Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 180
หลังแยกทางกับคู่แม่ลูก วาห์นก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไปอย่างฮึกเหิม
เขามีความสุขที่ได้เติมเต็มความโดดเดี่ยวให้กับมิลานและตั้งใจว่าจะช่วยเธอดูแลทีน่าให้ดีที่สุด
ที่จริงๆ วาห์นไม่ได้อยากมีอะไรกับพวกเธอหรืออะไรแบบนั้นเป็นพิเศษ แต่แค่อยากทำให้ทั้งคู่เพื่อให้พวกเธอมีความสุขกว่านี้ก็เท่านั้นเอง
แม้ว่าจะไม่สามารถแทนที่สามีของมิลานหรือพ่อของทีน่าได้ แต่เขาก็อยากดูแลพวกเธอทั้งสองคนให้ดีที่สุด
วาห์นมาถึงโรงหลอมขอเฮเฟสตัสหลังออกจากโรงแรมได้ไม่นานและได้รับแจ้งจากเซฟฟ์ว่าเขาได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้เข้าไปในห้องทำงานของเฮเฟสตัสได้โดยที่ไม่ต้องไปแจ้งเธอล่วงหน้า
จากนั้นเซฟฟ์ก็ส่งกุญแจของโรงหลอมให้ก่อนที่วาห์นจะเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มกว้าง
วาห์นเพิ่งได้รับกุญแจพิเศษที่เข้าถึงห้องทำงานส่วนตัวของเฮเฟสตัสได้ซึ่งผู้ที่ถือครองกุญแจแบบนี้มีเพียงสึบากิและเฮเฟสตัสเท่านั้น
พอจำได้ว่าสึบากิมักจะเคาะประตูก่อนเข้าไปในนั้น วาห์นจึงทำแบบเดียวกันก่อนจะเสียบกุญแจและเปิดประตูเข้าไปด้านใน
เฮเฟสตัสกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เตี้ยและทำความสะอาดอาวุธด้วยผ้าทำความสะอาดแบบพิเศษก่อนจะหันมาหาเขา
วาห์นเป็นฝ่ายทักขึ้นก่อนที่เทพสาวจะได้เอ่ยปาก “วันนี้เธอดูสวยเป็นพิเศษเลยนะ… ภรรยาของฉัน~”
รอยยิ้มเล็กๆ ของเฮเฟสตัสแข็งค้างไปในทันทีที่ได้ยินคำทักทายของเด็กหนุ่ม
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกสองพบกันหลังจากพิธีหมั้นหมาย และเทพสาวก็ยังไม่คุ้นชินกับสถานะใหม่ของตัวเองเท่าไหร่นัก… โดยเฉพาะวิธีที่วาห์นใช้เรียกเธอเมื่อกี้นี้
ครู่ต่อมา ใบหน้าของเฮเฟสตัสก็เริ่มแดงขึ้นขณะที่วาห์นเดินเข้ามาใกล้
เขาส่งมือออกมาและช่วยเธอยืนขึ้นก่อนจะโอบกอดและเข้าจูบริมฝีปากที่ประทับอยู่บนใบหน้าแดงก่ำ
เฮเฟสตัสยังคงสับสนหน่อยๆ แต่เธอก็เริ่มตอบสนองกลับไปด้วยอ้อมกอดของเธอเองอย่างไม่รอช้า
ทั้งสองจูบกันเกือบนาทีก่อนที่เฮเฟสตัสจะปัดมือซุกซนที่พยายามเลื่อนลงไปจับบั้นท้ายของเธอเอาไว้
เธอเปลี่ยนไปใช้สีหน้า ‘โกรธๆ’ ก่อนจะถามขึ้น
“ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ล่ะ?
นี่นายแค่อยากมาหาฉันหรือว่ามีธุระอย่างอื่นด้วย?”
วาห์นพยักหน้าและตอบไปตามตรง
“ก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละ
ฉันอยากเจอเธอเพราะมันก็สักพักนึงแล้วนะตั้งแต่ที่เราได้อยู่ด้วยกัน
แล้วก็มีอีกเรื่องที่อยากให้ช่วยตรวจสอบหน่อย คิดว่าเธอต้องประหลาดใจแน่นอน”
เพราะทั้งสองยังกอดกันอยู่ วาห์นจึงจูบเธออีกครั้งก่อนจะถอยออกมาเล็กน้อยเพื่อให้เฮเฟสตัสดูไอเท็มที่เขานำมาด้วย
เฮเฟสตัสรู้สึกว่าวาห์นดูใจกล้ามากขึ้นหากเทียบกับครั้งล่าสุดที่เจอกัน และมันก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกนิด
เธอเห็นว่าแม้จะแสดงความใกล้ชิดต่อกัน แต่วาห์นก็ยังควบคุมตัวเองได้ดีและดูมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
มันต่างจากช่วงก่อนหน้านี้ที่เด็กหนุ่มมักจะโหยหาเธอโดยไม่คิดถึงสถานที่ สิ่งรอบตัว และปัจจัยอื่นๆ
ตอนนี้เขาดูขี้เล่นและชอบหยอกล้อมากกว่าการทำอะไรที่ดูเกินเลยมากไป
ทว่าความรู้สึกประหลาดใจของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจทันทีที่เห็นไอเท็มที่เด็กหนุ่มนำออกมา
วาห์นนำ [เลวาไทน์] ออกมาจากช่องเก็บของก่อนจะเริ่มอธิบายคุณสมบัติของมันและกล่าวเตือนให้เธอระวังเรื่องการกวัดแกว่งมันในนี้
เฮเฟสตัสเอื้อมมือไปหยิบด้ามดาบด้วยความสนใจ ก่อนจะชูมันขึ้นและตรวจสอบโครงสร้างกับรูปลักษณ์ของมัน
เธออดไม่ได้ที่จะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแบบไม่ค่อยอยากเชื่อ
“นี่นาย… สร้างมันขึ้นมาเองเหรอ?”
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้นวาห์นก็น่าจะไปถึงขั้น [ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก] ภายในเวลาไม่กี่วันที่ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
เธอเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นหน่อยๆ ทันทีที่เห็นเขาพยักหน้ารับ
วาห์นพยักหน้าและอธิบายให้ฟัง
“ฉันสร้างมันขึ้นมาเอง แต่ว่ายังไม่ได้สกิล [ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก] มาหรอกนะ
ฉันใช้เทคนิคพิเศษในการผสาน ‘ชะตา’ และ ‘ตำนาน’ ลงไปในตัวดาบเพื่อยกระดับของมันขึ้นมาอีกขั้นน่ะ”
จากนั้นวาห์นก็เริ่มอธิบายหลักการของพลังในการ ‘ตั้งชื่อ’ ก่อนจะนำ [อเมซอนเริงระบำ] และ [แกรม] ออกมาให้เธอดู
เฮเฟสตัสเพ่งมองอาวุธทั้งสามชิ้นด้วยสีหน้าจริงจังขณะใช้เครื่องมือหลายอย่างพร้อมกับ ‘นัยน์ตาเทพ’ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างและองค์ประกอบของพวกมัน
แม้จะไม่ได้อยู่ขั้นเดียวกับ [เลวาไทน์] แต่อาวุธอีกสองชิ้นก็ถูกสร้างขึ้นด้วยความใส่ใจเป็นพิเศษบวกกับเทคนิคชั้นยอด
เธอจ้องมองวาห์นราวกับกำลังมองสมบัติล้ำค่าก่อนจะพูดขึ้น
“ถอดเสื้อออก ฉันอยากดูสถานะของนายหน่อย…”
วาห์นปฏิบัติตามคำสั่งของเธอทันที ก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็น ‘คนสั่ง’ เริ่มหน้าแดงทันทีที่เขาถอดเสื้อ
เฮเฟสตัสเห็นรอยยิ้ม ‘เจ้าเล่ห์’ นั่น เธอก็เลยตบไปที่แผ่นหลังและเร่งให้วาห์นนอนลงบนโซฟา
ทันทีที่นอนลงไปแล้ว วาห์นก็หลับตาและสูดดมมันก่อนที่เทพสาวจะไหวตัวทัน
ใบหน้าของเฮเฟสตัสเริ่มแดงจนเข้าขั้นอันตราย ขณะที่วาห์นพูดเสริมราวกับอยากจะให้มันแดงจนระเบิดออก
“หอมดี… ทำให้ฉันใจเต้นหน่อยๆ”
เทพสาวหายใจลึกๆ หลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะนึกในใจว่าเขากล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาหน้าตาเฉยได้ยังไงกัน
เธอรู้ว่ากำลังโดนแกล้ง และมันก็ทำให้ความรู้สึกของเธอในตอนนี้ผสมปนเปกันจนยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด
ก่อนที่วาห์นจะได้เล่นอะไรต่อ เฮเฟสตัสก็บิดคอของเขาและบอกให้อยู่เฉยๆ เพราะเธอต้องใช้สมาธิ
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของค่าสถานะและสกิลต่างๆ เฮเฟสตัสก็รู้สึกตกตะลึงจนแทบพูดไม่ออก
————————————————————————–
[[สถานะ]]
ชื่อ: [วาห์น เมสัน]
อายุ: 15
-เลเวล:3
-พลังโจมตี: (I39)
-ความอดทน: (H141)
-ความแม่นยำ: (I92)
-ความว่องไว: (I52)
-พลังเวท: (SS1009)
สกิล: [ความเชี่ยวชาญด้านธนู:B], [อำพรางตัว:C], [ทลายพันธนาการ:S], [เสียงเพรียกแห่งยมทูต:B], [พรแห่งอิกดราซิล:S], [ม่านคุ้มภัยนักเดินทาง: S], [นักดาบ: A], [ย่างก้าวไร้สัมผัส: B], [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า: S], [โพรมีธีอุส], [หัวใจของเพลิงนิรันดร์: SS], [โลหะวิทยา: B], [เพลงหมัดโจมตี: B], [สหายของเหล่าภูต: A]
สกิลที่กำลังพัฒนา: [เคลื่อนย้ายบาดแผล: A], [จิตวิญญาณฟื้นฟู: A], [ช่างตีเหล็ก: S]
เวทมนตร์: [แปลงโฉมพันหน้า:C]
————————————————————————-
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงในค่าสถานะเขาโดยเฉพาะเรื่องค่าพลังเวทนั้นจะทำให้เธอประหลาดใจมาก แต่สิ่งเตะตาเฮเฟสตัสมากที่สุดก็คือสกิลของวาห์นและข้อมูลอีกอย่างที่สำคัญเอามากๆ
เธอหันไปมองหน้าวาห์นด้วยสายตาสงสัยและถามขึ้น “นี่นายอายุ 15 ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
วาห์นประหลาดใจกับคำถามของเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากพี่สาว
เขามองเธอและอธิบายแบบเรียบๆ
“น่าจะเมื่อวันพุธมั้ง ถามทำไมเหรอ?”
ทันทีที่พูดจบ เฮเฟสตัสก็ฟาดเข้าที่หลังเอวก่อนจะโวยวายเสียงดัง
“แล้วทำไมไม่มาบอกกันก่อนเล่า!? บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะวาห์น ว่าใครรู้เรื่องนี้บ้าง!?”
ปฏิกิริยาของเธอทำให้วาห์นประหลาดใจมากและไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องทำเหมือนมันเป็นเรื่องใหญ่โตด้วย
แต่เพราะเธอถามแบบจริงจัง เขาก็เลยตอบไปตามตรง
“ฉันไม่ได้ไปบอกใครเลยนะ แล้วทำไมเธอต้องทำตัวแปลกๆ กับเรื่องนี้ด้วยล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าวาห์นดูสับสนมากและพอเฮเฟสตัสเห็นสีหน้านั่น เธอก็พยายามนึกถึงเรื่องในอดีตของเขา
หลังจากก้มหน้าและคิดครู่หนึ่ง เธอก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง
“วาห์น นี่นาย… ไม่เคยฉลองวันเกิดของตัวเองมาก่อนเลยเหรอ?”
หลังจากได้ฟังคำถามแปลกๆ ของเทพสาว วาห์นก็ส่ายหัวและพยายามอธิบาย
“ฉันไม่เคยฉลองวันเกิดหรืออะไรแบบนั้นหรอก
จะมีคนมาคอยบอกว่าอายุของฉันเพิ่มขึ้นมาอีกปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าฉลองหรืออะไรแบบนั้นหรอก”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เฮเฟสตัสจึงดูเศร้าไปถนัดตาก่อนจะพลิกร่างของเด็กหนุ่มขึ้นและค่อยๆ นำใบหน้าของเขาเข้ามาสู่อ้อมอกของเธอ
ตอนวาห์นไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างเดียวที่พอรู้ก็คือดูเหมือนเธอจะรู้สึกแย่กับสิ่งที่เขาตอบออกไปมาก
เธอพยายามปลอบโยนเขาอยู่ ดังนั้นวาห์นจึงปล่อยให้เธอทำใจชอบก่อนจะกอดตอบและเพลิดเพลินไปกับความอบอุ่นจากร่างกายที่คุ้นเคย
เฮเฟสตัสยังคงลูบหลังของวาห์นไปเรื่อยๆ ขณะที่ความชื้นเริ่มก่อตัวขึ้นในดวงตาของเธอ
การที่ว่าวาห์นปฏิบัติกับวันคล้ายวันเกิดของตัวเองแบบนี้… มันทำให้เทพสาวรู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน
เธออยากร้องไห้ออกมา แต่ก็รู้ว่านั่นจะทำให้เขาเป็นฝ่ายเข้ามาปลอบแทน
สำหรับตอนนี้ เธอยังคงลูบหลังต่อไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้แน่ใจว่าเขาเข้าใจความกังวลของเธอ
หลังจากผ่านไปสักพัก เฮเฟสตัสก็มากระซิบกับข้างหูวาห์น
“ต่อไปเราควรจะจัดงานฉลองวันเกิดให้นายนะ… เราจะเชิญทุกคนมา แล้วก็จัดให้มันยิ่งใหญ่ไปเลย…”
วาห์นแค่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ
เขาเพิ่งจะอ่านข้อมูลมานิดหน่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องของวันเกิดและได้เรียนรู้ว่าคนทั่วไปมักจะเฉลิมฉลองให้กับวันเกิดของตัวเองร่วมกับกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จัก
เพราะเขาไม่เคยเฉลิมฉลองวันเกิดของตัวเองหรือไปร่วมงานของคนอื่น วาห์นจึงไม่รู้เกี่ยวกับธรรมเนียมดังกล่าวมาก่อนเลยในชีวิต
ในอีกยี่สิบนาทีถัดมา เฮเฟสตัสก็ยังคงสวมกอดวาห์นต่อไปขณะถามเด็กหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ ที่เขายังไม่เคยทำหรือเคยเห็นมาก่อน
เธอพบว่าวาห์นนั้นยังไม่เคยเข้าร่วมงานเทศกาล ฉลองวันหยุดพิเศษ หรือร่วมฉลองช่วงปีใหม่มาก่อนเลย
มันเป็นเรื่องแปลกมากที่เธอและผู้หญิงคนอื่นไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
เฮเฟสตัสสาบานกับวาห์นว่านับจากนี้ไป พวกเขาจะเฉลิมฉลองให้กับทุกเหตุการณ์และวันสำคัญต่างๆ ด้วยกัน
ก่อนที่วาห์นจะออกจากโรงหลอม ทั้งคู่ก็พูดคุยกันเรื่องการจัดงานเลี้ยงวันเกิดของเขาในช่วงสุดสัปดาห์หน้า
เฮเฟสตัสกล่าวว่าเธอและเอน่าจะประสานงานกันและจัดงานเรื่องนี้เอง วาห์นนั้นเพียงแค่ต้องจำวันให้ได้และมาร่วมงานเมื่อเวลานั้นมาถึงก็พอ
วาห์นรับปากเธอและสัญญาว่าเขาจะไม่วางแผนอะไรในช่วงสุดสัปดาห์หน้า
จากนั้นทั้งสองก็จูบกันเกือบห้านาทีก่อนที่วาห์นจะเดินออกจากห้องทำงานอันแสนอบอุ่นของเฮเฟสตัสและอ้อมกอดเทพธิดาผู้งดงาม
ขณะกำลังมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์สนธยา วาห์นก็นึกย้อนถึงเรื่องที่พวกเขาเพิ่้งคุยกัน
พอไตร่ตรองอีกหน่อย เขาก็นึกขึ้นได้ว่าไอส์เพิ่งจะฉลองวันเกิดของเธอตอนครั้งล่าสุดที่เขามาหา
วาห์นเพิ่งตระหนักว่าคนอื่นคงเห็นงานฉลองแบบนี้เป็นเรื่องปกติ และมันยังช่วยให้ผู้มาร่วมงานได้ใกล้ชิดและรู้จักกันมากขึ้น อีกทั้งมันยังอาจสะท้อนให้เรานึกย้อนถึงเรื่องต่างๆ ในอดีต รวมไปถึงและการวางแผนหรือการนึกถึงเรื่องในอนาคตด้วย
วาห์นเริ่มนึกภาพงานวันเกิดของตัวเองซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คนที่เขาห่วงใย และความคิดนั่นก็ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและตื่นเต้นมาก
แม้ว่างานจะถูกจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ แต่เขาก็อยากจะให้วันนั้นมาถึงเร็วๆ จนรอต่อไปแทบไม่ไหวแล้ว
เขาตั้งเวลาเตือนไว้ในระบบเพื่อจะได้ไม่พลาดงานสำคัญของตัวเอง
เนื่องจากยังต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนภายในลูกแก้ว วาห์นจึงกลัวหน่อยๆ ว่าอาจลืมเรื่องนี้ไป
กว่าจะมาถึงคฤหาสน์สนธยาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้ว วาห์นจึงกลัวหน่อยๆ ว่าเขาอาจจะกลับบ้านช้าและพลาดช่วงเวลาที่ต้องเข้าไปในลูกแก้ว
ยังดีที่เวลาในนั้นเท่ากับไม่กี่วินาทีในโลกจริง และบางทีการเข้าไปลูกแก้วตอนอยู่นอกบ้านก็อาจจะไม่ได้เป็นปัญหามากแบบที่เขาคิด
สิ่งเดียวที่เขากังวลก็คือลืมว่ากำลังทำอะไรอยู่ในช่วงก่อนที่จะเข้าไปในลูกแก้ว
วาห์นมีความคิดแปลกๆ ว่าจะเป็นยังไงหากเขาใช้ลูกแก้วในระหว่างการสนทนากับคนอื่นและกลับออกมาโดยที่จำไม่ได้เลยว่าพวกเขาคุยกันไปถึงไหนแล้ว
เนื่องจากมันเป็นความคิดที่ดูแย่และน่าอับอายมากๆ เขาจึงอยากจะหลีกเลี่ยงมันให้ถึงที่สุดถ้าเป็นไปได้
เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้วาห์นกลายเป็นคนดังในหมู่สมาชิกของโลกิแฟมิเลีย และการมาเยือนของเด็กหนุ่มก็ทำให้เกิดการตอบสนองมากมายหลายแบบ
ผู้ชายหลายคนทำหน้าราวกับว่าวาห์นได้แย่งบางอย่างจากพวกเขาไป ในขณะที่พวกสาวๆ มองมาด้วยความสนใจซึ่งทำให้ออร่าของพวกเธอเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองหรือไม่ก็สีฟ้าสดใส
วาห์นไม่สนใจพวกกลุ่มที่ใช้สายตาอาฆาต แต่เขาก็พยักหน้าอย่างสุภาพให้กับคนที่ไม่มีเจตนาร้าย
ไม่นานหลังจากที่มาถึงก็เกิดเรื่องปั่นป่วนเล็กน้อยเมื่อวาห์นได้พบกับคนที่เขาอยากจะหลบหน้ามากที่สุด
แทนที่จะเป็นทีโอน่าหรือไอส์ คนที่…เทพธิดาที่ออกมาหาเขาก็คือโลกินั่นเอง
เรื่องน่าประหลาดสุดๆ ซึ่งทำให้วาห์นรู้สึกไม่สบายใจเลยก็คือท่าทาง ‘อ่อนโยน’ และออร่าสีชมพูปนเหลืองที่เปล่งประกายออกมาจากร่างกายของเธอ
ไม่เพียงแค่ออร่าเท่านั้น แต่สีหน้าที่เธอทำอยู่ตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่วาห์นไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะได้ประจักษ์
ทุกคนที่อยู่ตรงแผนกต้อนรับจ้องมองโลกิด้วยสายตาแปลกๆ ขณะที่เธอเข้ามาหาวาห์นพร้อมรอยยิ้มและดวงตาที่เปิดออกเล็กน้อย
จังหวะที่วาห์นเห็นดวงตานั่น เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียวสันหลังวาบก่อนที่เหงื่อจะเริ่มผุดออกมาจากผิวหนัง
ทุกครั้งที่เห็นเทพสาวเปิดตาออกมา เธอก็มักจะใช้มันตอนที่กำลัง ‘ข่มขู่’ หรือไม่ก็ ‘แสดงความอยากได้แบบสุดๆ’
ทว่าตอนนี้เขากลับไม่เห็นเจตนาเหล่านั้นเลย… ที่จริงมันออกจะดูอ่อนโยนหน่อยๆ ด้วยซ้ำไป