Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 222
ไม่กี่นาทีหลังกลับมาที่ห้องนอน วาห์นก็เห็นเฮสเทียเดินสยายผมเข้ามาพร้อมสวมชุดประจำตัว
เทพสาวดูเหนื่อยล้ามากจนเขาคิดว่าเธอคงแช่น้ำนานเกินไป
เขาลุกจากเตียงเพื่อเดินเข้ามาหาก่อนจะยื่นขวด [วานิลค์]ให้เธอ
นี่เป็นเครื่องดื่มรสวานิลลาที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นจากแดนตะวันออกซึ่งวาห์นซื้อมาจากระบบในราคา 2 OP
เฮสเทียรับขวดแก้วมาอย่างงุนงงก่อนที่วาห์นจะพูดขึ้น
“ถ้าเธอดื่มนี่หลังจากแช่ในออนเซ็นล่ะก็ มันจะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นและสงบจิตใจได้ด้วย
ออกจะหวานหน่อยๆ แต่ฉันยังไม่เคยเจอใครที่บอกว่าไม่ชอบมันเลยนะ”
ความเครียดในร่างกายของเฮสเทียค่อยๆ ลดลงเมื่อเธอแกะฝาออกและลองจิบมันดู
พอสัมผัสได้ถึงความหวานละมุนลิ้น เฮสเทียก็เลยดื่มแบบรวดเดียวหมดและตามมาด้วยเสียง “ฮ่าาาา~”
ราวกับว่าความเหนื่อยล้าก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตา
เฮสเทียยื่นขวดเปล่ากลับไปให้วาห์นด้วยรอยยิ้มขณะเอ่ยปากชม
“อร่อยสุดยอดไปเลย~!
จากนี้ไปเราต้องดื่มเจ้านี่หลังอาบน้ำทุกครั้งเลยนะ!”
เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาทำเป็นประจำตั้งแต่ตอนอยู่กับสึบากิ วาห์นจึงพยักหน้าและพูดต่อ
“นี่ก็ดึกมากแล้วนะ เราเข้านอนกันเถอะ”
เฮสเทียดูเหมือนจะลังเลอะไรบางอย่าง
“ไหนๆ เราก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ… ฉันอยากให้นายลองอะไรหน่อยถ้ายังไม่ง่วงเกินไปนะ”
วาห์นหันกลับมามองและเห็นสายตาคาดหวังและท่าทางประหม่าจากเทพธิดาของเขา
“เธออยากลองอะไรเหรอ?”
เพราะนึกยังไงก็นึกไม่ออก วาห์นจึงต้องถามเฮสเทียไปตรงๆ
เขาเห็นว่าเธอกำลังสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรวบรวมความกล้าและตอบกลับมา
“…ได้ยินจากเฮเฟสตัสกับคนอื่นๆ ว่านายนวดเก่งมาก
เพราะฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้นมาก่อน… ก็เลยอยากลองบ้างน่ะ”
ตั้งแต่ที่เฮสเทียได้ฟัง ‘คำเตือน’ จาก เฮเฟสตัส โลกิ และอนูบิส เธอก็รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ของวาห์นอยู่บ้าง
เธออยากถามตั้งแต่ตอนพักในโรงแรมเมื่อคืนก่อนแล้ว แต่สุดท้ายก็เกิดกลัวขึ้นมา
ความตื่นเต้นเกินเหตุนั่นทำให้เธอลืมแม้กระทั่งเรื่องพิธีเข้าร่วมแฟมิเลียไปเลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้พวกเขารู้จักกันดีขึ้นแล้วและยังได้อาบน้ำด้วยกันอีกต่างหาก เฮสเทียเลยอยากรู้ว่าไอ้เรื่องที่โดนย้ำเตือนอยู่หลายครั้งนี่มันยังไงกันแน่
พอได้ยินคำขอของเธอ วาห์นก็เอียงหัวไปด้านข้างและครุ่นคิดเล็กน้อย
เขารู้จากประสบการณ์ว่าวิชานวดของตัวเองนั้นได้ผลดีและยังไม่เคยโดนใครติมาก่อน
เนื่องจากเฮสเทียน่าจะชอบอะไรแนวๆ นี้ วาห์นเลยไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่นัก
ที่จริงแล้วเขาเองก็ชอบนวดให้คนอื่น เด็กหนุ่มจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเธอ
“ได้สิ แต่เธอต้องเตรียมตัวเตรียมใจดีๆ นะ
ตอนแรกฉันจะเบามือก่อนแล้วเธอค่อยบอกที่หลังว่าเป็นยังไงบ้าง
พวกสาวๆ ส่วนใหญ่ที่ฉันนวดแบบจริงจังให้ชอบหมดสติไปก่อนจะนวดเสร็จ เรื่องรอรับคำติชมก็เลย…”
หัวใจของเฮสเทียเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อได้ยินคำว่า ‘จริงจัง’ และ ‘หมดสติ’
ถึงจะยังสงสัยอยู่ แต่เทพสาวก็เริ่มเอะใจแล้วว่ามีอะไรที่พวกสาวๆ ลืมบอกเธอไปหรือเปล่า
เมื่อเห็นสีหน้า ‘อ่อนโยน’ และ ‘ไร้เดียงสา’ กับคำพูดที่ว่าจะ ‘เบามือ’ เฮสเทียจึงรวบรวมความกล้าอีกครั้ง
“ฉะ-ฉันต้องทำไงบ้างเหรอ?”
วาห์นมองไปมาระหว่างโซฟาและเตียงก่อนจะตัดสินใจได้และตอบกลับ
“เธอแค่นอนคว่ำแล้วก็ทำตัวผ่อนคลายเท่านั้นเอง
ถ้ากลัวเผลอหลับ เราก็ไปนวดกันที่เตียง แต่ถ้าคิดว่าทนไหว เราก็จะใช้โซฟาแทน”
พอได้ยินว่าเธอแค่ต้องนอนคว่ำแบบสบายๆ เฮสเทียก็ถอนหายใจโล่งอกและพูดแบบยิ้มๆ
“เอาเป็นที่เตียงดีกว่า เผื่อว่ามันจะสบายมากจนฉันหลับไปเลย
ไว้เดี๋ยวตอนเช้าค่อยมาให้คะแนนละกันนะ~!”
วาห์นเห็นด้วยเพราะเมื่อกี้เขาได้ไปลองนอนบนเตียงดูแล้ว
เป็นการนอนทดสอบครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาซื้อมันมาซึ่งบอกได้เลยว่า ‘ของดีชั้นหนึ่ง’
พื้นผิวของเตียงนั้นนุ่มมากและให้สัมผัสที่เย็นสบายแบบไม่สนใจอุณหภูมิห้อง
ตอนนี้วาห์นเชื่อเฮสเทียแล้วว่ามันเป็นเตียงที่สุดยอดตามที่เธอเคยพูดไว้เลย
เมื่อเฮสเทียคลานขึ้นไปนอนบนเตียง วาห์นก็รีบตามหลังไปพร้อมความรู้สึกแปลกๆ เพราะมันเหมือนกับว่าเขากำลัง ‘ไล่ล่า’ เธออยู่
ตัวเตียงนั้นค่อนข้างใหญ่เอาการ และวิธีเดียวที่จะไปนอนตรงกลางได้ก็คือต้องคลานเข้าไปจากด้านข้าง
เพราะเธอกำลังทำแบบนั้นอยู่ หากวาห์นไม่หันไปมองทางอื่น เขาก็จะเห็นทุกอย่างที่อยู่ภายใต้ชุดสีขาวได้แบบถนัดตา
หลังจากนอนลงแล้ว วาห์นก็มานั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้างขณะที่เฮสเทียหันมามองแบบลุ้นๆ
“ฉันจะเริ่มนวดแบบปกติก่อนนะ หรืออยากให้ใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ผสมเข้าไปด้วยเลย?”
เฮสเทียคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะกลืนน้ำลายและเอ่ยตอบ
“งั้นขอลองแบบเดียวกับคนอื่นเลยละกัน… ถ้าเกิดว่ามันมากไปก็ค่อยๆ ลดระดับลงมา”
พอได้รับคำยินยอมจากเจ้าตัวแล้ววาห์นก็พยักหน้าก่อนจะเริ่มวางมือลงบนแผ่นหลังของเธอ
สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นในก็คือแผ่นหลังของเฮสเทียนั้นมีขนาดเล็กมากเมื่อเทพกับเทพธิดาองค์อื่นๆ
แม้แต่โลกิเองก็ยังสูงกว่าเขาเล็กน้อย ดังนั้นพอมาเจอกับขนาดมินิแบบเฮสเทียเข้า มันจึงเป็นการนวดที่แปลกกว่าครั้งก่อนๆ
แถมการนวดจากด้านข้างก็ทำให้เรื่องยากขึ้นไปอีกเพราะเขาต้องโน้มตัวไปข้างหน้าขณะที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่
ก่อนจะเข้าสู่โหมดจริงจัง วาห์นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดแบบลอยๆ
“นวดแบบนี้มันออกจะยากหน่อยๆ แฮะ…”
เฮสเทียหลับตาตั้งแต่ตอนที่มือของเด็กหนุ่มมาวางอยู่บนหลังแล้ว เธอก็เลยไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดจนกระทั่งเปิดตาขึ้นมาดู
เมื่อเห็นว่าวาห์นต้องเอียงตัวนวดอย่างยากลำบากเพราะพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน มันไม่เหมือนการนวดทั่วไปที่คนนวดจะยืนอยู่ด้านข้างและนวดร่างกายทุกส่วนได้อย่างทั่วถึง
เพื่อทำให้การนวดมีประสิทธิภาพ วาห์นจึงต้องขยับไปมาและพยายามออกท่ามากกว่าปกติ
ราวกับรู้ว่าเขาพยายามจะสื่อถึงอะไร เฮสเทียค่อยๆ ฝังใบหน้าลงบนหมอนก่อนจะพูดอู้อี้จนเด็กหนุ่มแทบไม่ได้ยิน
เขาเอียงหัวเข้าไปใกล้เทพตัวเล็กแต่มันก็ไม่ดีขึ้นจนต้องเอ่ยถามตรงๆ
“เฮสเทีย เอ่อ…?”
ก่อนจะได้พูดจนจบ เฮสเทียก็หันกลับมามองด้วยใบหน้าเหมือนจะร้องไห้เพราะความเขินและพูดอย่างหงุดหงิด
“ก็ทำให้มันดีๆ สิ~!”
จากนั้นเธอก็หันกลับไปและไม่ยอมพูดอะไรอีกขณะปล่อยให้คนฟังนั่งทำหน้าสับสน
หลังคิดทบทวนคำพูดของเธอดีแล้ว วาห์นก็พยักหน้าและรู้สึกมั่นใจขึ้น
“งั้น… เดี๋ยวฉันขอขึ้นไปนั่งตรงขานะ จะได้นวดสะดวกหน่อย”
คำพูดนั่นทำให้เฮสเทียสะดุ้ง แต่เธอก็ไม่ได้กล่าวห้ามอะไรและปล่อยให้เขาทำตามนั้น
พอขึ้นมานั่งคร่อมขาของเธอแล้ว เป็นครั้งที่สองที่วาห์นตระหนักว่าร่างกายของเฮสเทียนั้นเล็กแค่ไหน
เขามองแผ่นหลังที่เปิดโล่ง (เพราะชุดของเฮสเทียเป็นแบบเปิดหลัง) ก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและเริ่มนวดแบบจริงจัง
เฮสเทียที่กำลังฝังใบหน้าอยู่กับหมอนเริ่มรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ตอนที่วาห์นขึ้นมานั่งคร่อมแล้ว
แม้จะไม่เห็นว่าสายตาของเขาอยู่ตรงไหน แต่เธอก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้าง
เมื่อวาห์นวางมือลงไป ความกลัวของเธอก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีก แต่แล้วกลับพบว่าความตื่นเต้นกับความเครียดในร่างกายนั้นเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วและถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย
ไม่เพียงแค่นั้น เพราะเมื่อลองขยับขาดู เฮสเทียก็พบว่าเธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้
แม้จะรู้สึกสบายสุดๆ แต่ความกลัวของเทพสาวนั้นมีมากกว่าจนเธออยากจะยุติการนวด ‘แสนอันตราย’ ครั้งนี้ทันที
ความตกใจระลอกสองถาโถมเข้ามาเมื่อพบว่าร่างกายส่วนบนของเธอก็ขยับไม่ได้เช่นกัน
เฮสเทียรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังกลายเป็นอัมพาตจนแม้แต่เสียงก็เปล่งออกมาไม่ได้
เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เธอรู้สึกเหมือนได้ตกลงไปในหลุมพรางของวาห์นเข้าแล้ว
หากเขาคิดจะทำอะไรบางอย่าง เธอในตอนนี้ก็ไม่อาจหยุดหรือขัดขืนได้เลย
วาห์นสังเกตเห็นว่าออร่าของเฮสเทียกำลังผันผวนอย่างหนักจนเขาต้องกดจุดทั้งหกบนแผ่นหลังเพื่อทำให้ทุกอย่างกลับเป็นปกติ
ร่างเล็กเริ่มขยับได้อีกครั้งและขดตัวเป็นลูกบอลอย่างไม่รอช้าก่อนที่วาห์นจะได้เอ่ยปากถาม
เขามองเห็นออร่าสีม่วง (TL: สีม่วง = ความกลัว) ที่กำลังผันผวนอย่างหนักขณะที่เจ้าตัวพยายามปกป้องตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยหมอนหนึ่งใบ
วาห์นรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำบางอย่างผิดไปพร้อมกับที่ความเจ็บปวดเริ่มเข้ามาสุมอยู่ในอกขณะมองดูเทพตัวเล็กอย่างเศร้าๆ
เฮสเทียกลัววาห์นมากเสียจนไม่กล้าขยับไปไหนและยังคงนอนขดอยู่ที่เดิม
เธอใช้หมอนใบใหญ่แทนโล่กำบังขณะมองดูการตอบสนองของวาห์นแบบกล้าๆ กลัวๆ
พอได้เห็นสีหน้าของเขา ความกลัวของเธอก็หายไปเป็นปลิดทิ้งและถูกแทนที่ด้วยความเสียใจ
สิ่งที่เธอเห็นก็คือสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ความสับสน และความกลัว
มองปราดเดียวก็บอกได้ว่าวาห์นไม่ได้มีเจตนาทำร้าย และทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นจากการขาดประสบการณ์กับเพศตรงข้ามของเธอเอง
เทพสาวเพิ่งนึกออกว่าไม่ใช่แค่เหล่าเทพธิดาเท่านั้นที่เตือนเรื่องนี้ เพราะแม้แต่วาห์นเองก็พูดไว้เช่นกัน
ท่าทางหวาดกลัวของเธอ… แม้จะแสดงออกมาเพียงครู่เดียวหรือมีสาเหตุจากอะไรก็ตาม… แต่มันก็สื่อให้เห็นถึงความ ‘ไม่เชื่อใจ’ ในระดับที่ร้ายแรงมาก
ในฐานะผู้ที่กล่าวอ้างว่าเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกันและเป็นถึงเทพธิดาของเขา… เฮสเทียรู้ทันทีว่าเธอได้ทำผิดไปอย่างในน่าให้อภัย
สีหน้าของเด็กหนุ่มทำให้หัวใจของเธอแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนจะปาหมอนทิ้งและกระโจนเข้าไปกอดพร้อมน้ำตา
“ขอโทษนะวาห์น ก็รู้อยู่ว่านายคงไม่คิดทำร้ายกันแน่ๆ!
เพราะจู่ๆ ก็ขยับตัวไม่ได้ ฉันเลยกลัวจนเกินเหตุ!
ได้โปรดอย่าโทษตัวเองเลยนะ ฉันผิดไปแล้ว!”
วาห์นโดนเฮสเทียพุ่งเข้าใส่แบบไม่ทันตั้งตัวจนล้มลงไปกับเตียงขณะที่เธอยังคงกอดไม่ปล่อยและพร่ำเพ้ออยู่ด้านบน
ออร่าของเทพสาวนั้นค่อยๆ เปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีเหลืองผสมกับสีฟ้าและชมพูนิดๆ
เขาเห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจและเริ่มลูบหลังของเธอเบาๆ พร้อมใช้สกิล [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ไปด้วย
เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่วาห์นคิดว่าตนทำร้ายเฮสเทียอย่างไม่ตั้งใจ แต่แล้วก็รู้สึกโล่งอกเมื่อได้ยินว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน
เฮสเทียสัมผัสได้ว่าพลังงานอุ่นๆ จากการปลอบโยนของวาห์นยิ่งทำให้ความรู้สึกด้านลบของเธอสลายออกไปเร็วขึ้น
เธอแหงนหน้ามองเด็กหนุ่มและเห็นรอยยิ้มที่เผลอฟุ้งซ่านคิดไปว่าอาจจะไม่ได้เห็นมันอีก
วาห์นค่อยๆ ลูบผมสีดำด้วยมืออีกข้างและเข้ามากระซิบใกล้ๆ
“ไว้ครั้งหน้าเรามาเริ่มจากแบบเบาๆ ก่อนนะ… ฉันอยากทำให้เธอผ่อนคลาย ไม่ใช่ทำให้มากลัวกันแบบนี้”
เป็นถ้อยคำที่ฟังดูอ่อนโยนมาก แต่สำหรับเฮสเทียนั้นมันทำให้หัวใจของเธอหนักอึ้งและรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิม
วาห์นนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ตอนนี้เขากลับต้องมาเป็นฝ่ายปลอบทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นเธอสิ!
ไม่ว่าพลังงานอบอุ่นจะให้ความรู้สึกที่ดีแค่ไหน แต่มันก็ไม่อาจสลายความเศร้าและความรู้สึกผิดของเธอได้เลย
เพราะเห็นออร่าที่ยังคงกระสับกระส่ายไปมาไม่หยุด วาห์นก็เลยออกแรงลุกขึ้นนั่งและยกเทพตัวเล็กมาวางไว้บนตัก
เขาค่อยๆ สวมกอดเฮสเทียอย่างใกล้ชิดและแนบศีรษะเข้าด้วยกัน
ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปาก วาห์นก็พูดอย่างแผ่วเบา
“ใครๆ ก็เข้าใจผิดกันได้นะเฮสเทีย เราแค่ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้
สัญญาแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะมาเป็นครอบครัวเดียวกันและช่วยทำให้อีกฝ่ายมีความสุข?
อย่าเสียใจเพราะเรื่องเล็กๆ นี่เลย…”
พอพูดจบแล้ว วาห์นก็เข้าจูบตรงกลางหน้าผากก่อนจะปล่อยเธอจากอ้อมแขน
เฮสเทียจ้องกลับด้วยสีหน้ารู้สึกผิดและไม่ได้พูดอะไรเป็นเวลานาน
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็สูดลมหายใจและถอนมันออกมาแรงๆ
ศีรษะของเฮสเทียลงไปซบกับแผงอกของวาห์น ก่อนที่เธอจะเลยหน้าขึ้นมาอย่างยิ้มแย้มจนเขาเกือบปรับตัวตามไม่ทัน
ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เฮสเทียเริ่มกลับมาร่าเริงซึ่งแม้แต่ดวงตาของเธอก็เริ่มส่องประกายอีกครั้ง
เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบแต่ก็ฟังดูมีความสุข
“ฉันรู้นะว่ายังไงนายก็ไม่มีวันทำร้ายกัน นับจากนี้… ฉันจะเชื่อใจนายแบบเต็มที่เลย”
เธอปิดท้ายด้วยการพนมมือเข้ากับมือของวาห์นขณะทำท่าสวดภาวนา
มันดูคล้ายกับตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก วาห์นเลยอดสงสัยไม่ได้ว่ามันสลักสำคัญอย่างไร
พอปล่อยมือแล้วเฮสเทียก็ยิ้มให้อีกรอบ… เป็นรอยยิ้มที่ปราศจากความกลัวอย่างสิ้นเชิง
จู่ๆ วาห์นก็รู้สึกหวงแหนเทพตัวตัวเล็กมากผิดปกติและเริ่มลูบหัวของเธอต่อ
“…เข้านอนกันเถอะ เฮสเทีย”
เทพสาวพยักหน้าพลางเอ่ยตอบ
“นอนก็ได้ แต่พรุ่งนี้ฉันขอลองเรื่องนวดนี่อีกครั้งนะ
รอบนี้ต้องทำจนจบเลย… ฉันไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
หลังจากรับปากกันเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองก็ล้มตัวลงนอนด้วยอารมณ์ที่ดียิ่งกว่าเมื่อหลายนาทีก่อน
แม้จะไม่ได้นอนกอดกันตั้งแต่แรก ไม่นานวาห์นก็ตื่นขึ้นและพบว่าเป็นอีกครั้งที่มีอะไรบางอย่างมานอนอยู่บนตัว… แม้ว่าเตียงจะนุ่มสบายกว่าหน้าท้องของเขาก็ตาม
วาห์นคงบ่นพึมพำไปแล้วหากไม่ใช่เพราะร่างกายที่เบาเป็นพิเศษและ ‘สัมผัสนุ่มนิ่ม’ ที่กำลังกดทับลงมา
ไม่นานเขาก็หลับไปอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มนิดๆ บนใบหน้า