Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 124
(คำเตือน: ตัวละครที่อยู่ในนิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง และไม่มีความเกี่ยวข้องกับคน/สถานที่จริงแต่อย่างใด ในฐานะที่เป็นตัวละครในเรื่อง ตามที่ระบุในข้อมูลตัวละครและความเกี่ยวข้องทางวัฒนธรรมที่ถูกแต่งขึ้น ให้ถือว่าตัวละครทุกคนมีอายุตามเกณฑ์ที่สามารถทีเพศสัมพันธ์ได้ และไม่เป็นการละเมิดกฎหมายแต่อย่างใด นิยายในตอนนี้และตอนต่อๆ ไปในอนาคตนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสื่อออกมาในรูปแบบลามกอนาจาร และถูกเขียนขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแสดงออกทางศิลปะในขณะที่ยังคงความถูกต้องและแม่นยำทางวัฒนธรรม/จริยธรรม/ศีลธรรม/เนื้อเรื่องตามสมควร)
—-
เมื่อได้ยินคำถามของวาห์น ไอส์ก็ยังคงนิ่งเงียบขณะที่ทีโอน่าดูเหมือนจะเพิ่งนึกออกว่าพวกเขาต่างไม่มีประสบการณ์กันเลย
เธอมี ‘ความรู้’ มากที่สุดแต่อาจเกิดปัญหาขึ้นถ้าจะให้เธอเป็นคนสอนทุกอย่าง
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เธอก็นำกระเป๋าหนังเล็กๆ ออกมาและเปิดมันออก
เธอเทน้ำยาสีแดงเข้มลงไปในถ้วยเล็กๆ ก่อนจะดื่มมันขณะที่วาห์นกับไอส์เฝ้าดูการกระทำของเธอด้วยสีหน้าสับสน
วาห์นอยากรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่จึงถามขึ้น
“ทีโอน่า? นั่นมันน้ำอะไรเหรอ… กลิ่นไม่ค่อยดีเลย”
แม้ว่าวาห์นจะอยู่ห่างออกไปแต่พอได้กลิ่นและรู้สึกว่าน้ำนั่นมัน ‘อันตรายมาก’
หลังจากกลืนมันลงไปด้วยความยากเย็น ทีโอน่าก็มองวาห์นและยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนขณะเริ่มอธิบาย
“บางคนเรียกมันว่า ‘แอมโบรทอส’ แต่ชาวอเมซอนบางคนรู้จักมันในชื่อน้ำยา ‘ร่วงโรย’
เพื่อเก็บประสบการณ์กับเพศตรงข้าม ไม่ใช่ว่าชาวอเมซอนทุกคนจะโชคดีได้เจอกับคนแข็งแกร่งหรอกนะ
ดังนั้นพวกเธอจึงใช้ ‘ร่วงโรย’ เพื่อลดทอนพละกำลังของตัวเองลงมาชั่วคราว
ฉันไม่แน่ใจว่าจะควบคุมตัวเองได้หากเรามีอะไรกันแบบปกติก็เลยต้องใช้น้ำยานี่เข้ามาช่วยแทน
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเธอ วาห์นก็รู้สึกละอายใจมากที่เขาทำให้เธอต้องใช้ยานั่น
เขาเห็นว่าเธอแทบจะพยุงร่างกายตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ และมันก็ทำให้เขารู้สึกล้มเหลวในฐานะคู่ครองที่เธอหมายปอง
ทีโอน่าเห็นสีหน้าของเขาและหัวเราะออกมา
“อย่าห่วงเลยวาห์น แบบนี้เป็นผลดีกับนายและไอส์มากกว่า
เพราะฉันจะควบคุมสติของตัวเองได้เกือบตลอดเวลา แล้วอีกอย่าง…”
วาห์นมองเธอและเห็นใบหน้าที่เริ่มแดงก่ำของทีโอน่าขณะที่เธอพูดต่อ
“บางครั้งฉันก็อยากจะเป็นคนถูกเอาใจใส่บ้างเหมือนกันนะ”
พอได้ยินคำพูดของเธอ วาห์นก็จำได้ว่ามันเป็นความฝันของทีโอน่าที่จะได้รับการดูแลแบบ ‘เจ้าหญิง’ และเขาก็เคยสัญญาไว้แล้วว่าจะ ‘ดูแล’ เธอ
เขายังจำภาพที่เธอกำลังรอให้วีรบุรุษมาปลดปล่อยเธอจากความอ่อนแอตอนที่ยังเด็กอยู่ได้อย่างแจ่มชัด
ตอนนี้ หญิงสาวผู้แข็งแกร่งที่มีชีวิตอยู่เพื่อตามหาและไขว่คว้าหาพลังที่ตัวเองไม่ได้ต้องการ กำลังนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ด้านหน้าเขาพร้อมส่งสายตาโหยหามาให้
วาห์นขยับเข้ามาใกล้และยื่นมือไปที่เรือนผมของเธอก่อนจะลูบมันเบาๆ
ทีโอน่าหัวเราะคิกคักและกอดเขาไว้อย่างไร้เรี่ยวแรงขณะหันไปมองไอส์และพูดกับเธอ
“ฉันขอไปก่อนนะไอส์ เผ่าอเมซอนแตกต่างจากเผ่ามนุษย์อยู่บ้าง และมันก็เป็นอันตรายน้อยกว่าถ้าเขาใช้ร่างกายฉันเพื่อทดลองและเรียนรู้ก่อน
เธอต้องตั้งใจดูให้ดีล่ะ เพราะมันจะช่วยเธอได้แน่นอน”
ไอส์ฟังคำพูดของทีโอน่าและพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะไปนั่งอยู่ด้านข้าง
แทนที่จะนั่งคุกเข่าเรียบร้อยอย่างเคย ตอนนี้เธอกำลังนั่งจับเข่าตัวเองขณะมองคนสองคนที่กำลังแสดงความใกล้ชิดกันอยู่ตรงเบื้องหน้า
หลังจากที่ไอส์ขยับออกไปแล้ว ทีโอน่าก็ฝังศีรษะลงบนแผงอกของวาห์นและพึมพำออกมา
“วาห์น… ถอดเสื้อผ้าให้ทีสิ ฉันไม่มีแรงเหลือแล้ว…”
หัวใจของวาห์นเต้นระส่ำระส่ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
แต่ละคำที่เธอพูดออกมานั้นราวกับกระแทกเข้ามาที่หูจนเขารู้สึกมึนไปหมด
เขากลืนน้ำลายไปหลายอึกก่อนจะเลื่อนมือลงไปตามแนวลำตัวของเธอจนสัมผัสกับเข็มขัดที่ติดกับเสื้อผ้ารอบเอวเอาไว้
ในจังหวะที่ค่อยๆ ขยับมือ วาห์นอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเรือนร่างของทีโอน่าและประหลาดใจกับความนุ่มนิ่มของเธอ
นอกจากนี้เขายังถูกกลิ่นหอมจากเส้นผมและร่างกายเธอเข้าเล่นงานจนเรื่องง่ายๆ อย่างการถอดเข็มขัดกลายเป็นงานยากซะอย่างนั้น
ทีโอน่าที่ลดหัวลงต่ำและจดจ่ออยู่กับการกระทำของวาห์นค่อยๆ พูดออกมาช้าๆ
“นายต้องปลดผ้าที่ผูกไว้ออกก่อน… ไม่งั้นจะถอดเข็มขัดไม่ได้…”
วาห์นได้ยินน้ำเสียงอ่อนเปลี้ยของเธอ ดังนั้นเขาจึงพยายามสงบสติอารมณ์และฟังคำพูดของเธอให้ชัดเจน
เขาใช้มืออันสั่นเทาเล็กน้อยคลายปมที่ยึดผ้าผืนใหญ่รอบเอวของเธอเอาไว้
เมื่อปมถูกคลายออก ผ้าก็เริ่มหลวมจนเขาสามารถถอดเข็มขัดออกมาจากสะโพกของเธอได้สำเร็จ
ทีโอน่าถอนหายใจยาวๆ และพูดต่อ
“ดีมาก… วาห์น… ที่นี่ก็ชิ้นบน…”
ตอนนี้ทีโอน่าทำได้แค่พูดประโยคสั้นๆ เท่านั้นขณะที่เธอใช้สมาธิไปกับการหายใจ
เธอขยับแขนอย่างไร้เรี่ยวแรงก่อนจะนำมันไปโอบรอบคอของวาห์นพร้อมหันไปจ้องใบหน้าของเขาอย่างไม่เอียงอาย
วาห์นไล่มือไปตามแผ่นหลังนั่นและสัมผัสได้ว่าเธอเริ่มมีเหงื่อออกแล้ว
เขาพยายามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปถึงแถบผ้าที่พันอยู่รอบอกของเธอ
วาห์นสงสัยมาตลอดว่ามันติดอยู่แบบนั้นได้ยังไงโดยที่ไม่เคยหลุดหรือร่วงลงมาเลย
ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่านั่นเป็นเพราะตัวผ้ามีความยืดหยุ่นซึ่งมันประกอบไปด้วยผ้ายืดสองชั้นและมีผ้าหนังสัตว์อยู่ด้านใน
ที่ผ้าหนังสัตว์จะมีรูเล็กๆ และดูเหมือนว่ามันถูกออกแบบมาให้เพิ่มแรงเสียดทานเพื่อที่เสื้อผ้าจะได้ไม่ลื่นหลุดหากดูดซับเหงื่อในปริมาณมาก
เมื่อเลื่อนนิ้วโป้งเข้าไปใต้เนื้อผ้า วาห์นก็ค่อยๆ ขยับมันขึ้นและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน
แม้ว่าหน้าอกของทีโอน่าจะค่อนข้างเล็กกว่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่นๆ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่มีหน้าอกอยู่เลย
ตอนที่วาห์นเลื่อนผ้าออกไปนั้น จิตใจของเขาก็รู้สึกชาเล็กน้อยหลังจากได้เห็นเนินอกที่สั่นไหวราวกับกำลังบอกว่า ‘ฉันเองก็มีกับเค้าเหมือนกันนะ!’
มือของเขาชะงักไปครู่หนึ่งขณะจ้องมองจุดสีน้ำตาลอ่อนสองจุดที่ยื่นออกมาจากหน้าอกทีโอน่าและสังเกตเห็นว่าพวกมันกำลังตั้งชูชันซึ่งดูต่างไปจากครั้งก่อนมาก
พอเห็นว่ามือของเขาชะงัก ทีโอน่าก็รีบให้เขาเร่งมือ
“วาห์น… เร็วๆ หน่อย…”
วาห์นถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียง ‘เจ็บปวด’ และ ‘สั่นสะท้าน’ ของเธอขณะที่เขาดึงผ้าขึ้นมาเรื่อยๆ
เขาดึงมันผ่านแขนของเธอและในที่สุดก็นำมันออกไปได้หลังจากให้เธอยกแขนขึ้นไปเหนือหัว
ทีโอน่าไม่ได้แหงนหน้าขึ้นมาแม้วาห์นกำลังยกแขนของเธอขึ้น
ในขณะที่ผ้าหลุดออกไปจากมือ ทั้งคู่ต่างก็เสียการทรงตัวจนเธอเกือบจะล้มหน้าคะมำลงบนเตียง
วาห์นพยายามจับร่างของเธอไว้แต่เนื่องจากเหงื่อที่ไหลออกมาจากตัวของทั้งคู่ เธอจึงลื่นผ่านมือของเขาก่อนจะหงายล้มลงบนเตียง
ใบหน้าที่เธอซุกซ่อนเอาไว้ในช่วงไม่กี่นาทีก็ถูกเผยออกมาให้เห็น และวาห์นก็รู้สึกเหมือนมีสายฟ้าผ่าลงมาที่กลางศีรษะ
ตอนนี้ใบหน้าของทีโอน่าแทบจะเป็นสีแดงสดและเต็มไปด้วยเหงื่อขณะที่เธอมองเขาด้วยท่าทางมึนงงพร้อมกับดวงตาที่เปียกชื้น
ทีโอน่ามองประสานสายตากับเขาและพึมพำออกมา
“ชิ้นล่าง…”
ตอนนี้ความตึงเครียดของวาห์นพุ่งสูงซะยิ่งกว่าหอคอยบาเบลขณะเฝ้ามองเรือนร่างของทีโอน่า
แม้เธอกำลังดูเจ็บปวด แต่วาห์นก็พบว่าตอนนี้เธอดูน่าดึงดูดมากกว่าเดิม
ตอนนี้เสื้อผ้าที่เหลืออยู่บนร่างกายของเธอก็คือเครื่องประดับและชิ้นผ้าสีขาวคล้ายกางเกงขาสั้นขนาดเล็กที่พันอยู่ตรงรอบสะโพก
มันทำมาจากวัสดุชนิดเดียวกันกับ ‘ชุดชั้นใน’ ของเธอและวาห์นก็ค่อยๆ วางมือลงที่ข้างสะโพกของทีโอน่าก่อนจะค่อยๆ ดึงมันลงมา
หลังจากดึงมันลงมาถึงต้นขาของทีโอน่า วาห์นก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันภายในหัวเมื่อมองเห็นสิ่งที่ถูกชิ้นผ้าปิดซ่อนเอาไว้ภายใน
แม้เขาจะเคยเห็นมันมาแล้ว แต่ตอนนี้วาห์นก็กำลังจ้องไปยังกลีบดอกที่ไร้อาภรณ์ปิดบังขณะที่ความอยากรู้อยากเห็นพุ่งขึ้นถึงขีดสุด
ส่วนล่างของทีโอน่ากำลังปล่อยของเหลวใสๆ บางอย่างออกมาจนผิวสีน้ำตาลตรงส่วนนั้นเริ่มสะท้อนเข้ากับแสงไฟมัวๆ ของถ้ำ
เริ่มมีกลิ่นตลบอบอวนบางอย่างกระจายออกมาจนสติและหัวใจของวาห์นแทบจะทนต่อไปไม่ไหว
เขาต้องบังคับตัวเองให้หันหน้าหนีออกไปขณะที่ค่อยๆ ถอด ‘กางเกงขาสั้น’ ออกจากเรียวขาของเธอ
มันคล้ายกับตอนที่เขายกแขนของเธอขึ้นเมื่อกี้นี้
วาห์นต้องยกขาของทีโอน่าขึ้นเพื่อนำกางเกงขาสั้นออกและยังต้องลากมือไปตามเรียวขาของเธอด้วย
วาห์นสังเกตเห็นว่าทีโอน่านั้นมีเรียวขาที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อซึ่งต่างไปจากของผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยเห็น (ยกเว้นก็แต่ของทีโอเน่)
การที่ได้เห็นเรียวขานั่นอยู่ในสภาพที่ไร้เรี่ยวแรงทำให้เขารู้สึกละอายใจอีกครั้งขณะที่ค่อยๆ หย่อนพวกมันลงมาบนที่นอน
ตอนนี้วาห์นมองเห็นทีโอน่าในสภาพเปลือยเปล่าได้อย่างสมบูรณ์ขณะที่เธอกำลังแสดงสีหน้า ‘เจ็บปวด’ ออกมามากกว่าครั้งไหนๆ
วาห์นไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าดวงตาของเธอยังมองเห็นเขาอยู่หรือเปล่าเพราะมันดูพร่ามัวไปหมด
ในขณะที่เขากำลังจ้องมองเรือนร่างงาม ท่อนขาของทีโอน่าก็กระตุกขึ้นขณะที่เธอพยายามใส่แรงลงไปเพื่องอเข่า
วาห์นสังเกตเห็นว่าเธอพยายามจะทำอะไรจึงเข้าไปช่วยโดยวางฝ่ามือไว้ที่หลังเข่าและออกแรงดันมันขึ้นตามที่เธอตั้งใจไว้
ทีโอน่าถอนหายใจหนักๆ ราวกับว่ากำลังโล่งใจเมื่อเห็นวาห์นเข้ามาช่วย
เธอใช้แรงที่เหลืออยู่เพื่อลากมือทั้งสองข้างไปตามท้องก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงกลีบดอกที่ดูชื่นฉ่ำ
ทีโอน่าหันศีรษะไปทางไอส์ก่อนจะค่อยๆ พูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“ดู… ตรงจุดนี้ให้ดีๆ… ทุกอย่างจะได้ง่ายขึ้น… แล้วก็…”
ทีโอน่าใช้นิ้วเผยกลีบออกจนวาห์นมองเห็นด้านในได้อย่างชัดเจน
พอเธอเริ่มทำแบบนั้น ดวงตาของวาห์นก็เบิกกว้างและประสาทรับรู้ทุกส่วนของเขาก็เริ่มฟังทุกคำที่ออกมาจากปากของเธออย่างตั้งใจที่สุด
ทีโอน่าใช้นิ้วลากผ่านส่วนต่างๆ และค่อยๆ อธิบายออกมา
“ตรงนี้… คือจุดที่นายต้องใส่… ของนายเข้าไป… อย่า… ใส่ผิดจุดล่ะ”
คำพูดของทีโอน่าเริ่มเบาลงเรื่อยๆ และวาห์นแทบจะต้องตีหัวตัวเองให้กลับมาตั้งใจฟังดีๆ
เสียงหัวใจของตัวเองแทบจะกลบเสียงทุกอย่างไปหมด และเขารู้สึกว่าไม่อาจละสายตาจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้เลย
ทีโอน่าสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะขยับมือของเธอออกและวางมันลงที่หน้าท้องแทน
ดูเหมือนเธอจะไม่เหลือแรงทำอะไรอีกแล้วขณะพูดเสียงเบามากจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
“ตอนนี้ก็… ทำให้ดีที่สุดนะ… วาห์น”
วาห์นกัดฟันแน่นหลังฟังเธอพูดจบและเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกที่ละชิ้น
ไอส์กำลังเฝ้าดูจากด้านข้างและเมื่อมาถึงตอนนี้ เธอแทบจะซ่อนใบหน้าทั้งหมดเอาไว้ในเข่าขณะจ้องมองการกระทำของคนทั้งสอง
หากวาห์นมีสมาธิพอล่ะก็ เขาจะเห็นว่าดวงตาของไอส์เริ่มจะเปียกชื้นและสะท้อนกับแสงของถ้ำอยู่บ้าง
หลังจากถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว วาห์นก็ยืนด้วยเข่าขณะมองลงไปยังทีโอน่าที่กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาเหม่อลอย
ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอไม่เหลือแรงแม้แต่จะใช้พูดขณะเฝ้ารอให้วาห์นเริ่มลงมือ
วาห์นอยากกลืนน้ำลายอีกครั้งแต่กลับพบว่ามันไม่มีเหลืออยู่เลย
ปากของเขาแห้งผากและความหวาดกลัวก็เริ่มไหลเข้ามาในจิตใจขณะจ้องมองทีโอน่า
แต่พอตระหนักว่าเธอได้พยายามไปมากแค่ไหนและได้สัมผัสถึงความเชื่อใจและความหวังที่เธอมีต่อเขา วาห์นจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะความลังเลขณะเริ่มจับอาวุธกรำศึกและเล็งมันตรงไปยังจุดที่เธอแสดงให้ดู
จากด้านข้าง ไอส์บีบขาของตัวเองแน่นหลังได้เห็นขนาดอาวุธของวาห์นและลองใช้ตาเทียบมันกับทางเข้าอันแสนคับแคบของทีโอน่า
ในมุมมองของเธอนั้น ไม่มีทางเลยที่เจ้าสิ่งนั้นจะเข้าไปอยู่ในสถานที่คับแคบแบบนั้นได้
และแล้วเธอก็เริ่มนึกถึงคำแนะนำที่ริเวเรียให้ไว้ก่อนจะมากับวาห์น
แม้จะยังรู้สึกอยากลองมีเพศสัมพันธ์อยู่ แต่ก็กลัวจับใจว่าวาห์นอาจทำให้ร่างกายของเธอแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เธอจ้องมองขณะที่วาห์นหามุมได้แล้วและค่อยๆ จับสะโพกของทีโอน่าขณะเอนตัวเข้าไปใกล้เรือนร่างของเธอ
ไอส์ไม่ใช่คนเดียวที่เกิดความกังวล เพราะแม้แต่วาห์นเองก็กลัวเรื่องเดียวกันนี่แหละ
ทางเข้าที่ทีโอน่าชี้ให้ดูนั้นมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับปลายอาวุธของเขา และเขาต้องใช้ความพยายามอยู่บ้างก่อนจะสามารถใส่ส่วนปลายเข้าไปได้อย่างถูกต้อง
เขารู้สึกเหมือนถูกครอบงำจากความร้อนแรงที่เข้ามาจู่โจมและคงจะร้องออกมาแล้วหากไม่ใช่เพราะกำลังกัดฟันอยู่
เขาปรับมุมอีกเล็กน้อยก่อนจะเอนกายเข้ามาหาทีโอน่าและจ้องใบหน้าของเธอพร้อมใส่แรงเข้าไปที่สะโพกของตัวเอง
ในขณะที่วาห์นเคลื่อนเข้าไปสู่ด้านใน ทีโอน่าก็เริ่มหายใจหนักๆ
ดูเหมือนพละกำลังบางส่วนของเธอได้เริ่มฟื้นกลับมาบ้างแล้วขณะที่เธอพยายามกอดรัดวาห์นเอาไว้
วาห์นแนบตัวไปกับเรือนร่างเพรียวบางเพื่อให้เธอกอดได้ง่ายขึ้น แต่กับพบว่านั่นทำให้เขาเคลื่อนที่ต่อไปได้ยากกว่าเดิม
เขาแทบจะต้านทานแรงกดดันและความรู้สึกเสียวซ่านไว้ไม่ไหวขณะที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปที่ละนิด
ทีโอน่าดูเหมือนจะไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของเธอเอง ขณะคอยจ้องมองริมฝีปากของวาห์นอย่างหื่นกระหายแต่ก็ไม่มีแรงพอที่จะเงยหัวขึ้นมาเพื่อเข้าไปใกล้มัน
วาห์นสัมผัสได้ถึงความต้องการของเธอจึงยื่นหน้าเข้าไปจูบและยิ่งทำให้ความรู้สึกของเขาเตลิดไปมากกว่าเดิม
ร่างกายส่วนล่างของเขาดูเหมือนจะเชื่อมกับสมองโดยตรง และเขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นแห่งความหฤหรรษ์ที่เข้าจู่โจมประสาทสัมผัสขณะที่รสจูบของทีโอน่าเริ่มทำให้จิตใจของเขาด้านชาราวกับถูกไฟดูด
เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะสูญเสียการรับรู้ทั้งหมดไป ราวกับว่ากำลังจมอยู่ในความรู้สึกของตัวเอง
เพราะสัมผัสได้ว่าวาห์นไม่ได้รุกคืบมาพักหนึ่งแล้ว ทีโอน่าจึงถอนจูบและพูดออกมาช้าๆ
“วาห์น… ทำ… ให้ดีที่สุด… สัญญาแล้วนะ…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ วาห์นก็กัดฟันหนักกว่าเดิมก่อนจะปรับมุมและเสริมแรงเข้าไปที่สะโพกอีกครั้ง
ความรู้สึกที่ตามมานั้นแทบจะทำให้หัวของเขาระเบิดและร้องออกมาเสียงดัง
หลังจากเข้ามาได้เกินครึ่งทางแล้ว วาห์นก็ชนเข้ากับจุดที่แข็งแต่ก็ยืดหยุ่นซึ่งทำให้แผ่นหลังของเขาสั่นสะท้านไปหมด
ทีโอน่าเองก็สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะปล่อยเสียงครางรุนแรงออกมาใส่ใบหูของเขา
ดูเหมือนว่ายิ่งพวกเขาใช้เวลาไปนานเท่าไหร่ แรงของทีโอน่าก็ยิ่งฟื้นกลับมามากขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้เธอเริ่มจิกนิ้วเข้าไปในแผ่นหลังของวาห์นขณะกำลังกัดฟันแน่น
หลังจากเริ่มมีอาการหอบไปบ้าง เธอก็พึมพำกับวาห์น
“มันออกจะ… ใหญ่ไปนิดนะ…”
เธอหัวเราะเล็กน้อยหลังพูดออกมาขณะที่วาห์นแข็งเป็นรูปปั้นไปเรียบร้อยแล้ว
ในช่วงที่เขามาถึง ‘ทางตัน’ วาห์นก็เริ่มพบกับปรากฏการณ์ที่แทบจะกลืนกินจิตใจทั้งหมดของเขาเข้าไป
เมื่ออาวุธกรำศึกของเขาปะทะเข้ากับกำแพงชั้นในของทีโอน่า ร่างกายส่วนล่างทั้งหมดของเธอก็เริ่มบีบรัดเขาจนแน่นไปหมดแถมยังบิดไปมาอีกด้วย
ราวกับว่ามันพยายามดึงเขาให้จมลึกเข้าไปอีก
วาห์นแทบจะเสียสติไปกับ ‘แรงดูด’ มหาศาลที่ไม่ยอมหยุดลงง่ายๆ
เขาพยายามดึงตัวออกมาช้าๆ แต่กลับพบว่าการทำแบบนั้นก็ยิ่งทำให้แรงดูดทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม
ดูท่ากลีบดอกอันแสนหอมหวานนี้จะไม่ยอมให้เขาถอยทัพกลับออกไปได้ง่ายๆ เสียแล้ว
ในจังหวะที่เขาพยายามขยับออก ทีโอน่าก็ครางลั่นและจิกหลังเขาแรงกว่าเดิม
ตอนนี้แผ่นหลังของวาห์นเริ่มมีเลือดออกเล็กน้อยแล้วและเธอก็พูดขึ้นมาช้าๆ
“นายจะต้อง… รุนแรงกว่านี้… ร่างกายของชาวอเมซอน… ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป…”
วาห์นไม่แน่ใจนักว่าเธอหมายถึงอะไร แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่และใส่แรงเข้าไปมากกว่าเดิม
หลังจากเพิ่มแรงเข้าไปแล้ว ในที่สุดเขาก็สามารถเอาชนะแรงดูดและกลับออกมาได้
วาห์นรู้สึกเหมือนภายในของทีโอน่ากำลังสั่นสะเทือนในขณะที่เขาดึงตัวออกมา
ร่างกายของวาห์นเองก็ตอบรับแรงสั่นสะเทือนนั่นและเคลื่อนสะโพกไปข้างหน้าอีกครั้งด้วยแรงที่มากกว่าเดิม
ปรากฏว่าการรุกเข้าไปในร่างของทีโอน่านั้นเป็นอะไรที่ง่ายกว่าการดึงตัวออกมามาก
บางทีนี่อาจจะเป็นคุณสมบัติพิเศษของชาวอเมซอนก็ว่าได้
มันเหมือนกับว่าร่างกายของเธอเต็มใจที่จะให้เขาผ่านเข้ามา แต่กลับไม่ยอมให้หนีออกไป
แรงดูดอันทรงพลังนั้นห้อมล้อมอาวุธของเขาจากทุกทิศทาง และครั้งนี้วาห์นก็อดไม่ได้ที่ร้องครวญครางออกมา
ไอส์สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงร้องของเขา แต่ทีโอน่ากลับหัวเราะเล็กน้อยขณะที่เอาแขนไปโอบคอและจูบเขาเอาไว้
ลิ้นของเธอบุกรุกเข้าไปในริมฝีปากและเริ่มออกแรงดูดอย่างโหยหา
วาห์นนั้นรู้สึกว้าวุ่นไปกับร่างกายส่วนล่างอยู่ แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบรับจูบนั่น
เขาเริ่มทำตามเธอและนำลิ้นของตัวเองไปพัวพันด้วย
ทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่มไปเกือบนาที จนกระทั่งวาห์นถอนเอวออกและดันมันกลับเข้าไปอีกครั้ง ทั้งคู่จึงหยุดจูบและถอนหายใจออกมา
ทีโอน่าพึมพำออกออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อ… ไม่จบง่ายๆ แน่… ไม่ต้องห่วงฉัน… ทำให้ดีที่สุดเลย”
ทีโอน่าซุกหัวเข้ากับแผงอกของวาห์นพร้อมโอบรอบแผ่นหลังของเขาไว้และไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองอีก
วาห์นอยากบอกว่ามันยากมากที่จะขยับตัวไปมาขณะที่เธอกอดเขาเอาไว้แบบนี้
แต่พอคิดอีกทีก็รู้สึกว่าการพูดแบบนั้นดูจะเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย
ความรู้สึกเสียวซ่านที่วาห์นสัมผัสมาจนถึงตอนนี้เริ่มเข้ามาเปลี่ยนบางอย่างภายในใจของเขาแล้ว แต่เขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองรู้สึกดีอยู่ฝ่ายเดียวเด็ดขาด
เขาอยากให้เธอสนุกไปกับมันพร้อมกันกับเขาด้วย แทนที่จะต้องมา ‘ทรมาน’ แบบตอนนี้
วาห์นเอื้อมมือไปจับหลังเข่าของทีโอน่าก่อนจะยกมันขึ้นเพื่อหามุมที่ดีกว่าเดิมในขณะที่เธอยังกอดเขาอยู่
เขารู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างที่สามารถยกขาของเธอขึ้นจนเข่าแทบจะมาติดกับซี่โครงของเขาได้แบบไม่ยากเย็นนัก
การกระทำของเขาดูเหมือนจะไปกระตุ้นบางอย่างในตัวทีโอน่าเข้า และแล้วเธอก็เอาขาขึ้นมาโอบเขาไว้ราวกับเป็นหมีโคอาล่า
วาห์นเกือบจะหัวเราะออกมาด้วยความหงุดหงิด เพราะความพยายามที่จะทำให้การเคลื่อนไหวง่ายขึ้นของเขานั้นล้มเหลวไม่เป็นท่า
เขาอยากลองทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับเธอและต้องการให้เธอรู้สึกดีขึ้นโดยการนำอาวุธไปขยี้ตรงจุดที่เธอเคยบอกเอาไว้
แต่แล้วที่โอน่าก็พยายามทำให้ทุกอย่างยากขึ้นด้วยการแนบตัวติดกันและดูท่าว่าจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ
ตอนนี้เขาไม่สามารถขยับส่วนเอวได้เลยแม้แต่น้อย และดูเหมือนอาวุธของเขากำลังตกเข้าสู่ห้วงลึกของเธออย่างช้าๆ ขณะที่แรงดูดทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
สิ่งเดียวที่เขาพอทำได้ในช่วงเวลานี้ก็คือเขย่าเอวไปมาเล็กน้อยขณะที่ยังคงจมลึกเข้าไปในเรือนร่างอันแสนหิวโหยของเธอ
วาห์นเริ่มกลัวว่าเธอจะกลืนเขาเข้าไปจริงๆ แล้วเพราะตอนนี้เกือบ 80% ของของก็เข้าไปติดอยู่ในนั้นเรียบร้อย
มันเหมือนกับว่าร่างกายของเธอกำลังปรับตัวให้เข้าที่หรือบางทีส่วนล่างของเธออาจจะยืดหยุ่นมากขึ้นหลังถูกเล้าโลมมาเป็นเวลานาน
วาห์นไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร เพราะแม้แต่ความรู้สึกสงสัยของเขาก็ไม่อาจเอาชนะแรงดูดนั่นไปได้
ทีโอน่าเริ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ และวาห์นสัมผัสได้ว่าทุกครั้งที่เธอทำแบบนั้น แรงดูดก็จะรุนแรงขึ้นตามไปด้วย
ที่จริงเขาเองก็เริ่มหอบตามจังหวะการหายใจของเธอแล้ว และไม่แน่ใจว่าทนอยู่แบบนี้ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
มันเป็นความรู้สึกค่อนข้างหงุดหงิดอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับวาห์น เพราะเขารู้สึกดีมากแต่มันกลับไม่อาจพาเขาไปสู่จุดสุดยอดที่ร่างกายกำลังถวิลหาได้
ในที่สุดความหงุดหงิดของเขาก็มาถึงจุดที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปขณะเริ่มนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ทีโอน่าพูดไว้เมื่อกี้นี้
ดูเหมือนเธออยากจะให้เขาพยายามมากขึ้นเพื่อเอาชนะเธอให้ได้ ดังนั้นวาห์นจึงท้าวศอกและสอดมือขวาเข้าไปใต้ไหล่ขณะนำมือซ้ายมาง้างขาขวาของเธอออกจากร่างกายของเขา
ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จและยกขาข้างนั้นขึ้นไปอีก
เขายกมันผ่านซี่โครงจนเกือบจะขนานกับฟูก (TL: นึกถึงพวกท่าโยคะ เพราะทีโอน่าตัวอ่อนมาก)
ทีโอน่าพยายามเกาะเอวของเขาเอาไว้ด้วยขาซ้าย แต่ตอนนี้วาห์นมีอิสระมากพอที่จะขยับเอวได้อีกครั้งหนึ่งแล้วและเริ่มเคลื่อนไหวต่อไปด้วยตนเอง
ทีโอน่าเริ่มจิกหลังแรงขึ้นและเขาก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจอันร้อนระอุของเธอตรงแผงอกทุกครั้งที่เขาเบียดเอวเข้าไป
วาห์นยังคงเพิ่มแรงเข้าไปในการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และแล้วจุดสุดยอดที่ร่างกายของเขาโหยหาก็พุ่งสูงขึ้นจนเกือบทำให้เขากลายเป็นบ้า
เขากลั้นหายใจและเข้าจู่โจมกำแพงชั้นในของทีโอน่าอย่างต่อเนื่อง
ร่างกายของทั้งคู่ต่างสั่นสะท้านเมื่อทั้งสองสิ่งนั้นสัมผัสกันอย่างรุนแรง
ในที่สุดสายตาของวาห์นก็เริ่มพร่าเลือนและเขารู้สึกเหมือนใกล้จะหมดสติจากการกลั้นหายใจมานาน
เขารู้สึกกดดันภายในปอดมากและอยากจะปลดปล่อยมันออกมาเพื่อสูดอากาศเข้าไปใหม่เหลือเกิน
แต่จะมาหยุดกลางคันตอนนี้ไม่ได้ เพราะคลื่นความสุขของเขาใกล้ถึงจุดวิกฤติแล้ว
ในที่สุดราวกับผ่านมานานแสนนาน วาห์นก็รู้สึกถึงคลื่นที่กำลังเคลื่อนผ่านร่างกายของตัวเองและแอ่นเอวไปข้างหน้าอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะปลดปล่อยทุกอย่างเข้าไปในเรือนร่างของทีโอน่า
เขาเลิกกลั้นหายใจขณะที่ทีโอน่าใช้โอกาสตอนที่เขาไม่ทันระวังตัวเพื่อโอบขาของเธอไปรอบเอวของเขาอีกครั้ง
แรงดูดในร่างของเธอรุนแรงขึ้นจากเดิมเป็นสองเท่า และวาห์นรู้สึกราวกับว่ามันกำลังดูดพลังทั้งหมดออกไปจากร่างของเขา
เขาได้แต่สูดลมหายใจเข้าแรงๆ และปล่อยมันไว้แบบนั้นจนกระทั่งทีโอน่าลดขาลงและยอมปล่อยเขาไป
วาห์นรีบถอนอาวุธออกมาก่อนจะเคลื่อนตัวลงไปนอนข้างๆ ทีโอน่าและเริ่มหอบหายใจเสียงดัง
แม้เขาจะรู้สึกคาดหวังกับเรื่องนี้ไว้บ้าง แต่การได้ลงสนามจริงนั้นเป็นอะไรที่อยู่เหนือจินตนาการของเขาไปเลย
เขายังอยู่ในสภาพมึนงงพร้อมกับพยายามนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ทีโอน่าคลานขึ้นมาบนตัวของเขาและพักร่างของเธอเองไว้บนนั้น
เขารู้สึกถึงจุดที่หน้าอกของเธอกดลงมาได้อย่างชัดเจนขณะที่เธอเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม
วาห์นเริ่มเอื้อมมือไปโอบรอบเอวอย่างที่ทำประจำและดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขาอย่างแน่นหนาเพื่อทำให้การจูบทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
ทั้งคู่ต่างโหยหาริมฝีปากของกันและกันอยู่เกือบสามนาทีก่อนที่ทีโอน่าจะถอนจูบและจ้องมองวาห์นด้วยความรู้สึกมากมายขณะที่น้ำตาเริ่มไหลออกมา
เธอพูดขึ้นอย่างช้าๆ
“วาห์น ฉันดีใจจริงๆ ขอบคุณนะ…”
พอวาห์นเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตานั่น เขาก็ดึงมือออกจากเอวบางและประคบมันกับใบหน้าเปียกๆ ก่อนจะนำนิ้วโป้งมาเช็ดน้ำตาออกให้
เขาประสานตากับเธอพร้อมรอยยิ้มและพูดตอบกลับไป
“ในวันข้างหน้าฉันจะทำให้เธอมีความสุขกว่านี้อีก”
จากนั้นก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรเพิ่ม เขาก็ผนึกริมฝีปากเธอด้วยอีกหนึ่งจูบ
ครั้งนี้วาห์นใส่ความรู้สึกลงไปมากกว่าครั้งไหนๆ จนถึงขั้นไม่รู้เลยว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
การจูบยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเสียงๆ หนึ่งดังขึ้นจากด้านข้างและทำให้เขาตื่นจากภวังค์แห่งการจูบที่เป็นคนร่ายมันด้วยตัวเอง
“ตาฉันแล้ว”
ไอส์รู้สึกตื่นตระหนกมากเมื่อได้เห็นฉากอันแสนร้อนแรงเมื่อกี้นี้ เธอกลัวว่าทีโอน่าอาจจะต้องบาดเจ็บเพราะวาห์น
แต่พอเห็นสีหน้าดีใจและมีความสุขของทีโอน่า ไอส์ก็รู้สึกแปลกๆ ตรงหัวใจขึ้นมาแทน
พอถึงตอนที่ทีโอน่ากับวาห์นเริ่มกอดและจูบกันอีกครั้ง ความหวาดกลัวและตื่นตระหนกของไอส์ก็เริ่มจางหายไปและถูกแทนที่ด้วยความคับข้องใจแทน
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหงาเล็กน้อยขณะนั่งกอดเข่าอยู่ข้างสนามจนเผลอไปขัดจังหวะช่วงเวลารักใคร่ของทั้งสองเข้า
วาห์นและทีโอน่านิ่งไปหลังจากที่ไอส์พูดออกมา
ทั้งคู่เริ่มมองไปทางหญิงสาวที่มองจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาตำหนิหน่อย
ทีโอน่าเริ่มหัวเราะขณะค่อยๆ ดึงตัวออกมาจากวาห์นอย่างเกียจคร้านและย้ายไปนั่งอยู่ด้านข้างแทน
เมื่อเห็นวาห์นที่ยังสับสนอยู่ ทีโอน่าก็ยิ้มและพูดขึ้น
“ไอส์พูดถูก คงไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ถ้าฉันฮุบนายไว้คนเดียว ดูแลเธอให้ดีด้วยล่ะ เข้าใจไหม?”
วาห์นลุกขึ้นนั่งและมองไปมาระหว่างสองสาวก่อนจะพยักหน้าและตอบกลับไป
“ฉันสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดเลย”
ดูเหมือนไอส์จะพอใจกับคำตอบนั่นและเริ่มลดเข่าลงก่อนจะคลานไปข้างหน้า
วาห์นเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่การได้เห็นเด็กสาวคลานเข้ามาหานั้นได้ทำให้หัวใจของเขาเริ่มเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง
พอเธอหยุดอยู่ข้างๆ และเริ่มยกแขนขึ้น ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของเขาก็ลอยออกไปนอกหน้าต่างหลังจากที่เธอพูดจบ
“ถอดให้ด้วย”