Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 238
นับตั้งแต่วินาทีที่เธอเกือบทำแหวนหล่นลงพื้น ความรู้สึกนึกคิดของเฮเฟสตัสก็ถูกย้อมจนกลายเป็นสีขาวโพลน
พอวาห์นรับมันกลางอากาศ เทพสาวก็รู้สึกดีขึ้นเป็นกอง แต่พอเขาเข้ามาถอดถุงมือและสวมแหวนให้ ความรู้สึกดีๆ ก็เอ่อล้นจนเธอไปต่อไม่เป็น
เธอนำมือข้างที่ว่างขึ้นมาปิดปาก น้ำตาเริ่มไหลออกมาไม่หยุด แม้แต่แรงจะยืนยังไม่มีเลย
ก่อนที่เฮเฟสตัสจะล้มกระแทกพื้น วาห์นก็เข้ามาประคองเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น
ผ่านไปอีกหลายอึดใจ สิ่งเดียวที่เฮเฟสตัสทำได้ก็คือร้องไห้ออกมาไม่หยุดพร้อมกับที่วาห์นได้ยินเสียงจากระบบของตัวเอง
————————————————————————-
//[ความปรารถนาของหัวใจ: เฮเฟสตัส] สำเร็จแล้ว ปลดล็อคค่า ‘ความรัก’ แล้ว//
[เฮเฟสตัส] ค่าความรัก 9,418 (รักนิรันดร์)
//สายใยผูกพันถูกเชื่อมต่อเข้ากับ [เฮเฟสตัส]//
//เริ่มต้นภารกิจเสริม//
[ภารกิจ: ต้นกำเนิดของวีรบุรุษ]
ระดับ: SS-SSS
เป้าหมาย: ทำให้เฮเฟสตัสตั้งครรภ์ (0) ดูให้แน่ใจว่าการทำคลอดผ่านไปได้ด้วยดี
รางวัล: 1,000,000 OP, 1x [ผู้พิทักษ์:(ไร้นาม)], 1x [ตำนานแห่งผู้กล้า]
เงื่อนไขความล้มเหลว: เสียชีวิต, เฮเฟสตัสเสียชีวิต, (ไร้นาม) เด็กเสียชีวิต
ผลจากความล้มเหลว: 9,418 กรรมชั่ว (0), สูญเสีย ‘เพลิงนิรันดร์’, สูญเสีย [หัวใจของเพลิงนิรันดร์]
————————————————————————-
แม้วาห์นจะรู้สึกสนใจกับการแจ้งเตือนครั้งนี้และงุนงงเมื่อเห็นภารกิจที่คาดไม่ถึง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบบ่นในใจเพราะว่ามัน ‘มาไม่ดูเวล่ำเวลาเลย’
บรรยากาศรอบๆ นั้นเต็มไปด้วยความซึ้งสุดๆ แม้แต่คนหน้านิ่งๆ แบบริวเองยังเกือบจะร้องไห้ออกมา
คนอื่นๆ นี่ไม่ต้องพูดถึงเพราะต่อมน้ำตาแตกกันหมดแล้ว… เว้นก็แต่เฟนเรียร์
ที่จริงแล้วตอนนี้เด็กสาวกำลังรู้สึกหงุดหงิดมากขณะที่ดวงตาเริ่มเปล่งประกายไม่หยุด
สุดท้ายเฟนเรียร์ก็ทนต่อไปไม่ไหวและตะโกนออกมาเสียงดัง
“วาห์นรังแกเฮเฟสตัสเหรอ!?”
รังแกคนอื่นไม่ดีนะ นิสัยไม่ดี!”
หากไม่นับเสียงสะอื้นเล็กน้อย บรรยากาศในตอนนั้นถือว่าเงียบมากๆ เสียงตะโกนของเฟนเรียร์ก็เลยดังสะท้อนไปทั่ว
เฮเฟสตัสซึ่งถูกอารมณ์ของตัวเองเข้าเล่นงานอย่างหนักในช่วงไม่กี่นาทีที่ผ่านมาก็เริ่มฟื้นสติและหันมามองมนุษย์หมาป่าตัวน้อย
เธอใช้วาห์นเป็นฐานพยุงตัว ก่อนจะเข้าจูบในแบบที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
วาห์นไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัมผัสที่พวกเขามีร่วมกันหรือเพราะสาเหตุอื่น แต่เด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่านี่คือ ‘จูบแรกที่แท้จริง’ ของพวกเขาทั้งสอง
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นวาห์นจูบคนอื่น เฟนเรียร์เลยรู้ตัวว่าเธอเพิ่ง ‘ปล่อยไก่ตัวโตๆ’ ก่อนจะเดินเตาะแตะเข้าไปกอดมิลานและเอาหน้ามาซุกกับเอวของหญิงสาวด้วยความเขินอาย
เฟนเรียร์ได้เล่นกับทีน่าอยู่บ่อยครั้งจนมิลานรู้สึกชินกับพฤติกรรมของเด็กคนนี้แล้ว เธอจึงเริ่มใช้วิธีปลอบแบบเดียวกับที่ทำให้ลูกสาว
มิลานจับเฟนเรียร์ขึ้นมาอุ้มแม้ว่าขนาดตัวของทั้งสองจะต่างกันไม่มากนัก จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในห้องว่างห้องหนึ่งโดยมีทีน่าตามหลังมาติดๆ
ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง เธอได้หันมามองวาห์นและเฮเฟสตัสเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสีหน้ามีความสุขแต่ก็แฝงไปด้วยความกังวล
ริวเองก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นวิธีที่วาห์นปฏิบัติต่อคนใกล้ชิด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์และความรักอันเปี่ยมล้นของคนที่ตัวเองชอบ
หากมองแบบผิวเผิน มันก็เหมือนกับการจูบทั่วไป แต่ริวก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวของทั้งสองนั้นไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลงเลย
มันยิ่งหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ เสียด้วยซ้ำ… แต่อะไรล่ะที่หนักอึ้ง? บรรยากาศงั้นเหรอ? หรือว่าหัวใจของเธอกันแน่?
ตอนแรกนั้นริวแวะมาหาวาห์นด้วยความเป็นห่วงล้วนๆ แต่ไม่ติดเลยว่าจะได้มาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
ส่วนคนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากที่สุดนั้นเห็นจะเป็นเฮสเทีย โดยที่อารมณ์ของเทพตัวเล็กกำลังขึ้นๆ ลงๆ แบบสุดๆ
เธอทั้งรู้สึกดีใจไปกับสหายสนิท แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกหวาดหวั่นกับอนาคตที่กำลังจะมาถึง
เฮสเทียรู้ว่ายังไงวาห์นกับเฮเฟสตัสก็ต้องลงเอยด้วยกันอยู่แล้ว สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือเธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้
หลังจากที่ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน เฮสเทียรู้ว่าช่องทางที่เธอใช้เข้าหาวาห์นก็จะเปิดกว้างขึ้นด้วย แต่นั่นกลับมาพร้อมความวิตกกังวล
แม้จะไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่จริงๆ แล้วเฮสเทียนั้นได้พึ่งพิงกำแพงที่เรียกว่า ‘คำสัญญาที่วาห์นให้ไว้กับเฮเฟสตัส’ มาตลอด
หากสิ่งนั้นหายไป… แล้วเธอต้องทำไงต่อล่ะ ยั่ววาห์นอีกเหรอ? แต่ไม่มีอะไรมาหยุดเขาแล้วนะ…!?
(TL: ง่ายๆ ก็คือเป็นพวกปอดแหกในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ก็ว่ากันไม่ได้เพราะยังไม่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อน~)
ผ่านไปอีก 2-3 นาที ริมฝีปากของทั้งสองก็ผละออกจากกัน
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา วาห์นได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนสูงพอๆ กับเฮเฟสตัส (ประมาณ 165 ซม.)
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของวาห์นนั้นขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจเป็นหลัก พูดอีกอย่างก็คือนอกจากเรื่องที่อยากให้ใจตรงกันตามประสาคู่รักทั่วไปแล้ว วาห์นคงอยากให้ส่วนสูงของตัวเองตรงกับส่วนสูงของเฮเฟสตัสเช่นกัน
แม้ [จิตแห่งราชัน] จะคอยให้การสนับสนุนอย่างสุดความสามารถ แต่ใบหน้ากับท่าทางของคนรักก็ทำให้วาห์นรู้สึกร้อนใจอยู่ดี
เฮเฟสตัสกำลังแสดงสีหน้าหลงใหลที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ได้รู้จักกันมา
“ฉัน… ฉันรักนายนะวาห์น… รักมากด้วย… รักมากจริงๆ”
เมื่อเธอพูดจบ วาห์นก็รู้สึกว่าร่างกายของเฮเฟสตัสกำลังสั่นอย่างรุนแรงจนเขาต้องสวมกอดและพยายามทำให้เธอสงบลงอีกครั้ง
เขายังสัมผัสได้ด้วยว่าออร่าของเฮเฟสตัสนั้นกำลังถาโถมเข้าใส่มาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว
หลังผ่านไปอีกหลายนาที ประกอบกับการแสดงความรักผ่านการจูบแบบสั้นๆ หลายครั้ง แบบธรรมดาเพียงไม่กี่ครั้ง และแบบดูดดื่มในครั้งสุดท้าย เฮเฟสตัสก็เพิ่งนึกออกว่าพวกเขาไม่ได้อยู่กันแค่สองคนและเริ่มหันไปมองสหายรักอย่างช้าๆ
เฮสเทียเองก็กำลังร้องไห้ไม่หยุด ส่วนสาเหตุที่ร้องนั้นก็มีหลายประการ แต่หลักๆ แล้วก็ร้องเพราะดีใจไปกับเพื่อนนั่นแหละ
“เฮสเทีย…” เฮเฟสตัสพึมพำเบาๆ
ก่อนจะผละออกจากกัน เทพสาวก็หันไปจูบวาห์นอีกครั้งก่อนจะนำหน้าผากมาแนบกัน
“ฉันต้องกลับแล้ว… เดี๋ยวต้องกลับไปเคลียร์ตารางงานก่อน… พรุ่งนี้มาที่โรงหลอมด้วยล่ะ…” เฮเฟสตัสกระซิบเบามากเพื่อให้แน่ใจว่ามีแต่วาห์นเท่านั้นที่ได้ยิน
ความกังวลเริ่มเข้ามาเกาะกุมหัวใจขณะที่วาห์นจับข้อมือของเฮเฟสตัสไว้แน่นและไม่ยอมปล่อยให้เธอเดินไปหาเฮสเทีย
“ทำไมเราไม่ออกไปด้วยกันตอนนี้เลยล่ะ… ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย… รู้สึกกลัวว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นก่อนถึงวันพรุ่งนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ในขณะที่พูด วาห์นก็รู้สึกว่าเฮเฟสตัสยิ่งตัวสั่นหนักกว่าเดิม ก่อนที่จะเธอร้องครวญออกมาเบาๆ
“ไม่ได้นะ… ต้องไม่ใช่ที่นี่ ตอนนี้… ฉันไม่…”
คำพูดของเธอทำให้วาห์นนึกถึงคนอื่นๆ ที่มาเยี่ยมในวันนี้
ทุกคนมาที่นี่เพื่อปลอบใจเขาแม้จะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าสิ่งที่ทำให้เขาเศร้านั่นก็คือ ‘ผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง’
เขาเองก็ไม่ได้คาดคิดแต่แรกว่าเฮเฟสตัสจะมาด้วย ตอนนี้พวกเขาก็เลยอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
พอเริ่มนึกภาพที่ตัวเองหันไปร้องขอ ‘ความเป็นส่วนตัว’ จากคนอื่นๆ… วาห์นก็รู้สึกผิดมากจนไม่อยากนึกต่อและรู้ว่าการตัดสินใจของเฮเฟสตัสนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว
หลังจากกอดต่ออีกเล็กน้อย วาห์นจึงยอมปล่อยให้เธอไปหาเฮสเทียซึ่งทั้งสองก็สวมกอดกันฉันท์เพื่อนสนิท
แม้จะรายล้อมไปด้วยคนที่เขาห่วงใย แต่วาห์นในตอนนี้นั้นรู้สึกเหงาและว้าเหว่มาก
สายตาที่แอบชำเลืองมองมาทางเขา บวกกับความรู้สึกที่เชื่อมถึงกันนั้นทำให้เฮเฟสตัสรู้สึกเสียใจมาก เพราะที่จริงเธอเองก็รู้สึกว้าเหว่ไม่ต่างไปจากวาห์นเท่าไหร่นัก
ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมบรรยากาศโดยรอบอีกครั้ง ก่อนที่เฮเฟสตัสจะหันมาหาริว ผู้ซึ่งยังคงยืนนิ่งเสมือนรูปปั้นอยู่ที่เดิม
เพราะกำลังสังเกตฉากตรงหน้าอย่างตั้งใจ ริวจึงเห็นสายตาของเฮเฟสตัสเช่นกัน
แม้จะไม่เข้าใจในตอนแรก แต่พอเทพสาวค่อนศีรษะไปทางวาห์นเล็กน้อย ริวก็มาถึงบางอ้อ
หากเธอพูดออกมาตรงๆ ก็คงดูไม่ดีนัก ที่เฮเฟสตัสจากจะสื่อก็คือต้องการให้ริวพาวาห์นออกไปก่อน
ถ้าพวกเขายังอยู่ใกล้กันแบบนี้ ความรู้สึกต่างๆ ก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้นจนบรรยากาศแย่ลงกว่าเดิม
ริวรู้สึกกดดันอย่างหนักขณะเดินตรงเข้าไปหาวาห์นและพยายาม ‘ยิ้ม’ อย่างดีที่สุดที่เธอพอจะทำได้
จากมุมมองของวาห์นนั้น สีหน้าของเธอก็ดูเหมือนปกติ… มีแต่คิ้วนี่แหละที่กระตุกไม่หยุด
วาห์นรู้สึกลังเลที่ต้องอยู่ห่างจากเฮเฟสตัส แต่เขาก็ปฏิเสธริวที่กำลังยื่นมือมาให้ (อย่างเอาเป็นเอาตาย) ไม่ได้เช่นกัน
ด้วยร่างกายที่สั่นเล็กน้อย วาห์นถอนหายใจผ่านจมูกก่อนจะยิ้มให้ริวแบบแห้งๆ และจับมือของเธอไว้
—————
สนับสนุนนิยายอย่างถูกต้อง.ได้ที่: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP
—————
จากนั้นริวก็ค่อยๆ ดึงมือและพาเขาไปยังห้องที่มิลาน ทีน่า และเฟนเรียร์กำลังรออยู่
เทพธิดาทั้งสองต่างเฝ้ามองแผ่นหลังที่กำลังออกห่างไปเรื่อยๆ ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
พอแผ่นหลังนั่นหายลับเข้าไปในห้อง เฮเฟสตัสก็สวมกอดเฮสเทียอีกครั้ง
“เฮสเทีย… ฉันรู้สึกกลัวใจตัวเองจริงๆ… ตอนนี้มันแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
ถึงมันจะ.. มันจะไม่ใช่…”
เฮเฟสตัสอยากพูดว่านี่ไม่ใช่ประสบการณ์ครั้งแรกระหว่างเธอกับเพศตรงข้าม แต่จะให้เธอจัดให้วาห์นไปอยู่กลุ่มเดียวกับเทพกะล่อนพวกนั้นน่ะเหรอ? แค่คิดก็รู้สึกผิดจะตายอยู่แล้ว
เฮสเทียยิ้มให้กับความคิดของเพื่อนสนิทพลางตบหลังของเธอเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบ
“ไม่เป็นแล้วนะ… มาๆ ไปพักกันเถอะ
พอเธอสงบลงแล้ว เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง…”
จากนั้นเฮสเทียก็พาเฮเฟสตัสขึ้นไปพักที่ห้องซึ่งอยู่ติดกับ ‘ห้องนอนใหญ่’ ที่ซึ่งเธอนอนกับวาห์นและเฟนเรียร์เกือบแทบทุกวัน
คืนนี้เฮสเทียคงต้องปล่อยให้สาวๆ คนอื่น ‘ทำหน้าที่’ แทน ส่วนหน้าที่ของเธอในคืนนี้ก็คือการปลอบโยนสหายรักและจัดการกับความรู้สึกวุ่นๆ ในหัวใจของตัวเอง
เฮสเทียหวังว่าความกล้าที่มอบให้กับเฮเฟสตัสในวันนี้ จะเป็นตัวผลักดันให้เธอค้นพบความกล้าของตัวเองเข้าสักวัน
ช่วงมื้อเย็นที่เหลือนั้นผ่านไปอย่างเงียบๆ แม้ว่าทุกคนจะอยู่กันพร้อมหน้า… เว้นก็แต่เทพธิดาทั้งสอง
วาห์นยังคงรู้สึกได้ถึงความกังวลจากออร่าของเฮเฟสตัสที่อยู่ชั้นบน
การที่เธออยู่ห่างไปเพียงชั้นเดียวนั้นทำให้เขารู้สึกนั่งไม่ติด แต่อย่างน้อย [จิตแห่งราชัน] ก็พยายามเข้าช่วยอย่างเต็มที่ด้วยการกดดันความรู้สึกด้านลบเอาไว้ชั่วคราว
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว วาห์นก็มานั่งพักเงียบๆ บนโซฟาโดยมีเฟนเรียร์และทีน่าคอยขนาบข้าง
เมื่อถึงเวลาอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอน วาห์นก็เดินลากเท้าเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้ชายและนั่งลงบนม้านั่งพลางคิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
เพราะมีผู้หญิงหลายคนแวะเวียนกันมาค้างคืนอยู่หลายครั้งในช่วงสัปดาห์หลังๆ เฟนเรียร์จึงเริ่มชินกับการอาบน้ำในหมู่สาวๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว
ทั้ง 3 คน (วาห์น เฮสเทีย เฟนเรียร์) อาจเข้าไปอาบน้ำด้วยกันเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่นั้นวาห์นจะแยกออกมาอาบเพียงคนเดียว
เมื่อสัมผัสได้ว่ากำลังมีคนเข้ามาในห้อง วาห์นก็พูดขึ้นโดยไม่หันไปมอง
“ฉันไม่เป็นไรหรอกริว… เธอไม่ต้องฝืนหรอก”
นั่นทำให้ริวหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เธอก็เริ่มเดินต่ออีกครั้งโดยไม่สนใจคำทัดทาน
ริวมาหยุดตรงด้านหลังของวาห์นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เอนตัวลงมากอดคอของเขาแบบหลวมๆ
เพราะมันต่างจากพฤติกรรมปกติของเธอ วาห์นจึงถอนหายใจด้วยความเศร้าและพูดต่อ
“ฉันดูน่าสมเพชมากเลยใช่ไหม?… ถึงตอนนี้จะรู้สึกอยากอยู่คนเดียว… แต่พอมีคนมากอดเข้าหน่อยก็ยังรู้สึกดีใจอยู่ดี
ถึงฉันอยากจะไปหาเฮเฟสตัส… ถึงจะรู้สึกเศร้าเรื่องเอวา… ถึง…”
แม้คำพูดในช่วงแรกจะฟังดูราบรื่น แต่วาห์นก็เริ่มอ้ำอึ้งในช่วงท้ายๆ เพราะรู้ตัวดีกว่ากำลังพูดอ้างนู่นอ้างนี่ไปเรื่อย
ออร่าสุกสว่างของริวนั้นก็เป็นตัวบอกอยู่แล้วว่าเธอไม่ได้กำลังฝืนหรือกำลังทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ
วาห์นรู้ดีใจจริงๆ ที่เธอเข้ามาปลอบ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกแย่ไปพร้อมๆ กันด้วย
ตอนนี้อารมณ์ของเขากำลังขัดแย้งกันอย่างหนักและอยากหาที่ระบายเท่านั้นเอง
“ชู่ววว ไม่เป็นไรนะวาห์น… ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย” ริวกระซิบด้วยน้ำเสียงสงบ
จากนั้นเธอก็เริ่มส่ายร่างของวาห์นไปมาอย่างช้าๆ ราวกับเป็นแม่ที่กำลังกล่อมลูกน้อย
นั่นทำให้วาห์นรู้สึกดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ความรู้สึกด้านลบย้อนกลับขึ้นมาด้วย
จู่ๆ เขาก็อยากกระชากอ้อมกอดของเธอออกและพุ่งตรงไปยังห้องที่เฮเฟสตัสพำนักอยู่ซะเดี๋ยวนั้นเลย
หลังจากใช้เวลาและความพยายามอย่างมากเพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้จนสำเร็จ ความอดทนของวาห์นในตอนนี้นั้นถือว่าต่ำมาก ราวกับว่ามีเสียงกรีดร้องในหัวที่คอยพร่ำบอกว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเฮเฟสตัสได้ทุกเมื่อ
เพราะรู้สึกได้ว่าวาห์นกำลังตัวสั่น ริวก็เริ่มจนปัญญาและไม่รู้จะทำยังไงต่อดี
เธอพยายามปลอบเขา แต่ดูเหมือนมันจะทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม
ริวเริ่มคิดหาวิธีที่สุดโต่งกว่าเดิม แต่เธอก็ไม่รู้ว่าวาห์นจะตอบสนองยังไงเพราะตอนนี้เขาดูไม่เป็นตัวของตัวเองเลย
ใจจริงแล้วเธอก็แค่อยากจะช่วยเขาเท่านั้นเอง
“…วาห์น ได้โปรดบอกฉันทีสิว่าต้องทำยังไงถึงจะช่วยนายได้”
วาห์นเริ่มสงบลงหลังจากได้ยินชื่อของตัวเองและน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใย
เขาอยากตะโกนไล่ให้เธอออกไปก่อน แต่ก็รู้ดีว่าการทำแบบนั้นมันไม่มีประโยชน์ อย่างมากเขาก็คงรู้สึกเกลียดตัวเองไปเลย
หากไปถึงขั้นที่เริ่มใช้ความรุนแรงกับคนใกล้ชิด วาห์นก็ไม่รู้ว่าจะเขาจะทนอยู่กับตัวเองที่เป็นแบบนั้นไปได้อีกนานแค่ไหน
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ริวก็ได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ ของเด็กหนุ่ม
“ได้โปรดอย่างทิ้งฉันไว้คนเดียวนะ…”