
‘ลูกศรเหล็กกล้า’ x30 อันดับ: (D)
ช่อง: 0
พลังโจมตี: 150
พลังโจมตีเวท: 0
หัวลูกศรถูกหลอมจากเหล็กกล้าและนำไปติดกับก้านไม้ยูซึ่งทำให้มีทั้งความยืดหยุ่นและพลังทำลายแบบทะลุทะลวง
วาห์นรู้สึกซาบซึ้งมากที่การซื้อคันธนูยังแถมลูกศรมาอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ซื้อมาแล้ว เขาคิดว่าคงต้องรวบรวมแร่ให้มากขึ้นก่อนที่เขาจะใช้มันได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับลูกธนูนี้ก็คือเขาสามารถใส่มันเข้าไปในช่องอุปกรณ์สวมใส่ทำให้เขาสามารถขึ้นลูกได้แทบจะทันที
ตอนนี้มีพร้อมทั้งสกิลและอุปกรณ์ที่เพิ่งซื้อมา วาห์นจึงออกเดินทางเข้าไปยังป่ารอบๆ บ้านของเขา เขาพยายามทำให้แน่ใจว่ากับดักทั้งหมดอยู่ในระยะ 200 เมตรจากที่มั่น เขาจะได้สามารถไปตรวจสอบพวกมันได้ตลอดทั้งวัน
ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ ดวงอาทิตย์เพิ่งจะเริ่มขึ้นจากขอบฟ้าเท่านั้น วาห์นเดินย่องผ่านป่าอย่างไม่รีบร้อน เขากำลังมองหาบริเวณที่ดูเหมือนสัตว์จะใช้สัญจรไปมาบ่อยๆ เขาไม่คุ้นเคยกับการล่าสัตว์นัก แต่ด้วยความช่วยเหลือของพี่สาว เขาจึงสามารถระบุตำแหน่งที่ดีที่สุดได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ความสามารถในการวิเคราะห์ของ ‘เดอะพาธ’ ส่วนที่ดีที่สุดก็คือเขาสามารถทำเครื่องหมายอย่างชัดเจนว่าเขาวางกับดักไว้ตรงไหนจากแผนที่ย่อของเขา
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เมื่อหมอกในช่วงเช้าเริ่มจางลง วาห์นก็พบเป้าหมายแรกที่ประมาณ 30 เมตรจากตำแหน่งที่เขาอยู่ ใกล้ๆ กับพื้นที่โล่ง มีกระต่ายกำลังแทะพืชที่วาห์นเคยระบุว่ามันคือต้น ‘อัลฟัลฟา’
เขาค่อยๆ ย่องเข้าไปหากระต่ายขณะที่กลั้นหายใจและพยายามปกปิดสัมผัสของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเข้าไปใกล้ตำแหน่งของกระต่ายมากขึ้น เขารู้สึกราวกับว่าตนเองเริ่มที่จะกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบตัวและแม้แต่กระบวนความคิดก็เริ่มจางหายไปกลายเป็นหนึ่งเดียวกับป่า
ภายใต้สภาวะที่แปลกประหลาดนี้ วาห์นสามารถเข้าใกล้กระต่ายภายในระยะ 10 เมตรได้โดยที่มันยังไม่รู้ตัว อย่างช้าๆ… เขานำธนูออกมาและขึ้นลูกด้วยความคิดเรียบง่าย เขาเล็งไปที่กระต่ายและกลั้นหายใจ ลับสมาธิของตนเองให้เฉียบคมที่สุด เขาง้างธนูด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวและปล่อยมันออกไป
*ฟิ้ว~*
กระต่ายสะดุ้งจากการถูกขัดจังหวะและรีบกระโดดหนีเข้าพุ่มไม้ทันที
“ให้ตายสิ ใกล้ขนาดนี้ยังจะพลาดอีกเหรอเรา” วาห์นอุทานในขณะที่ลงไปนั่งกับพื้นด้วยความรู้สึกพ่ายแพ้
(*แน่นอนวาห์น ไม่เพียงแต่เธอยังไม่เคยยิงธนูมาก่อน แต่เธอยังขาดการฝึกฝนและสกิลเพื่อช่วยให้สามารถยิงเป้าหมายขนาดเล็กในระยะไกลได้อย่างแม่นยำอีกด้วย เธอควรคิดตั้งเป้าฝึกซ้อมไว้ใกล้บ้านเพื่อฝึกปรือฝีมือก่อนนะ นอกจากนี้เธอยังมีตัวเลือกที่จะซื้อคู่มือเทคนิคการล่าสัตว์เมื่อเธอได้ OP มาเพิ่ม*)
เมื่อได้ยินสิ่งที่พี่สาวเตือน วาห์นก็ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากเห็นด้วยว่าเขารีบร้อนเกินไป หลังจากใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีในการตามหาลูกธนูที่ยิงพลาด วาห์นกลับไปที่แคมป์ของเขาและเพิ่มการฝึกยิงธนูลงไปในเมนูฝึกฝนช่วงกลางวัน
ในบ่ายวันเดียวกันนั้นเอง วาห์นก็เดินทางกลับเข้าไปในป่าเพื่อตรวจสอบว่ามีสัตว์มาติดกับดักหรือไม่ ตามที่เขาได้ทำเครื่องหมายไว้ในแผนที่ก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องง่ายมากที่จะกลับไปยังตำแหน่งดังกล่าว เหยื่อล่อบนกับดักสามอันแรกนั้นหายไป วาห์นจึงต้องไปตั้งมันใหม่ เป็นไปได้ว่าสัตว์ที่มาติดกับนั้นมีขนาดใหญ่กว่าที่กับดักจะหยุดมันได้ อีกกรณีก็คือมันสามารถเคลื่อนที่ผ่านกับดักไปได้แบบสบายๆ
ขณะที่เขากำลังเดินไปตรวจกับดักที่เหลือ วาห์นก็หยุดเดินเพราะได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากทิศที่เขาวางกับดักไว้ เขาเริ่มเดินอย่างช้าๆ ไปที่กับดักพร้อมกับเฝ้าลุ้นในสิ่งที่เขาจับได้ครั้งแรก อีกครั้งที่เขาเริ่มรู้สึกราวกับว่าร่างกายกำลังกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม และเขาก็สามารถเข้าไปที่จุดหมายได้อย่างง่ายดายโดยไม่กระโตกกระตาก ในที่สุดเขาก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่มาติดกับดักนั้นคืออะไร…
มันสูงราวๆ หนึ่งเมตรและขาข้างหนึ่งยังติดอยู่ในกับดัก ก็อบลินนั่นเอง! ขดลวดที่ใช้ในกับดักนั้นฝังลึกเข้าไปในเนื้อหนังรอบข้อเท้าของมันและดูเหมือนเจ้าก็อบลินจะขาดสติปัญญาที่จำเป็นในการแก้กับดัก
วาห์นรู้สึกว่าชีพจรของเขาเต้นเร็วขึ้นขณะที่ความทรงจำจากการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างเขากับก็อบลินก็ย้อนกลับเข้ามาในจิตใจอีกครั้ง เขารู้สึกถึงอันตรายของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ แม้ว่ามันจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุดในทวีปก็ตาม โชคยังดีที่ก็อบลินตัวนี้ไม่มีมีดแบบตัวก่อนหน้า ไม่งั้นมันคงตัดลวดและหลบหนีไปแล้ว
เขาถอนหายใจเบาๆ และขยับเข้าไปใกล้ก็อบลินซึ่งดูเหมือนมันจะรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่นั่นพร้อมกับจ้องมาที่ทิศทางที่เขาอยู่
เจ้าก็อบลินเริ่มอาละวาดโดยไม่สนใจเรื่องขาที่ยังติดกับดักและพยายามพุ่งเข้าใส่วาห์น ตัวกับดักยิ่งรัดแน่นกว่าเดิมและดึงเจ้าก็อบลินกลับไป มันเริ่มต่อสู้ดิ้นรนและพยายามยืนขึ้นแต่ก็ล้มลงซ้ำไปซ้ำมาในขณะที่พยายามพุ่งเข้าหาวาห์นด้วยสายตามุ่งร้าย
วาห์นเดินเข้ามาใกล้ก็อบลินในระยะไม่กี่เมตร ใกล้กับระยะที่มันจะถูกกับดักดึงกลับ เขาค่อยๆ เอาคันธนูออกมาขึ้นลูกและเล็งตรงไปที่หัวของก็อบลิน
บางทีมันอาจจะรู้ตัวว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าก็อบลินจึงหยุดดิ้นรนและเงยหน้าขึ้นมามองเขา ความเกลียดชังที่แสนอาฆาตก็ผุดขึ้นในดวงตาของมัน
เขาปล่อยลูกศรออกไป มันพุ่งไปที่ระหว่างดวงตาที่จ้องมองเขาอย่างนิ่งๆ และร่างของเจ้าก็อบลินก็กลายเป็นละอองฝุ่นพร้อมกับทิ้งคริสตัลเม็ดเล็กๆ เอาไว้
วาห์นถอนหายใจพลางหยิบเม็ดคริสตัลขึ้นมา การเผชิญหน้ากับก็อบลินตัวนี้แตกต่างไปจากการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายในครั้งก่อนมาก เขาควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมดและแม้ว่าเจ้าก็อบลินจะติดกับดักอยู่ วาห์นก็สามารถเอาชนะความกลัวที่อยู่ในจิตใจของตนและเผชิญหน้ากับมันได้โดยตรง
เมื่อมองเข้าไปในป่าอันเงียบเชียบ ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า วาห์นก็ได้เพิ่มเป้าหมายใหม่ลงในเมนูฝึกฝนของเขา นอกเหนือจากการล่าสัตว์ เขาจะเริ่มปราบมอนสเตอร์ต่างๆ ที่พบภายในป่า เขาต้องการให้ตัวเองแข็งแกร่งมากพอที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันได้โดยไม่ต้องพึ่งกับดัก เขารู้ดีว่ามันเป็นขั้นตอนที่จำเป็นหากเขาอยากประสบความสำเร็จในดันเจี้ยน วาห์นเริ่มเดินไปยังกับดักชุดต่อไป… และไปยังอนาคตที่เขาได้ตัดสินใจเอาไว้…
—————