Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 31
จากแรงกดดันที่พวกเขารู้สึกได้และเมื่อเห็นเด็กหนุ่มชักดาบออกมา ชายทั้งสามก็เริ่มตอบสนองทันที ชายร่างเตี้ยที่อยู่ใกล้กับลิลลี่ยกร่างของเธอขึ้นและเอามีดจ่อที่คอของเธอขณะที่อีกสองคนเริ่มใช้แผนอ้อมไปที่ด้านข้างของวาห์น
เมื่อเห็นว่าคนพวกนี้ใช้ร่างของลิลลี่เป็นเกราะกำบัง ความคิดที่จะยั้งมืออยู่บ้างก็หายไปทันที สภาพจิตใจของเขาตอนนี้คล้ายกับตอนที่ฟื้นขึ้นมาที่ชั้นสองในขณะที่พุ่งตรงไปหาชายทางด้านซ้าย
วาห์นเข้ามาใกล้ด้วยการเคลื่อนไหวอันน่าหวาดหวั่น ทำให้ชายคนนั้นตื่นตระหนกพร้อมกับตะโกนไปหาเพื่อน เขาหยิบดาบของตัวเองขึ้นมาและพยายามแทงสวนเพื่อหยุดวาห์น
จากมุมมองของวาห์น ตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงตะโกนอะไรทั้งนั้น และการเคลื่อนไหวของดาบที่กวาดผ่านหน้าของเขาช่างเป็นภาพที่เชื่องช้าเนื่องจากความต่างของค่าสถานะระหว่างพวกเขาทั้งสอง เขาใช้มือซ้ายที่สวมถุงมือเหล็กปัดดาบและทำให้มันไปปักอยู่ที่พื้นแทน
ทันทีที่การโจมตีของเขาถูกเปลี่ยนทิศทาง เขาก็เสียสมดุลพร้อมกับมีสีหน้างงงวยขณะจ้องดาบที่กำลังเข้าใกล้เขามากขึ้นทุกที สิ่งที่ผ่านเข้ามาในหัวของเขาเป็นอย่างสุดท้ายก็คือคมดาบของวาห์น…
ชายทั้งสองมองดูด้วยความหวาดกลัวขณะที่วาห์นทำให้สหายของตนกลายเป็นเนื้อบดจากแรงมหาศาลที่เขาใช้ในการแทงแบบไม่ยั้งมือ พวกเขารู้สึกว่าขาของตนเริ่มสั่นอย่างหนักจากบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ชายร่างเตี้ยจับคอของลิลลี่แน่นกว่าเดิมก่อนที่จะตะโกนออกมา
“แก ไอ้สารเลว! แกฆ่าทอดด์!” วาห์นเห็นคนตรงหน้าหันมาหาเขาและพยายามใช้ร่างเล็กๆ ที่อยู่ในกำมือบังร่างของตัวเองไว้ราวกับกำลังจินตนาการว่านี่คือกำแพงที่สามารถกันเจ้าเจ้าสัตว์ประหลาดตรงหน้าออกไปได้
“ถะ-ถ้าแกเข้ามาอีกก้าว ฉันจะฆ่านังนี่ซะ! จะฆ่ามันให้ตายเลย แกได้ยินไหมไอ้สารเลว!?” เพื่อยืนยันในคำขู่ของตัวเอง เขาบีบคอจนเด็กสาวเริ่มสำลักและดิ้นไปมา
วาห์นดูเหมือนจะไม่ได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นพูดเลย แต่ทันทีที่เสียงคำๆ แรกของดังออกมาจากลำคอของลิลลี่ เขาก็พุ่งออกไปผ่าร่างของชายอีกคนที่เหลือออกเป็นสองส่วน
ชายคนนั้นไม่ทันได้ระวังตัวใดๆ ทั้งสิ้น เขาทำได้แค่มองไปที่ช่องว่างราวๆ 30 เซนติเมตรที่แยกลำตัวและขาของเขาออกจากกัน แม้ว่าวาห์นจะตัดผ่าเขาได้อย่างหมดจด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คล้ายกับครั้งแรก ครู่ต่อมาก็มีเนื้อบดกองที่สองอยู่ตรงนั้น เขาได้แต่กรีดร้องแบบไม่มีเสียงขณะมองไปยังส่วนขาที่ยังยืนอยู่บนพื้น เสียงสะอื้นของชายคนที่สองเริ่มคล้ายกับเสียงของเด็กสาวที่ถูกจับเป็นตัวประกัน เขาเริ่มสำลักออกมาเป็นเลือดและอวัยวะภายในบางส่วนก่อนจะสิ้นใจ
ชายคนสุดท้ายกรีดร้องออกมาจากการตายของเพื่อนคนที่สอง เขาบีบคอของลิลลี่จนหลอดลมของเธอยุบลงไป เขาพยายามใช้มีดในมือซ้ายแทงเข้าไปที่ซี่โครงโดยหมายจะเอาชีวิตของเธอ
*ตู้มมมมมม* *ฉึกกกกก*
เสียงอู้อี้ดังผ่านอากาศ ชายคนสุดท้ายที่หลังชิดผนังในขณะที่จับลิลลี่เป็นตัวประกันมองด้วยความหวาดกลัวไปยังตำแหน่งที่แขนซ้ายของเขาเคยอยู่ ที่ตรงนั้นกลับมีแสงแวววับของคมดาบสีดำฝังกับผนังแถวๆ ช่วงไหล่ของเขา ก่อนที่เขาจะสามารถฟื้นคืนสติ ก็พบว่ามีแรงมหาศาลเข้าจู่โจมรอบคอของตัวเอง
วาห์นยกชายที่มีหูแรคคูนและสูงประมาณ 155 ซม. ขึ้นด้วยแขนขวาขณะใช้มืออีกข้างทำลายข้อมือที่เหลืออยู่ของชายคนนี้จนแตกละเอียดและทำให้ลิลลี่เป็นอิสระ เมื่อเห็นเด็กสาวตัวน้อยตกลงไปบนพื้นด้วยอาการแน่นิ่ง วาห์นก็เพิ่มแรงกดลงไปที่มือขวาจนรู้สึกได้ถึงรูปร่างกระดูกสันหลังของชายคนนี้อย่างชัดเจน ตอนนี้ใบหน้าของชายร่างเตี้ยบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่แรงกดมหาศาลทำให้ดวงตาของเขาหลุดออกมาจากเบ้าตา
*กรึก*
แม้ชายคนนั้นจะตายไปนานแล้ว วาห์นก็ยังหักคอของเขาซ้ำไปอีกที เมื่อวาห์นปล่อยร่างๆ นั้นลงกับพื้น ส่วนหัวของศพก็กลิ้งไปมาคล้ายกับลูกบอลและร่างกายก็กระตุกไม่หยุด
ขณะที่ร่างชายคนสุดท้ายกระแทกลงกับพื้น วาห์นก็รู้สึกถึงอาการปวดหัวอย่างรุนแรงขณะที่สติของเขากลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง เขาอดทนกัดฟันก่อนจะหันไปหาเด็กสาวที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนพื้นและพยายามสูดอากาศเข้าปอด ทุกครั้งที่เธอหายใจออกนั้นกลับมีฟองอากาศสีเลือดออกมาจากปากของเธอแทน
ในขณะที่เขาประคองร่างกายของเธอขึ้น เธอก็จ้องมองเขาด้วยใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา หัวใจของวาห์นรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดขณะที่สมองประมวลผลอย่างรวดเร็วเพื่อหาทางช่วยชีวิตเด็กสาว เนื่องจากคอของเธอยุบเข้าไป เธอจึงไม่สามารถทาน [ถั่วเซียน] ได้ และตอนนี้เขาเองก็ไม่มีโพชั่นที่สามารถยื้อชีวิตของเธอไว้ได้เลย ตอนนี้ทำได้แค่มองดูเธอขาดอากาศหายใจและตายลงอย่างช้าๆ
ไม่มีเวลาที่จะดูข้อมูลในระบบหรือคิดวิธีอื่นแล้ว
วาห์นทำอย่างเดียวที่เขาพอนึกออก เขาเอา [ถั่วเซียน] ใส่ปากของตัวเองและเคี้ยวมัน เขาลูบใบหน้าของลิลลี่อย่างอ่อนโยนราวกับเป็นการให้กำลังใจเธอ… และใช้สกิล [เคลื่อนย้ายบาดแผล: B] เป็นครั้งแรกพร้อมกับกลืนถั่วเซียนเข้าไป
มันคล้ายกับมีไอน้ำถูกปล่อยออกมาจากแผลของลิลลี่ขณะที่เธอหายเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ไอน้ำเริ่มรวมตัวกันและไหลผ่านเข้าไปตามรูขุมขนบนผิวหนังของวาห์นและบาดแผลที่เคยอยู่บนร่างกายของลิลลี่ก็เริ่มปรากฏขึ้นบนตัวของเขาแทน
เขากัดฟันจนเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากเหงือกขณะที่ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่ร่างกาย ตอนนี้ลิลลี่ที่หายเป็นปกติแล้วกำลังมองไปยังเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะช่วยชีวิตเธอด้วยความตกใจ วาห์นเริ่มลงไปนอนชักอยู่บนพื้นในสภาพที่ดูเลวร้ายยิ่งกว่าเธอในตอนแรกเสียอีก เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเด็กหนุ่มคงใช้วิธีบางอย่างเพื่อเคลื่อนย้ายบาดแผลทั้งหมดบนร่างกายของเธอไปยังร่างกายของตัวเอง
เธอกรีดร้องออกมาและพยายามหาทางช่วย แต่ไม่ว่าเธอจะทำอะไร บาดแผลก็ดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ
วาห์นรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังฉีกออกเป็นชิ้นๆ แม้ว่าเขาจะกิน [ถั่วเซียน] เพื่อจัดการกับความเสียหายที่เกิดจากการเคลื่อนย้าย แต่ดูเหมือนว่าพลังทั้งสองอย่างนั้นกำลังต่อสู้กันอยู่ภายในร่างของเขา พลังอย่างแรกพยายามรักษาบาดแผลของเขาขณะที่พลังอย่างที่สองพยายามสร้างอาการบาดเจ็บอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั่นส่งผลให้เกิดหายนะภายในร่างกายของเขา เนื้อหนังและกระดูกต่างฉีกขาดออกและสมานเข้าหากันซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ
เขารู้สึกได้ถึงของเหลวอุ่นๆ หยดลงมาบนใบหน้า และมองเห็นเด็กสาวที่กำลังร้องไห้อยู่บนร่างของเขา
ผลของสกิล [ต้านทานความเจ็บปวด: S] ทำวาห์นยังมีสติอยู่แม้ว่าจะเจ็บปวดแทบขาดใจก็ตาม
เขายกมือขึ้นและพยายามปลอบเด็กสาวแต่ก็หยุดชะงักหลังจากเห็นว่ามันเต็มไปด้วยเลือด
เมื่อเห็นความพยายามและความลังเลบนใบหน้าของเขา เด็กสาวจึงจับมือที่ยื่นออกมาและวางมันลงบนใบหน้าของเธอขณะที่เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เลือดบนมือของเขาทำให้ใบหน้าไร้ตำหนิของเธอเปรอะเปื้อน และวาห์นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดเล็กน้อยในขณะที่เขายิ้มให้กับเธอ
ลิลลี่พยายามกลั้นน้ำตาของตนและพูดกับเด็กหนุ่มผู้ที่เสียสละตัวเองเพื่อช่วยชีวิตเธอ
“ฉันไม่รู้แม้แต่ชื่อของนายด้วยซ้ำ *ฟึดฟัด* ได้โปรดอย่าตายนะ ได้โปรดเถอะ ได้โปรด….” เธอยังคงพูดคำเดิมซ้ำไปมาไม่จบสิ้นพร้อมกับเสียงสะอื้นและสั่งน้ำมูกไปด้วย
วาห์นส่ายหัวก่อนที่จะนำเอกสารข้อมูลของตนออกมาจากช่องเก็บของ เมื่อเห็นชื่อของวีรบุรุษที่ช่วยเธอ เธอก็ค่อยๆ พูดออกมา
“ขอบคุณนะ วาห์น…”
คำพูดของเธอทำให้เขายิ้มออกมาขณะที่รู้สึกได้ว่าเรี่ยวแรงกำลังไหลออกไปจากร่างกายอย่างช้าๆ
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดที่โคลอี้ได้เอ่ยไว้ก่อนจะแยกจากกัน
“สำหรับตอนนี้ ให้นายตั้งใจค้นหาเส้นทางและเป้าหมายของชีวิตไปก่อนเถอะนะ เมื่อนายเข้าใจมันและแข็งแกร่งพอที่จะแบ่งเบาภาระของผู้อื่นได้… ถ้าความรู้สึกของนายยังคงไม่เปลี่ยนไป… ถึงตอนนั้นนายค่อยเอ่ยมันออกมาอีกครั้งเถอะ… แต่ฉันไม่สัญญาหรอกนะว่าจะยอมรับมันเมื่อเวลานั้นมาถึงน่ะ~เมี๊ยว”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากว้างกว่าเดิมขณะที่สติเริ่มหลุดลอย
//[รูปปั้นฮีโร่: S] ทำงานแล้ว//
วาห์นรู้สึกถึงพลังงานที่แข็งแกร่งกระจายออกไปทั่วร่างกาย เขาเปิดตาขึ้นและพบกับสีหน้าประหลาดใจของลิลลี่ เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเลือดแต่ไร้บาดแผล เด็กสาวอีกคนที่ดูสกปรกมอมแมม ทั้งคู่ต่างจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเหลือเชื่อ
เป็นครั้งแรกในชีวิตทั้งสองของเขาที่วาห์นเริ่มหัวเราะออกมาจากใจจริง ลิลลี่มองไปที่เขาราวกับว่าคนตรงหน้าได้เสียสติไปแล้ว เธอไม่มั่นใจเลยว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง
จากนั้นไม่นาน เธอพยายามถามเด็กหนุ่มที่ชื่อวาห์นว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เขากลับล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรงและหมดสติไป เธอรีบเข้าไปดูว่าเขายังหายใจอยู่หรือไม่ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“นี่เราเข้ามาพัวพันกับใครกันนะ…” เธอส่ายหน้าก่อนที่จะนำหัวของเด็กหนุ่มมาวางไว้บนตักของเธอและเฝ้ารอจนกว่าเขาจะตื่น
—————