CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 287

  1. Home
  2. Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล
  3. ตอนที่ 287
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

วาห์นตื่นขึ้นมาในมิติว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยความมืดมิด

เขาตกใจอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนจะนึกออกว่าเคยเจอกับอะไรแบบนี้มาก่อนแล้ว

หลังจากได้สติ พลังเขตแดนก็ถูกกางออกไปรอบๆ ทันที

เปลวเพลิงสีฟ้า สีทอง และสีแดงเริ่มกระจายออกไปทั่วบริเวณ

เมื่อมันหยุดลง ดวงตาหลายคู่ก็ปรากฏขึ้น ตามมาด้วยรูปร่างที่ดูคล้ายกับ [ร่างจตุรเทพ] ทั้งสี่

ตัวที่อยู่ตรงหน้าวาห์นพอดีก็คือเจ้าพยัคฆ์ขาวที่กำลังยืนอย่างองอาจ ทว่าสิ่งที่ต่างไปจากเดิมก็คืออักษรรูนแปลกๆ ที่ติดอยู่ตามร่างกายของมัน

วาห์นพอสัมผัสได้ว่าพยัคฆ์ขาวกำลังอยู่ในช่วงวิวัฒนาการซึ่งมันจะเป็นประโยชนิอย่างมากสำหรับตัวเขาในอนาคต

เขาค่อยๆ ยื่นมือออกไปลูบศีรษะของมันเพื่อแสดงความขอบคุณ

พยัคฆ์ขาวคือร่างแปลงที่สำคัญมาก เรียกได้ว่ามันคือหัวใจหลักของสไตล์การต่อสู้ที่วาห์นใช้มาพักใหญ่ๆ แล้ว

เจ้าเสือยักษ์ขนาด 10 เมตรค่อยๆ ล้มตัวลงนอนไปกับความว่างเปล่าพร้อมกับส่งเสียงครางที่ทำให้อากาศรอบๆ สั่นไหว

ดวงตาสีน้ำเงินนั่นบ่งบอกว่ามันกำลังมีความสุขมาก

ครู่ต่อมา วาห์นก็เริ่มหันไปสนใจเหล่าสหายสามตัวที่เหลือ แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ประกาศนามของพวกมันอย่างเป็นทางการก็ตาม

เขารู้ว่าเรื่องการตั้งชื่อน่าจะผูกกับปัจจัยต่างๆ ในโลกจริงด้วย จะฝืนทำอะไรลงไปไม่ได้เด็ดขาด

มังกรฟ้าแห่งทิศตะวันออกนั้นกำลังมองเขาราวกับเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ส่วนนกไฟแห่งทิศใต้กลับใช้สายตาที่ออกแนว ‘เร่าร้อน’ หน่อยๆ

พอหันไปหาเจ้าเต่าดำแห่งทิศเหนือ… มันไม่ได้ส่งสายตาคิดถึงหรือหลงใหล แต่เป็นสายตาแห่งความภาคภูมิ

การจ้องมันแบบชัดๆ ทำให้วาห์นพบว่ายังมีดวงตาสีทองอีกคู่ที่เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน

ร่างของงูสีทองที่ขดอยู่กับกระดองของเต่าดำปรากฏขึ้นราวกับรู้ว่าวาห์นสัมผัสถึงมันได้แล้ว

วาห์นลอยเข้าไปใกล้อีกจนทำให้พวกมันทั้งสองต้องก้มหัวลงต่ำ

ในช่วงที่กำลังต่อสู้กับทีโอเน่อย่างดุเดือดอยู่นั้น จู่ๆ ระบบก็แจ้งเตือนว่าร่างเต่าดำได้ตื่นขึ้นแบบ 100% แล้ว

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้วาห์นเสียเวลาไปประมาณเสี้ยววินาที ผลที่ตามมาน่ะเหรอ? ก็โดนถีบจนหน้ายุบไงล่ะ

ตอนที่บอกทุกคนว่าทีโอเน่ไม่ใช่คนผิด วาห์นน่ะหมายความแบบนั้นจริงๆ… แต่จะให้อธิบายเรื่องระบบก็ไม่ได้อีก นับเป็นช่วงที่เขารู้สึกลำบากใจมาก

เขาหมายมั่นว่าจะทำให้ทุกคนลืมเรื่องนี้โดยเร็ว ต้องกลบแบบฝังลืมกันไปเลย…

วาห์นส่ายหัวเพื่อหยุดคิดเรื่องนี้ ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปวางไว้บนหัวของพวกมันทั้งสอง

ไม่กี่นาทีภายใต้ความเงียบงัน ดวงตาของวาห์นก็บังเกิดแสงบางอย่าง

รอยสักรูปเต่ากับมังกรเริ่มปรากฏขึ้นตามลำตัวของเขา ตามมาด้วยเกล็ดตรงแขน ไหล่ ศีรษะและขา

วาห์นที่มีสีหน้ามั่นใจยิ่งกว่าเดิมเริ่มเอ่ยคำออกมาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้ทั่วมิติสั่นไหวอย่างหนัก

“นับจากนี้… เจ้าจะมีนามว่าเต่าทมิฬ (ซวนหวู่)” (TL: พยัคฆ์ขาว = ไป๋หู่)

เต่าทมิฬเริ่มเปล่งแสงสีเขียวไปทั่วพร้อมกับคำรามเสียงดังกึกก้อง

ราวกับกำลังรอจังหวะนี้อยู่ สัตว์อสูรทั้งสามตัวก็เริ่มคำรามออกมาเช่นเดียวกัน

พยัคฆ์ขาวปล่อยเสียงคำรามที่ทำให้ดวงวิญญาณต้องสั่นคลอน ส่วนของนกไฟนั้นคล้ายกับความโกรธเกรี้ยวของธรรมชาติ

ที่ดูน่าเกรงขามที่สุดเห็นจะเป็นของมังกรฟ้าซึ่งแทบจะกลบเสียงของอีกสามตัวไปเลย นอกจากนั้นมันยังปล่อยสายฟ้าออกมารอบๆ ตัวด้วย

วาห์นหันไปหาเหล่าสัตว์อสูรที่ยังไม่ได้รับชื่อพร้อมให้คำมั่นแก่พวกมัน

“สักวัน… พวกเจ้าจะได้รับชื่ออย่างแน่นอน”

ทันทีที่พูดจบประโยค จิตของวาห์นก็เริ่มเลือนลางซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเวลาของมิตินี้ได้หมดลงแล้ว

—

เมื่อสติกลับคืนมาอีกครั้ง สิ่งแรกที่สัมผัสได้ก็คือความร้อนจากร่างเล็กๆ ที่นอนกองอยู่ด้านบน

วาห์นยกมือขึ้นมาลูบเรือนผมสีดำแบบไม่คิดอะไรมาก ไม่นานดวงตาสีฟ้าใสก็ลืมตาตื่นขึ้นมาสบกับดวงตาสีน้ำทะเล

เทพตัวเล็กลงไปซุกที่แผงอกของเขาโดยไม่พูดอะไร แต่แล้วความเจ็บปวดตรงส่วนล่างก็แล่นเข้าสู่สมองจนวาห์นต้องรีบกัดฟันเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องออกมา

อีกฝ่ายคงต้องการสื่อว่า ‘หึ ไม่ยอมให้ลุกไปไหนหรอก’ ทว่าวาห์นที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้ทุกวี่ทุกวันนั้นได้คิดวิธีแก้เอาไว้แล้ว

เขาไล่นิ้วไปตามกระดูกสันหลังเล็กๆ โดยใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ควบคู่ไปด้วย

เฮสเทียร้องครางด้วยความเสียว ขณะเดียวกันร่างกายก็เริ่มสั่นสะท้านก่อนที่ความรู้สึกต่างๆ จะเลือนหายไปจนหมด หรือก็คือขยับตัวไม่ได้นั่นเอง

พอรู้สึกว่าความเจ็บปวดตรงช่วงล่างหายไปแล้ว วาห์นก็พาตัวเองออกมาจากร่างของเฮสเทียได้อย่างง่ายดาย

เฮสเทียทำหน้าบูดบึ้ง แต่วาห์นก็แค่จูบเธอเบาๆ พร้อมกับนวดตรงนั้นตรงนี้จนสีหน้าของเธอดูดีขึ้น

‘…หืม?’

ตอนนี้คงยังพิสูจน์อะไรไม่ได้ แต่วาห์นรู้สึกว่าเฮสเทียไม่ได้แค่พยายาม ‘ปรับร่างกาย’ ของตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เธอยังพยายามเข้ามาปรับร่างกายของเขาด้วย

พอคลายร่างออกจากกันแล้ว วาห์นก็รู้สึกว่าเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป… เป็นความรู้สึกที่ทำให้อยากกลับไปนอนต่อ

—

หลังจากแต่งตัวเสร็จ วาห์นก็มุ่งหน้ามาที่ลานฝึกทันที

ตอนนี้ที่ลานฝึกมีริวเพียงคนเดียวเพราะสาวๆ คนอื่นยังเตรียมตัวกันไม่เสร็จ

วาห์นสังเกตเห็นว่าเธอกำลังมองดูหลุมบ่อมากมายด้วยแววตาสงสัย (TL: ที่วาห์นสู้กับทีโอเน่เมื่อวาน)

พอเห็นเขาเดินเข้ามา ริวก็ยิ้มและกล่าวทักทาย

“อรุณสวัสดิ์นะวาห์น”
“…”

จู่ๆ บางอย่างในใจของวาห์นก็สั่งให้เขาก้าวต่อไปอีกหน่อยและสวมกอดเอลฟ์สาวแบบหลวมๆ

ริวเบิกตากว้างแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร หนำซ้ำเธอยังยกมือขึ้นมากอดแผ่นหลังและพิงหัวไปกับไหล่ของอีกฝ่ายด้วย

“ขอโทษนะ… ฉันแค่รู้สึกอยากกอดเธอขึ้นมาน่ะ” วาห์นกระซิบข้างใบหูเรียวยาว

เขาไม่รู้ว่าทำไมรอยยิ้มของริวถึงส่งผลต่อตัวเองได้มากขนาดนี้ แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์อะไรต่อ

ริวขยับหัวออกเล็กน้อยเพื่อตอบกลับ

“ไม่เห็นต้องขอโทษอะไรเลยวาห์น ตอนนี้ไม่มีคนอื่นอยู่พอดีด้วย

บางครั้งฉันก็อยากให้นายมาเอาใจแบบนี้เหมือนกันนะ…”

วาห์นยิ้มกว้างกว่าเดิมขณะเอาหน้าผากไปพิงกับริว และแล้วทั้งสองก็เพลินอยู่แบบนั้นโดยไม่ต้องพูดอะไรกันต่อ

ก่อนที่สาวๆ คนอื่นจะเดินมาเห็นภาพบาดตาบาดใจ วาห์นก็จูบริวเบาๆ ที่ริมฝีปากก่อนจะผละตัวออกมา

ริวยิ้มอย่างเหม่อลอยขณะใช้มือแตะริมฝีปากตัวเอง แต่แล้วเธอก็ต้องรีบปรับสีหน้าเพื่อต้อนรับคนอื่นๆ

พอทุกคนมากันครบแล้ว ริวกับอาคิก็มาปรึกษากันสั้นๆ ว่าจะแบ่งการฝึกซ้อมยังไงดี จากนั้นก็ต่อด้วยการประลองกันเล็กน้อยเพื่อที่จะได้เข้าใจความสามารถของอีกฝ่าย

อาคิเป็นผู้ใช้ดาบสั้นที่เน้นความเร็วและมีเทคนิคดีเยี่ยม ทว่าผลท้ายสุดเธอก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของริว

ในช่วงท้ายของการต่อสู้ อาคินั้นได้แต่ปัดป้องการโจมตีด้วยพลองไม้ของริวโดยที่ไม่อาจโต้กลับได้เลย

ไม่นานเธอก็หมดแรงจนต้องทรุดลงไปนั่งกับพื้นพลางกล่าวชมเชยว่าฝีมือของริวนั้นสมแล้วที่ได้เป็นรองกัปตัน

ริวยื่นมือออกมาช่วยพยุงอาคิขึ้นและกล่าวชมเธอกลับเช่นกัน

จากนั้นทั้งสองก็หันไปคุยกับคนอื่นๆ ที่เอาแต่อ้าปากค้างเพราะมองการต่อสู้แทบไม่ทัน

—————
ผล.งาน.ถูกขโมยมาจาก: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP

—————

วาห์นเองก็มาดูการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยและสรุปออกมาได้สั้นๆ ว่าพวกเธอทั้งสองน่าทึ่งจริงๆ

การโจมตีของริวยังคงลื่นไหลไม่เปลี่ยน ส่วนของอาคิเองก็มีท่วงท่าที่งดงามไม่แพ้กัน

ในช่วงแรกนั้นเธอใช้ดาบสั้นปัดป้องการโจมตีหนักๆ ของริวได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ถือว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบเลยด้วยซ้ำ

แต่พอเวลาผ่านไป ริวก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเธอมีเรี่ยวแรงมากกว่าอาคิ แถมการโจมตีแต่ละครั้งของเธอก็รุนแรงขึ้นตามลำดับจนอีกฝ่ายรับมือไม่ไหว

หลังจากแบ่งกลุ่มกันได้แล้ว อาคิก็เริ่มฝึกให้กับคู่แฝดที่ไม่ค่อยมีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ ส่วนเมนูฝึกก็เน้นไปที่การพัฒนาด้านความว่องไว

วันนี้ริวจะเป็นผู้ฝึกให้กับฮารุฮิเมะ เฟนเรียร์ รวมไปถึงมิโคโตะด้วย

มิโคโตะนั้นค่อนข้างสนใจเรื่องการเคลื่อนไหวที่ริวใช้ เพราะนอกจากฝีเท้าจะต้องเร็วแล้วยังต้องมีการใช้เวทมนตร์ประกอบเข้าไปด้วย

ฮารุฮิเมะนั้นอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นจอมเวทสายสนับสนุนที่มีความคล่องตัวสูง มิโคโตะเลยอยากเป็นนักสู้แนวหน้าที่เชี่ยวชาญด้านการรับมือกับศัตรูจำนวนมาก

วันนี้เป็นครั้งแรกเลยที่วาห์นได้เห็น [ฟุตสึโนะมิทามะ] ซึ่งเป็นเวทมนต์แรงโน้มถ่วงของมิโคโตะ

พอเธอร่ายเวทเสร็จ ดาบสีม่วงก็หล่นลงมาจากท้องฟ้าและลงมาบรรจบกับวงแหวนเวทมนตร์หลายชั้นที่อยู่เหนือพื้น

ทุกครั้งที่ดาบสีม่วงทะลุวงแหวนได้หนึ่งชั้น พื้นที่วงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เมตรตรงด้านล่างก็จะจมลึกลงไปอีกหลายนิ้ว

ข้อเสียของเวทมนตร์ดังกล่าวก็คือมันกินพลังงานเป็นจำนวนมาก

วาห์นสามาถใช้ [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] เพื่อตรวจสอบปริมาณ ‘มานา’ ในร่างกายของคนอื่นได้ และเขาก็รู้ทันทีว่ามิโคโตะนั้นใช้มันมากถึง 70% ในการร่ายเวทเพียงครั้งเดียว

เพราะต้องฝึกดาบและพยายามทำให้ค่าสถานะเกิดความสมดุล วาห์นคิดว่ามิโคโตะคงใช้ประโยชน์จากเวทมนตร์นี้ไม่ได้มากเท่าไหร่… นอกเสียจากว่าเขาจะคิดค้นวิธีเพิ่มปริมาณมานาขึ้นอีกหลายเท่า

‘ถ้าเป็นเครื่องลางล่ะ หรือไม่ก็อุปกรณ์สักชิ้นที่จุมานาได้นานๆ… เอาตามนี้ละกัน’

พอคิดเสร็จแล้ว วาห์นก็ดึงชุดอุปกรณ์วาดแบบออกมาเริ่มร่างมันทันที

เพราะไม่ได้ร่วมฝึกกับคนอื่นด้วย พรีเซียที่นั่งอยู่ข้างลานฝึกจึงหันมามองการกระทำของวาห์นแทน

พอใกล้หมดช่วงฝึก วาห์นก็ได้แบบแปลนของสนับข้อมือ กำไล หรือแม้แต่สร้อยคอมามากมายหลายแบบ

เขาจะทำสนับข้อมือขึ้นมาเปลี่ยนกับอันที่มิโคโตะใส่อยู่ตอนนี้ก็ได้ แต่คิดไปคิดมาแล้วสร้อยคอน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า

ภาพของสร้อยคอที่ประดับอยู่บนทรวงอกอวบอิ่ม… นี่คือจินตนาการที่เกิดขึ้นจากความเป็นมืออาชีพล้วนๆ

มันคงไม่ต่างจากสร้อย [แซฟไฟร์สตาร์] ของเฮสเทียเท่าไหร่หรอก… ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนขุดหลุมให้ตัวเอง

ยังไงนี่ก็เป็นแค่แปลนต้นแบบเท่านั้น วาห์นกะจะเก็บเป็นความลับไว้ก่อนเพราะถ้าบอกไปตอนนี้ มิโคโตะก็อาจจะไม่มีสมาธิฝึกต่อ

วาห์นรู้ดีกว่าการพึ่งพาอุปกรณ์มากเกินไปจะทำให้เกิดผลเสียต่างๆ เช่นการได้รับค่าสถานะน้อยลง

ถ้าอยากเติบโตเร็วๆ นักผจญภัยจะต้องสู้กับมอนสเตอร์ที่มีพลังสูสี ขณะเดียวกันก็ต้องคอยผลักดันตัวเองอยู่ตลอด

ถ้าเอาแต่ใช้อุปกรณ์ที่ทรงพลังเกินไป ค่าสถานะที่ได้ก็จะเน้นหนักไปที่ความแม่นยำกับพลังเวท ส่วนค่าสถานะทางกายภาพอื่นๆ นั้นอาจจะเพิ่มเพียงเล็กน้อยหรือไม่เพิ่มเลย

หลังจบช่วงฝึก พวกสาวๆ ก็มุ่งหน้ามายังห้องอาบน้ำในขณะที่วาห์นแยกไปที่ห้องสมุด

ที่จริงแล้วพรีเซียอยากตามวาห์นไปห้องสมุดด้วย แต่อีกใจหนึ่งก็อยากลองเข้าสังคมกับคนอื่นและดูว่าพอจะมีอะไรที่ตัวเองช่วยได้หรือเปล่า

พรีเซียไม่อยากเป็นนักผจญภัยเพราะเธอไม่ชอบเรื่องการฆ่าฟัน บวกกับการต้องไปอยู่ในสถานที่มืดและหนาวเย็น

เพราะได้ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ภายใน ‘คุกใต้ดิน’ มาก่อน เธอจึงไม่อยากเข้าไปในสถานที่แบบเดียวกันเท่าไหร่

เธอมักใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือเกี่ยวกับ ‘การผสมวัตถุดิบ’ ‘การเล่นแร่แปรธาตุ’ และ ‘ข่ายเวทมนตร์’ โดยหวังว่ามันจะช่วยทำประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ โดยที่เธอไม่ต้องเข้าไปในดันเจี้ยนด้วยตัวเอง

—

ภายในห้องสมุด วาห์นกำลังนอนอ่านหนังสือเกี่ยวกับผู้กล้าที่สังหารมังกรแดงตัวเท่าภูเขาย่อมๆ

นี่คือตำนานจากเรคคอร์ดอื่นและวาห์นก็พบว่าเนื้อหาของมันน่าสนใจดี

เขาชอบหนังสือจำพวกนี้มาก ส่วนหนังสือประเภทเรื่องเศร้าหรือสยองขวัญนั้นตอนนี้พวกมันตกกระป๋องไปซะแล้ว

ประเด็นหลักที่ทำให้เขาไม่ชอบพวกมันก็เพราะว่าส่วนใหญ่มักจะมีการดำเนินเรื่องแบบฝืนๆ จนถึงขั้นบังคับตัวละครมากเกินไป

วาห์นมักจะเอาตัวเองไปเปรียบกับตัวละครหลักซึ่งทำให้เขาเกิดความสงสัยอยู่ตลอดว่าทำไมคนพวกนั้นถึงชอบตัดสินใจแย่ๆ และทำให้ตัวเอง เพื่อน และครอบครัวต้องตกอยู่ในอันตรายหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต

เขาชอบแนวเรื่องราวที่ตัวเอกพยายามก้าวไปข้างหน้าและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดมากกว่า

แน่นอนว่าเรื่องเศร้าๆ ย่อมต้องเกิดขึ้นบ้าง แต่วาห์นรู้สึกว่ามันจะเป็นตัวช่วยให้ตัวเอกเติบโตและทำให้ชัยชนะมีความหมายมากกว่าเดิม

หลังจากอยู่อย่างเงียบๆ มาประมาณหนึ่งชั่วโมง วาห์นก็รู้สึกได้ถึงออร่าสีฟ้าปนเหลืองที่กำลังมุ่งหน้ามาหา

กระแสของออร่าดวงนี้ต่างจากพวกสาวๆ ที่เห็นเป็นประจำ ดูแวบเดียวก็รู้ว่ามันต้องเป็นของอาคิแน่นอน

วาห์นลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับวางหนังสือลงขณะรอให้อีกฝ่ายเดินมาถึง

ไม่นานอาคิก็เดินเข้ามาในห้องและเริ่มจ้องมองหนังสือนับพันๆ ที่อยู่บนชั้น ก่อนจะหันมาหาวาห์นด้วยรอยยิ้มสุภาพ

“กัปตันคงรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว ขอโทษนะคะที่มาขัดจังหวะเวลาพักผ่อน…”

วาห์นอดไม่ได้ที่จะสำรวจอาคิเล็กน้อย ดูๆ ไปแล้วเธอก็เป็นสาวงามคนนึงเหมือนกัน

รูปร่างเพรียวบางตามแบบฉบับของเผ่ามนุษย์แมวถูกเสริมด้วยชุดทะมัดทะแมงที่มีสีดำ ขาว และทองซึ่งผสมรวมกันอย่างกลมกลืน

รอยยิ้มของเธอดูงดงามเป็นธรรมชาติมาก อาจสื่อได้ว่าเธอเป็นคนที่มีจิตใจดี

สิ่งเดียวที่ดูแปลกตาก็คือหางที่โค้งขึ้นเกือบตลอดเวลา เพราะหางของมนุษย์แมวส่วนใหญ่ที่วาห์นเคยเจอนั้นมักจะลู่ลงและแกว่งไปตามแรงโน้มถ่วง

ตอนนี้หางนั่นก็กำลังโค้งเป็นรูปตัว ‘S’ และอยู่สูงจนเกือบเท่าหัวไหล่ของเธอ

วาห์นถอนหายใจสั้นๆ ก่อนจะยิ้มตอบอาคิ

“ไม่ได้รบกวนอะไรหรอก อาคิ เป็นอย่างที่เธอบอกนั่นแหละ

ฉันเองก็อยากคุยกับเธอเหมือนกัน มาได้ถูกจังหวะมาก…”

วาห์นนำชุดชาและขนมออกมาวางไว้บนโต๊ะซึ่งทำให้รอยยิ้มของอาคิกว้างขึ้น

หญิงสาวเอามือไขว้หลังและเดินเข้ามาด้วยท่าทางร่าเริงก่อนจะนั่งลงบนโซฟาโดยเว้นระยะห่างระหว่างตามความเหมาะสม

เธอจัดกระโปรงจนเข้าที่ทั้งตอนก่อนและหลังนั่ง เรียกได้ว่ามีความเป็นกุลสตรีสุดๆ

คิ้วของวาห์นเลิกขึ้นเล็กน้อยเพราะสำหรับเขาแล้ว มันเกือบจะเป็นท่าทางที่ ‘ผิดปกติ’ เมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่นๆ

อาคิหัวเราะคิกคักก่อนจะหยิบขนมไทยากิขึ้นมาเล็มพลางจิบชาไปด้วย

หางของเธอเกิดการกระตุกเล็กน้อย น่าจะเป็นเพราะขนมพวกนี้อร่อยเกิดคาด

ครู่ต่อมา อาคิก็เอียงศีรษะและถามขึ้นก่อน

“กัปตันจะไม่ถามอะไรฉันเหรอคะ?”

วาห์นวางถ้วยชาลงบนโต๊ะก่อนจะพยักหน้ารับ

“ฉันกำลังคิดอยู่น่ะ ว่าจะถามอะไรดี

เรามาเริ่มจาก… สาเหตุที่เธอถูกส่งมาที่นี่ก็แล้วกัน

โลกิคิดอะไรอยู่ฉันไม่รู้หรอก… แต่ที่แน่ๆ ก็คือเธอไม่เคยทำเรื่องเปล่าประโยชน์

การที่เธอมาที่นี่ ในช่วงนี้ ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไปอยู่แล้ว”

สีหน้าของอาคิไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่เธอก็ถอนหายใจสั้นๆ

“ท่านโลกิอนุญาตให้ฉันพูดเรื่องนี้ได้อย่างเปิดเผย… งั้นก็… มันเริ่มขึ้นจากผู้ชายงี่เง่าคนนึงค่ะ…”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 287"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์