Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 216
คำถามของเฮสเทียทำเอาวาห์นเกือบจะหลุดขำเพราะมันฟังดูสมเป็นเธอเอามากๆ
เธอพูดอย่างมั่นใจในตอนแรกและสร้างบรรยากาศขึ้นมาเรื่อยๆ แต่แล้วก็กลับทำพังในช่วงสุดท้าย
โชคดีที่วาห์นพอจะควบคุมตัวเองได้ในระดับหนึ่ง (TL: สกิลล้วนๆ) ดังนั้นเขาเลยแค่แสดงรอยยิ้ม ‘มีความสุข’ ออกมาเท่านั้น
ตอนแรกอาจจะปล่อยให้เธอเดินนำไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
“…ฉันเช่าห้องพักในโรงแรมที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
คืนนี้เราไปพักนั่นก่อนแล้วค่อยหาที่อยู่สำหรับแฟมิเลียในวันถัดไปน่ะ”
คำพูดนั่นทำให้เฮสเทียยิ้มแย้มก่อนจะส่ายนิ้วไปมา
“ไม่ใช่ ‘แฟมิเลีย’ เฉยๆ นะ ต้องบอกว่าเป็น ‘แฟมิเลียของเรา’ สิ~!
จำไว้นะวาห์นว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว!”
คำพูดของเธอสะท้อนเข้าไปในใจของเขาโดยเฉพาะคำว่า ‘ครอบครัว’ ที่ถูกเล่นซ้ำไปมาหลายครั้ง
ถึงวาห์นจะปฏิบัติกับผู้คนรอบข้างเป็นอย่างดี แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เขาเห็นว่าเป็น ‘ครอบครัวเดียวกัน’
แน่นอนว่าเขาอยากให้เป็นแบบนั้นในอนาคต แต่การได้ยินคำๆ นั้น ‘ตอนนี้เลย’ ก็กระทบจิตใจของเด็กหนุ่มอยู่ไม่น้อย
วาห์นสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะปล่อยมันออกมาและยิ้มให้กับเฮสเทีย
เธอยังคงชูนิ้วแบบเดิมและยิ้มกว้างขณะรอฟังคำตอบจากเขา
วาห์นคร่ำครวญกับความคิดในหัวก่อนจะพูดสิ่งเดียวที่นึกขึ้นมาได้
“ขอบใจนะ เฮสเทีย…”
ดวงตาของเฮสเทียเริ่มส่องประกายมากกว่าเดิมและพูดตอบเด็กหนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ “แน่นอนวาห์น”
จากนั้นวาห์นก็พาเธอมาที่โรงแรมและพยายามจองห้องเพิ่มแม้จะดึกมากแล้วก็ตาม
เทพสาวปฏิเสธเสียงแข็งก่อนจะอธิบายว่าเธอ ‘เชื่อใจ’ วาห์นมากพอและรู้ว่าเขาคงไม่ทำอะไรเกินเลยแม้ทั้งคู่จะนอนห้องเดียวกัน
คำพูดของเฮสเทียยิ่งทำให้เขารู้สึกมั่นใจในเรื่องที่เคยคิดเอาไว้มากขึ้น
ตราบใดที่เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าหาเอง วาห์นก็ตัดสินใจว่าจะไม่เข้าหาเฮสเทียและมุ่งเน้นไปที่การสร้างและพัฒนาแฟมิเลียเพียงอย่างเดียว
การตัดสินใจนี้เริ่มถูกทดสอบทันทีเมื่อเฮสเทียมองดูเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าชนิดติดขอบจอราวกับได้พบอาหารอันแสนโอชะ
วาห์นทำเป็นไม่สนใจสายตานั่นก่อนจะขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกัน
เสื้อผ้าที่เทพตัวเล็กสวมใส่นั้นทำความสะอาดตัวเองในแบบอัตโนมัติ เธอจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมันและสามารถนอนทั้งแบบนั้นได้เลย
แม้อาจดูแปลกอยู่บ้างแถมยังขัดกับนิสัยรักความสะอาดของตัวเอง แต่พอจำได้ว่าเธอทำแบบเดียวกันในมังงะ เขาจึงไม่ได้ติดใจอะไรอีก
—————
ติด.ตามแฟนเพจอ่านตอนล่าสุดได้ที่: EP:IC Translation
—————
เมื่อลงไปนอนเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็รักษาระยะห่างกันในตอนแรก แต่หลังจากที่หลับไปประมาณ 1 ชั่วโมง วาห์นก็รู้สึกว่าเฮสเทียกำลังใช้ร่างของเขาแทนหมอนข้าง
นั่นทำให้เด็กหนุ่มตื่นขึ้นทันทีแต่พอเห็นว่าเธอยังหลับอยู่ เขาจึงไม่ได้พูดอะไร
ราวกับว่าการ ‘ไม่ว่าอะไร’ ของเขาเป็นเหมือนกับ ‘การยินยอม’ เพราะหลังจากนั้นไม่นานเฮสเทียก็ขึ้นมานอนคว่ำบนร่างของวาห์นแทน
วาห์นดูแน่ใจแล้วว่าเธอยังหลับอยู่ก่อนจะค่อยๆ กลิ้งร่างของเทพตัวเล็กลงไปไว้ที่เดิม
อีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง วาห์นก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในสภาพเดิมจนได้แต่ถอนหายใจและปล่อยเลยตามเลย
เพราะเธอตัวเบามากและสัมผัสจากภูเขาคู่ย่อมๆ นั้นเป็นสิ่งที่วาห์นไม่เคยประสบมาก่อน เขาจึงตัดสินใจผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานี้แทน แต่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักถึงเรื่องๆ หนึ่งขึ้นมา
เพราะจากเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงลืมทำพิธีรับเข้าแฟมิเลียไปเสียสนิท
นั่นก็หมายความว่าทั้งสองยังเป็นแค่คนสองคนที่เพิ่งพบกันได้ไม่นาน ยังไม่ได้ทำพันธะอะไรกัน และกำลังมานอนร่วมเตียงเดียวกันอยู่
หากไม่ใช่เพราะนิสัยเผลอเรอของเฮสเทียและความเชื่อใจที่มีให้ วาห์นก็คงคิดว่าเธอกำลังให้ท่าเขาไปแล้ว
ในที่สุดวาห์นก็หลับต่อไปอีก 2-3 ชั่วโมงก่อนจะตื่นขึ้นมาเพื่อเข้าสู่ลูกแก้วตามปกติ
ภายในนั้น เอวาสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ และรอยยิ้ม ‘มีความสุข’ บนใบหน้าของเด็กหนุ่มจนต้องเข้ามาไต่สวนโดยเริ่มจาก ‘ไปได้ผู้หญิงมาใหม่อีกแล้วใช่ไหม!?’
วาห์นอธิบายว่าเขาเพิ่งได้เข้าร่วมแฟมิเลียของเฮสเทียแต่พอพลั้งปากเรื่องที่ทั้งคู่กำลังนอนด้วยกันอยู่ เอวาก็ส่งสายตาประมาณว่า ‘ไอ้เด็กนี่พูดไม่คิดอีกแล้ว’
เป็นเวลาสามวันในลูกแก้วที่เธอให้วาห์นคอยตามปรนนิบัติมากเป็นพิเศษและแกล้งเขาทุกครั้งเมื่อถึงเวลาเข้านอน
พอรู้ว่ามีผู้หญิงคนอื่นกำลังใช้แผงอกของเขาแทนหมอนในโลกจริง เอวาก็คิดอยากทรมานเขาหน่อยๆ หลังจากไม่ได้ทำแบบนั้นมานานแล้ว
เมื่อกลับมาที่โลกจริง เขาก็รู้สึกมึนงงจากการหยอกล้ออย่างไม่หยุดหย่อนของแวมไพร์สาวและรู้สึกอึดอัดไปชั่วขณะกับการที่เฮสเทียมานอนอยู่บนตัว
อย่างที่มันเคยเกิดขึ้นกับลิลลี่ในครั้งที่แล้ว วาห์นเกือบจะเริ่มลูบไล้ร่างกายไร้การป้องกันของเธอไปแล้ว ซึ่งเทพสาวคงไม่มีทางรู้เลยว่าเขาไป ‘เจอ’ กับอะไรมาบ้างและกำลังอยู่ในสภาพแบบไหน
เขาใช้เวลาสองสามนาทีเพื่อปรับสภาพจิตใจขณะเริ่มสิ่งที่ทำจนติดเป็นนิสัย
ก่อนที่เฮสเทียจะลงมานอนบนเตียง เธอได้ถอดกระดิ่งและริบบิ้นออกจนหมดและปล่อยเรือนผมสีดำยาวสลวยลงมา ซึ่งตอนนี้พวกมันก็กำลังพาดกับแผงอกของวาห์นอยู่
วาห์นเริ่มลูบเส้นผมของเทพสาวแบบเดียวกับที่ทำให้ผู้หญิงของเขาโดยไม่ได้คิดอะไรมาก
เขาลูบมันต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเฮสเทียเริ่มหัวเราะราวกับกำลังฝันดีและปล่อยน้ำลายออกมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ
นั่นทำให้วาห์นหัวเราะเบาๆ ขณะยังคงลูบเส้นผมของเธอต่อไป
มันต่างจากเส้นผมของพวกเชียนโธรปที่หนาและหยักศกหน่อยๆ หรือของพวกมนุษย์แมวที่นุ่มแต่ ‘บาง’ กว่า
ผมของเฮสเทียนั้นค่อนข้างเรียบเนียนคล้ายกับผ้าซาตินชั้นดี
แม้ในห้องจะค่อนข้างมืด แต่ความมันวาวของเส้นผมก็ยังส่องประกายออกมาให้เห็นและวาห์นรู้สึกว่ามันให้สัมผัสที่เย็นสบายอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาประหลาดใจกับความเป็นเอกลักษณ์ของเส้นผมในมือมากจนเริ่มเปรียบเทียบมันกับของสาวๆ คนอื่นที่เคยสัมสัส
ตอนนี้วาห์นเริ่มตระหนักแล้วว่าการถูกใช้เป็น ‘หมอนข้างมนุษย์’ นั้นอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
เขามีโอกาสได้ลูบเส้นผมเงางามของเฮสเทียพร้อมสัมผัสจากหน้าอกนุ่มนิ่มที่กำลังกดทับร่างเอาไว้
วาห์นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอนอนหลับในท่านี้ได้ยังไงและเดาว่าอาจเป็นเพราะความอ่อนนุ่มจากสิ่งที่ตนกำลังสัมผัสอยู่ในตอนนี้นั่นแหละ
ในที่สุดการขยับไปมาของเขาก็ทำให้เฮสเทียลืมตาตื่นก่อนจะใช้แขนดันตรงแผงอกของเขาเพื่อยกตัวขึ้น
ดวงตาสีฟ้าใสจ้องมองดวงตาสีน้ำทะเลอยู่หลายอึดใจขณะที่สมองของเทพสาวกำลังประมวลผลอย่างหนัก
เพราะเพิ่งพบกับวาห์นได้ไม่นานนัก มันจึงเป็นชั่วขณะหนึ่งที่เธอยังจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร
ทั้งหมดที่รู้ก็คือเด็กหนุ่มกำลังลูบหัวตนอย่าง ‘เอ็นดู’ และมองมาด้วยสีหน้า ‘อ่อนโยน’ ขณะที่เธอนอนอยู่บนตัวของเขา
“อรุณสวัสดิ์นะวาห์น~”
ราวกับเพิ่งนึกออกว่าเขาเป็นใคร เฮสเทียเริ่มฉีกยิ้มนิดๆ ก่อนจะเอ่ยทักทาย
วาห์นไม่มีทางรู้เลยว่าเฮสเทียกำลังคิดอะไรอยู่ขณะลูบเส้นผมของเธอต่อ
“อรุณสวัสดิ์เฮสเทีย… ผมของเธองดงามมากเลยนะ”
คำชมนั่นทำให้เฮสเทียหัวเราะคิกคัก… ก่อนจะลงไปนอนบนแผงอกของเขาและกลับไปนอนต่อ
วาห์นประหลาดใจกับการกระทำของเธอมากเพราะนี่ก็เป็นเวลาเช้าแล้ว
ในฐานะคนที่ตื่นเช้าเป็นประจำ วาห์นรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอกลับไปนอนต่อแถมยังหลับท่าเดิมอีกต่างหาก
พอเห็นว่าเธอกำลังหลับอย่างมีความสุข วาห์นจึงเริ่มรู้สึกผิดที่จะต้องมาปลุกเธอแทน
สุดท้ายเขาก็ได้แต่ลูบผมของเธอต่อไปพลางหลับตาลงและเริ่มวางแผนของวันนี้
เมื่อเทพขี้เซาตื่นขึ้นมาเอง วาห์นจะต้องทำพิธีเข้าร่วมแฟมิเลียและจากนั้นพวกเขาก็จะออกไปหาซื้อที่อยู่แบบถาวร
หากหาสถานที่ที่มีโรงหลอมไม่พบ วาห์นก็จะสร้างมันขึ้นมาเองหรือไม่ก็ให้ผู้รับเหมามาจัดการให้
นอกจากนี้เขายังอยากทำพื้นที่สำหรับการเล่นแร่แปรธาตุและการผสมวัตถุดิบรวมถึงห้องพยาบาลด้วย
แม้เรื่องนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน แต่วาห์นก็อยากจัดสรรพื้นที่สำหรับการเลี้ยงและดูแลเด็กไว้เลยเช่นกัน…
ในที่สุดเฮสเทียก็ตื่นขึ้นมาได้เองหลังผ่านไป 3 ชั่วโมง แถมยังทิ้งบ่อของเหลวกว้างประมาณ 10 ซม. ไว้บนเสื้อของวาห์นด้วย
เธอจ้องมองจุดเปียกชื้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลบมันออกจากสมองและเริ่มผูกผม
วาห์นหัวเราะให้กับท่าทางนั่นขณะเริ่มเปลี่ยนชุดบ้างแต่ก็ยังไม่สวมท่อนบนในทันที
เฮสเทียเฝ้ามองทุกอย่างจากด้านข้างและเริ่มสงสัยว่าทำไมเขาจึงยังไม่ใส่เสื้อก่อนจะตระหนักขึ้นมาได้เอง
“อ๊ะ! พิธีเข้าร่วม~! ฉันลืมไปเลย!”
ในที่สุดวาห์นก็กลั้นเสียงหัวเราะต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาจึงปล่อยมันออกมาอย่างเต็มที่ซึ่งทำให้เฮสเทียมองค้อนและรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
เธอให้วาห์นนอนลงบนเตียงเพื่อทำพิธีแต่มันก็ไม่เหมือนกับที่เฮเฟสตัสทำไปซะทีเดียว
เทพตัวเล็กขึ้นมานั่งคร่อมบนหลังของเขาก่อนจะเอนตัวมาข้างหน้าเพื่อเริ่มทำพิธี
วาห์นไม่แปลกใจมากนักเพราะเห็นวิธีนี้มาแล้วจากในมังงะ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยเมื่อมีผู้หญิงมานั่งคร่อมขณะที่ตัวเองนอนคว่ำอยู่บนเตียง
เช่นเดียวกับหน้าอกอันแสนนุ่มนิ่ม บั้นท้ายของเฮสเทียเองก็นิ่มไม่แพ้กัน
มันเกือบเหมือนการผสมผสานระหว่างมาร์ชแมลโลว์กับขนมโมจิที่สึบากิให้เขาลองชิมในอดีต
เพราะเป็นครั้งแรกที่ทำพิธีนี้ เฮสเทียจึงจริงจังกับมันมากจนวาห์นก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่หยดลงมาบนแผ่นหลังของเขา
สุดท้ายแล้ว พิธีนี้กินเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมงก่อนที่มันจะสิ้นสุดลง
ดูเหมือนเฮสเทียจะพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมามากขณะเริ่มบันทึกค่าสถานะของวาห์นลงบนกระดาษ
แม้จะตั้งใจในช่วงการทำพิธีแบบสุดๆ แต่เฮสเทียก็ยังไม่ได้สนใจเรื่องค่าสถานะกับสกิลของเด็กหนุ่มมากนักและเพิ่งจะได้เห็นมันแบบเต็มสองตา
ขณะที่ยังนั่งคร่อมอยู่บนหลังวาห์น เธอก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง
“เหหหหห~!? นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?”
แม้เฮสเทียจะไม่เคยให้พรกับใครมาก่อน แต่เธอก็รู้ว่าค่าสถานะของคนปกตินั้นเป็นแบบไหน เนื่องจากเหล่าเทพกับเทพธิดาบนสวรรค์มักจะดูข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจากโลกมนุษย์เพื่อแก้เซ็งไปวันๆ
หากไม่ใช่เพราะการติวเข้มจากเมื่อวาน เฮสเทียก็คงคิดว่าตนกำลังฝันอยู่เพราะค่าสถานะและสกิลของวาห์นนั้นดูไม่สมเหตุสมผลกับเลเวลในปัจจุบันของเขาเลย
————————————————————————–
[[สถานะ]]
ชื่อ: [วาห์น เมสัน]
อายุ: 15
-เลเวล:3
-พลังโจมตี: (I61)
-ความอดทน: (F222)
-ความแม่นยำ: (H112)
-ความว่องไว: (H141)
-พลังเวท: (SSS1319)
สกิล: [ความเชี่ยวชาญด้านธนู:B], [อำพรางตัว:C], [ทลายพันธนาการ:S], [เสียงเพรียกแห่งยมทูต:B], [พรแห่งอิกดราซิล:S], [ม่านคุ้มภัยนักเดินทาง: S], [นักดาบ: A], [ย่างก้าวไร้สัมผัส: B], [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า: S], [โพรมีธีอุส], [หัวใจของเพลิงนิรันดร์: SS], [โลหะวิทยา: B], [เพลงหมัดโจมตี: B], [สหายของเหล่าภูต: A]
สกิลที่กำลังพัฒนา: [เคลื่อนย้ายบาดแผล: A], [จิตวิญญาณฟื้นฟู: S], [ช่างตีเหล็ก: S], [ผสมวัตถุดิบ: C]
เวทมนตร์: [แปลงโฉมพันหน้า: C], [เคลื่อนย้ายในพริบตา: B]
————————————————————————-
เธอไม่เคยได้ยินหรือเห็นคนที่มีค่าสถานะระดับ SSS ในขณะที่ค่าอื่นๆ ยังอยู่ในระดับต่ำแบบนี้มาก่อน
เพราะรู้ว่าวาห์นกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น เฮสเทียจึงเดาว่าคงเป็นเพราะสภาวะกึ่งเทพที่เฮเฟสตัสกับโลกิอธิบายไว้ก่อนหน้านี้
มันดูน่าเหลือเชื่อมากที่ศักยภาพของเขายังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะไม่ได้ฝึกฝนหรือเข้าไปในดันเจี้ยน
แถมไม่ใช่แค่ค่าสถานะอย่างเดียวเท่านั้น เพราะวาห์นยังมีสกิลมากมายพร้อมกับสกิลที่กำลังพัฆนาจำนวน 4 สกิลและสกิลเวทมนตร์ 2 อีกสกิลที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
เฮสเทียหันไปมองแผ่นหลังกำยำที่มีตราสัญลักษณ์ของตัวเองประดับอยู่และเพิ่งตระหนักว่าได้มาพบกับสิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจของตัวเองไปไม่รู้กี่อย่าง
แน่นอนว่าเธอได้ฟังเรื่องราวและคำเตือนต่างๆ จากเทพธิดาคนอื่นมาแล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เธอก็ยังไม่เชื่อแบบสนิทใจจนกระทั่งได้มาเห็นกับตาตัวเอง
เธอยิ้มอย่างเหม่อลอยขณะลากมือไปตามแผ่นหลังที่ดูราวกับเป็นแผ่นจารึกโบราณ
เป็นแผ่นจารึกที่บันทึกความก้าวหน้าและการเติบของผู้ที่อาจกลายมาเป็นตำนาน… ตำนานที่มีเพียงเธอเท่านั้น ไม่ใช่ใครอื่น ที่จะได้สังเกตและบันทึกมันอย่างใกล้ชิด