Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 277
เป็นเวลาอันน่าหวาดหวั่นหลายนาทีที่วาห์นต้องฟังเสียงร้องทุรนทุรายของเฮสเทีย และพอยิ่งร้องเธอก็ยิ่งกอดเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
แขนเล็กๆ เริ่มเลื่อนจากตรงหัวไหล่มาสู่ลำคอของวาห์นแทน เรียกได้ว่าจังหวะนี้เธอเอื้อมกอดแบบสุดแขนจริงๆ
ผ่านไปอีกพักใหญ่ๆ เธอถึงจะสงบลงและเริ่มปรับลมหายใจเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดแทน
ความพยายามที่จะปลอบเฮสเทียด้วยการลูบใบหน้าและจูบเบาๆ ตรงริมฝีปากนั้นไม่เป็นผล เพราะนอกจากจะไม่จูบตอบแล้ว เธอยังหันหน้าหนีไปด้านข้างอีกด้วย
วาห์นรู้ว่าเฮสเทียไม่ได้เกลียดเขา เธอแค่สร้างกำแพงจิตใจขึ้นมาชั่วขณะเท่านั้นเอง
เขาเริ่มหาวิธีใหม่โดยเลื่อนมือไปใกล้กับจุดเชื่อมต่อและพยายามใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เพื่อบรรเทาอาการปวดแทน
ทว่าคราวนี้เฮสเทียกลับหันมาจ้องแบบ ‘เคืองๆ’ และตามมาด้วยการโวยใส่
“วาห์น! นายห้ามเอาความรู้สึกนี้ไปนะ! ฮือออ ตาบ้าาาาา~!”
เฮสเทียปล่อยมือจากวาห์นและเปลี่ยนไปปิดตาร้องไห้แทน แต่ครั้งนี้เป็นการร้องเพราะความเศร้า
คำพูดนั่นทำให้วาห์นรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งโดดจากหอคอยบาเบลแบบเอาหัวลงพื้นก่อนเลย
ในช่วงที่สมองใช้การไม่ค่อยได้ ความคิดหนึ่งก็แล่นผ่านเข้ามาพอดี…
ถึงมันจะเป็นประสบการณ์อันแสนเจ็บปวด แต่เฮสเทียก็ให้ความสำคัญกับมันมากเสียจนไม่อยาก ‘ทำให้มันง่ายขึ้น’
สิ่งที่เธอเคยพูดเริ่มตามกลับมาหลอกหลอนจนเขารู้ว่าตัวเองพลาดอีกแล้ว
การทำเหมือนเฮสเทียเป็นสาววันแรกแย้มนั้นคือสิ่งที่ผิด เพราะนี่ไม่ใช่ความบริสุทธิ์ที่ถูกรักษามาเป็นเวลา 10-20 ปี แต่เป็นหลายล้านปีต่างหาก
ขณะที่คนอื่นคิดว่าความบริสุทธิ์อาจจะสำคัญอยู่บ้าง แต่ตัวตนของเฮสเทียนั้นถูกหลอมรวมเข้ากับมันเป็นเวลานานเกินจะบรรยาย…
วาห์นกัดฟันเล็กน้อยขณะวางหน้าผากไว้ข้างหมอนที่เธอหนุนก่อนจะกระซิบเบาๆ
“ฉันรักเธอนะเฮสเทีย… จะเริ่มขยับแล้ว อดทนหน่อยนะ…”
เฮสเทียพยักหน้าแทนการตอบโดยที่ยังซ่อนใบหน้าไว้ใต้แขนเหมือนเดิม
ออร่าที่ดูสงบลงทำให้เขารู้สึกมั่นใจมากขึ้น แม้ว่ามันจะเชื่อถือไม่ค่อยได้แล้วก็ตาม
พอกลับมาให้ความสนใจกับร่างกายส่วนล่างอีกครั้ง วาห์นก็เพิ่งตระหนักว่ามันคับแน่นมาก
ถ้าบอกว่า ‘ไม่มีที่จะไป’ ก็คงไม่ใช่คำพูดเกินจริงเท่าไหร่
นี่นอกจากจะเข้ามายากแล้วมันยังออกยากอีกด้วย…
หากไม่ใช่เพราะร่างกายมีความทนทานสูง วาห์นคิดว่าการอยู่แบบนี้กับเฮสเทียคงจะเป็นอะไรที่สาหัสมาก
ตอนนี้วาห์นทำสำเร็จไปแล้วครึ่งทาง จะให้มายอมแพ้กลางคันนั้นก็คงไม่ใช่เรื่อง
ทางเดียวก็คือกัดฟันและพยายามขยับต่ออย่างสุดความสามารถ
สสถานการณ์ตรงด้านล่างเริ่มน่ากลัวกว่าเดิมเมื่อเขาพยายามฝืนขยับตัวออกจนภายในของเฮสเทียแทบจะติดออกมาด้วย
เธอไม่มีทีท่าว่าจะขยับขยายที่ให้เลย และสิ่งที่วาห์นกลัวยิ่งกว่าการล้มเลิกกลางคันก็คือการทำให้เฮสเทียบาดเจ็บนี่แหละ
แต่ก่อนจะล้มเลิกขึ้นมาจริงๆ วาห์นก็ขยับออกมาได้เกือบหมด ท่ามกลางเสียงร้องที่พยายามเล็ดลอดออกจากไรฟันของเฮสเทีย
แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเธออยากให้เขาทำต่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บปวด…
แม้จะไม่ได้ทำแบบนั้นบ่อยๆ แต่วาห์นก็อดไม่ได้ที่จะสบถด่าในใจแบบสุดเสียง
ถ้าให้เวลาเตรียมตัวสัก 2-3 วัน เขาก็น่าจะลดขนาดของตัวเองลงได้ ทว่าตอนนี้มันไม่ทันแล้ว
แต่ถึงจะทำแบบนั้นจริงๆ เฮสเทียก็คงตามมา ‘กล่าวโทษ’ เขาที่หลังอยู่ดี
วาห์นรวบรวมความกล้าทั้งหมด เขาคว้ามือของเฮสเทียไว้ และจับมันแยกออกจากใบหน้าเคล้าน้ำตาของเธอ
“เฮสเทีย มาจูบกันเถอะ… อย่าไปคิดเรื่องเจ็บ แค่นึกถึงเรื่องจูบก็พอแล้ว
ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง แล้วก็พยายามอย่าต่อต้านให้มากนักล่ะ…”
วาห์นไม่รั้งรอเอาคำตอบอะไรทั้งสิ้น เขาโถมเข้าจูบและสอดลิ้นเข้าไปในปากของอีกฝ่ายทันที
เฮสเทียเริ่มจูบตอบอย่างดูดดื่มขณะที่วาห์นใช้มือซ้ายยกขาขวาของเธอขึ้น ส่วนอีกข้างก็คว้าหมับเข้าที่หน้าอกใหญ่ยักษ์
เสียงร้องต่างๆ จะถูกผนึกเอาไว้ด้วยการจูบ ขณะที่วาห์นเริ่มใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เพื่อนวดคลึงสิ่งที่อยู่ในมือด้วยแรงเล็กน้อย
หน้าอกของเฮสเทียนั้นนิ่มมากเสียจนเขาสามารถจับมันในรูปแบบหรือมุมไหนก็ได้โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามเลย
จุดสีชมพูเล็กๆ ถูกนิ้วโป้งบดขยี้จนคลื่นแห่งความเสียวซ่านพุ่งเข้าสู่หัวใจที่เต้นระรัว
วาห์นพยายามยกเรียวขาเล็กๆ ขึ้นอีกหน่อย ก่อนจะพุ่งกลับเข้าสู่เบื้องลึกของเฮสเทียอีกครั้ง
เทพตัวเล็กครางด้วยความเจ็บปวด แต่นอกจากไม่ยอมถอนจูบออกแล้ว เธอยังเอาแขนมาโอบช่วงใต้รักแร้และเข้าจิกผมของวาห์นไว้ด้วย
‘…’
ไอ้เจ็บมันก็เจ็บอยู่หรอก แต่ดูแล้วคงไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของอีกฝ่ายเลย ดังนั้นเขาจึงทำเป็นลืมมันไปก่อน
ตอนนี้จุดซ่อนเร้นของเฮสเทียก็ยังคงทำหน้าที่ราวกับคีมหนีบเช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือความร้อนบางอย่างที่ซึมผ่านเข้ามาอย่างช้าๆ
วาห์นเข้าใจว่าความรู้สึกนี้น่าจะมาจากการที่ร่างกายของเฮสเทียพยายามผ่อนคลายและปรับตัวเข้าหาเขา
ปัญหาก็คือ กระบวนการดังกล่าวนั้นช่างช้าเหลือเกิน หากนำขนาดส่วนต่างของทั้งสองมาเทียบกัน
จุดเร้นลับของผู้หญิงถูกออกแบบมาให้ขยายได้มากขึ้นโดยมีปัจจัยหลายอย่าง เช่นการกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ร่วม และนั่นก็คือเป้าหมายต่อไปของวาห์น
พอเห็นออร่าสีชมพูที่เข้ามาจับกับตัว วาห์นก็นึกอะไรดีๆ ออกและเริ่มขยายพลังเขตแดนจนเต็มห้อง
ในระหว่างช่วงที่ฝึกสร้างไอเท็มนั้นวาห์นตระหนักว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างพื้นฐานที่เป็นทรงกลมของมันได้ แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็คือยับยั้งไม่ให้มันพุ่งผ่านวัตถุไปเฉยๆ
เขาลองทดสอบเพิ่มเติมด้วยการปรับความเข้มข้นและใช้มันเคลื่อนวัตถุที่อยู่ไกลออกไป
และตอนนี้เขาก็กำลังทำแบบเดียวกันโดยจำกัดพลังให้อยู่แต่ภายในห้อง
ข้าวของเริ่มสั่นไหวขณะที่พลังงานไร้รูปปรากฏออกมา
แม้แต่โลกิเองก็ยังต้องลืมตาตื่นขึ้นมาดูแบบเงียบๆ
วาห์นถอยออกมาเล็กน้อยและหันมาพูดกับเฮสเทียอีกครั้ง
“เฮสเทีย ลองใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอดูสิ… ไม่ต้องห่วงนะ ฉันผนึกพื้นที่ในนี้ไว้หมดแล้ว”
เฮสเทียคิดว่าวาห์นน่าจะกำลังทำอะไรบางอย่างแบบอ้อมๆ แต่เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
หลังจากลังเลอยู่ชั่วขณะ เธอก็พยายามสยบความเจ็บปวดลงและเริ่มใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ออกมา
เมื่อออร่าสีชมพูของเฮสเทียแพร่กระจายมาถึงตัว วาห์นก็รู้สึกเหมือนถูกปลุกเร้าอย่างหนักจน [จิตแห่งราชัน] ต้องเข้ามาต้านมันไว้
แต่ไม่นานเขาก็เป็นฝ่ายปิดมันเองและปล่อยให้ออร่าซึมเข้าสู่รูขุมขนพร้อมกับใช้ [พรแห่งอิกดราซิล] เพื่อผสานมันเข้าไปใน [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] แทน
ตั้งแต่ได้ผ่านประสบการณ์ครั้งแรกกับเฮเฟสตัส วาห์นก็สงสัยมาตลอดว่าออร่าของแต่ละคนนั้นจะส่งผลยังไงกับออร่าที่ไม่ใช่ของตัวเอง
สมมติฐานก็คือ เนื่องจากออร่าที่รับจากคนอื่นสามารถส่งผลมาถึงตัวเขาเองได้ งั้นเขาก็น่าจะโคจรพลังงานดังกล่าวเข้าไปในวิชาอื่นๆ ได้ด้วย
วาห์นไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำตามหลักการเดียวกับ [มาเกียเอเรเบีย] ที่เอวาคิดจะสอน
เขากำลังดูดซับพลังงานภายนอกเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นก็แปลงมันโดยใช้ตัวเองเป็นสื่อกลาง
แทนที่ออร่าจะทำให้วาห์นรู้สึกคึกมากขึ้น เฮสเทียกลับโดนความรู้สึกของตัวเองโถมเข้าใส่ผ่านทางฝ่ามือที่วาห์นใช้นวดหน้าอก
หัวใจที่เต้นแรงมาตลอดจึงถูกปลุกเร้าให้เต้นแรงยิ่งกว่าเดิมขณะที่ความร้อนในร่างกายพุ่งสูงขึ้น
เฮสเทียไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่ความเจ็บปวดก็ยังไม่หายไป แต่เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เธอออกแรงกอดแน่นขึ้นขณะที่ออร่าพลังศักดิ์สิทธิ์กระจายออกไปทั่ว
ความเจ็บปวดที่แสดงออกมาทางดวงตาค่อยๆ เลือนหายและถูกแทนที่ด้วยความหื่นกระหาย…
ร่างของเฮสเทียร้อนขึ้นตามลำดับ ขณะที่เส้นผมบางส่วนเริ่มลอยขึ้นมาให้เห็น
ส่วนล่างของเธอนั้นยังแน่นเหมือนเดิม แต่ตอนนี้มันกลับถูกชโลมไปด้วยของเหลวปริมาณมาก
วาห์นยกมือขวาขึ้นมาจับใบหน้าของเฮสเทียไว้
“ฉันรักเธอนะ…”
เขาประทับจูบพร้อมกับค่อยๆ ขยับส่วนล่างออกมาได้ง่ายกว่าแต่ก่อน
เสียงครางของเธอนั้นไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่มันก็เริ่มแฝงเอาความหฤหรรษ์เข้ามาบ้างแล้ว
ยิ่งเวลาผ่านไป วาห์นก็ยิ่งขยับเอวได้ง่ายขึ้น แม้ว่าตอนขาเข้าจะติดปัญหาเดิมๆ ก็ตาม
เส้นทางที่เข้าไปได้เพียง 10 ซม. ในตอนแรก บัดนี้มันเพิ่มขึ้นมาเป็น 13 ซม. แล้ว
การที่อาวุธถูกบีบคั้นอย่างหนักเพียงครึ่งเดียวในขณะที่อีกครึ่งยังอยู่ในสภาพปกตินั้นเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก
วาห์นพยายามไม่คิดอะไรฟุ้งซ่านและจูบเฮสเทียต่อไปอีก
เวลาผ่านไปราวๆ 30 นาที ในที่สุดพลังศักดิ์สิทธิ์ของเฮสเทียก็เริ่มจางลง ตามมาด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อนของเจ้าตัว
ใบหน้าของเธอมีสีแดงก่ำ เสียงร้องอย่างเจ็บปวดก็กลายมาเป็นเสียงอย่างอื่นโดยสมบูรณ์แล้ว
เฮสเทียอยู่ในสภาพตื่นเต้นมากเพราะผลจากเทคนิคและวิชาของวาห์น แต่เธอก็ยังไม่ยอมขึ้นไปเที่ยวเล่นข้างบนสักที แม้ว่าร่างกายส่วนล่างจะผ่อนคลายและแฉะชื้นไปหมด
จู่ๆ โลกิก็มากระซิบข้างหูของวาห์นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“พวกครั้งแรกก็แบบนี้แหละนะ เสร็จยาก แถมยังต้องโดนของนายเข้าไปอีก… ป่านนี้คงชาหมดแล้วมั้ง
เอาล่ะ อย่าไปตามใจยัยนี่มาก รีบจัดการเจ้าปุ่มตรงนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะแห้งและเจ็บไปมากกว่านี้เถอะ”
พอวาห์นจะหันไปสบตากับเฮสเทียก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นหลับตาไปก่อนแล้ว เขาจึงยื่นมือออกไปตรงจุดดังกล่าวที่อยู่เหนือส่วนที่ทั้งสองเชื่อมต่อกัน
วาห์นยังไม่ใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] ในทันทีเพราะอยากให้เธอได้รับความรู้สึกแบบเป็นธรรมชาติก่อน… แม้ว่าเมื่อกี้เขาจะโกงไปตลายตลบแล้วก็เถอะ
ยิ่งวาห์นใช้นิ้วกระตุ้นส่วนนั้น ของเหลวตรงช่องข้างเคียงก็จะยิ่งถูกหลั่งออกมามากขึ้น
นี่ไม่ใช่ความรู้ใหม่แต่อย่างใด ทว่าวาห์นกลับคาดไม่ถึงจริงๆ ว่ามันจะช่วยได้มากขนาดนี้
เฮสเทียเริ่มหายใจถี่ขึ้นขณะที่วาห์นรักษาจังหวะของเอวและมือไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากจะเจออุปสรรคมากมายแล้ว เขาก็ยังต้องรุกต่อแบบไม่มีหยุดพักและเปลี่ยนจังหวะตามการตอบสนองของเฮสเทียไปเรื่อยๆ
มันคล้ายกับวิธีที่โลกิใช้ เพียงแต่ครั้งนี้เขาต้องเป็นคนค้นหาและขยี้จุดๆ นั้นด้วยตัวเอง
ทุกครั้งที่เปลี่ยนองศาการกระแทก วาห์นก็จะได้พบกับอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ
ทันใดนั้นเอง เฮสเทียก็เริ่มร้องเสียงดังพลางรีบสูดอากาศกลับเข้าปอด
‘หืม?’
เสียงร้องนี่แหละที่วาห์นกำลังตามหาอยู่ จากนั้นเขาก็เริ่มย้อนรอยเพื่อหาจุดเมื่อกี้นี้ทันที
ในขณะที่ใช้มือช่วยเล้าโลมไปด้วย วาห์นก็ค่อยๆ ขยับเอวเข้าไปใหม่โดยเล็งตามจุดที่คิดว่าต้องใช้แน่ๆ
แต่พอเข้าไปถึง เฮสเทียก็เริ่มโวยวายขึ้นอีกรอบ
“ตรงนั้นไม่ได้น้าาา~!” ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดเบาๆ
โลกิไม่รอช้าและรีบเข้ามาจี้ต่อทันที
“นั่นไง! จุดรวมประสาทตรงส่วนนั้นแหละ… เมื่อกี้บอกแล้วนะว่าอย่าไปฟังยัยนี่มาก
นายใส่ให้ยับเลย แปปเดียวก็จบแล้ว อ้อ ถ้านางเริ่มทำหน้าเหมือนคนเสียสติก็ไม่ต้องไปสนใจนะ เรื่องธรรมดา…”
เฮสเทียเบิกตากว้างและเข้ามาคว้าวาห์นไว้ก่อน
“วาห์น นายอย่าไปหลงกลยัยปีศาจนี่นะ! ถ้าทำแบบนั้นฉันต้องตายแน่เลย~!”
วาห์นถึงกับอึ้งไปเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เธอยังทำท่าเหนื่อยอ่อนอยู่เลย (TL: เล่นละครขี้เกียจอยู่สินะ)
เขาหรี่ตาและพูดด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล ทว่าจากมุมมองของเฮสเทียนั้นมันฟังดูชั่วร้ายมาก
“ไม่เป็นไรนะ จนกว่าสติจะกลับมาครบ ฉันจะไม่ยอมให้เธอลอยหายไปไหนหรอก…”
วาห์นรู้ว่าฉากจบที่ดีที่สุดก็คือการทำให้เฮสเทียรู้สึกดีมากจนลืมเรื่องที่เคยเจ็บไปเลย
พอเฮสเทียจะออกเสียงค้าน ริมฝีปากของเธอก็ถูกวาห์นผนึกเอาไว้ทันที
วาห์นไม่สนใจออร่าที่เดี๋ยวก็จะดับเดี๋ยวก็จะระเบิดแล้วและเริ่มจู่โจมจุดอ่อนดังกล่าวอย่างไร้ความปราณี
เฮสเทียทั้งครางทั้งกรีดร้องและพยายามขยับเอวหนี แต่มีหรือที่แรงของเธอนั้นจะสู้วาห์นได้
ทุกครั้งที่วาห์นเข้าบดขยี้ กระแสไฟฟ้าก็จะไหลผ่านร่างของเธอแบบเต็มกำลัง
ภายในที่บิดไปมาอย่างหนักทำให้วาห์นต้องออกแรงและเร่งมือมากขึ้นอีก นี่ยังไม่นับเรื่องที่เขาต้องกลั้นใจไม่ให้ตัวเองหลั่งออกมาตั้งแต่นาทีที่แล้วด้วย
“อื้อออออ….!”
เฮสเทียกรีดร้องในลำคอตลอดเวลาที่ทั้งสองจูบกัน ตามมาด้วยการทุบตีที่แผ่นหลังของวาห์นราวกับคนบ้า
วาห์นนั้นโจมตีแบบตรงเป้าทุกครั้ง… จนกระทั่งร่างกายของเฮสเทียเริ่มบีบอัดเข้ามาอย่างรุนแรงและทำให้เขาต้องยอมปลดปล่อยทุกอย่างออกสู่ภายนอก
มันรุนแรงมากเสียจนเขาต้องหยุดเคลื่อนไหวกลางคันและไม่สามารถขยับไปไหนได้อีกเลย
เสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายของเฮสเทียนั้นคงจะได้ยินกันไปทั่วคฤหาสน์หากโลกิไม่ได้ตั้งเครื่องรางเอาไว้
เทพตัวเล็กสวมกอดวาห์นราวกับต้องการที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเขา
เฮสเทียเกิดเพ้อขึ้นมาด้วยว่าถ้าไม่ติดหน้าอกที่ทำหน้าที่แทนกันชน เธอก็คงทำสำเร็จไปแล้ว…
จากด้านข้าง โลกิกำลังเฝ้ามองทุกอย่างด้วยสีหน้าเร่าร้อน
ต่อจากเรื่องความอึดก็เป็นเรื่อง ‘ความแม่นยำ’ ที่ทำให้เธอรู้สึกประทับใจมาก
ทั้งๆ ที่เฮสเทียไม่ยอมให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แต่วาห์นก็ยังอุตส่าห์โจมตีจุดอ่อนของเธอไม่แบบไม่พลาดเป้าเลย
โลกิรู้สึกราวกับว่าถ้าปล่อยให้วาห์นทำตามใจชอบ… เธอก็อาจจะได้ลิ้มลองสิ่งที่ตัวเองไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็เป็นได้
จากของเหลวที่ตัวเองปล่อยออกมา ตอนนี้วาห์นเลยรู้สึกเจ็บขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว
จะขยับออกก็ไม่ได้ แถมแรงดันจากด้านในก็ยังเพิ่มขึ้นทุกขณะ…
ไอ้ตอนที่ใช้แค่ลิ้นมันก็ดูน่าสนใจดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้วาห์นเริ่มกลัวแรงดันนี่ขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว
นี่เขากำลังโดนร่างกายของเทพตัวเล็กลงโทษ โทษฐานที่ไปพรากพรหมจรรย์ของเธอมางั้นเหรอ!?
วาห์นรู้สึกแย่มากๆ จนแสดงมันออกมาทางสีหน้าและทำให้โลกิเอียงหัวสงสัย
“เอ๋? ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไงกัน?”
พอสอดส่องไปมาเธอก็พบสาเหตุและเห็นแบบจะๆ เลยว่าวาห์นนั้นกำลังโดนเฮสเทีย ‘บีบคั้น’ อย่างหนัก
โลกิเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่าตอนนี้วาห์น ‘ขยับ’ ไปไหนไม่ได้เลย
หลังจาก 2 นาทีแห่งความกระอักกระอ่วน ร่างกายของเฮสเทียก็ผ่อนคลายลง
เธอปล่อยมือจากเส้นผมของวาห์นและล้มลงกับเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง
ดวงตาสีฟ้าดูราวกับกำลังจะปิดลงเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนเรือนร่างก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเปียกชุ่ม
และทันทีที่เธอปล่อยมือจากวาห์น ตรงส่วนนั้นก็ ‘ปล่อย’ เขาตามเช่นกัน
โลกิที่เฝ้ามองจุดเชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดจึงโดนของเหลว(แรงดันสูง)กระเด็นใส่หน้าแบบเต็มๆ
เทพจอมเจ้าเล่ห์นิ่งค้างเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนจะลงไปนอนขำบนเตียงอย่างบ้าคลั่ง
วาห์นแค่รู้สึกโล่งอกที่สุดท้ายเฮสเทียก็ยอม ‘ปล่อย’ เขาไปเสียที
เขาถอนหายใจขณะลูบหัวและลงไปจูบเธอด้วยความเอ็นดู
หลังจากที่ผละออกไปแล้ว จู่ๆ ทั้งสองก็เริ่มพูดพร้อมกัน
“ฉันรักเธอ/นายนะ”
นี่คงเป็นบรรยากาศที่น่าซาบซึ้งมาก… หากไม่ใช่เพราะมีปีศาจสาวมาหัวเราะงอหายอยู่ตรงฉากหลัง… ยาวนานถึง 3 นาทีเต็ม