Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 187
วาห์นตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นและจ้องมองใบหน้าที่หลับใหลของสองสาวอยู่ครู่หนึ่งก่อนนำลูกแก้วออกมาจากช่องเก็บของและมุ่งหน้าเข้าสู่มิติขาวดำ
หลังจากเล่นสนุกกับเอวาไปเล็กน้อย เขาก็สังเกตเห็นว่าขนาดของฟาฟเนียร์นั้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก
นอกเหนือจากพลังเวทและเวทมนตร์บทใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว อย่างอื่นดูเหมือนจะไม่ค่อยเพิ่มขึ้นเลย
เนื่องจากธรรมชาติของของมังกรนั้นทำให้พวกมันมีอายุขัยหลายร้อยปี วาห์นจึงคาดว่าฟาฟเนียร์คงจะไม่โตมากไปกว่านี้หากไม่ได้ออกไปล่ามอนสเตอร์ที่ด้านนอกบ้าง
ทั้งคู่ซ้อมด้วยกันอยู่พักหนึ่งและวาห์นยังได้รับการฝึกภาคปฏิบัติกับเอวาอีกสองสามชั่วโมงก่อนที่เขาจะกลับไปฝึกสร้างไอเท็มอีกครั้ง
เขามาถึงจุดที่ไอเท็มส่วนใหญ่ที่ออกมานั้นถือได้ว่าเป็นขั้นสูงสุดของระดับ B ขณะที่บางชิ้นก็ขึ้นไปถึงระดับ A แล้ว
แต่แย่หน่อยที่หากไม่ได้ใช้ความพยายามเป็นพิเศษ วาห์นก็ยังห่างไกลจากการสร้างไอเท็มระดับ S อยู่มาก
นอกเหนือจากการฝึก ‘เคลื่อนย้ายในพริบตา’ ที่ก้าวหน้าขึ้นมาอีกนิดและพักผ่อนแบบใกล้ชิดกับเอวา การเข้าลูกแก้วในครั้งนี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษมากนัก
วาห์นตื่นขึ้นมาในโลกจริงและนอนเล่นประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่นาฬิกาปลุกของมิลานจะเริ่มดังขึ้น
ดูเหมือนว่ามิลานนั้นจะตื่นยากไม่แพ้ลูกสาวเลย แถมเธอยังเมินเฉยต่อเสียงเตือนอยู่เกือบสิบนาทีก่อนจะลุกขึ้นและเริ่มยืดเส้นยืดสาย
พอจะเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกา มิลานก็หันซ้ายไปเห็นวาห์นที่มองมาพร้อมรอยยิ้มซึ่งทำให้เธอเขินอายอย่างกระทันหันก่อนจะเริ่มดูตัวเองและจัดชุดนอนให้เข้าที่เข้าทาง
หลังจากปิดนาฬิกาแล้ว มิลานก็เปลี่ยนไปใส่ชุดทำงานขณะที่วาห์นพยายามปลุกทีน่าซึ่งดูจะไม่สนใจเสียงเมื่อกี้นี้เลย
เมื่อเห็นเด็กสาวลุกจากเตียงอย่างขี้เกียจพร้อมกับที่มิลานเข้ามาช่วยเธอเปลี่ยนชุด วาห์นก็อดขำไม่ได้ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนบ้าง
เมื่อทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้ว วาห์นก็เริ่มลูบหัวของทีน่าแบบที่ทำประจำทุกเช้าก่อนจะหันไปหามิลานและพยายามทำแบบเดียวกัน
ทว่ามิลานกลับจับมือของเขาไว้และยิ้มให้พร้อมกับเข้ามาสวมกอดแทน
มันไม่ได้เป็นการแสดงความใกล้ชิดแบบเกินเหตุ แต่ก็ทำให้วาห์นรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็ช่วยทั้งสองจัดการเรื่องในโรงแรมก่อนที่ดาวี่และซาช่าจะเลิกงาน
ทีน่าขึ้นไปข้างบนเพื่อรวบรวมผ้าปูที่นอนจากห้องว่าง ขณะที่มิลานและวาห์นเตรียมอาหารเช้าให้แขก
เมื่อถึงตอนเจ็ดโมงเช้า พวกเขาก็ดูแลแขกไปแล้วกว่ายี่สิบคนและวาห์นนั้นรู้สึกกระตือรือร้นเป็นพิเศษเพราะนี่เป็นประสบการณ์ใหม่ที่เขาไม่เคยทำมาก่อน
เพราะทีน่ายังง่วนอยู่กับการซักผ้า วาห์นจึงลองออกไปรับลูกค้าดูบ้างซึ่งบางคนก็จำเขาได้และยังพูดด้วยอย่างสุภาพ
มีหลายคนที่รู้จักวาห์นในฐานะ ‘วัลแคน’ และเข้ามาแสดงความยินดีจากการที่เขาหายดีแล้ว
ก่อนจะออกจากโรงแรม วาห์นก็กอดทีน่าเสียยกใหญ่โดยยกตัวเธอขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าเด็กสาวจะชอบการกอดแบบใหม่นี้มากจนถึงขั้นหอมแก้มวาห์นทันทีทีเท้าถึงพื้น
มิลานที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่วาห์นก็ไม่ได้กะปล่อยให้เธอยืนดูอย่างเดียวอยู่แล้ว ก่อนจะ ‘ยก’ หญิงสาวขึ้นมาบ้าง
เขาสูงกว่าเธออยู่เล็กน้อย ดังนั้นครั้งนี้จึงต่างไปจากการแสดงความใกล้ชิดที่ผ่านๆ มามาก
วาห์นสังเกตเห็นว่าหางของเธอกำลังแสดงท่าทาง ‘มีความสุข’ แม้ว่าใบหน้าของผู้เป็นเจ้าของจะดู ‘โกรธๆ’ ก็ตาม
เนื่องจากวาห์นสัญญาว่าจะไปเดตกับทีโอน่าและไอส์ เขาจึงออกไปรับพวกเธอที่คฤหาสน์สนธยา
แม้จะไปเจอกันที่จุดนัดพบเลยก็ได้ แต่โลกิก็ขอให้เขาไปรับพวกเธอเป็นการส่วนตัวเพราะเทพสาวต้องการให้สมาชิกของแฟมิเลียรู้สึกคุ้นเคยกับวาห์นให้มากกว่านี้
ยังมีสมาชิกอีกหลายคนที่ไม่ชอบขี้หน้าของเด็กหนุ่มเท่าไหร่ โลกิจึงอยากตัดไฟแต่ต้นลมโดยอนุญาติให้วาห์นมีสิทธิ์เข้าถึงคฤหาสน์สนธยาได้อย่างอิสระ
นั่นจะแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่แค่ ‘คนที่แอบเข้าขโมยหัวใจของหญิงสาว’ แต่คือบุคคลสำคัญที่เป็นหัวใจหลักของพันธมิตรระหว่างเฮเฟสตัสและโลกิแฟมิเลีย
มีคนที่อยู่กับแฟมิเลียมานานแล้วเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่กล้าคิดลองดีกับวาห์น เพราะต่างรู้ดีว่าคนที่จะมาเดือดเนื้อร้อนใจแทนเด็กหนุ่มนั้นไม่ใช่แค่สหายจากปาร์ตี้หลักเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเทพธิดาของพวกตนด้วย
วาห์นรู้สึกตื่นเต้นกับการที่จะได้ไปเดต แต่เขาก็เตรียมใจรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นไว้แล้ว
แม้ชื่อเสียงของ ‘วัลแคน’ จะเริ่มเรื่องลือไปทั่ว แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จำลักษณะหน้าตาของเขาได้
นั่นทำให้คนส่วนใหญ่แลดูเฉยเมยขณะที่วาห์นเดินผ่านไป
แต่วันนี้ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปเพราะเขาต้องพาคู่สาวงามออกมายังพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น
เนื่องจากทั้งทีโอน่าและไอส์นั้นแข็งแกร่งมาก นั่นก็หมายความว่าทุกคนที่กล้าพอจะเข้ามาหาเรื่องวาห์นเองก็ต้องแข็งแกร่งในระดับหนึ่งเช่นกัน
เพราะช่วงนี้เขาเอาแต่สร้างไอเท็มอย่างต่อเนื่อง วาห์นจึงมี OP สะสมไว้เป็นจำนวนมากจากตอนอยู่ในลูกแก้ว
แม้จะสร้างอาวุธที่เหมือนๆ กันแต่วาห์นก็ยังได้รับ OP มาประมาณ 1,000 แต้มในทุกๆ สามชั่วโมงซึ่งพอคำนวณออกมาแล้วเขาจะได้รับ 15,000 – 20,000 OP จากการเข้าไปในลูกแก้วหนึ่งครั้ง
เมื่อหักกับค่าใช้จ่ายไปต่างๆ เขาก็ยังมี OP อยู่ถึง 243,529 แต้มเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
ตราบใดที่ระวังตัวไว้บ้าง สถานการณ์ที่เขาถูกซุ่มโจมตีจนพลาดท่าเสียทีนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้สูงที่วาห์นอาจไม่ต้องทำอะไรเพราะทีโอน่าหรือไอส์อาจออกตัวก่อนเขาด้วยซ้ำ (TL: พวกเอ็งกล้าขัดเวลาเดตที่ไม่ได้มีกันบ่อยๆ งั้นเหรอ!?)
แต่วาห์นอยากจะเลี่ยงสถานการณ์แบบนั้นให้มากที่สุด เพราะแค่นึกภาพก็ทำเขารู้สึกอึดอัดแล้ว
ไม่ใช่เพราะเขาคิดว่า ‘ผู้ชายควรจะปกป้องผู้หญิง’ เนื่องจากทั้งทีโอน่าและไอส์นั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ
วาห์นแค่อยากให้ทั้งสองรู้สึกว่าตนนั้นพึ่งพาได้บ้างก็เท่านั้นเอง
เมื่อมาถึงนอกคฤหาสน์สนธยา เขาก็เห็นความวุ่นวายเล็กน้อยตรงบริเวณพื้นที่ต้อนรับซึ่งสมาชิกจากปาร์ตี้หลักหลายคนของโลกิแฟมิเลียกำลังชุมนุมกันอยู่
เมื่อวาห์นมาถึง สายตาจำนวนมากนอกเหนือไปจากสาวๆ ทั้งห้าคนก็จับจ้องมาที่เขาแทบทั้งสิ้น
นอกเหนือจากทีโอน่าและไอส์ที่นัดกันไว้ก่อนแล้ว โลกิ ทีโอเน่ และเลฟิย่าก็มารออยู่ตรงพื้นที่ต้อนรับด้วย
หลังจากที่เห็นการมาถึงของเด็กหนุ่ม หลายคนก็เริ่มมีสีหน้าแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่นั้นดูดีใจที่ได้เห็นเขา
โลกิเริ่มกล่าวต้อนรับวาห์นสู่คฤหาสน์สนธยาด้วยเสียงดังลั่นราวกับซ้อมไว้ก่อนแล้ว
ในขณะที่ทั้งทีโอน่าและไอส์ต่างผลัดกันเข้ามาจูบเขาแบบสงวนท่าที
มันต่างจากการจูบอย่างดูดดื่มแบบในอดีต เพราะดูเหมือนพวกเธอจะกำลังฝึกควบคุมตัวเองอยู่เช่นกัน
วาห์นพบว่าแม้ว่ามันจะไม่ ‘รุนแรง’ แบบเมื่อก่อน แต่มันก็เหมือนเป็นการเล้าโลมเพื่อเก็บ ‘ของดี’ ไว้กินทีหลังก่อนที่เขาจะสวมกอดพวกเธออย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการตอบกลับ
ไอส์นั้นมักจะให้ทีโอน่าเป็นฝ่ายจูบก่อน เพราะนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้เธอเพิ่มอะไรขึ้นมาอีกนิดหน่อยเมื่อถึงคราวของตัวเอง
พอวาห์นแยกจากทั้งสองแล้ว เขาก็สังเกตเห็นว่าออร่าของคนแถวนั้นเกิดการผันผวนเล็กน้อยเมื่อโลกิก้าวเข้ามาเนียนเป็นคนที่สาม
เทพสาวกางแขนออกกว้างขณะทำปากจุ๊บๆ ราวกับกำลังรอให้วาห์นจูบเธอต่อ
แต่ก่อนจะมีอะไรเกิดขึ้น ไอส์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ประเคนมะเหงกลงมาดับฝันของเธอลง
หลังจากฉากตรงหน้าดำเนินต่อไปอีกพักหนึ่ง โลกิก็อธิบายให้วาห์นฟังว่าพวกเธอทั้งห้าควรจะออกไปด้วยกันเพื่อความปลอดภัย
แต่เทพสาวกลับถูกอีกสี่คนทรยศหักหลังและโดนคัดค้านไม่ให้ไปด้วย
หลังจากนั้นโลกิจึงอธิบายว่าทำไมเธอถึงอยากให้ทีโอเน่และเลฟิย่าติดตามไปด้วย
เลฟิย่านั้นมีความรับผิดชอบและสามัญสำนึกมากกว่าใครๆ เธอจึงเข้าใจดีว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
ส่วนทีโอเน่นั้นต้องไปด้วยเพื่อคอยคุมหากทีโอน่า ‘เครื่องติด’ กลางเดต
ที่จริงริเวเวียนั้นควรจะไปกับพวกเขาด้วย แต่เธอกลับปฏิเสธเพราะไม่อยากรับบทเป็น ‘พี่เลี้ยงเด็ก’ ตลอดทั้งวัน
แม้วาห์นจะวางแผนไว้สำหรับทีโอน่าและไอส์เท่านั้น แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยกับการตัดสินใจของทุกคน
เขารู้ดีที่สุดว่าทีโอน่านั้น ‘สติหลุด’ ได้ง่ายแค่ไหน และมีโอกาสที่ไอส์เพียงคนเดียวอาจจะหยุดเธอไว้ไม่อยู่
พอนึกภาพตัวเองถูกสาวอเมซอนจู่โจมกลางสายตาประชาชี วาห์นก็รู้สึกว่านี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เลวเลย
ทีโอเน่กับเลฟิย่าเองก็ไม่ได้พูดค้านอะไร วาห์นจึงไม่คิดจะทำแบบนั้นเช่นกัน
สิ่งเดียวที่เขาอยากจะพูดหลังเวลาผ่านไปช่วงหนึ่งก็คือ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นฝ่ายเดินตามพวกเธอแทนแล้ว
โชคดีที่วาห์นทิ้งไอเท็มส่วนใหญ่ไว้ในลูกแก้ว เพราะเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าตนต้องมาทำหน้าที่เป็น ‘คนถือของ’ ให้กับทั้งสี่คนแน่นอน
แม้จะต่างจาก ‘ผู้หญิงทั่วไป’ แต่พวกเธอก็ยังชอบการออกมาชอปปิ้งอยู่ดี
เพราะมีคนที่สามารถใช้ ‘เวทคลังเก็บของ’ ติดมาด้วย พวกเธอจึงช้อปได้แบบสบายหายห่วงเพราะไม่ต้องมาคอยหอบของพะรุงพะรังเดินไปเดินมา
เนื่องจากทุกคนล้วนเป็นนักผจญภัย สถานที่ที่มาเดตกันจึงหนีไม่พ้นหอคอยบาเบลและปริมาณของที่แต่ละคนซื้อมานั้นก็เยอะตามคาด
แม้จะรู้สึกพอใจกับอาวุธที่วาห์นสร้างให้ แต่ก็ยังมีอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่พวกเธอจำเป็นต้องตรวจดูและซื้อมาเก็บไว้เพราะศัตรูแต่ละชนิดนั้นมีคุณสมบัติและวิธีจัดการที่แตกต่างกันออกไป
วาห์นไม่สนใจเรื่องที่ต้องมาเป็นคนเก็บของเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็ได้ข้อมูลใหม่ๆ มาเพียบ
เขารู้สึกเพลิดเพลินมากตอนที่พวกเธอคุยกันถึงเรื่องต่างๆ ที่เจอมาภายในดันเจี้ยน
การเดตนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องอุปกรณ์และดันเจี้ยนเท่านั้น เนื่องจากทั้งทีโอน่าและไอส์ต่างพยายามแสดงความใกล้ชิดต่อเด็กหนุ่มในที่สาธารณะเช่นกัน
แน่นอนว่าทีโอน่านั้นไม่มีเขินไม่มีอายอะไรทั้งสิ้นและเดินเกาะแขนวาห์นแทบจะตลอดเวลา
ไอส์นั้นดูสงวนท่าทีมากกว่าและแค่จับมือของเขาขณะที่ทั้งสามทำให้สายตาแทบทุกคู่ต้องหันมามองในระหว่างที่เดินผ่านไป
แม้ว่าสายตาส่วนใหญ่จะไม่ได้แฝงไปด้วยเจตนาที่ดีนัก แต่วาห์นก็รู้สึกภูมิใจที่มีดอกไม้งามทั้งสองมาอยู่ข้างกาย
หลังจากแวะทานข้าวเที่ยงกันแล้ว สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยแม้ว่าพวกเขาจะยังเดินช้อปปิ้งกันต่อ
แทนที่จะมองหาอาวุธและชุดอุปกรณ์ พวกสาวๆ ตัดสินว่าจะไปดูชุดว่ายน้ำและชุดลำลองแทน
ท้ายสุดแล้วตำแหน่งกรรมตัดสินก็ไปตกอยู่ที่วาห์นขณะที่พวกเธอเปลี่ยนชุดไปมาและออกมาขอ ‘ตราอนุมัติ’ จากเด็กหนุ่ม
ไปๆ มาๆ ทีโอเน่ก็กระโดดเข้ามาร่วมวงด้วยแม้จะทำเป็นไม่สนใจในตอนแรก
ส่วนเลฟิย่านั้นทนได้นานกว่าแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวอยู่ดี
เพราะเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ แรงต่อต้านของเอลฟ์สาวจึงดูเบาบางลงไปมาก
ทีโอน่าและทีโอเน่ชอบสวมเสื้อผ้าที่เผยสัดส่วนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นชุดว่ายน้ำของพวกเธอจึงมีสไตล์แบบเดียวกัน
หลังจากเลือกอยู่หลายชุด ทั้งสองก็เข้าไปในห้องแต่งตัวในขณะที่ไอส์กับเลฟิย่านั้นเลือกชุดที่ดูเปิดเผยน้อยกว่า
ไอส์ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจมากนัก เลฟิย่าจึงต้องเข้ามาคุมเข้มและไม่ยอมให้เธอใส่ชุดที่สองสาวเผ่าอเมซอนเป็นผู้เลือกให้โดยเด็ดขาด
หลังพวกเธอเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดได้ไม่นาน ทีโอน่าและทีโอเน่ก็ออกมาพอดี
เพราะเสื้อผ้าของพวกเธอไม่ได้มีอะไรมาก การเปลี่ยนไปใส่ชุดว่ายน้ำจึงใช้เวลาไม่นานนัก
ทีโอน่าตัดสินเลือกชุดว่ายน้ำสีเขียวที่ส่วนบนดูคล้ายกับสปอร์ตบราแต่ว่ามีสายพาดไหล่เพียงข้างเดียว
ส่วนล่างนั้นดูคล้ายกับกับกางเกงขาสั้นสีขาวที่เธอใส่ประจำแต่ว่าดูแนบเนื้อมากกว่า
โดยรวมแล้ว นี่เป็นชุดว่ายน้ำที่ช่วยขับหุ่นของเธอให้ดูโดดเด่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ชุดว่ายน้ำของทีโอเน่นั้น… แทบจะเรียกว่าชุดว่ายน้ำไม่ได้ด้วยซ้ำ
เธอตัดสินใจเลือกชิ้นที่คล้ายกับบิกินี่ตัวจิ๋วสีดำซึ่งปกปิดแค่ตรงส่วนที่สำคัญๆ เท่านั้น
ทุกอย่างถูกยึดเข้าด้วยกันด้วยเส้นเชือกบางจ๋อยที่ไม่ควรใส่ลงไปในน้ำโดยเด็ดขาด
แม้หน้าอกจะยังอยู่ที่ประมาณคัพ B แต่ตอนนี้ทีโอเน่นั้นถือได้ว่าดูโดดเด่นมากที่สุดในร้าน
หลังผ่านการตรวจสอบจากกรรมการแล้ว วาห์นก็พูดอย่างตรงไปตรงมาซึ่งทำให้เธอเชิดอกอย่างภาคภูมิใจก่อนจะจ้องมองทีโอน่าด้วยสายตาเย้ยหยัน
สิ่งที่วาห์นพูดก็คือ “ร่างกายของเธอดูเหมาะกับชุดว่ายน้ำที่อวดทรวดทรงมากเลยนะ และฉันคิดว่าสีดำก็ดูเข้ากับสีผิวของเธอด้วย”
ดูเหมือนว่าทีโอน่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากคำพูดของเขา แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกรำคาญพี่สาวขึ้นมาตะหงิดๆ
หลังมีปากเสียงกันและปิดท้ายด้วยการงัดเรื่องฟินน์ขึ้นมาจี้ใจดำ ทีโอน่าก็หยิบชุดว่ายน้ำตัวเล็กสีดำขึ้นมาก่อนจะรีบถอยทัพกลับเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดแบบด่วนจี๋
เพราะไอส์และเลฟิย่ายังเปลี่ยนชุดไม่เสร็จ ทีโอเน่จึงได้แต่ยืนหงุดหงิดอยู่คนเดียวโดยมีวาห์นที่กำลังส่งสายตาคาดหวังมายืนเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ
ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกดีใจมากที่มีโอกาสได้เชยชมเรือนร่างของพวกสาวๆ และกล่าวชมเชยพวกเธออย่างเป็นธรรมชาติ
ในขณะที่วาห์นยืนยิ้มกริ่มอย่างสบายอารมณ์ ทีโอเน่ก็กำลังกัดฟันกรอดหลังได้ยินคำพูดเผด็จศึกของน้องสาว
จากเหตุการณ์ที่เธอพยายามแอบเข้าไปในห้องพักของฟินน์หลังจากที่วาห์น ทีโอน่า และไอส์ได้ไป ‘เที่ยวนอกเมือง’ ด้วยกันมานั้น
ฟินน์จบลงด้วยการบังคับให้เธอนั่งคุกเข่าขณะอธิบายเหตุผลของตัวเองให้ฟัง
เนื่องจากว่าฟินน์ได้อุทิศชีวิตทั้งหมดให้กับเผ่าพลูม แน่นอนว่าเขาไม่อาจตอบรับความรู้สึกของเธอได้ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคตก็ตาม
แม้จะรู้สึกเคารพใน ‘ความรัก’ ที่ทีโอเน่มีให้และจะยอมปล่อยให้เธอทำตามใจชอบต่อไปเรื่อยๆ แต่เขาก็พูดอย่างชัดเจนว่าตนจะแต่งงานและมีลูกกับชาวพลูมด้วยกันเท่านั้น
เขายังบอกเรื่องที่ได้สาบานไว้กับโลกิก่อนจะยอมตกลงเข้าร่วมแฟมิเลียว่าจะไม่ยอมเปลี่ยนเส้นทางที่ตนได้เลือกไปแล้วเด็ดขาด
เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของทีโอเน่ที่มีต่อฟินน์เปลี่ยนไปมากนัก เพราะการเสียสละนั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดเธอให้เข้าหาเขาตั้งแต่แรก
แต่แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดไม่ใช่น้อยๆ เพราะรู้ว่าความหวังช่างดูริบหรี่เต็มทีแล้ว
ในฐานะชาวอเมซอน เธอมีแรงผลักดันตามธรรมชาติให้มีลูกและแม้ว่าตอนนี้จะยังพอทนเฝ้าดูน้องสาวที่สนุกสุดเหวี่ยงไปกับชีวิตสุดสวีทได้ แต่มันก็กำลังเข้ากัดกินความอดทนของเธออย่างช้าๆ
เมื่อมองไปที่ใบหน้า ‘เหม่อลอย’ ของวาห์นขณะที่เขาเฝ้ารอสาวๆ คนอื่น ทีโอเน่ก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดจนแน่น