Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 231
พอใกล้ถึงทางเข้าคฤหาสน์ วาห์นก็หยุดเดินเพราะรู้สึกได้ว่าเฮสเทียกำลังรออยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของประตู
เขาหันไปหาเฟนเรียร์ที่ ‘สัมผัส’ บางอย่างได้เช่นกันและเริ่มลูบผมของเธอ
“เดี๋ยวเธอจะได้เจอกับเฮสเทียนะ เธอเป็นเทพธิดาของฉันเอง
ต่อไปเฮสเทียจะช่วยดูแลเธออีกคน ตกลงไหม?”
เฟนเรียร์เริ่มทำหน้ามุ่ยนิดๆ
“เฟนเรียร์ไม่ชอบ!”
เธอส่ายหัวไปมาพร้อมกับดวงตาที่เริ่มเปล่งประกาย
วาห์นคุกเข่าและอธิบายต่อ
“เฟนเรียร์ รู้ใช่ไหมว่าฉันอยากช่วยให้เธอรู้สึกอิ่มอยู่ตลอด?”
เฟนเรียร์พยักหน้าหลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นวาห์นจึงพูดต่อ
“แต่ฉันทำแบบนั้นคนเดียวไม่ไหวหรอกนะ เพราะบางครั้งอาจมีเรื่องอื่นที่ฉันต้องไปจัดการด้วย…
จำตอนที่เธอมานั่งดูฉันฝึกตีเหล็กได้หรือเปล่า? มันก็… เป็นอะไรทำนองนั้นแหละ
ถึงจะอยู่ดูแลเธอตลอดเวลาไม่ได้ แต่ฉันขอสัญญาว่าเธอจะไม่มีวันต้องอยู่ตัวคนเดียว
เฮสเทียเป็นเทพธิดาที่ใจดีมากและจะช่วยดูแลเธอได้เป็นอย่างดี”
เฟนเรียร์กัดฟันและขยับอุ้งมือไปมา ส่วนกรงเล็บของเธอเองก็กำลังอยู่ในสภาพ ‘อยู่ไม่สุข’
อย่างน้อยๆ ดวงตาสีแดงนั่นก็ดูจางลงหลังจากได้ยินเขาอธิบายจนจบ
วาห์นรู้ว่าเธอคงไม่เข้าใจคำอธิบายแบบ 100% แต่เขาก็พยายามส่งเจตนาออกไปแบบเดียวกับที่ทำก่อนหน้านี้เช่นกัน
ผ่านไปชั่วครู่ เฟนเรียร์ก็เริ่มครวญครางออกมาเป็นคำพูด
“เฟนเรียร์พยายาม… เฟนเรียร์ทำตัวดี”
วาห์นลูบหัวของเด็กสาวเบาๆ ก่อนจะปล่อย [เอ็นคิดู] ออกมาจากมือเพื่อให้เธอแทะเล่น
เขาพอมองออกว่าเธอกำลังรู้สึกเครียดแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเอ่ยปากร้องขออาหาร
หลังจากให้เธอมายืนอยู่ด้านหลังและดูจนแน่ใจแล้วว่าเธอจะไม่โจมตีเฮสเทีย วาห์นก็เดินผ่านประตูเข้าไปพร้อมกับยกมือขึ้นและตะโกนเสียงดัง
“เดี๋ยวก่อน เฮสเทีย!”
เฮสเทียที่กำลังพุ่งเข้าใส่เขาราวกับจะเข้ามากินหัวถึงกับต้องเบรกเอี๊ยดจนเกือบสะดุดหกล้ม
เธอมองเขาด้วยท่าทางสับสนและเป็นกังวลจนกระทั่งเหลือบไปเห็นเด็กสาวผมสีน้ำเงินที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ก่อนที่เธอจะได้ทำให้เรื่อง ‘ใหญ่กว่าเดิม’ วาห์นก็รีบอธิบายตัดหน้า
“เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะ แต่เธอต้องใจเย็นลงก่อน
เด็กคนนี้เครียดง่ายมาก ถ้าเธอโวยวายเสียงดัง… อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่น่ะ
ไปคุยกันที่ห้องสมุดเถอะ ฉันจะอธิบายให้ฟังทุกอย่างเลย”
แม้ยังอยากสั่งสอน (บ่น) เด็กหนุ่มอยู่บ้าง แต่เฮสเทียก็สัมผัสได้ถึงความจริงจังในน้ำเสียงและสีหน้าของวาห์นได้มากกว่าครั้งไหนๆ
พอหันไปมองอีกครั้ง เทพตัวเล็กก็ถึงกับต้องเสียวสันหลังวาบเมื่อเห็นดวงตาสีแดงจ้องตอบกลับมา
เธอตัดสินใจว่าจะทำตามที่วาห์นบอกและเดินตามทั้งคู่ไปยังห้องสมุดโดยพยายามทิ้งระยะห่างจากเด็กสวมผ้าคลุมท่าทาง ‘น่ากลัว’
หลังจากที่วาห์นนั่งลงบนโซฟา เฟนเรียร์ก็มานั่งยองๆ ตรงพื้นด้านข้างและยังคงแทะ [เอ็นคิดู] ขณะให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของเฮสเทียอยู่ตลอด
เมื่อเห็นเด็กสาวนั่งกับพื้นด้วยท่าทางแปลกๆ เฮสเทียก็ยิ่งงงหนักก่อนจะมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม
วาห์นรู้สึกได้ว่าเส้นผมของเฟนเรียร์กำลังตั้งขึ้นเล็กน้อย เขาจึงใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เพื่อทำให้เธอสงบลง
ตอนแรกเฮสเทียพอดูออกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่ามันน่าจะร้ายแรงกว่าที่คิดไว้มาก
เทพตัวเล็กมองวาห์นด้วยความกังวลขณะเอ่ยถาม
“วาห์น นายไปเอาเด็กคนนี้มาจากไหนเหรอ?”
วาห์นส่ายหัวและเริ่มอธิบาย
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก จำที่ฉันเล่าเรื่องฟาฟเนียร์ให้ฟังได้ไหม มังกรดำที่คอยตามคุ้มครองทีน่ากับมิลานน่ะ?”
ตาของเฮสเทียเบิกกว้างขึ้นอีกหน่อยและหันมามองเฟนเรียร์อีกครั้งขณะที่วาห์นพูดต่อ
“เด็กคนนี้มีชื่อว่าเฟนเรียร์ เธอคือโคโบลด์ที่ติดตามฉันออกมาจากดันเจี้ยน
พอฉันใช้สกิลพิเศษ เธอก็เลยวิวัฒนาการมาเป็นร่างนี้แทน
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันต้องเข้าดันเจี้ยนเดี๋ยวนั้นเลย
สรุปสั้นๆ ก็คือฉันอยากทดสอบความสามารถของเธอและหาวิธีจัดการกับ… ลักษณะพิเศษบางอย่างของเธอด้วย”
จากนั้นวาห์นก็เริ่มอธิบายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของเฟนเรียร์ รวมไปถึงสกิลต่างๆ เช่น [กลืนกิน] และ [หิวไม่รู้จักพอ]
พอได้ฟังคำอธิบายแล้ว ออร่าของเฮสเทียก็ผันผวนไปบ้าง แต่วาห์นยังมองออกด้วยว่าเธอรู้สึกเห็นใจกับสถานการณ์ของเด็กสาวเช่นกัน เพราะ ‘ความผันผวน’ นั่นไม่ได้หลุดออกมาทางสีหน้าของเธอเลย
“…ถ้างั้นเฟนเรียร์ก็เป็นมอนสเตอร์ที่วิวัฒนาการจนมีร่างกายคล้ายมนุษย์… แถมยังกินทุกอย่างที่ขวางหน้าเวลารู้สึกหิว… นอกซะจากว่าเธอจะรู้สึกผ่อนคลายหรือมีความสุขงั้นเหรอ?” เฮสเทียเอ่ยเบาๆ
เทพสาวชำเลืองมองเฟนเรียร์ที่เริ่มนอนกลิ้งไปมาขณะยังคงแทะ [เอ็นคิดู] อย่างเพลิดเพลิน
วาห์นเริ่มอธิบายเกี่ยวกับคุณสมบัติ ‘ไม่สามารถทำลายได้’ ของตัวโซ่และการที่มันช่วยทำให้เธอสงบลง
คำอธิบายนั่นทำให้สีหน้าของเฮสเทียดูเศร้าหมองกว่าเดิม จากนั้นเธอก็ลงมานั่นคุกเข่าโดยทิ้งช่วงเล็กน้อยพร้อมกับยื่นมือออกมาข้างหน้า
—————
สนับสนุนนิยายอย่างถูกต้อง.ได้ที่: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP
—————
เฟนเรียร์เริ่มเข้าสู่สภาวะระวังตัวทันที แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือไปกว่านั้น
ดูเหมือนเธอจะพยายามทำตามสิ่งที่วาห์นสั่งไว้ก่อนหน้านี้และให้โอกาสเฮสเทียอยู่บ้าง
สีหน้าประหม่าของเทพตัวเล็กเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเล็กๆ ขณะที่เธอโน้มตัวไปข้างหน้าและลูบหัวเฟนเรียร์เบาๆ
แม้จะดูตึงๆ แต่เฟนเรียร์ก็ไม่ได้ถอยหนีออกไปและ ‘ยอม’ ให้เฮสเทียสัมผัส
เฮสเทียค่อยๆ ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด
“โอ๋ๆ นะ เฟนเรียร์เป็นเด็กดีใช่ไหมจ๊ะ~?”
หางของเฟนเรียร์กระทบกับพื้นไปมาขณะที่เธอพยักหน้ารับ
“เฟนเรียร์ดี เฮสเทียดีหรือเปล่า?”
เฮสเทียหัวเราะหน่อยๆ พลางลูบหูของเธออย่างรักใคร่ด้วยสีหน้าตื่นเต้นกว่าเดิม
“ใช่แล้ว ต่อไปเทพธิดาผู้งดงามคนนี้จะเป็นเพื่อนกับเธอเอง~”
เฟนเรียร์ขมวดคิ้วและส่ายหัวราวกับจะ ‘ปฏิเสธ’ คำพูดนั่นแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจแนวคิดเรื่อง ‘ความสวยความงาม’ ก็ตาม
“เจ้านายดีกว่า รู้สึกดี เฮสเทียไม่ดี… แต่ก็ดี”
เฟนเรียร์พยักหน้าชอบใจหลังจากได้พูดบางอย่างที่ตัวเองคิดว่าดู ‘ลึกซึ้งมาก’ ก่อนจะกลับไปแทะ [เอ็นคิดู] โดยปล่อยให้เฮสเทียนั่งทำหน้าจืดและลูบหัวของเธอต่อไปแบบซังกะตาย
วาห์นหัวเราะก่อนจะนำมือไปวางบนหัวเฮสเทียพร้อมกับใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ไปด้วย
“ฉันว่าเธอคงหมายถึงความต่างในเทคนิคการลูบของเรามากกว่า
ไม่อยากโม้หรอกนะ แต่เธอก็น่าจะรู้ว่าเรื่องนี้ฉันไม่แพ้ใครอยู่แล้ว”
พอสัมผัสได้ถึงถึงพลังงานอบอุ่นตรงศีรษะ รอยยิ้มของเฮสเทียก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“อ๊ะ~! ที่นวดให้เมื่อคืนมันสุดยอดไปเลย แบบนี้ต้องมีรอบสองแล้วล่ะ!
ถ้าอยากให้ฉันยกโทษเรื่องเมื่อเช้านี้… คงรู้นะว่าต้องทำยังไง~” เฮสเทียกระซิบบอกด้วยเสียงที่ไม่ค่อย ‘เบา’ นัก
เทพสาวเริ่มรู้สึกฮึกเหิมหลังจากที่วาห์นเตือนความจำเรื่องการนวดเมื่อคืนนี้
มันไม่เหมือนกับสิ่งที่เธอเคยสัมผัสมาก่อนและไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเทพธิดาองค์อื่นๆ ถึงดูตื่นกลัวกันนัก
เฮสเทียคิด (ไปเอง) ว่าพวกเธอคงอยากเก็บเรื่องนี้ไว้เพราะกลัว ‘คิวจะเยอะ’ ซะมากกว่า
“ได้สิ เชื่อมือฉันได้เลย” วาห์นพยักหน้าก่อนจะยิ้มให้อย่างมั่นใจ
เฮสเทียดูยิ้มแย้มแจ่มใสมากกว่าเดิม แต่แล้วสีหน้าของเธอก็นิ่งค้างทันทีที่ได้ยินเสียงพูดแทรก
“นวดสุดยอดเหรอ? เฟนเรียร์เอาด้วย!”
แม้ว่าเฮสเทียจะพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน แต่วาห์นก็ตอบกลับไปแบบตรงๆ
“ได้สิ แต่เธอต้องทำตัวดีๆ นะ”
การนวดจะทำให้เขาสามารถเติมพลังงานและทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายไปพร้อมๆ กัน มันจึงเป็นความคิดที่ดูไม่เลวเท่าไหร่
หลังจากอธิบายเสร็จแล้วและทำให้เฮสเทียยอบรับในตัวเฟนเรียร์ได้ วาห์นก็เริ่มเข้าเรื่องถัดไป
“หลังจากที่เฟนเรียร์วิวัฒนาการและได้รับร่างใหม่ ตอนนี้ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเธอมีดวงวิญญาณเป็นของตัวเองแล้ว
ฉันอยากให้เธอลองรับพรดูน่ะ เราจะได้ติดตามการเติบโตของเธอด้วย…”
เฮสเทียที่กำลังเพลิดเพลินกับการลูบเฟนเรียร์อยู่นั้น จู่ๆ ก็ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูด ‘เหลือเชื่อ’ ของเด็กหนุ่ม
“ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ
เรื่องที่มอนสเตอร์บางตัวมีดวงวิญญาณเป็นของตัวเองอาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก แต่การได้รับดวงวิญญาณผ่านสกิลนี่มัน…”
วาห์นไม่แปลกใจเลยที่เธอรู้สึกสงสัย
เขาค่อยๆ ยื่นมือออกมาลูบหัวของเฟนเรียร์บ้างขณะอธิบายต่อ
“เชื่อฉันเถอะ ตอนนี้เฟนเรียร์อาจจะไม่ถือว่าเป็นมอนสเตอร์แล้วด้วยซ้ำ… แต่เป็นอะไรที่พิเศษกว่ามาก
ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่ จริงไหม?”
เฮสเทียถอนหายใจก่อนจะต้องยอมแพ้ให้กับสายตาคาดคั้นของวาห์น
“เฟนเรียร์ ช่วยนั่งนิ่งๆ สักเดี๋ยวสิ ฉันจะลองสลักบางอย่างบนหลังของเธอดูนะ
อาจทำให้รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ แต่เธอจะได้รับบางอย่างที่เหมือนกับวาห์น… เผลอๆ มันอาจทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นด้วยน้า~”
วาห์นถอดเสื้อออกเพื่อแสดงตราสัญลักษณ์บนแผ่งหลังให้เฟนเรียร์ดูโดยที่เฮสเทียไม่ต้องบอก
เด็กสาวจ้องมองมันด้วยสีหน้าหงุดหงิด แต่ก็รู้สึกสนใจนิดๆ
ผ่านไปเกือบนาที เฟนเรียร์ก็ตัดสินใจได้
“เฟนเรียร์อยากได้”
จากนั้นเฮสเทียก็เลิกเสื้อของเธอขึ้นก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรออกและจ้องมองวาห์นด้วยสายตา ‘ไม่เป็นมิตร’
“…ถ้าเฟนเรียร์เคยเป็นมอนสเตอร์มาก่อน งั้นนายก็เป็นคนจัดการเรื่องเสื้อผ้าพวกนี้ใช่ไหม?”
มันเป็นสายตาเอาผิดที่รุนแรงมากจนวาห์นได้ยินเสียง ‘จ้องงงง-’ ซึ่งดังมาจากไหนก็ไม่รู้
สุดท้ายเขาเลยต้องอธิบายเรื่องวิวัฒนาการของเฟนเรียร์เพิ่ม นั่นยังรวมถึงเรื่องที่เธอไม่ชอบสวมเสื้อผ้ากับเรื่องที่เธอทำมันขาดไปไม่รู้กี่ชิ้นแล้วด้วย
แม้ว่าชุดๆ นี้จะดูค่อนข้างเปิดเผย แต่มันก็เป็นชุดที่ป้องกันเรื่องคราบเลือด, ไม่ขัดขวางการเคลื่อนไหว และเป็นชุดๆ เดียวที่เด็กสาวยอมใส่
เฮสเทียฟังอย่างเงียบๆ จนกระทั่งวาห์นพูดถึง ‘เลือด’ ซึ่งทำให้เฟนเรียร์ชูอุ้งมือขึ้นอย่างภูมิใจ
“เฟนเรียร์ฆ่า!!”
แม้จะไม่ได้สังเกตในตอนแรก แต่พอเฟนเรียร์พูดขึ้นมา เฮสเทียก็เริ่มเห็นคราบอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมดจนต้องร้องเสียงดัง
“วาห์นนนนน~! เด็กคนนี้ต้องไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย!”
ดวงตาของเฟนเรียร์ลุกวาวทันทีที่ได้ยิน ‘คำต้องห้าม’
“เฟนเรียร์เกลียดอาบน้ำ! เฟนเรียร์ไม่อาบ ไม่ไม่ไม่!”
ความหวาดกลัวและหงุดหงิดทำให้เฟนเรียร์อยากจะลุกหนีไปซะเดี๋ยวนั้น แต่เพราะคำสั่งที่บอกให้ ‘นั่งนิ่งๆ’ เธอก็เลยยังอยู่กับที่
ดวงตาของเธอเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งวาห์นต้องใช้เวลาอยู่หลายนาทีเพื่อทำให้เธอสงบลงขณะพยายามอธิบายข้อดีของการอาบน้ำ
ดูเหมือนเธอจะมี ‘อาการทางจิต’ ตั้งแต่ตอนที่โดนเอวาจับอาบน้ำเมื่อนานมาแล้ว
เพราะไม่เข้าใจว่าเอวาพยายามจะทำอะไร เฟนเรียร์คงนึกไปว่าตัวเองกำลังโดน ‘จับถ่วงน้ำ’
ในที่สุดเธอก็สงบลงเมื่อวาห์นบอกว่าอ่างอาบน้ำที่พวกเขาใช้นั้นตื้นมาก ส่วนน้ำก็เป็นน้ำร้อนซึ่งทำให้รู้สึกดีสุดๆ
เขาต้องพูดย้ำอีกหลายครั้งหลายหนว่าจะไม่มีใคร ‘จับเธอกดน้ำ’ แน่นอน
วาห์นพยายามงัดทุกอย่างที่มีออกมาใช้ นั่นรวมถึง ‘การนวดแสนสุดยอด’ หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จด้วย
แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องบอกว่ามัน ‘แสนสุดยอด’ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาควรจะมาคิดเล็กคิดน้อยแบบนั้น
พอเกลี้ยกล่อมกันจนเสร็จเรียบร้อย เฮสเทียก็ทำพิธีเข้าร่วมแฟมิเลียต่อโดยไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม
เธอรู้สึกตกใจจริงๆ ที่มันได้ผลและได้แต่หันมาหาวาห์นด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
————————————————————————–
[[สถานะ]]
ชื่อ: [เฟนเรียร์]
อายุ: 12
-เลเวล:2
-พลังโจมตี: (G205)
-ความอดทน: (H156)
-ความแม่นยำ: (F311)
-ความว่องไว: (H173)
-พลังเวท: (I92)
สกิล: [ดวงจันทร์ร่ำไห้: C], [คำรามเยือกแข็ง: C], [ทลายพันธนาการ: C], [กลืนกิน: SS], [นักล่า: A]
สกิลที่กำลังพัฒนา: –
เวทมนตร์: –
————————————————————————-