Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 283
เพราะไม่เคยเห็นวาห์นใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] แบบจริงๆ จังๆ มาก่อน ทีโอเน่เลยผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะถีบตัวไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
ถึงวิชาของวาห์นจะเร็วกว่า แต่เขาก็ตามการตอบสนองของฝั่งตรงข้ามไม่ทันอยู่ดี ดูแล้วไม่ต่างจากตอนที่เขาสู้กับสึบากิเท่าไหร่
เขาพยายามอ้อมไปอยู่ด้านหลังเพื่อโจมตีด้วยฝ่ามือ แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือฝ่าเท้าที่พุ่งสวนจนกระดูกตรงนิ้วร้าวไปเป็นแถบ
วาห์นกระเด็นถอยหลังจากแรงถีบมหาศาล แต่ยังดีที่เท้ายังติดพื้นอยู่ เขาจึงใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] อีกรอบเพื่อปรับตำแหน่งใหม่
ทีโอเน่เบิกตากว้างเพราะเธอกะจะเข้าไปซ้ำหลังปล่อยให้วาห์นกระเด็นต่อไปอีกพักหนึ่ง
ทันที่เธอเตะเขาลอยออกไป วาห์นก็โผล่กลับเข้ามาอยู่ใกล้กับช่วงท้องที่ไร้การป้องกันและใช้ [เพลงหมัดโจมตี] ซึ่งเป็นสกิลที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี
เธอพยายามบิดเท้าเพื่อเปลี่ยนทิศทาง แต่หมัดของวาห์นก็เร็วกว่า แม้จะพลาดเป้าหมายไปบ้างก็ตาม
ทีโอเน่กระเด็นออกไปประมาณ 5 เมตร ก่อนจะกลับลงมาบนพื้นอย่างนิ่มนวล
ตอนนี้ดวงตาสีน้ำตาลเริ่มมีสีออกแดงๆ และฉายแววน่ากลัวมาก
หญิงสาวไม่รีรออะไรทั้งสิ้น เธอพุ่งกลับมาอย่างรุนแรงและเข้าบดขยี้ตรงจุดที่วาห์นเคยยืนอยู่เมื่อเสี้ยววินาทีที่แล้ว
เขาหลบฉากโดยใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] อีกครั้ง จากนั้นก็ต้องรีบก้มตัวเพื่อหลบการเตะกวาดก่อนจะทิ้งระยะห่างออกไปอีกครั้ง
วาห์นตระหนักอย่างรวดเร็วว่าทีโอเน่นั้นไม่ได้มีดีแค่พละกำลังมหาศาล เพราะหลังจากที่โดนโจมตีใส่เพียงไม่กี่ครั้ง เธอก็เริ่มจับทางได้และไม่เปิดช่องว่างให้เขาอีกเลย
ข้อได้เปรียบที่สุดในตอนนี้ก็คือ วาห์นสามารถใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เพื่อเปลี่ยนทิศทางได้อย่างอิสระ ในขณะที่อีกฝ่ายได้แต่พุ่งแบบทิศทางเดียว
หลังจากพุ่งใส่ไปแล้ว ทีโอเน่ต้องใช้เวลานิดหน่อยเพื่อปรับตำแหน่งบนพื้น จากนั้นเธอถึงจะโจมตีต่อได้
ถ้าใส่สนับแขน [เต่าทมิฬผู้ปกป้อง] วาห์นก็อาจจะเข้าไปแลกหมัดกับเธอได้ แต่ตอนนี้เขาอยากลองสู้โดยใช้แค่พลังกาย สกิล และวิชาต่างๆ ไปก่อน
พอคิดได้แบบนั้นแล้ว วาห์นจึงไม่หลบการโจมตีครั้งถัดไปและพยายามตั้งการ์ดเพื่อรับลูกเตะที่พุ่งลงมาจากด้านบนแทน
แววตาของทีโอเน่แฝงไปด้วยความบ้าคลั่งและลุ่มหลงเมื่อรู้ว่าตัวเองโจมตีถูกเป็นครั้งแรก
เท้าของวาห์นจมลงไปในพื้นหลายนิ้ว ตามมาด้วยรอยร้าวที่แผ่ออกไปรอบๆ
วาห์นรู้ว่าแขนตัวเองหักหมดทั้งสองข้าง แต่เขาก็ยังยิ้มอย่างมั่นใจก่อนจะขยับตัวเข้าไปจนเกือบชิด
ทีโอเน่พยายามคว้าเขาไว้ตามสัญชาตญาณ แต่เขากลับใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] แบบไม่ติดเบรกเพื่อทำให้ร่างของทั้งคู่เคลื่อนที่ออกไปด้วยกัน
การใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] แบบไม่มีเบรกนั้นคือเรื่องธรรมดาของพวกมือใหม่ และมักจะจบลงด้วยการสะดุดหกล้มในอีกหลายเมตรถัดมา
แต่ถ้าทิศทางที่ใช้มีบางอย่างขวางอยู่… ทีโอเน่คงนึกไม่ถึงแน่ๆ ว่าตัวเองจะชนเข้ากับกำแพงหนาของตัวคฤหาสน์
ทันทีที่กำแพงได้รับความเสียหาย ข่ายเวทมนตร์สีแดงจะสว่างขึ้นเพื่อป้องกันรอยแตกร้าวอันไม่พึงประสงค์
การทำงานของข่ายเวทนี้ก็คือ มันจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวกำแพงขึ้นอีกหลายเท่า
ทีโอเน่สูดหายใจด้วยความเจ็บปวดก่อนจะพยายามใช้แขนล็อควาห์นอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าอีกฝ่ายหายตัวไปเสียแล้ว
หลังจากกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย แววตาก็เธอก็แดงยิ่งกว่าเดิม และหลังจากนั้นไม่นานมันก็สบเข้ากับเป้าหมายที่อยู่ห่างไปประมาณ 20 เมตร
ถึงจะไม่เคยเห็นมันมาก่อน แต่วาห์นรู้ว่านี่คือผลของสกิล [เบอร์เซิร์ก] ซึ่งจะเพิ่มค่าพละกำลังโดยขึ้นอยู่กับค่าความเสียหายที่ได้รับ
แต่จากการต่อยคลาดเคลื่อนไป 1 ที และพุ่งชนกำแพงแบบเต็มๆ ไป 1 ครั้ง วาห์นคาดว่ามันยังคงทำงานได้ไม่เต็มที่
เพราะความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องที่เกี่ยวกับร่างกายของสิ่งมีชีวิต เขาจึงดูออกว่าทีโอเน่นั้นยังปกติดีอยู่
ซี่โครงของเธอที่ควรจะหักกลับไม่มีให้เห็นเลยสักซี่
ถ้าจะให้ลงลึกอีกหน่อย ต้องบอกก่อนว่าร่างของทีโอเน่นั้นสามารถสลายการโจมตีได้บางส่วน แถมมันยังต้านทานสถานะผิดปกติต่างๆ เช่นกรดหรือการเผาไหม้ได้หลายนาทีอีกด้วย
ขณะถูกพายุหมัดกระหน่ำใส่แบบไม่ยั้ง วาห์นก็ยังอุตส่าห์เจียดเวลาที่มีอยู่เล็กน้อยมาคิดคำนวณค่าความทนทานของเธอแบบเล่นๆ
ทีโอเน่น่าจะเป็นพวกที่เก็บค่าสถานะจนเกือบเต็มก่อนเลเวลอัพ ดังนั้นค่าสถานะของเธอน่าจะอยู่ที่ราวๆ 4300-4500 แต้มต่อเลเวล
ค่าความทนทานของเธอน่าจะอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์จากค่าทั้งหมด หรือก็คือประมาณ 4000 แต้มนั่นเอง
ด้วยค่าพละกำลังเพียง 2544 แต้ม หากไม่ใช่สกิลเข้าช่วย วาห์นก็คงจะสร้างความเสียหายให้กับทีโอเน่ไม่ได้เลย
วิชาสร้างแรงสั่นสะเทือนที่เขาเคยใช้กับโกไลแอธคงทำให้ผิวสีน้ำตาลผุดผ่องสั่นไหวเล็กน้อยเท่านั้นเอง
ตอนนี้สกิลอย่าง [เบอร์เซิร์ก] ก็โผล่ออกมาแล้ว การโจมตีของเธอจึงรุนแรงยิ่งกว่าเดิมมาก… ถึงแขนจะหัก แต่ที่พวกมันยังไม่ขาดสะบั้นก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว
เรื่องนี้ทำให้วาห์นที่ไม่เคยนึกถึงข้อเสียของการเน้นหนักไปที่ค่าพลังเวทรู้สึกเซ็งขึ้นมาหน่อยๆ
เพราะไม่มีเวลามาร่ายเวทมนตร์ใดๆ ทั้งสิ้น เขาเลยกำลังคิดหาทางเพื่อเปิดช่องว่างตรงนั้นอยู่
ตอนนี้การต่อสู้ก็ผ่านไปนาทีกว่าๆ แล้ว แขนที่หักของวาห์นจึงเริ่มฟื้นตัวและกลับมาใช้การได้อีกครั้ง
แต่พอจะสลับไปโจมตีจุดสำคัญของอีกฝ่ายบ้าง จู่ๆ ทีโอเน่ก็ลดการป้องกันพร้อมเผยรอยยิ้มบนใบหน้า
วาห์นเห็นแบบนั้นก็ถึงกับอึ้งจนต้องหยุดการโจมมตีแบบกลางคันไปเลย
ทีโอเน่ทำท่าเหมือนจะโยนอะไรบางอย่างออกมาแบบ ‘ช้าๆ’ ทว่าก้อนหินที่ลอยออกมานั้นกลับพุ่งเข้าใส่ต้นขาของวาห์นอย่างรุนแรง
“มาดูกันว่าคราวนี้ยังจะหลบเก่งเหมือนเดิมไหม ย้ากกกกก!”
เธอโดดขึ้นไปบนอากาศก่อนจะพุ่งใส่วาห์นด้วยมือที่กำแน่นทั้งสองข้าง
วาห์นยังคงใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เพื่อหลบการโจมตีได้เหมือนเดิม แต่พออีกฝ่ายตกถึงพื้น เธอก็พุ่งตามมาแบบติดๆ ราวกับเป็นสิงโตเสียสติ
เศษดินเศษทรายกระเด็นออกไปตามทางที่หญิงสาวพุ่งผ่าน… นี่เธออาจจะเสียสติไปจริงๆ แล้วก็ได้
วาห์นรู้ว่าผลข้างเคียงของ [เบอร์เซิร์ก] จะมีส่วนคล้ายกับอาการเครียดและหงุดหงิดของเฟนเรียร์
เพราะไม่ได้เข้าสู้กับเธอแบบ ‘ตรงๆ’ ทีโอเน่เลยยิ่งคลั่งหนักและพยายามที่จะทำร้ายเขาแบบจริงจัง
[เคลื่อนย้ายในพริบตา] นั้นไม่ใช่สกิลที่ต้องใช้ขาดีๆ ทั้งสองข้าง วาห์นเลยยังใช้มันหลบหลีกได้ในขณะที่คอยรักษาแผลด้วย [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า]
ทีโอเน่เห็นแบบนั้นแล้วก็ยิ่งกัดฟันแน่น ต่อด้วยการร่ายเวทมนตร์บางอย่างที่วาห์นไม่รู้จัก
เขาใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เพื่อย่นระยะและพยายามหยุดการร่ายนั่นด้วยความลนลาน
ทว่าทีโอเน่กลับปล่อยให้เขาอัดตรงกระบังลมโดยที่เธอยังคงร่ายเวทต่อไปแบบไม่หยุด
ผลลัพธ์ที่ได้จากการโจมตีดังกล่าวก็คือทำให้อีกฝ่ายหายใจแรงๆ ผ่านจมูกเท่านั้นเอง
“…จับกุมเวลา หยุดเวลา มีชัยเหนือเวลา!!!” ทีโอเน่จบการร่ายเวทด้วยสามประโยคสุดท้าย
วาห์นพยายามใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เพื่อหลบออกมา แต่ทันทีที่ทำแบบนั้น พลังงานบางอย่างก็เข้ามาห่อหุ้มแขนขาจนขยับไม่ได้
เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่วาห์นเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าคู่ต่อสู้รู้สึกแบบไหนเวลาโดน [เอ็นคิดู] เข้าไป
แต่เขาก็ต้องเก็บความคิดนั้นไว้ก่อนเมื่อทีโอเน่พุ่งเข้าใส่จากมุมต่ำ
ถ้าถูกเธอกับคร่อมกับพื้น รับรองเลยว่าศพของเขาคงดูไม่จืดแน่นอน
แทนที่จะตกใจลนลาน วาห์นเริ่มรวบรวมอณูธาตุไฟในอากาศและเพิ่มอุณหภูมิรอบตัวขึ้นเป็น 1500 องศาเซลเซียส พร้อมกับใช้ [ทลายพันธนาการ] เพื่อสลายเวทมนตร์ดักจับของอีกฝ่าย
เมื่อความร้อนสูงมาเจอเข้ากับอากาศเย็นในช่วงฤดูหนาว ทุกอย่างรอบๆ จึงเกิดการสั่นไหวไปหมด และอย่างแรกที่ทนรับปรากฏการณ์นี้ไม่ได้…. ก็คือเสื้อผ้าของวาห์นนั้นเอง
แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เขาวางแผนไว้ แต่มันก็ทำให้ทีโอเน่ชะงักไปบ้าง ส่วนเหล่าคนดูก็มีอาการที่แตกต่างกันออกไป
“โหหหหหหหหห~!” ทีโอน่าเริ่ม ‘เครื่องติด’ หลังจากไม่ได้เห็น ‘สิ่งนั้น’ มาพักใหญ่ๆ จนถึงกับต้องร้องเสียงดัง
ไอส์ทำสายตา ‘ดุดัน’ ขณะจ้องมองวาห์นพร้อมฉุดรั้งทีโอน่าเอาไว้โดยมีอันนาคิตตี้(ที่ดูอึ้งๆ)คอยช่วย
ฮารุฮิเมะหรี่ตาเล็กลง ทว่าดวงตาสีเขียวกลับดูสว่างไสวมากกว่าครั้งไหนๆ
แม้จะกลัวเพศตรงข้ามมาตลอด แต่ดูเหมือนวาห์นจะเป็น ‘ข้อยกเว้นสุดพิเศษ’ ของเธอ
สำหรับมิโคโตะนั้น เธอยังคงทำหน้าจริงจังเหมือนเดิม สิ่งที่ต่างออกไปก็คือคิ้วที่กำลังกระตุกเบาๆ…
คนที่อาการหนักสุดๆ เห็นจะเป็นเลฟิย่าที่ลงไปนั่งแหมะกับพื้น ส่งเสียงร้องที่ไม่มีความหมาย และฉายใบหน้าแดงก่ำขณะพยายามมองลอดออกมาจากร่องนิ้วที่ยกขึ้นมาปิดหน้า
ที่วาห์นทำไปก็เพื่อเพิ่มพลังในการโจมตีเท่านั้นเอง แต่ยังไงโอกาสก็คือโอกาส และเขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดมือไปเฉยๆ หรอก
หลังจากปลดเวทพันธนาการออกไปแล้ว วาห์นก็พุ่งเข้าไปเตะทีโอเน่จากด้านข้างทันที
แววตาของหญิงสาวสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะพยายามตั้งรับด้วยการเกร็งร่างกายทุกส่วนตามสัญชาตญาณ
เพราะมัวแต่มองดูอย่างอื่นชั่วขณะ ครั้งนี้เธอจึงตัดสินใจช้าไปเสี้ยววินาที และต้องรับการโจมตีอันร้อนแรงของวาห์นแบบเต็มๆ
ถ้าผิวของทีโอเน่แข็งเท่ากับเหล็กธรรมดาๆ ล่ะก็ ป่านนี้มันคงหลอมละลายไปหมดแล้ว
อาการเหม่อลอยเมื่อกี้หายไปแบบปลิดทิ้งขณะที่เจ้าตัวกลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้นเพื่อพยายามขจัดความร้อนออกจากร่างกาย
ดูเหมือนเธออยากจะตะโกนบางอย่างหลังจากตั้งตัวได้ แต่วาห์นก็เข้ามาประชิดตรงด้านหน้าเสียก่อน
เรื่องรูปปั้นก็อธิบายให้ฟังไปแล้ว แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ ไม่ว่ากลิ่นไหม้ของเนื้อจะน่าสะอิดสะเอียนแค่ไหนก็ตาม
วาห์นไม่มีแรงมากพอที่จะเจาะทะลุการป้องกันของทีโอเน่ เขาจึงต้องใช้สกิลต่างๆ เพื่อทดแทนตรงส่วนนั้น
แย่หน่อยที่ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีอย่างที่คิด
ทีโอเน่กัดฟันและกลืนสิ่งที่จะพูดลงไป ขณะเดียวกันเธอก็ยกแขนขึ้นมาจิกตรงหัวไหล่ของวาห์นโดยไม่สนใจหมัดของอีกฝ่ายที่กำลังกระหน่ำเข้าตรงหน้าท้อง
ทีโอเน่ไม่รู้สึกเกรงกลัวร่างกายที่ร้อนระอุ หรือเรื่องกลิ่นผิวหนังไหม้ๆ ของตัวเองเลย
เธอเริ่มโยกหัวไปข้างหลัง ก่อนจะโหม่งมันเข้ากับศีรษะของวาห์นอย่างแรง
วาห์นเกิดอาการหน้ามืดแบบฉับพลัน แต่เขาก็ยังมีสติพอที่จะใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เพื่อทำให้ทั้งสองกระเด็นออกจากกัน
พอต่างฝ่ายต่างลุกขึ้นมาอีกรอบ วาห์นก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นร่างเต่าทั้งๆ ที่สมองยังรู้สึกมึนไม่หาย
ส่วนทีโอน่าเองก็กลับมาตั้งท่าสู้ต่อโดยไม่สนใจแผลตรงหน้าผากที่ยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
วาห์นถึงกับต้องหยุดใช้สมองชั่วคราวและหันมาพึ่งสัญชาตญาณและแรงฮึดเพื่อไม่ให้ตัวเองหมดสติไปเสียก่อน
ความเย็นสงบที่พุ่งผ่านร่างกายดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่พอช่วยเขาได้ในตอนนี้
เป็นช่วงสั้นๆ ที่ทั้งคู่เอาแต่จ้องกันไปมา ก่อนที่ทีโอเน่จะแผดเสียงร้องราวกับสัตว์ป่าและเริ่มการโจมตีระลอกใหม่
จนกว่าสมองจะกลับมาใช้การได้ วาห์นคงต้องพึ่งพลังป้องกันจากร่างเต่าเพื่อรับการโจมตีครั้งนี้ไปก่อน
สติของทีโอเน่เองก็ใช่ว่าจะดีกว่าเขาเท่าไหร่… เพียงแต่เธอไม่ค่อยได้ใช้มันอยู่แล้วเท่านั้นเอง
เมื่อฝ่าเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสกับฝ่ามือสีดำของวาห์น แสงสีเขียวก็แผ่ออกมาจากเกล็ด ก่อนที่เขาจะใช้มือข้างที่ว่างโจมตีใส่ท้องของทีโอเน่
แสงสีเขียวทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อวาห์นโจมตีเข้าเป้า และทำให้คลื่นกระแทกพุ่งผ่านร่างของทีโอเน่อย่างรุนแรง
มันรุนแรงมากเสียจนเธอไม่สามารถสลายมันออกไปได้เหมือนการโจมตีครั้งก่อนๆ
อวัยวะภายในของทีโอเน่กรีดร้องอย่างหนักจนเธอต้องกระอักเอา ‘เลือดเสีย’ ออกมา ต่อด้วยการถีบเข้าที่ใบหน้าของวาห์นเพื่อใช้มันเป็นฐานและดีดตัวเองกลับออกมาจากตรงนั้น
ทันทีที่ลงมาถึงพื้น ขาของทีโอเน่ก็เกิดอาการหมดเรี่ยวแรงจนเธอต้องลงไปทรุดเข่า
สภาวะ [เบอร์เซิร์ก] ค่อยๆ คลายออก แต่ทว่า… ตอนนี้เธอกลับไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นเลย
ดวงตาสีน้ำตาลเปลี่ยนไปจับจ้องคู่ต่อสู้ด้วยความหวาดหวั่น
ทีโอเน่มีสกิลหายากที่มีชื่อว่า [แบ็คดาฟท์]
หลักๆ เลยก็คือ มันจะเพิ่มค่าพละกำลังให้แบบมหาศาลเมื่อผู้ใช้ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตายสุดๆ
จากการถูกคลื่นกระแทกเข้าเล่นงานจนอวัยวะภายในเสียหาย ลูกถีบที่ทีโอเน่ใช้ในการล่าถอยออกมาจึงมีพลังของ [แบ็คดาฟท์] แฝงอยู่ด้วย
เธอไม่รู้สึกถึงแรงต้านจากการเตะเมื่อกี้นี้เลย… ราวกับเตะปุยนุ่นอย่างไรอย่างนั้น
พอหันไปมองอีกข้างก็พบวาห์นที่ยังยืนอยู่ในสภาพหลังแอ่น… แต่ตรงส่วนหัวนี่สิ
จากใบหน้าที่เคยหล่อเหลา ตอนนี้กลับกลายเป็นรอยบุ๋มยับยู่ยี่ไปหมด
ตรงส่วนที่เคยเป็นดวงตาก็มีเลือดไหลออกมาเป็นสาย
นี่เป็นการโจมตีตรงส่วนหัวแบบเน้นๆ และดูเหมือนว่าวาห์นจะจบชีวิตลงที่ตรงนั้น… สิ้นใจทั้งๆ ที่ยังปักหลักยืนอยู่กับที่
แน่นอนว่าทีโอเน่ไม่ใช่คนเดียวที่เห็นสภาพล่าสุดของวาห์น
มิโคโตะซึ่งมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อต้องรีบเข้ามารับฮารุฮิเมะที่หมดสติแบบล้มทั้งยืน
เลฟิย่าที่ไม่กล้าจ้องวาห์นแบบเต็มๆ บัดนี้กลับมีสายตาว่างเปล่า
แต่พวกที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดนั้นเห็นจะเป็นไอส์กับทีโอน่า
ไอส์ปล่อยมือจากทีโอน่าที่ทรุดลงกับพื้นและเดินแบบกล้าๆ กลัวๆ มาหาเลฟิย่าพร้อมคำพูดสั่นเทา
“เลฟิย่า… ช่วย… เลฟิย่า”
ไอส์คงอยากให้เลฟิย่าใช้คทา [ฟื้นฟู] เพื่อช่วยวาห์น แต่คำพูดเหล่านั้นกลับจุกอยู่ตรงลำคอเกือบหมด
ตอนนี้สมองของเลฟิย่าพลันว่างเปล่า แม้แต่เสียงของคนที่เธอชื่นชมที่สุดก็ส่งไปไม่ถึง
“ทีโอเนนนนนนนนนนนน่” ทีโอน่าตะโกนราวกับสัตว์ป่าที่กำลังเจ็บปวด
เธอพุ่งมาหาพี่สาวฝาแฝดด้วยสายตาดุดันที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา
ทีโอเน่มองวาห์นสลับกับน้องสาวด้วยดวงตาที่เปียกชื้นเช่นกัน แต่ตอนนี้เธออับจนคำพูดไปหมด ไม่มีทั้งคำขอโทษหรือคำพูดแก้ตัว
หญิงสาวรู้สึกผิดกับวาห์น กับน้องสาว และกับการตัดสินใจที่ผ่านๆ มาเหลือเกิน
ตอนนี้ต่อให้อะไรจะเกิดขึ้น เธอก็ขอน้อมรับมันไว้อย่างเต็มใจ
ทว่าก่อนที่ทีโอน่าจะพุ่งเข้ามาถึง เงาของใครบางคนก็เข้ามารับเธอไว้ก่อน
‘!’
ทีโอน่าพยายามโจมตีคนที่เข้ามาขวาง แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพบกับใบหน้าของคนที่คิดว่าจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว
วาห์นรู้สึกเหมือนตัวเองซวยซ้ำสองเพราะต้องมารับลูกเตะของสาวชาวอเมซอนอีกคน แต่แทนที่จะปล่อยไป เขากลับดึงเธอเข้ามากอดเพื่อลดปัญหา
ผลของ [รูปปั้นฮีโร่] ทำให้ค่าสถานะของเขาสูงกว่าทุกคนที่นั่นเป็นการช่วยคราว
วาห์นจูบตรงหน้าผากของทีโอน่าก่อนจะพูดกับเธอ
“อีกเดี๋ยวฉันจะขยับไม่ได้เแล้วนะ อย่าเล่นอะไรแผลงๆ ล่ะ… ถึงจะขยับไม่ได้ แต่สติกับความรู้สึกน่ะยังอยู่ครบ”
วาห์นปล่อยทีโอน่าลงกับพื้นขณะที่อีกฝ่ายยังคงจ้องไม่เลิก
ขนาดทีโอเน่ยังคิดว่าตัวเองตาฝาดเลย จนกระทั่งได้เห็นรูปเล็กๆ จากตรงที่ที่วาห์นเคยยืนอยู่…
[รูปปั้นฮีโร่] กำลังมอดไหม้อย่างรุนแรงอยู่บนพื้น แต่สำหรับเธอแล้ว นี่คือเปลวเพลิงแห่งความหวังดีๆ นี่เอง
เธอเอื้อมไปแตะตัวล็อคสีเงินที่คอและทวนสิ่งที่วาห์นเคยพูดในใจ…
‘นี่คือไอเท็มหายากที่มีชื่อว่า [รูปปั้นฮีโร่]… ฉันสร้างมันขึ้นโดยใช้เทคนิคพิเศษและเอ็กซีเลียที่ได้จากมอนสเตอร์
ไม่ว่าจะเจ็บหนักขนาดไหน ร่างกายของผู้ที่ถือมันไว้จะได้รับการฟื้นฟูทันที ต่อด้วยค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า
ผลข้างเคียงก็คือร่างของผู้ใช้จะอยู่ในสภาพจำศีลชั่วคราวในอีกไม่กี่นาทีต่อมา…’
นับเป็นเรื่องดีและน่าโล่งใจที่วาห์นยังอยู่ครบสามสิบสอง แต่ทีโอเน่ก็รู้ซึ้งถึงความผิดของตัวเองดี
ผู้คนมากมายต่างพึ่งพาและฝากทั้งความหวังและความฝันไว้ที่วาห์น แต่เธอกลับ ‘เกือบจะฆ่า’เขาเพราะความเผอเรอ
ถ้า [รูปปั้นฮีโร่] ไม่ได้ทรงพลังแบบที่วาห์นพูด… เขาก็ตรงตายไปจริงๆ แล้ว
ทีโอเน่เปิดตัวล็อคและนำรูปปั้นออกมาถือพลางมองรูปของฟินน์ที่อยู่ข้างใน
เธอถอนหายใจโล่งอกขณะไล่มองสามสาวที่เข้าไปรุมกอดวาห์นจากทุกด้าน
ใบหน้าของทีโอน่า ไอส์ และฮารุฮิเมะ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความโล่งอก
เลฟิย่าที่ยังนั่งแหมะอยู่บนพื้นเองก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่
ทีโอเน่ตระหนักว่างานนี้ต้องมีการชดใช้กันอย่างสาสม ไม่งั้นคนอื่นๆ อาจจะไม่มีวันยกโทษให้เธอไปตลอด
แต่ในขณะที่กำลังคิดหาคำพูด วาห์นก็กลับเป็นฝ่ายเดินเข้าหาด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“ทีโอเน่ เป็นอะไรหรือเปล่า?” ดวงตาสีน้ำทะเลกำลังสอดส่องไปตามจุดต่างๆ ที่เคยโจมตีใส่ด้วยความเป็นห่วง
ทีโอเน่ขมวดคิ้วก่อนจะรีบคลายมันทันที
เธอหายใจแรงๆ พลางตอบกลับ
“นายชนะ… ฉันสู้ต่อไม่ได้แล้ว จะเอาไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็ตามสบายเลย…” พูดเสร็จเธอก็นอนแผ่ลงกับพื้นและจ้องมองเมฆที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า
เธอรู้สึกเศร้าโศกอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจและคาดหวังเล็กน้อย
ราวกับว่าภาระอันหนักอึ้งถูกปลดออกจากบ่า ความตึงเครียดทั้งหมดในร่างกายถูกคลายออกพร้อมกัน
รู้สึกแม้กระทั่งความอบอุ่นที่ไหลเข้าสู่ร่างกาย…?
ทีโอเน่ขมวดคิ้วพลางหันไปหาวาห์นอีกครั้งและพบว่าเขากำลังใช้คทาแบบเดียวกับเลฟิย่าเพื่อรักษาเธอ
แผล รอยไหม้ ความเจ็บปวดต่างๆ ทุกอย่างหายไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้วาห์นกลับมาใส่เสื้อผ้าอีกครั้งแล้วด้วย ขนาดเธอเองยังมองไม่ทันเลยว่าเขาสวมมันตอนไหน
เหตุการณ์ครั้งนี้ปิดฉากลงด้วยรอยยิ้มและคำพูดของชายที่อยู่ตรงหน้า
“เอาเป็นว่ารอบนี้เสมอกันก็แล้วกันนะ…”
พูดเสร็จ วาห์นก็เอนล้มลงโดยมีทีโอน่าและไอส์ที่พุ่งเข้ามารับทันที
(A/N: อาจจะมีคนมาถามทีหลังเลยขอแจงไว้ก่อน
ใช่ครับ [รูปปั้นฮีโร่] มีราคาอยู่ที่หนึ่งแสน OP
เมื่อกี้วาห์นใช้ OP ไปสองแสนเพื่อซื้อมันมาสองอัน เท่ากับว่าตอนนี้มี OP เหลืออยู่ 68,399 OP ครับ