Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 248
ในขณะที่เฟนเรียร์เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน วาห์นกับริวก็เข้ามาช่วยทำความสะอาดให้โดยที่ชายหนุ่มต้องกางเขตแดนเพื่อตรวจสอบบริเวณรอบๆ ไปด้วย
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในที่ที่ไม่ควรตั้งอ่างอาบน้ำเลย แต่เพื่อทำให้เด็กสาวสงบลงโดยเร็ว วาห์นจึงต้องยอมเสี่ยงไปก่อน
เฟนเรียร์นั้นชอบให้มีคนมาดูแล และถ้าคนๆ นั้นเป็นวาห์นด้วยก็จะยิ่งดีใจใหญ่
ชายหนุ่มต้องผสาน [หัวใจของเพลิงนิรันดร์] เข้าไปในเขตแดนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้มีอะไรมาขัดจังหวะช่วงเวลานี้
ตอนนี้วาห์นทั้งอาบน้ำให้เฟนเรียร์ เผามอนสเตอร์รอบๆ และเก็บคริสตัลกับซากของพวกมันไปพร้อมๆ กันเลย
หลังจากเฟนเรียร์สะอาดดีแล้ว วาห์นก็ช่วยสวมชุดเมดที่ใส่ประจำให้ก่อนจะพาเธอกลับขึ้นสู่พื้นผิวโดยมีริวคุ้มกันอีกชั้น
ตลอดการเดินทาง เฟนเรียร์นั้นเดินแกว่งแขนแบบร่าเริงสุดๆ
วาห์นกับริวรู้ว่าเด็กสาวกำลังมีความสุขมาก พวกเขาก็เลยผลัดกันลูบหัวเธอจนกระทั่งมาถึงชั้นบน
สายตามากมายหันมาหาทันทีที่ทั้งสามเดินออกจากประตู แต่เหล่าสมาชิกของเฮสเทียแฟมิเลียก็ดูไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่นัก
วาห์นล็อกเป้าทุกคนที่มีเจตนาแอบแฝง ก่อนจะอัดพลังเขตแดนออกไปและทำให้คนเหล่านั้นเสียวสันหลังจนต้องหันหน้าหนีแทน
—
วาห์นแวะมาทานมื้อกลางวันที่ ‘เจ้าของร้านผู้เพรียบพร้อม’ พร้อมกับเล่าเรื่องของฮารุฮิเมะให้ริวและโคลอี้ฟังด้วย
เมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มจะไปย่านโคมแดง ทั้งสองก็รั้งตัวเฟนเรียร์เอาไว้ทันที
อันที่จริงวาห์นไม่คิดจะพาเธอไปด้วยอยู่แล้ว แต่เขาก็ลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย
เขากล่าวขอบคุณสองสาวที่ทำให้ฉุกคิดได้และได้แต่กล่าวโทษตัวเองในใจ
หากเผลอปล่อยให้เฟนเรียร์ตามไปด้วย… วาห์นต้องงานเข้าแน่นอน
ที่หนักกว่านั้นก็คือเขาคงโดนพวกสาวๆ รุมทึ้งอีกรอบโทษฐานปล่อยปะละเลย…
ริวกับโคลอี้เองก็มีประสบการณ์กับพวกสังคมด้านมืดมาก่อน พวกเธอก็เลยขออาสาไปช่วยอีกแรง
“อืมมม เอาไว้ถ้าฉันจัดการเองไม่ได้แล้วจะรีบติดต่อให้ไปช่วยนะ” วาห์นกล่าวปฏิเสธทั้งสองไปก่อน
เพราะรู้ว่าวาห์นมีทั้งพลังเขตแดน ประสาทสัมผัสพิเศษ และสกิลอำพรางตัว ทั้งคู่เลยไม่ค่อยห่วงมากนักและพยักหน้าอย่างว่าง่าย
หลังให้วาห์นสัญญาว่าเขาจะระวังตัว มิลานกับทีน่าก็พาเฟนเรียร์กลับคฤหาสน์โดยมีริวเดินตามและฟาฟเนียร์ที่คอยคุ้มกันทั้งสามอีกต่อหนึ่ง
หลังจากแยกกันแล้ว วาห์นก็มานั่งอยู่บนหลังคาของอาคารสูงขณะถอนหายใจเล็กน้อย
แม้ว่าริวกับโคลอี้น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ แต่วาห์นก็ไม่อยากให้โคลอี้ตกอยู่ในอันตรายมากกว่าเดิมเพราะเรื่องที่เธอสังหารลาเวอร์น่านั้นจะถูกเปิดโปงขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
สำหรับริว วาห์นไม่อยากจะให้เธอเข้าไปที่ย่านนั้นด้วยซ้ำ
ก่อนจะ ‘เกษียณตัวเอง’ และกลายมาเป็นสาวเสริร์ฟ เอลฟ์สาวได้กวาดล้างแฟมิเลียอาชญากรรมต่างๆ ไปหลายแห่ง
หากเลี่ยงได้ วาห์นก็ไม่อยากให้เธอมากลับคลุกคลีกับเรื่องแบบนี้อีก
ชายหนุ่มเชื่อว่าทักษะการหาข่าวและแกะรอยของตัวเองก็ไม่ได้แย่อะไรนัก เขาจึงตัดสินใจว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
หากฮารุฮิเมะไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง วาห์นก็จะถอยกลับไปก่อน รวบรวมแรงสนับสนุน และคอยกดดันพวกกลุ่มค้าทาสผ่านช่องทางกฎหมายแทน
เขาอาจจะขอให้กลุ่มพันธมิตรหนุนหลังอย่างเปิดเผยไม่ได้ แต่หากมีข้อมูลนิดๆ หน่อยๆ ถูกส่งผ่านทางเครือข่ายไปถึงเฮเฟสตัสกับโลกิ… อะไรก็เกิดขึ้นได้นี่นะ
วาห์นนั้นรู้สึกเป็นห่วงเฮเฟสตัสอยู่บ้าง… ไม่บ้างหรอกแต่เยอะเลย
ทว่าพอคิดต่ออีกหน่อย เขาก็ไม่เห็นความจำเป็นที่เทพสาวจะต้องมาออกโรงเอง
เพราะการระดมกำลังคนจากแฟมิเลียนั้นปล่อยให้สึบากิจัดการแทนก็ได้
ตอนนี้เธอควรเก็บตัวเงียบๆ ไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องตั้งครรภ์รั่วไหลออกไป
หลังคิดวางแผนต่ออีกหลายนาที วาห์นก็เปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าที่ดูติดหรูหน่อยๆ
หากเดินเข้าไปในย่านแบบใส่ชุดต่อสู้แบบเต็มยศ จากการ ‘หาข่าว’ ก็จะกลายเป็น ‘หาตีน’ แทน
พวกที่มีประสบการณ์นั้นจะรู้ทันทีว่าเขา ‘กระเป๋าหนัก’ และอาจเป็น ‘ลูกค้าชั้นดี’ ของร้าน
วาห์นได้เตรียมใจไว้แล้วและเริ่มใช้ [จิตแห่งราชัน] เพื่อสงบตัวเองลง
หากเกิดแสดงท่าทางสนใจมากเกินไป เขาก็อาจโดนผู้หญิงในย่านลากไปไหนต่อไหนแล้วก็ได้
งานนี้วาห์นต้องใจแข็งเข้าไว้โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหนก็ตาม ยังดีที่ไม่จำเป็นต้องกลัวเรื่องโดนวางยาเพราะของแบบนั้นทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว
ส่วนพวกเวทมนตร์เสน่ห์ก็สามารถแก้ทางได้โดยใช้ [จิตแห่งราชัน] แต่กรณีที่ทำให้แผนแตกได้ง่ายที่สุดนั้นเห็นจะเป็น ‘การเข้าช่วยผู้หญิงที่ตกอยู่ในอันตราย’ เพราะต่อให้ใจแข็งยังไง นี่ก็เป็นเรื่องเดียวที่วาห์นปล่อยไปไม่ได้จริงๆ
—
ทันทีที่เข้าไปในย่าน วาห์นก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยหญิงสาวมากมายจนอยากจะถอยกลับไปคิดแผนใหม่อีกรอบ
หน้าตาหล่อเหลา เสื้อผ้าหรูหรา และท่าทางมั่นใจของชายหนุ่มทำให้แผน ‘ลูกค้าชั้นดี’ นั้นประสบความสำเร็จเกินคาด… ออกจะประสบความสำเร็จมากเกินไปด้วยซ้ำ
นอกเหนือจากคุณสมบัติเหล่านั้น พวกที่อยู่มานานยังรู้ด้วยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาในย่าน
วาห์นไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาแบบเมื่อก่อนแล้ว การบอกปฏิเสธพวกเธออย่างสุภาพจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถ… แต่บางครั้ง การพูดสุภาพเกินก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
สาวๆ บางคนอาจคิดว่าตัวเอง ‘ยังมีโอกาสอยู่’ พวกเธอก็เลยเริ่มเข้ามาเกาะแกะด้วยสีหน้าเย้ายวนและพยายามพาเขาไปที่สถานบริการของตัวเอง
โสเภณีชาวอเมซอนคนหนึ่งยังใจกล้าถึงขั้นลากวาห์นเข้าไปในตรอกเล็กๆ ก่อนจะปลดช่วงล่างของตัวเองออกและหันมามองเขาด้วยสีหน้า ‘ท้าทาย’
นั่นเป็นภาพที่เล่นเอาวาห์นทั้งผงะทั้งเกือบคล้อยตามไปเหมือนกัน
สุดท้ายเขาก็หลับตาและโค้งให้ ก่อนจะใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เพื่อหลบหนีจากตรงนั้น
สาวชาวอเมซอนได้แต่ทำหน้าเซ็งๆ ขณะแหงนหน้ามองท้องฟ้าและถอนหายใจเสียงดัง
“ทำไมผู้ชายดีๆ ต้องเล่นตัวด้วยนะ…~”
—
วาห์นต้องถอยหนีขึ้นมาอยู่บนหลังคาเป็นการชั่วคราวก่อน
เขาเริ่มใช้พลังเขตแดนและประสาทสัมผัสเพื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบ แต่แล้วมันก็เกือบทำให้สมองของเขาระเบิดออก
ย่านโคมแดงแห่งนี้มีผู้คน กลิ่น และเสียงมากมายมหาศาลจนประสาทรับรู้ของเขารวนไปหมด
สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องกลับลงไปหาเบาะแสจากด้านล่างและได้แต่หวังว่าโชคชะตาจะไม่เล่นตลกจนเกินไปนัก
สิ่งที่เขาอยากได้ก็มีเพียงข้อมูลเท่านั้น แต่พอผ่านไปสักพัก วาห์นก็รู้ว่าการทำให้คนในย่านนี้คายบางอย่างออกมาเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน
พวกผู้หญิงเอาแต่จ้องจะถวายตัวลูกเดียว ในขณะที่พวกผู้ชายเองก็พยายามเลี่ยงเขาเพราะไม่อยาก ‘แข่งขันด้วย’
—————
ผลงานถูกขโมย.มาจาก: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP
—————
สิ่งที่วาห์นได้มาในวันนี้ก็เลยมีแต่ความ ‘งง’ กับความ ‘งงหนักกว่าเดิม’
เขาเคยได้ยินจากเฮเฟสตัสว่ากว่า 40% ของรายได้ในเมืองนั้นจะมาบรรจบกันที่ย่านแห่งนี้
ตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอได้เห็นกับตาแล้วถึงได้รู้ว่าทำไม
วาห์นเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สนุกไปกับกิจกรรมยามค่ำคืน แต่ถ้าต้องใช้เงินเพื่อซื้อมันนี่ก็…
เรื่องน่าหนักใจก็คือที่นี่มีสาวๆ ทุกแบบให้เลือกสรร แถมยังมีแบบที่เขารู้สึกสนใจอยู่ด้วย
หากวาห์นไม่มีผู้หญิงห้อมล้อมมากมายหรือบังเอิญเดินมาเจอย่านนี้ตั้งแต่ตอนเข้าเมืองใหม่ๆ เรื่องราวก็คงผิดแผกไปจากเดิมมาก
(TL: วาห์น จักรพรรดิแห่งย่านโคมแดง)
ที่นี่มีทั้งหญิงสาวหรือแม้แต่เด็กสาวตัวเล็กๆ พวกเธอมีรูปร่าง ขนาดตัว และลักษณะพิเศษประจำเผ่าที่ทำให้วาห์นรู้สึกสนใจมาก
หลายคนยังสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น หรือไม่ก็ ‘เศษผ้า’ เพื่อเรียกความสนใจจากผู้สัญจรไปมาด้วย
สุดท้ายวาห์นก็ต้องยอมแพ้และเปลี่ยนไปเดินก้มหน้าแทน
ถ้า [จิตแห่งราชัน] ร้องไห้ได้ ป่านนี้น้ำตาของมันก็คงนองพื้นไปหมดแล้ว
ขณะมองทุกอย่างจากด้านบน วาห์นก็พบกับ ‘ภาพตัวอย่าง’ ที่อยากจะเห็นมานมนาน
เขาเห็นชายร่างท้วมผ่านหน้าต่างบางหนึ่ง ส่วนคนที่อยู่ข้างชายคนนั้นก็คือหญิงสาวชาวพลูมซึ่งบอกได้เลยว่ากำลัง ‘ท้องแก่’ อยู่
สาเหตุที่รู้ว่าเป็นชาวพลูมก็เพราะร่างกายที่เล็กบอบบางของเธอนั่นเอง
สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงก็คือ แม้จะท้องจนใกล้คลอดเต็มทีแล้ว แต่เธอก็ยังถูกชายคนนั้น ‘กลั่นแกล้ง’ ไม่หยุดหย่อน
วาห์นนึกอยากจะพุ่งเข้าไปช่วยเธอไว้ แต่พอได้ยินเสียงครางแห่งความสุขจนต้องตรวจสอบต่ออีกนิด เขาก็เตลิดหนีออกไปจากตรงนั้นแทบไม่ทัน
แน่นอนว่าเธออาจแกล้งเล่นละครเพื่อหาเงินเพิ่ม วาห์นก็เลยตรวจสอบออร่าและรู้ว่านี่มันไม่ใช่ละครแล้ว!
หลังถอยทัพออกจากย่าน วาห์นก็มานั่งพักอยู่บนอาคารที่เคยใช้เป็นที่วางแผนพลางเปิด [จิตแห่งราชัน] เพื่อทำให้จิตใจสงบลง
เนื่องจากเขาไม่ได้รู้สึกโกรธหรือสูญเสียการควบคุมตัวเองแต่อย่างใด ความรู้สึกเย็นสงบจึงช่วยอะไรไม่ได้มาก
วาห์นตระหนักแล้วว่าตัวเองเตรียมใจมาไม่ดีพอ แถมวันนี้เขายังไม่ได้ข้อมูลอะไรกลับมาเลยด้วย
แต่อย่างน้อย ภาพที่ฮารุฮิเมะต้องมาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นโดยไม่มีทางเลือกก็ทำให้เขารู้สึกมุ่งมั่นมากกว่าเดิม
ต่อให้เธอ ‘อยู่รอด’ มาจนถึงตอนนี้ ทว่าสถานการณ์ก็อาจเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา
เผ่าเรนาร์ดนั้นถือได้ว่าเป็นของหายากสำหรับทวีปอีเดน หญิงสาวอย่างฮารุฮิเมะคงเป็นที่ต้องการของตลาดไม่ว่าเธอจะมีอายุน้อยขนาดไหน
ยิ่งวาห์นคิด [จิตแห่งราชัน] ก็ต้องยิ่งทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ
กิจกรรมทางเพศเป็นสิ่งที่น่าหลงใหล เรื่องนี้เขาเข้าใจดี แต่การที่คนนำมันมาหาผลกำไร แถมยังบังคับขู่เข็ญคนอื่นให้ทำงานให้นั้นเป็นสิ่งที่วาห์นไม่เห็นด้วย
ย่านโคมแดงแห่งนี้มีบางอย่างแอบแฝงอยู่ เพราะนอกจากออร่าและเสียงแห่งความหฤหรรษ์ที่สัมผัสได้ทั่วไปแล้ว มันยังมีความรู้สึกด้านลบในปริมาณมหาศาลที่ฝังรากอยู่ในนั้นด้วย
วาห์นไม่คิดยอมแพ้เพราะเรื่องแค่นี้แน่นอน เขาตัดสินใจว่าจะกลับเข้าไปใหม่จนกระทั่งตะวันค่อยๆ ลับขอบฟ้า
เมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์หดหายไปจนหมด ย่านแห่งนี้ก็ยิ่งสว่างและดูคึกคักมากกว่าเดิม
วาห์นเห็นนักผจญภัยหลายคนเดินท่องไปตามถนนด้วยสีหน้ามีความสุขราวกับกำลังมาฉลองชัยชนะครั้งใหญ่กัน
ส่วนจุดหมายปลายทางของพวกเขาก็คือซ่องนั่นเอง
เพราะศึกษาเรื่องร่างกายมนุษย์มาอย่างดี วาห์นจึงรู้ว่าบางคนในกลุ่มนั้นเป็นโรคร้ายหลายอย่าง
แค่จินตนาการว่าตัวเองต้องไปแบ่งปันผู้หญิงกับชายคนดังกล่าวก็ทำให้วาห์นเสียวสันหลังแล้ว
หลังออกจากย่านแห่งนั้น วาห์นก็รู้สึกแย่ไปหมด ร่างกายและจิตใจของเขาดูเหนื่อยล้าพอๆ กับตอนลงดันเจี้ยนใหม่ๆ เลย
สิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่น่าจะมีอยู่ในสังคม วันนี้วาห์นได้เห็นมาหมดทุกอย่างเลย
ในระหว่างการสืบหาข่าว เขาต้องช่วยเหลือหญิงสาวที่โดนกลุ่มอันธพาลจับลากเข้าไปในซอยข้างๆ ถึง 3 ครั้งด้วยกัน
ครั้งสุดท้ายที่ไปช่วยนั้นเล่นเอาจิตตกไปเลย เพราะหลังจากที่ปลอดภัยแล้ว เธอก็เอ่ยปากขอมีอะไรกับเขาเพียงเพราะต้องการ ‘ขับไล่ความทรงจำไม่ดีออกไป’
หากไม่ได้เห็นออร่าชีสมพู ‘น่ากลัว’ นั่น วาห์นก็คงเห็นใจเธอไปแล้ว
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอใช้ชีวิตแบบไหนมา แต่ต่อไปหวังว่าเธอจะมีความสุขกว่านี้… แล้วก็อย่ามาเดินที่มืดๆ แบบนี้คนเดียวอีกล่ะ”
พอพูดจบ วาห์นก็มอบถุงเงินเล็กๆ ให้ก่อนจะหายไปจากตรงนั้นราวกับเป็นเพียงภาพลวงตา
—
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ฮาร์ธและเห็นเฮสเทีย เฟนเรียร์ มิลาน และทีน่าแบบพร้อมหน้า เขาก็รู้สึกผิดและดีใจปนๆ กันไป
ความรู้สึกผิดนั้นเกิดจากการที่ตัวเองได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนจิตใจดีงาม ในขณะที่ยังมีคนอีกกลุ่มที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากโดยไม่มีใครมาเหลียวแล
พอนำภาพของพวกสาวๆ ที่รู้จักไปซ้อนทับภาพที่เพิ่งไปเห็นมา วาห์นก็ตัวสั่นเพราะความกังวล
ยังไงวาห์นก็ปักใจเชื่อไม่ได้หรอกว่าการหลับนอนกับคนแปลกหน้าเพื่อแลกกับเงินนั้นเป็นการใช้ชีวิตที่มีความสุข… ดูยังไงมันก็เป็นได้แค่ตลกร้ายเท่านั้นเอง
สาวๆ ทั้งสี่เห็นว่าวาห์นดูไม่ค่อยปกตินัก แต่แล้วสายตาของพวกเธอก็อ่อนลงทันทีที่เห็นเฟนเรียร์ดึงหวีออกจากกระเป๋าและเดินมาข้างหน้า
“อย่าเศร้าเลยวาห์น ยิ้มๆ ดีกว่า
มาๆ เดี๋ยวเฟนเรียร์แปรงขนให้”
ตกเย็นของวันนั้น วาห์นได้รับการปรนนิบัตจากเฮสเทียและมิลานในขณะที่เขานั่งอ่านนิทานของวีรบุรุษผู้ฟันฝ่าอุปสรรคนานานัปการให้ทีน่าและเฟนเรียร์ฟัง
ความอบอุ่นที่ได้รับบวกกับนิทานแสนสนุกทำให้ความรู้สึกด้านลบต่างๆ จางหายไปที่ละนิด
วาห์นคิดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วว่าตัวเองนั้นโชคดีแค่ไหนที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีผู้คนห่วงใยมากมายที่พร้อมจะช่วยแก้ปัญหาไปด้วยกัน
เขาอยากแบ่งปันความรู้สึกนี้ไปให้คนอื่นบ้างจริงๆ พร้อมกับสาบานในใจด้วยว่าจะต้องตามหาฮารุฮิเมะจนพบและให้เธอได้เจอกับผู้คนที่เป็นห่วงเธอเช่นกัน
เขาอาจไม่เคยพบหรือเห็นหน้าฮารุฮิเมะมาก่อน แต่แค่นึกภาพที่เธอต้องหวาดกลัวและถูกหลอกใช้ประโยชน์ไปวันๆ ก็ทำให้วาห์นรู้สึกเจ็บปวดแทนแล้ว…