Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 250
เลือดของวาห์นกรองสารเคมีแปลกปลอมออกไปในทันที ส่วนผลวิเคราะที่ได้จากพี่สาวนั้นระบุว่ามันคือตัวยาที่ทำให้ ‘เชื่อฟัง’ มากขึ้น
จะบอกว่าเป็นยาพิษก็ไม่เชิง แต่ที่แน่ๆ ก็คือมันทำให้ฌอนทัคได้เปรียบอย่างมากในระหว่างที่เจรจา
วาห์นยิ้มให้ก่อนจะเริ่มอธิบาย
“ที่บ้านเกิดของเราจะมีเรือจากแดนจากตะวันออกไกลมาเทียบท่านานๆ ครั้ง
มีอยู่รอบหนึ่งที่ผมได้เห็นสาวงามคนนั้น
เธอมีหูและหางคล้ายกับจิ้งจอกมาก แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ผมก็ไม่เคยได้ใช้เวลากับเธอแบบสองต่อสองเลย
หลังจากที่เธอกลับบ้านเกิดไปแล้ว ผมถึงเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเธอคือเผ่าที่มีชื่อว่าเรนาร์ด
พอได้ยินว่ามีสาวเผ่าเรนาร์ดอยู่ในย่านนี้ ผมก็เลยรีบมาที่นี่เลย…”
ฌอนทัคแสดงสีหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบกลับ
“ฉันจำได้ว่ามีเผ่าเรนาร์ดอยู่ในซ่องแห่งหนึ่งจริงๆ ด้วย
เป็นอย่างที่คุณยาชิม่าบอกนั่นแหละ เธอเป็นสินค้าที่หายากมาก
ฉันเองก็เคยลองติดต่อเพื่อขอซื้อเธอเหมือนกัน… แต่สุดท้ายก็เหลวไม่เป็นท่า
สรุปแล้ว… เธออยากซื้อข้อมูลนี่หรือเปล่าล่ะ?”
ฌอนทัคเริ่มยิ้มแบบขันๆ ซึ่งวาห์นนั้นไม่เข้าใจความหมายของมันเลย
เขาพยักหน้ารับทันที
“ต้องซื้อสิครับ มันคือความฝันอันยาวนานของผม… ยังไงก็ต้องพบเธอให้ได้ แต่นอกเหนือจากเรนาร์ดคนนั้นแล้ว อย่างอื่นที่ผมเล็งไว้ก็พอมีอยู่นะ”
วาห์นรู้ว่าถ้าเขามุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลของฮารุฮิเมะเพียงอย่างเดียว เรื่องมันก็จะยุ่งยากขึ้น
ยิ่งเขาสนใจข้อมูลมาก ทางตัวแทนก็จะยิ่งโก่งราคามากขึ้นไปอีก
ข้อมูลที่มีราคาเพียงไม่กี่หมื่นวาลิสอาจจะกลายไปหลายแสนไปเลยก็ได้
ดวงตาของฌอนทัคยิ่งหรี่เล็กลงพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันแน่ใจว่าเราต้องจัดหาบางอย่างให้เธอได้
แต่เรื่องราคาก็อาจจะ… เกิดความคาดหมายของเธอไปนิดหน่อยนะ
เท่าที่ฉันรู้ ในเมืองนี้มีเผ่าเรนาร์ดอยู่แค่หยิบมือเดียวเอง ส่วนที่เป็น ‘สินค้า’ ก็มีแค่คนเดียวซะด้วยสิ
ปัญหาก็คือเจ้าของคนปัจจุบันของเธอไม่ใช่คนที่ฉันอยากจะไปยุ่งเกี่ยวด้วย…
ถ้าเธออยากได้ข้อมูลนี้จริงๆ เราคงต้องคุยเรื่องธุรกิจเพิ่มเติมกันก่อน”
พอได้ยินฌอนทัคเรียกหญิงสาวที่น่าจะใช่ฮารุฮิเมะว่า ‘สินค้า’ ดวงตาของวาห์นก็กระตุกนิดๆ โชคดีที่ฌอนทัคคิดว่าวาห์นรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องข้อมูลที่เขาอุบไว้ชั่วคราว
“คืองี้นะคุณยาชิม่า ปกติแล้วฉันจะขายข้อมูลให้กับลูกค้าที่เคยทำธุรกิจร่วมกันมาก่อนเท่านั้น
อย่างที่เธอน่าจะรู้มาบ้างแล้ว ว่าทางเราไม่ได้ขายแค่ข้อมูลเพียงอย่างเดียว
บางทีการซื้อ ‘สินค้า’ ของเราสักชิ้นสองชิ้นคงช่วยให้ฉันอุ่นใจขึ้นเยอะเลย…”
วาห์นหันหน้าไปทางเพดานราวกับว่ากำลังไตร่ตรองข้อเสนอของฌอนทัค เขารู้ว่ายาที่กินเข้าไปนั้นน่าจะมีไว้เพื่อเวลาแบบนี้โดยเฉพาะ
การค้าทาสเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก เพราะถึงการมีทาสไว้ในครอบครองจะไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่การค้าทาสเถื่อนผ่านช่องทางที่ไม่ถูกต้องนั้นมันคนละเรื่องกันเลย
หากวาห์นซื้อ ‘ทาสเถื่อน’ เหล่านี้ไป เขาก็จะกลายเป็น ‘ผู้สมรู้ร่วมคิด’ ทันที
แต่ถ้ามองอีกมุม เพราะยังไงวาห์นก็กะปลดปล่อยพวกเธออยู่แล้ว เรื่องแค่นี้จึงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องกลัว
ยังไงที่นี่ก็โดนเขาขึ้นบัญชีดำไปแล้ว จะเล่นตามเกมของฌอนทัคไปก่อนก็ไม่เสียหายอะไรนี่?
ในกรณีที่เลวร้ายสุดๆ อย่างมากเขาก็คงแจกโซ่มันเสียตรงนี้เลย
วาห์นเริ่มผงกหัวราวกับโดนสะกดจิต แถมสีหน้าก็ดู ‘ตื่นเต้น’ มากขึ้น
“ได้สิครับ เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย เอ่อ… ที่จริงผมก็ไม่เคยซื้อ ‘สินค้า’ มาก่อนหรอกนะ แต่ฟังดูแล้วก็น่าสนใจดีเหมือนกัน”
วาห์นพบว่าฌอนทัคนั้นพยายามเลี่ยงการเรียกพวกเธอว่า ‘ทาส’ เขาก็เลยทำตามเช่นกัน
ในการค้าทาสแบบถูกกฎหมายนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกกต้องด้วย
ผู้ซื้อจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าซื้อทาสไปทำอะไร แถมนานๆ ครั้งก็จะมีการเรียกตรวจสอบเพิ่มเติมอีกต่างหาก
การค้าทาสของชอนทัคนั้นไม่มีการขึ้นทะเบียนหรือตรวจสอบใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังใช้วิธี ‘อ้างอิง’ เพื่อหาลูกค้าเพิ่มแทน
แม้จะคาดหวังว่าวาห์นคงเห็นด้วยอยู่แล้ว แต่ฌอนทัคก็ยังรู้สึกดีใจอยู่ดี
เขายิ้มหน้าบานก่อนจะยืนขึ้นเพื่อจับมือกับวาห์นอีกครั้ง
หลังตบไหล่วาห์นราวกับเป็นเพื่อนสนิทอยู่พักหนึ่ง ฌอนทัคก็พาเขาไปที่ห้องขนาดใหญ่ซึ่งมีประตูหลายบานและเก้าอี้ 3-4 ตัวตรงด้านข้าง
หลังจากที่วาห์นนั่งลงแล้ว ฌอนทัคก็เดินออกไปสั่งลูกน้องแล้วจึงกลับมานั่งข้างๆ เขา
ดวงตาของชายผมทองเริ่มส่อแววเจตนาแอบแฝงก่อนที่เขาจะพูดอย่างมั่นใจ
“คุณยาชิม่า ฉันแน่ใจว่าเธอต้องได้เจอกับแบบที่ชอบแน่นอน
ขอบอกเลยนะว่าถ้าไม่นับเรื่องเรนาร์ดนั่น สิ้นค้าของฉันก็ถือว่าดีและแปลกใหม่ที่สุดในเมืองนี้แล้ว แต่ถ้าเธอยังไม่เจอของถูกใจ ทางเราก็ยินดีรับ ‘คำขอพิเศษ’ ไว้พิจารณาด้วยนะ
ทุกอย่างก็เพื่อลูกค้าของเราโดยเฉพาะเลย”
ขณะที่ฌอนทัคพูด วาห์นก็นั่งฟังด้วยท่าทางเหม่อลอยและพยักหน้าให้เป็นครั้งคราว
เห็นแบบนั้นแล้วฌอนทัคก็ต้องยิ้มกว้างพลางโบกมือให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างประตู
วาห์นจ้องมองหญิงสาวกับเด็กผู้หญิงจำนวน 20 คนที่ค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องอย่างเป็นระเบียบและจัดแถวแบบเล็กเรียงโต (TL: ส่วนสูง)
เด็กสาวที่ตัวเล็กที่สุดนั้นสูงเพียง 118 ซม. และวาห์นพอมองออกว่าเธอน่าจะเป็นลูกครึ่งพลูมที่ยังเติบโตได้อีก
ส่วนอีกด้านหนึ่งของแถวก็เป็นหญิงสาวสูง 180 ซม. ที่มีส่วนโค้งเว้าน่าเหลือเชื่อพร้อมกับดวงตาสีเขียวแสนเย้ายวน
ผู้หญิงทุกคนสวมเสื้อผ้าเรียบๆ แถมวาห์นยังเห็นด้วยว่าแต่ละคนนั้นไม่ได้สวมชุดชั้นในไว้เลย
ตอนนี้บางคนก็เริ่มโปรยเสน่ห์ใส่ด้วยการเปิด ‘เนื้อใน’ ที่อยู่ภายใต้เสื้อหาให้เขาดู
ทว่าสำหรับวาห์นแล้ว สิ่งที่ดูโดดเด่นมากที่สุดๆ เห็นจะเป็นออร่าของพวกเธอ
นอกเหนือจากบางคนที่คอย ‘หยอกเย้า’ ส่วนที่เหลือนั้นมีออร่าสีน้ำเงินปนม่วงที่ดูเศร้ามาก
วาห์นเข้าใจทันทีว่าพวกเธอส่วนใหญ่หรืออาจจะทั้งหมดได้ถูกบังคับให้กลายมาเป็นทาส
สำหรับพวกที่ยังโชว์ไม่เลิกนั้น วาห์นพอเข้าใจว่าพวกเธอน่าจะเป็นทาสมานานพอสมควรและ ‘ปรับตัว’ เข้ากับชีวิตปัจจุบันไปแล้ว
วาห์นค่อยๆ มองทุกคนโดยเน้นไปที่สีหน้าขณะทำหน้าไตร่ตรองอย่างหนัก
ตอนนี้เขารู้สึกอยากจะกุดหัวฌอนทัคและปลดปล่อยทุกคนให้เป็นอิสระเหลือเกิน
นี่อาจเป็นการดูและสรุปแบบคร่าวๆ แต่วาห์นก็พอรู้ว่าพวกเธอส่วนใหญ่นั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะกันเลย
หากไม่ได้ตกเป็นทาสตั้งแต่เกิด งั้นพวกเธอก็คงถูกลักพาตัวมาจากหมู่บ้านที่อยู่รอบๆ โอราริโอ้แน่นอน
เรื่องที่มีคนตกเป็นทาส ‘ตั้งแต่เกิด’ นั้นเป็นเรื่องที่วาห์นไม่เห็นด้วยแบบสุดๆ และหมายมั่นว่าจะต้องแก้ไขมันให้ได้
สำหรับตอนนี้ เขาก็เริ่มเข้าตรวจสอบ ‘สินค้า’ ในขณะที่ฌอนทัคอธิบายเรื่องราว ที่มาที่ไป และการฝึกที่พวกเธอได้รับอยู่ข้างๆ
เมื่อโดนเรียก พวกเธอก็จะเดินออกมาอยู่ตรงหน้าวาห์นก่อนจะถอดชุดที่ใส่อยู่ออก
วาห์นรู้สึกว่าสมองของตัวเองชาไปหมด ขณะที่ความเย็นสงบเริ่มทำงานหนักขึ้น
หลังจากที่ทุกคนถูกเรียกออกมาครบแล้ว ฌอนทัคก็หันมาหาวาห์นและถามด้วยน้ำเสียงติดตลก
“เป็นไงบ้างคุณยาชิม่า มีคนไหนที่เธอสนใจเป็นพิเศษหรือเปล่า?
ถ้าซื้อแบบเป็นกลุ่มล่ะก็ ทางเรายินดีคิดราคาพิเศษให้ด้วยนะ”
ด้วยเหตุผลหลายประการ วาห์นถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัวและอธิบายให้เขาฟังบ้าง
“พวกเธอดูสวยมากจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่แบบที่ผมมองหาอยู่หรอกนะครับ…”
หลังพูดออกไป เขาก็สังเกตเห็นว่าออร่าของพวกเธอดูวุ่นวายขึ้นและอับเฉาลงอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากวาห์นไม่ต้องการซื้อพวกเธอ ทุกคนก็จะต้องถูกใช้แรงงาน ถูกฝึก และรอลุ้นในครั้งต่อๆ ไป
เพราะเห็นว่าวาห์นนั้นดูมีเสน่ห์และท่าทางอ่อนโยนมาก หลายคนก็เลยพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้เขารู้สึกพึงพอใจ
แน่นอนว่าเจ้านายที่ดูใจดีมีเมตตานั้นย่อมดีกว่าพวกเผด็จการซึ่งเป็นลูกค้าประจำของที่นี่เป็นไหนๆ
—————
ผลงาน.ถูกขโมยมาจาก: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP
—————
ฌอนทัคยิ้มราวกับรู้อยู่แล้วว่าวาห์นจะพูดอะไร
เขาโบกมือและทำให้พวกเธอต้องเดินคอตกออกไปจากห้อง แต่ไม่นานก็มีสาวๆ กลุ่มเล็กกว่าเดินออกมาแทน
วาห์นหันไปหากลุ่มที่มาใหม่พลางยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะที่ฌอนทัคเริ่มอธิบาย
“เมื่อกี้ต้องขอโทษด้วยนะ ทางเราแค่อยากหาอะไรให้เธอดูฆ่าเวลาขณะจัดเตรียมสินค้าของจริงอยู่น่ะ ฉันมั่นใจว่าเธอต้องพอใจแน่นอน”
นอกจากเผ่ามนุษย์วัวที่เห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว สาวๆ ที่เหลือนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่วาห์นไม่เคยเห็นมาก่อน
นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่วาห์นชื่นชอบแม้แต่นิดเดียว แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจสาวๆ ทั้ง 6 คนตรงหน้า
พอเห็นสายตาของเขา มี 4 คนที่พยายามส่งสายตาออดอ้อนมาให้ ส่วนอีก 2 คนนั้นดูไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งคู่มีออร่าที่หม่นหมอง แถมดวงตาก็ดูว่างเปล่า ไร้ชีวิตชีวา
หญิงสาวคนแรกก้าวออกมาพลางถอดเสื้อออก เธอคือเผ่ามนุษย์วัวที่เขาเคยเห็นมาแล้ว
เธอมีผมสีฟ้าและดวงตาสีเขียวซีดพร้อมกับหน้าอกที่ใหญ่ที่สุดที่วาห์นเคยเห็น
เนื่องจากมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และสูงเพียง 154 ซม. วาห์นจึงไม่สามารถกะอายุของเธอได้
นอกจากมีหน้าอกขนาดมหึมาแล้ว ตรงส่วนยอดเองก็ดูใหญ่ไม่ใช่เล่นๆ เลยด้วย
สัดส่วนของเธอค่อนข้างออกไปทางเจ้าเนื้อนิดๆ ตรงสวนหย่อมเหนือจุดซ่อนเร้นเองก็ได้รับการตัดแต่งอย่างดีและมีสีเดียวกับเส้นผมของเธอ
คำอธิบายของฌอนทัคทำให้วาห์นรู้ว่าชื่อของเธอคือโมน่า อายุ 20 ปี และจากที่ได้สาธิตออกมาให้เห็น… เธอสามารถผลิตนมได้
หลังโดนทาบทามให้ลองชิมดูก่อน วาห์นก็ผงะไปเล็กน้อยก่อนจะปฏิเสธอย่างสุภาพ
หญิงสาวคนที่สองนั้นดูแปลกตากว่าคนอื่นๆ มาก ที่จริงวาห์นนึกว่าเธอเป็นเผ่าเรนาร์ดซะด้วยซ้ำ
เธอมีหูสีน้ำตาลเข้มขนาดใหญ่ที่ดูนุ่มฟู ทว่าเส้นขนตรงส่วนกลางของใบหูนั้นกลับมีสีขาวแซมอยู่
หางของเธอเองก็มีสีคล้ายกับใบหู แต่ส่วนที่เป็นสีขาวนั้นจะไปกระจุกกันอยู่ตรงปลายหางแทน
หน้าอกของเธอมีขนาดพอดีๆ แต่โดยรวมก็ถือว่านี่เป็นเรือนร่างที่ดูน่าหลงใหลมาก สาเหตุหลักคงมาจากสะโพกที่ดูกว้างและดูไม่สมดุลกับช่วงบน
ดวงตาของเธอเป็นสีม่วงเข้มและดูเข้ากับการแต่งหน้าที่เน้นใช้สีแดงค่อนข้างเยอะ
ฌอนทัคเริ่มอธิบายว่าเธอมีอายุ 17 ปีและเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับเผ่าเรนาร์ดมาก
ทางแดนตะวันออกจะเรียกเผ่าพันธุ์นี้ว่า ‘คิตสึเนะ’
ชื่อของเธอคือชิซูเนะ ส่วนทีเด็ดที่หญิงสาวเตรียมไว้ก็คือพยายามชักชวนให้วาห์นลูบหางของเธอเล่น
หลังจากจบตาของชิซูเนะแล้ว สาวคนที่สามก็เดินออกมาและทำให้วาห์นต้องขมวดคิ้วทันทีที่เธอถอดชุดออก
เธอสูงประมาณ 150 ซม. มีเส้นผมสีแพลทินัมที่ดูหนาจนเกือบฟูและดวงตาสีเทาซีด
ส่วนหูนั้นดูคล้ายกับของเผ่ามนุษย์วัวมาก ทว่าเขาของเธอกลับมีขนาดใหญ่กว่าและโก่งไปข้างหลังก่อนจะม้วนเขาหากัน
หางของเธอดูสั้นมากและมีขนปุกปุย ส่วนร่างกายก็ดูผอมและมีขนาดหน้าอกแบบพอดีๆ
สิ่งที่รบกวนจิตใจของวาห์นก็คือรอยแผลเป็นเล็กๆ และรอยไหม้ที่มีอยู่เต็มไปหมด..
ฌอนทัคเห็นสีหน้าของเขาแล้วก็เริ่มอธิบายด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันนิดๆ
“เธอชื่อเพรเซีย อายุ 18 ปี เป็นเผ่ามนุษย์แกะจากที่ราบตะวันตก
เจ้าของคนก่อนของเธอเป็นพวกวิปลาสนิดๆ และชอบเรื่องการทรมานน่ะ แต่ขอรับประกันได้เลยนะว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่
หากคุณยาชิม่าสนใจจริงๆ สำหรับกรณีนี้เราจะให้ส่วนลดแบบพิเศษด้วยนะ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าเธออาจจะ… นิ่งๆ ไปหน่อย”
เพรเซียโค้งให้เล็กน้อยก่อนจะหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาและเดินกลับไปที่แถว ทุกการกระทำของเธอดูราวกับหุ่นยนต์มากกว่าคนจริงๆ เสียอีก
ตลอดช่วงที่อยู่ตรงหน้าวาห์น สีหน้าของเพรเซียไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักครั้ง นั่นทำให้เขาเข้าใจว่าเธออาจได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจจนถึงขั้นต้องปิดกั้นตัวเองอย่างสมบูรณ์
ต่อจากเพรเซียก็คือหญิงสาวอีกคนที่ดูไร้ชีวิตชีวา แต่ทันทีที่ถูกเรียก สีหน้าของเธอก็เริ่มดูน่ากลัวขึ้นแบบผิดหูผิดตา
เธอมีสีผิวคล้ำ ผมสีแดง และดวงตาสีเบอร์กันดี (TL: แดงอมม่วง) ทั้งสามอย่างนี้ทำให้เธอดู ‘ดิบเถื่อน’ มากกว่าที่ควรจะเป็น
เธอมีหูที่แหลมยาวคล้ายกับเอลฟ์ ส่วนร่างกายก็แทบจะไร้ที่ติและไม่มีแผลเป็นใดๆ ทั้งสิ้น
สีผิวนั่นอาจดูแปลกไปสักหน่อย แต่เรือนร่างก็เธอก็ดูสมส่วน บวกกับหน้าอกที่มีขนาดใหญ่มาก
ฌอนทัคพูดเสริมจากด้านข้าง “ดาร์คเอลฟ์นี่ชื่อว่าชีว่า แล้วเธอก็เป็น… สินค้ามือสอง
เพราะไปทำร้ายเจ้าของคนก่อนเข้า เราก็เลยต้องทำเครื่องหมายคำสาปที่ลิ้นของเธอ
ไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีนะ เพราะถึงจะอายุ 31 ปีแล้วแต่เธอก็ยังบริสุทธิ์อยู่เลย
อ้อ แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอายุนะ เผ่าพันธุ์ของเธออยู่ได้เป็นร้อยๆ ปีเลย
ต่อให้คุณยาชิม่าแก่ขึ้นอีกร้อยปี เธอก็คงดูสวยเหมือนเดิม”
ราวกับจะตอกย้ำคำพูดของฌอนทัค ชีว่าเปิดปากและโชว์ตราแปลกๆ บนลิ้นของตัวเองก่อนจะกัดฟันเสียงดัง ‘กึก’
แม้จะรู้สึกเฉยๆ แต่วาห์นก็อดกลืนน้ำลายขึ้นมาไม่ได้… ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
ดาร์คเอลฟ์สาวไม่สนใจที่จะเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ก่อนจะเดินกลับไปรวมกับผู้หญิงคนอื่นและทำท่าทางข่มขู่เขาเหมือนเดิม
ผู้หญิงคนที่ห้ากับหกนั้นเป็นคู่แฝดกัน พวกเธอแต่ละคนล้วนมีเส้นผมสีเงินและดวงตาสีเฮเซลนัท
แม้จะดูเหมือนเผ่ามนุษย์แมว แต่ใบหูของพวกเธอนั้นโค้งมนกว่าและถูกแต่งแต้มไปด้วยจุดสีดำ
หางของพวกเธอดูหนากว่ามากและมีลายแบบเดียวกับที่หู
ทั้งคู่สูง 158 ซม. และมีรูปร่างเพรียวบางแบบเดียวกับมนุษย์แมวส่วนใหญ่ที่วาห์นเคยเห็น
หน้าอกของพวกเธอมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปซึ่งเข้ากับรูปร่างมาก
ตอนนี้สีหน้าเหล่านั้นดูราวกับ ‘มีความหวัง’ ในขณะที่ทั้งสองสวมกอดกันแบบหลวมๆ และส่งสายตาขอร้องมาทางวาห์น
เพราะดูออร่าของทั้งสองอยู่และรู้ว่าส่วนใหญ่เป็นการ ‘เล่นละคร’ แต่วาห์นก็เห็นว่าสภาพจิตใจของพวกเธอนั้นดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก จะบอกว่าไม่ได้เล่นละครไปซะหมดก็คงได้
ฌอนทัคเริ่มอธิบายทันที “อย่างที่เห็น พวกเธอมีชื่อว่าเอมิรุและมาเอมิ ทั้งคู่อายุ 16 ปี ยังบริสุทธิ์อยู่ แล้วก็เป็นสมาชิกของชนเผ่าทางตอนเหนือที่มีชื่อว่าเผ่ามนุษย์เสือดาวหิมะ
หมู่บ้านของพวกเธอเกิดภาวะขาดอาหารอย่างรุนแรง พวกเธอก็เลยยอมมาเป็น ‘สินค้า’ ด้วยความเต็มใจ
ข้อแม้เพียงอย่างเดียวที่พวกเธอตั้งไว้ก็คือผู้ซื้อต้องซื้อแบบ ‘แพ็คคู่’ และห้าม ‘ซื้อแยก’ เด็ดขาด
เกรงว่าฉันจะต้องคิดราคาเพิ่มเป็นพิเศษนะ เพราะนอกจากจะเป็นเผ่าพันธุ์หายากแล้ว พวกเธอยังเป็นฝาแฝดอีกด้วย
พวกเธอเพิ่งมาใหม่ ก็เลยยังไม่ได้รับการฝึกใดๆ ทั้งสิ้น
คุณยาชิม่านี่โชคดีจริงๆ เพราะถ้ามาช้าอีกนิดก็คงคลาดกับพวกเธอแน่นอน”
พอฌอนทัคพูดจบ ฝาแฝดทั้งสองก็พูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“โปรดซื้อพวกเราไว้ด้วยนะคะ นายท่าน เราไม่อยากไปอยู่ในที่แปลกๆ…” x 2
ฌอนทัครีบโบกมือไล่จนพวกเธอต้องรีบเก็บเสื้อผ้าและกลับไปเข้าแถวด้วยสีหน้าเศร้าๆ
พอฌอนทัคหันกลับมาหาวาห์นที่กำลังใช้มือนวดขมับ เขาก็รู้ว่าวาห์นต้อง ‘กินเหยื่อ’ แน่นอน
ก่อนที่การเจรจาจะเริ่ม เขาก็เพิ่มราคาของพวกเธอขึ้นไปอีก 20 เปอร์เซ็นต์เรียบร้อยแล้ว
วาห์นรู้แล้วว่าต่อให้เตรียมตัวมากแค่ไหน เขาก็จะรู้สึกใจอ่อนเมื่อโดนขอร้องอยู่ดี
ตอนนี้เขามีอำนาจและกำลังทรัพย์มากพอที่จะ ‘ช่วย’ พวกเธอทุกคนได้ และนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาอยากทำจริงๆ
หลังจากได้ยินคำขอร้องของคู่แฝด วาห์นก็รู้ว่าเขาไม่ควรมาที่นี่เลย
พวกเธอแสดงท่าทางและพูดอย่างชัดเจนว่าต้องการใช้ช่วย แล้วเขาจะปล่อยไปเฉยๆ ได้เหรอ?
วาห์นพ่นลมทางจมูกและหันไปมองพวกเธออีกครั้งก่อนจะถามสั้นๆ
“เท่าไหร่ครับ?”
รอยยิ้มของฌอนทัคกว้างขึ้นทันที
“คุณยาชิม่าเจอสินค้าที่ชอบแล้วเหรอ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้น สาวๆ ทุกคนยกเว้นชีว่าก็เริ่มแสดงสีหน้าตื่นเต้น
หลังจากหยุดไปพักหนึ่ง วาห์นก็พูดต่อ
“ผมอยากรู้ราคาสำหรับข้อมูลของเรนาร์ดคนนั้น นอกจากนั้นแล้ว… ผมอยากรู้ราคาของพวกเธอทุกคนก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไปด้วย”
คิ้วของฌอนทัคกระตุกนิดๆ เพราะไม่คิดว่าวาห์นจะจำเรื่องข้อมูลนั่นได้แม้โดนฤทธิ์ยาเข้าไปแล้ว
เขาตระหนักแล้วว่าวาห์นคงรู้สึกสนใจสาวเรนาร์ดนั่นมากจริงๆ ก่อนจะเริ่มคิดราคาใหม่อีกครั้ง
“ฉันจะยอมให้ข้อมูลของเรนาร์ดแบบฟรีๆ เลย ถ้าเธอซื้อแบบเหมาหมด
อืมมม เอาเป็น… 4 คนแรกรวมกันก็ 1,000,000 วาลิส สำหรับคู่แฝดนั่นด้วยก็อีก 700,000 วาลิส”
วาห์นแกล้งชักสีหน้าลังเลราวกับกำลังไตร่ตรองอย่างจริงจัง จากนั้นเขาก็ถอนหายใจและยื่นธนบัตรจำนวน 2,000,000 วาลิสให้กับฌอนทัค ช
ฌอนทัคแสดงสีหน้าดีอกดีใจและเก็บเงินเข้ากระเป๋าขณะที่วาห์นพูดต่อ
“เรื่องเงินทอนน่ะช่างเถอะครับ แค่พาพวกเธอไปแต่งตัวแล้วก็บอกเรื่องข้อมูลนั่นมาได้แล้ว
ถือซะว่านี่เป็นโบนัสที่ได้ทำธุรกิจครั้งแรกก็แล้วกันครับ”
พวกสาวๆ ต่างแสดงสีหน้าดีใจ (ยกเว้นชีว่า) โดยเฉพาะคู่แฝดทั้งสองที่เกือบร้องไห้ออกมาขณะกอดกันกลม
หลังจากนั้นลูกน้องของฌอนทัคก็พาพวกเธอเดินออกไปทางประตูด้านข้าง
ฌอนทัคเดินพาวาห์นกลับมาที่ห้องรับรองในตอนแรกและมอบเอกสารข้อมูลของฮารุฮิเมะที่มีทั้งรูปภาพและข้อมูลต่างๆ เช่นขนาดหน้าอก เอว และสะโพกอย่างละเอียด
หลังจากอ่านเสร็จแล้ว วาห์นก็เข้าใจทันทีว่าทำไมฌอนทัคถึงไม่สามารถซื้อฮารุฮิเมะได้ รวมไปถึงสาเหตุที่เขาไม่อยากเปิดเผยข้อมูลนี่ด้วย
‘เจ้าของ’ ปัจจุบันของเรนาร์ดสาวนั้นก็คือ ‘อิชทาร์’ ผู้เป็นเทพธิดาของอิชทาร์แฟมิเลียซึ่งเป็นกองกำลังหลักที่ปกครองย่านสถานบันเทิงนั่นเอง