Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 212
วาห์นดูการแจ้งเตือนอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกถึงความอบอุ่นที่กระจายออกจากหน้าอกเมื่อนึกถึงตัวเองกับโคลอี้ในโลกจริง
แม้ตอนนี้จะเป็นแค่ร่างวิญญาณ แต่วาห์นก็ตระหนักว่าเขารู้สึกได้ถึงสายใยจากโลกภายนอกหากเพ่งสมาธิมากพอ
เพราะมี ‘พันธะผูกพัน’ กันไว้ วาห์นจึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเหล่าคนรักอยู่บ้าง
เวลาข้างนอกอาจผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที แต่เด็กหนุ่มยังรู้สึกถึงความอบอุ่นที่พวกเขามีให้กันได้อย่างชัดเจน
หลังรวมรวมสติได้แล้ว วาห์นก็ใช้เวลาต่อไปในลูกแก้วอย่างหน้าชื่นตาบาน
พอเอวาเห็นท่าทางของเขาและถามขึ้น วาห์นก็ตอบแบบเลี่ยงๆ และอธิบายว่ามันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถอธิบายออกมาได้ขณะเข้ากอดร่างเล็กๆ ของเธอจากด้านหลัง
แวมไพร์สาวอยากกดดันให้มากขึ้นเพื่อล้วงเอาคำตอบ แต่อ้อมแขนของวาห์นนั้นทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นมากจนต้องยอมให้เขากอดต่อโดยไม่ปริปากบ่น
วาห์นปฏิบัติกับเธออย่างดีอยู่เสมอ แต่ก็มีไม่บ่อยครั้งนักที่เขาแสดงท่าทางห่วงใยแบบนี้
ดังนั้นเอวาจึงหยุดถามและเอาเวลาไปเพลิดเพลินกับช่วงเวลานี้แทน
ทั้งคู่ใช้เวลาที่เหลือในมิติด้วยกันจนถึงตอนที่วาห์นต้องกลับสู่โลกจริง
—
พอกลับมาแล้ว เขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นจากแผ่นหลังของโคลอี้อีกครั้ง
มันช่างคล้ายกับตอนที่ใช้ [ความปรารถนาของหัวใจ] ของเธอเหลือเกิน
นอกเหนือจากความรู้สึกรื่นรมย์ที่มาจากเรือนร่างบาง วาห์นยังสัมผัสได้ถึงอารมณ์บางส่วนของเธอด้วย
เพราะจำได้ว่าหญิงสาวรู้สึกปลอดภัยแค่ไหนในความฝัน เขาจึงกอดเธออย่างแนบแน่นและผลอยหลับไปหลังจากนั้นไม่นาน
เพราะพวกเขาเข้านอนกันดึกมาก วาห์นกับโคลอี้จึงหลับยาวไปถึงตอนเที่ยง จนกระทั่งเด็กหนุ่มตื่นขึ้นจากการขยับตัวของคนข้างๆ
เพราะกำลังโอบเธอจากด้านหลัง วาห์นจึงมองเห็นเรือนผมสีดำที่มีกลิ่นหอมเป็นสิ่งแรกของวัน
เมื่อโคลอี้ตื่นขึ้นมาบ้าง เธอก็หันกลับมาจ้องประสานตากับเขาก่อนจะเริ่มกอดตอบ
วาห์นมองเห็นดวงตาสีเขียวที่ดูราวกับกำลังเปล่งประกายออกมาพร้อมรอยยิ้มมีความสุขบนใบหน้าของหญิงสาว
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร วาห์นก็เอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยและจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากก่อนจะยิ้มให้
“อรุณสวัสดิ์นะ โคลอี้…”
การกระทำนั่นทำให้เธอหัวเราะอย่างเย้ายวนก่อนจะเริ่มทำตามบ้าง
จูบที่โคลอี้มอบให้นั้นดูเร่าร้อนกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดและดูเหมือนบรรยากาศนั้นช่างเป็นใจเหลือเกิน ก่อนที่เธอจะเอนตัวใกล้เอามาอีกจนเกือบขึ้นคร่อมเขาอยู่แล้ว
แม้จะไม่ได้ขึ้นมานั่งบนหน้าท้องแบบใครบางคนที่วาห์นรู้จัก แต่โคลอี้ก็เข้ามาใกล้จนเด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงร่างกายทุกสัดส่วนโดยเฉพาะหน้าอกนุ่มนิ่มที่แนบติดกับแผงอกของเขา
เป็นสถานการณ์ที่ดูน่าอึดอัดเล็กน้อยเพราะมือขวาของวาห์นถูกตรึงไว้ใต้ร่างของโคลอี้และจะขยับมือซ้ายก็ไม่ถนัดเมื่ออยู่ในท่าดังกล่าว
หลังผ่านไปอีกพักหนึ่ง วาห์นจึงตัดสินใจดันมือขวาขึ้นมาและเอื้อมไปโอบรอบร่างของโคลอี้ก่อนจะพยายามดึงตัวเธอเข้ามากอด
หญิงสาวไม่มีท่าทีต่อต้าน แต่แทนที่จะยอมถูกกอดง่ายๆ เธอกลับกลิ้งเข้าหาและมานอนหงายอยู่บนตัวของวาห์นแทน
เธอเริ่มหัวเราะอีกครั้งและวาห์นไม่แน่ใจว่าจะตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ยังไงดี
จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ตัดสินใจใช้มือเล่นกับหน้าท้องของเธอแทน
ดูเหมือนโคลอี้จะชอบมากและนำมือมากุมซ้อนกันก่อนจะหันหัวมาพูดกับเขา
“อรุณสวัสดิ์นะวาห์น…เมี๊ยว~”
วาห์ยิ้มรับขณะยกร่างบางขึ้นด้วยมือซ้ายและกลับตัวเธอเพื่อมอบจูบให้อีกเป็นครั้งที่สอง
คราวนี้เธอได้มาคร่อมร่างเขาอย่างสมบูรณ์แล้วและต่างจ้องตากันไปเรื่อยๆ ก่อนที่โคลอี้จะเริ่มลูบไล้รอยแผลเป็นบนหัวไหล่ของวาห์น
เด็กหนุ่มเฝ้าดูการกระทำนั่นขณะกอดเอวของเธอไว้
เขาเผยรอยยิ้มกวนๆ และเริ่มลูบไล้หางสีดำด้วยนิ้วชี้อย่างแผ่วเบา
แม้จะไม่ได้ตอบสนองอย่างรุนแรงเหมือนคืนที่ผ่านมา แต่ดวงตาของโคลอี้ก็หรี่ลงเล็กน้อยขณะที่หางเริ่มกระตุกไปพร้อมกับกับการเคลื่อนไหวของวาห์น
พอเห็นว่าโคลอี้กำลังจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อแหย่เขา วาห์นก็ยิ้มและชิงถามขึ้นก่อน
“…วันนี้ไม่ต้องไปทำงานเหรอ?
สติของโคลอี้ขาดไปชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะยกมือออกจากไหล่ของวาห์นและชูมันขึ้นฟ้าราวกับกำลังคร่ำครวญต่อสรวงสวรรค์
“เมี๊ยววววว~! มามามีอาเอาฉันตายแน่เลย~เมี๊ยว!”
จากนั้นเธอก็พยายามคลานลงจากเตียงอย่างลนลานเพื่อเปลี่ยนชุด
ทว่าวาห์นกลับคว้าหางของเธอไว้เสียก่อน
“เมี๊ยววววววววววว~!”
เพราะกำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ พอปลายหางโดนจับ เธอก็เลยล้มหน้าฟาดกับเตียงแทน
หลังหันมามองวาห์นอย่างเคืองๆ ด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย โคลอี้ก็จัดแจงใส่เสื้อผ้าอย่างว่องไวในขณะที่วาห์นเองก็ทำเช่นเดียวกัน
เมื่อเห็นเธอกลับไปใส่ชุด ‘แมวดำ’ เกือบเสร็จแล้ว วาห์นก็ยกมือขึ้นพร้อมกับที่ชุดกระโปรงสีขาวปรากฏออกมา
โคลอี้มองมันด้วยสีหน้าแปลกๆ ขณะที่วาห์นเริ่มอธิบาย
“กลางวันแสกๆ แบบนี้เธอกล้าใส่ชุดนักฆ่าเดินไปเดินมางั้นเหรอ?
จะบอกว่าเป็นนักผจญภัยก็พอไหว แต่ถ้าเกิดมีคนจำเธอได้มันจะเป็นเรื่องเอานะ”
โคลอี้พิจารณาคำพูดของเขาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเผยรอยยิ้มซุกซนและถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ออก
พอเห็นวาห์นหันหน้าหนี หญิงสาวก็หัวเราะเบาๆ
“ดูเถอะ… นายเป็นผู้ชายคนเดียวที่ดูได้นะ~เมี๊ยว”
วาห์นหันไปหาโคลอี้ทันทีที่เธอพูดจบพร้อมรอยยิ้มนิดๆ ขณะเฝ้ามองเธอถอดเสื้อผ้าอย่างช้าๆ
แม้เมื่อคืนจะเห็นหมดแล้ว แต่วาห์นก็รู้สึกประหลาดใจกับเนินอกขาวเนียนเมื่อเทียบพวกมันกับร่างกายส่วนอื่นที่ดูคล้ำกว่าเล็กน้อย
หากไม่ใช่เพราะสายตาที่ดีผิดมนุษย์ล่ะก็ วาห์นอาจจะไม่สังเกตเห็น และเพราะพวกมันดูขาวกว่าส่วนอื่นๆ เขาจึงเห็นไปจนถึงเส้นเลือดสีน้ำเงินเล็กๆ ตรงด้านข้างและตรงส่วนที่อยู่ใกล้กับยอดชูชันสีชมพู…
แต่แล้ววาห์นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ หลังจากคิดเรื่องชุดที่ยังอยู่ในมือจนต้องถามขึ้น
“เธอจะไม่ใส่บราเหรอ?”
คำพูดและสีหน้าสับสนนั่นทำให้โคลอี้หัวเราะก่อนพูดอธิบาย
“ชุดชั้นในของฉันมันสีดำ ถ้าใส่กับชุดนี้คนก็เห็นหมดเลยสิ~เมี๊ยว
แถมสายรัดมันก็ค่อนข้างใหญ่ด้วย ถ้าใส่ไปคงดูเด่นมากเลยล่ะ~”
วาห์พยักหน้าตอบพลางคิดว่าเขาควรจะดูให้รอบคอบกว่านี้่ตอนเลือกสีชุด
เพราะอยากให้โคลอี้สวมสิ่งที่แสดงถึงความปรารถนาที่จะแยกเธอออกจากความมืดของตัวเอง เขาจึงเลือกชุดสีขาวสว่างให้
วาห์นคิดแต่เพียงว่ามันคงทำให้โคลอี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นและเสริมบุคลิกร่าเริงและซุกซนของเธอได้เป็นอย่างดี
เพราะเขาซื้อชุดมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ มันจึงมีแม้กระทั่งรูสำหรับส่วนหางซึ่งประดับไปด้วยริบบิ้นเล็กๆ น่ารัก
พอปลดท่อนบนออกหมดแล้ว โคลอี้ก็ก้มตัวลงเล็กน้อยหลังจากคลายเข็มขัดซึ่งทำให้วาห์นรู้สึกเหมือนกำลัง ‘ถูกยั่ว’ ขณะที่หญิงสาวใช้นิ้วเกี่ยวกางเกงขาสั้นสีขาวและค่อยๆ ถอดมันออก
เช่นเดียวกับบราที่เธอสวมใส่ กางเกงชั้นในของโคลอี้เองก็เป็นสีดำและมีการออกแบบค่อนข้างเรียบง่าย
แต่นั่นก็ไม่ได้ลดความเด่นลงเลย เพราะมันตัดกับสีผิวโคลอี้แบบสุดๆ
หลังถอดกางเกงขาสั้นออกแล้ว โคลอี้ก็มายืนอยู่หน้าวาห์นโดยมีแค่กางเกงชั้นในและถุงน่องสีดำ
ด้วยหาง ผม และใบหูที่มีสีดำของเธอ มันจึงเป็นภาพที่กระทบกระเทือนจิตใจของวาห์นอย่างรุนแรง
โคลอี้ยิ้มอย่างเย้ายวนก่อนจะเริ่มถอดถุงน่องออกเช่นกัน แต่ก่อนหน้านั้นก็ยังมีการหันไปโชว์หลังให้วาห์นแทนด้วย
นั่นทำให้วาห์นต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ขณะจ้องมองบั้นท้ายและหางที่ตนจับอย่างแนบแน่นเมื่อคืนก่อน
เนื่องจากต้องก้มลงไปอีกเพื่อถอดถุงน่อง บั้นท้ายและหางของโคลอี้จึงเต้นไปตามการเคลื่อนไหวของเธอและเป็นที่ดึงดูดสายตาของวาห์นแบบมองตาไม่กระพริบ
พอเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว เธอก็หันกลับมาหาวาห์นด้วยใบหน้าเขินอายขณะเริ่มใช้นิ้วเกี่ยวที่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายบนร่างกาย
ใจของวาห์นเต้นไม่เป็นส่ำก่อนที่เขาจะตระหนักว่าเธอกำลังทำอะไร
เนื่องจากกางเกงในของเธอเองก็เป็นสีดำ มันจึงดูตัดกับชุดกระโปรงสีขาวที่เด็กหนุ่มซื้อให้เช่นกัน
“เดี๋ยวก่อนนะ!” พอมือเล็กๆ เริ่มขยับ วาห์นก็พูดขึ้นแบบตื่นเต้นเกินเหตุ
โคลอี้ตกใจไปกับเสียงของเขา แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งกว้างขึ้นขณะใช้นิ้วลากไปตามแถบกางเกงในอย่างสนุกสนาน
การกระทำนั่นไม่อาจหลุดพ้นสายตาของวาห์นไปได้ แต่ตอนนั้นเขาไม่ค่อยมีสมาธิเพราะกำลังสอบถามพี่สาวในใจอยู่
โชคดีที่เขาเดาถูกเพราะจู่ๆ ก็มีกางเกงชั้นในสีขาวชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นมาในมือซ้ายของวาห์นซึ่งเข้ากับชุดกระโปรงมากเพราะมันประดับไปด้วยริบบิ้นเล็กๆ ที่ดูคล้ายกัน
เมื่อเห็น ‘ไอเท็ม’ ในมือและใบหน้าเขินๆ ของวาห์น โคลอี้ก็ต้องเอียงศีรษะอย่างสงสัย
“เมี๊ยว~? นี่นายพกกางเกงในไว้ใน ‘เวทคลังเก็บของ’ ด้วยงั้นเหรอ~?”
คำพูดของเธอทำให้วาห์นเขินยิ่งกว่าเดิมเพราะไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้ยังไงดี
หญิงสาวหัวเราะให้กับท่าทางของเขาและคว้ากางเกงในนั่นมาโดยไม่ถามอะไรต่อ
วาห์นถอนหายใจโล่งใจก่อนที่สมองจะหยุดทำงานเมื่อโคลอี้ถอดกางเกงในออกอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาเผลอ
ตอนนี้หญิงสาวกำลังยืนแบบเปลือยเปล่าต่อหน้าเด็กหนุ่มขณะจ้องมองสีหน้าของอีกฝ่ายอย่างสนใจ
เพราะวาห์นไม่ได้พูดอะไร โคลอี้จึงเริ่มหันข้างแบบช้าๆ และโพสท่าต่างๆ ราวกับกำลังโชว์ตัวให้เขาเชยชม
ตลอดเวลาที่เธอทำแบบนั้น วาห์นก็ได้แต่มองดูอย่างเงียบๆ และเริ่มหายใจแรงขึ้น
ถึงเด็กหนุ่มจะจ้องมองเธอด้วยสายตาเร่าร้อน แต่โคลอี้ก็สัมผัสความรู้สึกด้านลบใดๆ ไม่ได้เลย
วาห์นมองมาที่เรือนร่างของเธอด้วยความสนใจปนตื่นเต้น ราวกับว่าทุกส่วนที่เห็นนั้นเป็นอะไรที่ดูแปลกใหม่และน่าค้นหา
เมื่อรู้สึกพอใจกับการตอบสนองของเขาแล้ว โคลอี้ก็ถามขึ้นแบบกวนๆ
“ชอบไหม~เนียะฮะฮ่า”
คำถามแบบฉับพลันของเธอทำให้วาห์นจ้องเข้าไปในดวงตาสีเขียวด้วยความสับสนเล็กน้อยขณะกำลังประมวลผลสิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้นี้
“…งดงามมาก” หลังผ่านไปช่วงสั้นๆ วาห์นก็ยิ้มและพูดออกมาอย่างจริงจัง
คราวนี้เป็นตาของโคลอี้ที่จะต้องเขินจนสติหลุดไปบ้างเหมือนกัน
ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในท่าโพสที่ล่อแหลมมาก ราวกับกำลังยั่วอีกฝ่ายให้ทนไม่ไหวซึ่งเธอเองก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่ามันดูอันตรายขนาดไหน
หญิงสาวไม่รอคำชมใดๆ เพิ่มเติมอีกก่อนจะหันหน้าหนีและสวมกางเกงในสีขาวอย่างรวดเร็ว
เธอสัมผัสได้ว่าแม้กางเกงในตัวนี้ออกจะยืดไปหน่อย แต่มันก็ค่อนข้างพอดีและไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดเลย
เป็นเวลาชั่วครู่ที่เธอจินตนาการถึงร่างกายของสาวๆ คนอื่นรอบข้างวาห์นและสงสัยว่าเขาซื้อมันไว้ให้ใครกันนะ?
เธอส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดนั้นออกไปก่อนจะเริ่มแสดงสีหน้าซุกซนอีกครั้งขณะเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าวาห์น
ถึงโคลอี้จะไม่ได้พูดอะไร แต่วาห์นก็รู้สึกคาดหวังหน่อยๆ เพราะมองเห็นสายตาของเธอ
เขาคลี่ชุดกระโปรงออกก่อนจะสวมมันให้กับโคลอี้ขณะที่เธอเหยียดแขนเพื่อช่วยเขาอีกแรง
วาห์นพบว่าตัวเองนั้นชอบช่วยผู้หญิงถอดเสื้อผ้า แต่การช่วยใส่เสื้อผ้าเองก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ
ถึงจะน่าสนใจสู้ตอนถอดออกไม่ได้ แต่การเห็นเธอใส่ชุดที่เขาเตรียมไว้ให้ก็สร้างความรู้สึกตื่นเต้นได้ไม่น้อยเลย
เมื่อใส่เสร็จแล้ว โคลอี้ก็มองหากระจกไปรอบๆ จนวาห์นต้องนำกระจกตั้งขนาดใหญ่ออกมาให้เธอโดยเฉพาะ
มันเป็นแบบที่เห็นร่างกายได้ครบทุกสัดส่วนและโคลอี้ก็เริ่มหัวเราะกับภาพของ ‘เด็กสาวที่ดูมีชีวิตชีวา’ ในกระจก
อย่างที่วาห์นคาดไว้ไม่ผิด ชุดนี้เหมาะกับโคลอี้มากเพราะมันตัดกับเรือนผมสีดำ ดวงตาสีเขียว และหางสีดำของเธอ
เธอมีผิวที่ขาวและสีหน้าร่าเริงนั่นก็ช่วยทำให้หญิงสาวดูเด็กกว่าเดิมอีกหลายปี
ถึงโคลอี้จะมีอายุเพียง 19 ปี แต่วาห์นรู้สึกว่าเธอพยายามทำตัวแก่เกินวัยอยู่บ่อยครั้งซึ่งทำให้เขารู้สึกดีกับภาพลักษณ์ของเธอในตอนนี้มาก
ขณะที่หญิงสาวยังดูภาพสะท้อนของตัวเองไม่เลิก วาห์นก็หลุดขำจนเธอต้องหันมามองอย่างรักใคร่ปนสงสัย
ก่อนจะได้ถามอะไร วาห์นก็ชิงพูดขึ้นก่อน
“ถ้าไปสายกว่านี้ มามามีอาไม่โกรธเธอตายเลยเหรอ~?”
สีหน้ารักใคร่ของโคลอี้ค่อยๆ มลายหายไปเป็นความหวาดกลัวสุดขีดขณะที่เธอเริ่มชูมือขึ้นฟ้าอีกครั้ง
“เมี๊ยววว~! ต้องรีบแล้วล่ะ~!”
จากนั้นเธอก็รีบวิ่งออกจากประตูขณะที่วาห์นตามหลังไปพลางหัวเราะอย่างมีความสุข
ตราบใดที่เขาให้ทิปทางร้านหนักๆ หน่อย มามามีอาก็คงจะไม่ว่าอะไรโคลอี้เกินไปนัก
ซีลอาจอธิบายเรื่องต่างๆ ให้เธอฟังแล้วและการดุโคลอี้ก็อาจเป็นแค่การเล่นละครตบตาพนักงานคนอื่นก็ได้
วาห์นรู้สึกสนุกกับการหยอกล้อโคลอี้มากและพบว่าพฤติกรรมในตอนนี้นั้นดูดีกว่าตอนที่เธอพยายามทำตัวจริงจังเยอะเลย
วาห์นตั้งตารอคอยวันที่จะได้เห็นเธอเป็นแบบนี้มากขึ้นขณะเริ่มวางแผนการใหม่ๆ เพื่อเอาใจหญิงสาวที่ทำเพื่อเขามาโดยตลอด
โคลอี้มอบทั้งความเชื่อใจ ความใกล้ชิด หรือแม้กระทั่งความรักให้กับเขาซึ่งวาห์นจะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่เพื่อเป็นการตอบแทน แต่เพื่อดูแลและรักษาช่วงเวลาแบบนี้ไว้ให้นานตราบเท่านาน