Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 74
ในตอนที่การต่อสู้เริ่มขึ้น วาห์นและทีโอน่าต่างกระโจนเข้าหาอีกฝ่ายในทันที
สิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับวาห์นก็คือ แม้ทีโอน่าจะเป็นนักผจญภัยเลเวล 4 ที่เกือบจะขึ้นถึงเลเวล 5 แล้ว แต่วาห์นก็สามารถตามการเคลื่อนไหวของเธอได้ทันอย่างไม่ยากเย็นนัก
ถึงเธอจะเร็วกว่าเขา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะไล่ตามเธอซึ่งต่างไปจากที่เคยทำกับสึบากิมาก
ขณะที่ทั้งสองเข้าใกล้กันภายในจังหวะเดียว วาห์นก็พยายามออกตัวให้เร็วกว่าหนึ่งก้าวเพื่อถ่ายน้ำหนักลงไปที่มือขวาของตน
เขาบิดร่างกายและเล็งหมัดตรงไปที่ท้องของทีโอน่า แต่ก่อนที่หมัดของเขาจะสัมผัสโดนก็มีมือมาจับข้อศอกของเขาเอาไว้และสลายพละกำลังที่ใช้โจมตีของวาห์นออกไป
ตรงช่องโหว่ในการป้องกันของเขาที่ถูกเปิดขึ้น วาห์นมองเห็นต้นขาที่ดูแข็งแรงพุ่งผ่านช่องนั่นเข้ามาใกล้ใบหน้าของตน
วาห์นใช้มือซ้ายกระโดดยันพื้นเพื่อเด้งตัวและหลบเข่าที่กำลังมาถึงโดยใช้แรงผลักจากการออกตัวเพื่อหลบหลีก
แต่ในตอนที่เขากำลังดันตัวหลบก็รู้สึกได้ถึงแรงกดบนไหล่ซ้าย
ทีโอน่าปิดทางหนีของเขาเพื่อไม่ให้หลบการโจมตีที่กำลังมาถึงและวาห์นเองก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีจากเข่าที่กำลังจะเข้ามาชนกับคางของตนได้
เขาถูกส่งลอยออกไปแต่เนื่องจากใช้แขนป้องกันการโจมตีโดยตรงไว้จึงรอดพ้นจากการหมดสติ
หลังจากไถลไปบนพื้นหลายเมตร วาห์นก็ยืนอย่างมั่นคงและกระโดดถอยหลังแต่กลับพบกับเท้าขนาดเล็กที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า
เขาพยายามสกัดการโจมตี แต่มันกลับเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าเขามาก
แม้ว่าประสามสัมผัสของเขาจะ ‘มองเห็น’ สิ่งที่กำลังใกล้เข้ามา แต่ร่างกายของเขาก็ไม่อาจตอบสนองได้ทันก่อนที่มันจะเข้าปะทะกับใบหน้าที่ไร้การป้องกัน
กระแสลมที่มาจากการโจมตีพัดผ่านเส้นผมของวาห์นไปข้างหลัง
เขายังคงตั้งรับโดยคว้าขาที่หยุดกลางคันด้วยตัวของมันเอง
ในตอนที่เขาจับขาเธอไว้ก็ได้ยินเสียงหัวเราะหวานๆ ตามมาด้วยคำพูด
“จับแบบนี้มันจั๊กจี้นะ แต่คิดว่าเมื่อกี้ฉันเป็นฝ่ายชนะล่ะ”
วาห์นปล่อยขาของเธอและทำหน้าเจื่อนก่อนจะขอโทษ
ทีโอน่าดูเหมือนว่าไม่ได้ว่าอะไรพร้อมกับแกว่งเท้าไปมา
“ไม่เป็นไร ถ้าต่อไปอยากจะจับอีกฉันก็ไม่ว่านะ แต่นายต้องรีบแข็งแกร่งให้ไวๆ เข้าใจไหม?”
หลังจากพูดจบเธอก็วิ่งกลับไปที่กลุ่มอย่างมีความสุข ขณะที่ไอส์เริ่มเว้นระยะห่างจากวาห์น
เมื่อวาห์นเห็นดาบของไอส์ เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมานิดๆ
เขารู้ว่าเธอแข็งแกร่งยิ่งกว่าทีโอน่าในตอนนี้ แถมยังมีความคล่องตัวกว่ามาก
เมื่อเห็นความกังวลของเขา ไอส์ก็มองไปที่ดาบของตนก่อนจะวางมันไว้ด้านข้าง
แทนที่จะใช้ดาบ เธอยกฝักดาบขึ้นมาและตั้งท่าอีกครั้ง
วาห์นสังเกตเห็นว่าเธอเอาดาบออกก็ถอนหายใจโล่งอกก่อนจะคว้าอาวุธสำหรับฝึกฝนบนผนังออกมา
มันเป็นอาวุธไร้คมซึ่งจะไม่ทำให้บาดเจ็บสาหัส แต่วาห์นก็ไม่ได้หวังว่าจะฟันโดนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เขาตั้งท่าโดยแยกเท้าทั้งสองข้างออกขณะที่ถือดาบเอียงไปทางไหล่ขวาและทำมุม 20 องศา
เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและเตรียมที่จะพุ่งเข้าโจมตีในทันที
การตั้งท่าของไอส์ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยช่องโหว่ขณะที่เธอชี้ฝักดาบไปข้างหน้าพร้อมกับยกมือซ้ายขึ้นเล็กน้อย
สึบากิยืนยันได้ว่าทั้งสองคนพร้อมแล้วและกำลังรอสัญญาณจากเธอเพื่อลงมือ
เธอสูดลมหายใจลึกก่อนจะทิ้งมือลงมาพร้อมกับตะโกนขึ้น
“เริ่มได้!”
วาห์นพุ่งไปด้านหน้าไอส์ผู้ที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
ในขณะที่เข้ามาใกล้เธอ เขาก็พยายามโจมตีด้วยท่าฟันต่ำเพื่อบังคับให้เธอเคลื่อนที่
ไอส์งอเข่าลงเล็กน้อยก่อนที่จะฟาดปลายฝักดาบไปในทิศเดียวกับดาบของวาห์น
การกระทำของเธอทำให้คมดาบของวาห์นชนกับพื้นและหยุดการเคลื่อนไหวของเขาไว้
ช่วงที่เขาเสียสมดุล ไอส์ได้เบี่ยงฝักดาบออกมาจากดาบของวาห์นและแทงมันเข้าไปที่กะบังลมของเขา
วาห์นกระเด็นออกไปด้านหลังขณะอยู่ในอาการหายใจติดขัด แต่เขาก็ควบคุมตนเองให้ไม่ล้มลงบนพื้นได้
เขาตั้งดาบในท่าป้องกันเพื่อเตรียมรับการโจมตีสวนกลับ แต่ไอส์อาแต่ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมและหันฝักดาบมาทางเขา
เมื่อรู้ว่าเธอไม่คิดจะโจมตีเข้ามา วาห์นจึงปรับลมหายใจก่อนที่จะพยายามใหม่อีกครั้ง
คราวนี้เขาพยายามโจมตีจากด้านบนด้วยการฟันจากเหนือหัวของเธอพร้อมกับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวเป็นถอยหลังเพื่อป้องกันไม่ให้เธอสวนกลับมาได้
เขายอมสละพลังโจมตีเพื่อออกการเคลื่อนไหวในทิศตรงกันข้าม แต่มันจะช่วยทำให้อีกฝ่ายฉวยโอกาสได้ยากขึ้น
ไอส์มองไปทางดาบที่กำลังเข้าใกล้ด้วยดวงตาไร้ความรู้สึกก่อนจะก้าวไปข้างหน้า
เพราะวาห์นใช้การโจมตีแบบแปลกๆ ดังนั้นแทนที่เธอจะป้องกันและสวนกลับเหมือนครั้งก่อน
ไอส์จึงใช้ประโยชน์จากการที่เขาไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางไปด้านใดได้ด้วยการหลบไปด้านข้างและแทงฝักดาบเข้าไปที่กะบังลมของเขาอีกครั้ง
คราวนี้เธอใส่แรงน้อยลงจึงทำให้วาห์นถอยกลับไปเพียงสามก้าวก่อนจะที่จะยืนได้อย่างมั่นคง
แม้ว่าจะไม่ได้ออกแรงไปมากนัก แต่วาห์นก็หายใจหอบแฮก
ไอส์ต่างไปจากทีโอน่าที่ต่อสู้กับเขาแบบตรงๆ เพราะเธอกลับยอมให้เขาโจมตีตามสบาย
ยังไม่เพียงแค่นั้น เพราะเธอยังแสดงความเมตตาตอนสวนการโจมตีเพื่อมอบโอกาสให้กับเขาอีกครั้ง
วาห์นไม่รู้ว่าทำไม แต่การที่เธอออมมือให้กับเขานั้นสร้างความหงุดหงิดให้เขาเป็นอย่างมาก
เขาอยากจะวัดฝีมือของตัวเองกับทั้งสองสาว แต่อย่างเดียวที่ตระหนักได้ก็คือเขาอ่อนแอกว่าพวกเธอมาก
ทั้งสองไม่ต้องพยายามอะไรมากก็โค่นเขาลงได้ แถมพวกเธอยังยั้งมือไว้เนื่องจากไม่อยากให้เขาบาดเจ็บ
ในขณะที่ความไม่พอใจกำลังก่อตัวขึ้น สัมผัสอันเย็นสงบก็เริ่มแพร่กระจายเข้าไปในจิตใจของเขาพร้อมกับที่วาห์นเริ่มปรับลมหายใจ
เขตแดนที่อยู่รอบตัวเขาเริ่มเข้ามารวมตัวกันและไอส์เองก็แสดงความระมัดระวังมากขึ้นขณะที่เธอจับฝักดาบแน่นเพื่อรอรับการโจมตีที่จะมาถึง
วาห์นสูดหายใจเข้าลึกและกุมดาบจนแน่นพร้อมกับพุ่งตัวไปทางไอส์อย่างรุนแรงและตวัดดาบเป็นวงกว้าง
ไอส์เอียงร่างกายเพื่อปัดป้องการโจมตี แต่ในตอนที่ฝักดาบเธอสัมผัสกับดาบ ร่างของเธอก็เอนไปข้างหน้าเล็กน้อยพร้อมกับที่ดาบทั้งเล่มทิ่มลงบนพื้น
วาห์นใส่แรงทั้งหมดลงไปในการโจมตี แต่ก็ใช้ประสาทสัมผัสของตนเพื่อปล่อยด้ามดาบในตอนที่รับรู้ได้ถึงการสวนกลับของไอส์
แทนที่เขาจะเสียสมดุลจากการถูกเธอปัดดาบออก เขาเฝ้ารอช่วงที่ดาบปะทะกันและเข้าเล่นงานตอนทีเผลอแทน
เนื่องจากเธอยังคงคาอยู่ที่การเคลื่อนไหวเพื่อปัดการโจมตีจากดาบของเขา ตอนนี้เธอได้สร้างช่องโหว่ขึ้นมาแล้ว
วาห์นจึงก้มตัวลงต่ำและใช้ไหล่พุ่งชนเพื่อทำให้เธอเสียสมดุลก่อนจะต่อด้วยข้อศอก
แต่น่าเสียดาย แม้ว่าเธอจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไอส์ก็ยังเป็นนักผจญภัยเลเวล 5
แม้จะเสียสมดุลไปบ้าง แต่เธอก็ใส่แรงลงไปในเท้ามากพอที่จะหมุนร่างตัวเองในพริบตา
แทนที่ไหล่ของเขาจะเข้าปะทะกับร่างของเธอ วาห์นทะลุผ่านตำแหน่งที่ไอส์เคยอยู่ขณะถูกฝักดาบตีเข้าตรงหลังศีรษะ
วาห์นหมดสติทันทีหลังถูกโจมตีและไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกตอนถึงพื้นด้วยซ้ำ
นาซ่าและลิลลี่รีบวิ่งตรงไปที่ร่างของวาห์นเพื่อดูว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่าแล้วก็ถอนหายใจออกมาหลังจากเห็นว่าเขาแค่หมดสติไป
ลิลลี่จ้องไปที่ไอส์ก่อนร้องตะโกนขึ้น
“ไม่เห็นต้องรุนแรงขนาดนั้นเลยนี่! การซ้อมแบบไหนกันนะที่เล่นกันจนหมดสติแบบนี้!?
ไอส์ยังคงยืนอยู่ขณะถูกลิลลี่โวยวายใส่
เธอจ้องมองไปทางวาห์นที่หมดสติด้วยสีหน้าขอโทษและเสียใจ
การโจมตีสุดท้ายของเธอนั้นรุนแรงมากไปหน่อย และหากเธอลดแรงในช่วงสุดท้ายไม่ทัน บางทีเธออาจจะฆ่าเขาไปแล้วก็ได้
เธอทำท่าทาง ‘กังวลใจ’ ขณะหันไปทางริเวเรีย
“ริเวเรีย ได้โปรด…”
ริเวเรียถอนหายใจก่อนจะเดินไปทางวาห์นและตรวจร่างกายของเขา
เธอเห็นว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บสาหัสอะไร แต่อาจต้องนอนรักษาอาการปวดหัวอยู่หลายวันหากไม่ได้รับการรักษาในตอนนี้
หลังจากพึมพำร่ายคาถา เธอก็ชี้คทาไปทางวาห์นที่หมดสติและร่ายเวทฟื้นฟู [ฟิล เอลดิส]
แสงอันอ่อนโยนแพร่กระจายไปทั่วร่างของวาห์นพร้อมกับที่ขนตาของเขาเริ่มสั่นไหว
วาห์นลืมตาขึ้นมาและเห็นใบหน้าแสนเป็นห่วงของนาซ่าและลิลลี่
ด้านหลังพวกเธอนั้น เขามองเห็นไอส์ที่กำลังมองมาทางเขาด้วยความกังวลเช่นกัน
วาห์นหลับตาลงและถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า
(‘แพ้แล้ว…’)
แม้เขาไม่ได้หวังว่าจะชนะตั้งแต่แรก แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับว่าตนทำอะไรหญิงสาวทั้งสองไม่ได้เลย
เขาจะไปปกป้องอะไรได้หากไม่สามารถจัดการกับคนที่ออมมือให้ได้ด้วยซ้ำ…
ขณะที่กำลังหมกมุ่นอยู่ในความคิด เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจิ้มแก้มของตนอยู่
เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นอีกหนึ่งใบหน้าที่อยู่ถัดจากลิลลี่และนาซ่า
ทีโอน่ากำลังมองลงมาที่เขาด้วยรอยยิ้มและสีหน้าร่าเริง
“นายทำได้ดีแล้ว ฝึกให้หนักกว่านี้และมาท้าฉันใหม่อีกครั้งนะ โอเคไหม? ฉันจะรอ… ไอส์เองก็ด้วย ใช่ไหมไอส์?”
วาห์นมองเห็นไอส์พยักหน้าเป็นการตอบรับทีโอน่า
เธอมองไปยังดาบที่วาห์นทำตกตอนที่เขาพยายามชิงความได้เปรียบคืนมา
“ฉลาด… แต่เสี่ยงเกินไป ต้องดูให้ดีก่อนว่ามีแผนสอง”
จากนั้นเธอก็มองเขาอีกครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวขอบคุณริเวเรียและขยับไปอยู่ด้านข้าง
ทีโอน่าเดินตามเธอไปหลังจากจิ้มใบหน้ามึนงงของวาห์นอีกครั้ง
“บ๊ายบายนะวาห์น ถ้ามีโอกาสก็มาเยี่ยมฉันที่โลกิแฟมิเลียบ้างล่ะ”
หลังจากกล่าวคำอำลา สมาชิกของโลกิแฟมิเลียก็ออกจากคฤหาสน์ของสึบากิ (TL: ผู้เขียนเปลี่ยนจากบ้านเป็นคฤหาสน์… เพราะว่าดูจากขนาดแล้วมันเป็นคฤหาสน์จริงๆ)
วาห์นยังคงนั่งอยู่ที่ลานฝึกพร้อมกับใคร่ครวญอย่างเงียบงัน
หญิงสาวทั้งสองพยายามให้กำลังใจเขา แต่วาห์นเพียงพยักหน้าและเผยรอยยิ้มอ่อนโยนให้ก่อนที่จะกลับไปนั่งคิดเรื่องการต่อสู้อีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าพวกตนจะทำให้เขาเสียสมาธิ นาซ่าและลิลลี่จึงออกไปเตรียมอาหารเช้าแทน
เพราะวันนี้มันสายมากแล้ว พวกเธอจึงอยากให้กับวาห์นคิดต่อไปอีกหน่อยก่อนที่การฝึกจะเริ่มขึ้น
เมื่อเหลือเขาอยู่ที่ลานฝึกเพียงคนเดียว วาห์นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เขาได้พัฒนาตัวเองขึ้นมากในการฝึกกับสึบากิเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่โดยรวมแล้วพลังของเขาก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก
แน่นอนว่าเขาอาจจะใช้สกิลหรือเทคนิคเพื่อจัดการกับนักผจญภัยที่อยู่ในระดับพอๆ กันแบบเข้ามาพร้อมกันหลายคนก็ได้
แต่เขาจะแพ้ทันทีที่เจอกับคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองเล็กน้อย
สึบากิบอกว่าเขามีศักยภาพในการต่อสู้กับคนที่มีเลเวลสูงกว่า แต่นั่นเป็นเพียงแค่การพึ่งพาสกิลที่เขามีอยู่มากมายซึ่งไม่ใช่พลังต่อสู้ที่แท้จริงของเขา
หลังจากคิดเรื่องนี้และมองสกิลอยู่หลายนาที วาห์นก็รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร
เขาจะต้องจากลิลลี่ นาซ่า และสึบากิไปชั่วคราวและเริ่มเข้าไปสำรวจดันเจี้ยนชั้นที่ลึกกว่าเดิม
มีเพียงแค่การผลักดันตัวเองให้ถึงขีดสุดเท่านั้นที่จะทำให้วาห์นสามารถเอาชนะทุกคนได้
แม้เขาจะไม่รู้สึกเสียใจที่จะใช้เวลาอยู่กับลิลลี่ แต่ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
หากวาห์นไม่แข็งแกร่งพอ เขารู้ว่าจะต้องเสียใจมากหากมีอะไรเกิดขึ้น
“ดูเหมือนว่าจะตัดสินใจได้แล้วสินะ”
จากด้านหลัง วาห์นได้ยินเสียงของสึบากิดังขึ้นมา
เขาหันกลับไปและเห็นสึบากิกำลังมองมาด้วยสายตาและรอยยิ้มที่อ่อนโยน
เขาพยักหน้าตอบ
“ครับ… ผมอยากสร้างทางเดินของตัวเองเป็นเวลาชั่วคราว หากยังอยู่ในที่เดิมๆ ผมก็จะเริ่มหยุดนิ่งและการเติบโตก็จะหยุดชะงักไป แม้ว่าการฝึกจะช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้และเทคนิคให้ก็จริง แต่มันส่งผลต่อสภาพจิตใจและสัมผัสต่างๆ มากกว่าพลังในการต่อสู้ ถ้าผมไม่ได้ไปต่อสู้แบบจริงจังและผลักดันตัวเองขึ้นอีก ผมก็จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้…”
สึบากิส่ายหัวและถอนหายใจออกมาพร้อมกับเอามือไปหนุนหัว
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เธอก็มองไปทางวาห์นและเริ่มหัวเราะออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างเคย
“คนๆ เดียวที่เธอจะพึ่งพาให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นได้ก็คือตัวเธอเอง แต่เธอก็ต้องไม่ลืมว่ามีคนที่กำลังรอการกลับมาของเธออยู่ มีผู้คนมากมายที่มีความสุขเมื่อเห็นเธอมีชีวิตแม้ว่าเธอจะไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นก็ตาม”
วาห์นพยักหน้าขณะที่ใบหน้าของทุกคนที่เขาใส่ใจฉายขึ้นมาในหัว
คนแรกคือเฮเฟสตัส… เขาเป็นหนี้บุญคุณเธอมาก
ต่อไปก็คือ โคลอี้… วาห์นติดหนี้เธอมากกว่าที่เขาจะตอบแทนเธอได้หมด
ด้านหลังของทั้งสองคนนี้ยังมีลิลลี่ สึบากิ ทีน่า นาซ่า มิลาน รวมไปถึงเอน่าและแม้กระทั่งหญิงสาวคนอื่นๆ ในกิลด์ก็ผ่านเข้ามาในหัวของเขา
หลังจากพบว่าคนที่เขาจำได้ส่วนใหญ่นั้นมักเป็นผู้หญิง วาห์นจึงรู้สึกสั่นไหวอยู่ในใจซึ่งทำให้ ‘เพลิงนิรันดร์’ ออกมาเต้นอยู่ตรงหน้าอก
เขาวางมือเหนือหัวใจของตน และเริ่มรับรู้ถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาห่วงใย
นอกจากนี้ยังมีคนใหม่ๆ ที่เขาเพิ่งจะได้ทำความรู้จักจากโลกิแฟมิเลีย
พวกเขาต่างมีบทบาทสำคัญในเนื้อเรื่องหลักและแม้แต่วาห์นเองก็เคยคิดที่จะเข้าร่วมกับแฟมิเลียนี้มาก่อน
มันคงเป็นเรื่องที่สนุกหากได้เติบโตขึ้นเคียงข้างคนอย่างทีโอน่าและไอส์
ส่วนแกเร็ธกับริเวเรียนั้นดูเหมือนจะเป็นคนที่ใจดีและคอยดูแลเหล่ารุ่นน้อง
เสียงตบแรงๆ ดังขึ้นและปลุกวาห์นให้ตื่นจากภวังค์
สึบากิตบแผ่นหลังของเขาจนเกือบได้เอาหน้าไปทิ่มพื้น
วาห์นต้องรีบเอามือไปยันไว้ก่อนจะได้กินดินเป็นอาหารเช้า
สึบากิหัวเราะออกมาพร้อมกับเดินไปทางห้องอาหาร
“อย่าคิดให้มันมากนักเลย! แค่ทำในสิ่งที่เธอคิดว่าดีที่สุดและไม่ต้องกังวลให้มากพอแล้ว ให้ตายสิ ถ้าเธอทำเองไม่ไหวก็ยังมีผู้คนมากมายที่พร้อมจะช่วยอยู่แล้ว สำหรับตอนนี้ ไปทานข้าวเช้ากันได้แล้ว! หลังจากการต่อสู้ไม่เอาไหนเมื่อกี้ วันนี้ฉันจะฝึกเธอให้หนักเป็นสองเท่าเลย!”
ความสั่นเทิ้มเริ่มผ่านมาถึงแผ่นหลัง แต่เมื่อมันผ่านไปแล้วเขาก็ยิ้มออกมาได้
พอเขามองไปทางหอคอยจากระยะไกล วาห์นก็รู้สึกถึงความคาดหวังที่ก่อตัวขึ้นในใจ
เขาจะพยายามอย่างหนักเพื่อให้แข็งแกร่งพอที่จะยืนอยู่บนยอดของหอคอยนั่นในวันใดวันหนึ่ง
ขณะเดียวกันก็ต้องดำดิ่งลงไปในดันเจี้ยนเรื่อยๆ จนกว่าจะเผยความลับทั้งหมดของมันออกมา
หากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะสู้กับมังกรดำตาเดียวและดูว่ายังมีความลับอื่นๆ ที่อยู่บนโลกใบนี้อีกหรือไม่
แต่สำหรับตอนนี้ วาห์นคงต้องไปเพลิดเพลินกับอาหารเช้าก่อน
(TL: ชื่อตอนสำรอง: ‘ไงนะ? ก็คนมันหิวข้าวนี่นา’, ‘เละแล้วเละอีก’, ‘แตะเท้า ชีวิตเปลี่ยน’, ‘ฝันร้ายของลิลลี่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว’, ‘นาซ่ากระดิกหางไปมาอย่างรุนแรง’)
—————