Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 80
วาห์นยังคงมุ่งหน้าไปที่ทางออกแต่เนื่องจากใช้เวลาเดินเข้ามาในชั้นไปกว่า 2 ชั่วโมง ทางออกจึงอยู่ห่างออกไปพอสมควร
ตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าโครงสร้างของดันเจี้ยนอันแน่นหนากำลังสั่งไหวขณะที่เศษฝุ่นเริ่มตกลงมาจากเพดาน
ในหัวของวาห์นกำลังคิดหาทางออกอย่างเร่งด่วน แต่ในช่องเก็บของก็ไม่มีอะไรที่สามารถทำให้ ‘มอนสเตอร์’ เคลื่อนที่ช้าลงได้เลย
ความมั่นใจที่สั่งสมมาตลอดสองเดือนไม่อาจช่วยบรรเทาความกลัวที่อยู่จิตใจของเขาในตอนนี้ไปได้เลย
ยิ่งไอ้ตัวนั้นเข้าใกล้มากขึ้นเท่าไหร่ ความหวาดกลัวในใจของเขาก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นพร้อมกับสัมผัสแห่งความตายที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ
วาห์นไม่ได้หวาดกลัวความตาย แต่เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจกับทุกอย่างที่ต้องทิ้งเอาไว้ข้างหลัง
แม้ว่าเขาจะยังไม่ค่อยชินกับโลกใบนี้มากนัก แต่ก็มีหลายสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกผูกพัน
ทั้งสถานที่ ผู้คน และโดยเฉพาะอาหาร
สำหรับวาห์นแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรจะมาแทนที่มันได้
เขายังหวาดกลัวอีกว่าไม่ว่าเขาจะยังโลกไหนก็ตามในอนาคต สิ่งที่สูญเสียไปจากการตายในครั้งนี้ก็คงไม่มีทางกู้คืนกลับมาได้อีกเลย
คำสัญญาทั้งหมดที่เขาให้ไว้กับคนที่ห่วงใย…
ความหวังทั้งหมดที่พวกเขาฝากเอาไว้…
วาห์นกลัวว่าจะสูญเสียทั้งหมดนั่นไป…
ด้วยทางเลือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ วาห์นพบช่องหินขนาดใหญ่และเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในนั้น
เขาลดขนาดเขตแดนให้เล็กที่สุดพร้อมกับดันตัวเองเข้าไปในรอยแยกและใช้สกิล [อำพรางตัว] เพื่อซ่อนสัมผัสของตัวเอง
วาห์นกลั้นหายใจขณะรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนของก้อนหินที่ปะทะกับร่างของเขา
ทุกย่างก้าวของสัตว์ร้ายนั่นทำให้พื้นทั่วทั้งชั้นเกิดการสั่นไหว
หลังผ่านไป 20 วินาที ในที่สุดวาห์นก็มองเห็นมอนสเตอร์ที่ไล่ตามเขาและทำให้เขากลัวจนคิดอะไรไม่ออก
‘มอนสเตอร์’ ตัวนั้นเป็นเหมือน ‘ฝันร้าย’ เมื่อเทียบกับทุกอย่างที่เคยเจอมา
ลำตัวของมันเป็นโครงกระดูกที่ยาวกว่า 10 เมตรพร้อมกับชิ้นส่วนมากมายที่ประดับอยู่ตรงส่วนต่างๆ และยังมีกรงเล็บที่สามารถตัดหินหนาภายในดันเจี้ยนได้แบบสบายๆ
หัวของมันคล้ายกับกะโหลกของมังกรในขณะที่ดวงตาดูเหมือนจะสามารถบดขยี้ความมั่นใจของใครก็ตามที่กล้าจ้องมันกลับ
มอนสเตอร์ที่กำลังไล่ตามเขามานั้นถือเป็นตัวที่อันตรายมากที่สุดในดันเจี้ยนและได้คร่าชีวิตนักผจญภัยไปหลายพันคนแล้วนับแต่การกำเนิดของสถานที่แห่งนี้
มันคือ ‘จักเกอร์นอต’ (Juggernaut) ระบบพิทักษ์ดันเจี้ยนแบบอัตโนมัติที่จะปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในโครงสร้างของดันเจี้ยนเท่านั้น
หลังจากที่ออกมาแล้ว มันจะไล่สังหารนักผจญภัยทุกคนในชั้นนั้นจนกว่าดันเจี้ยนจะได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่
วาห์นไม่รู้ว่ามันแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ในหนังสือบทสรุปบอกไว้ว่ามันเป็นภัยคุกคามระดับ SS ซึ่งแม้แต่แฟมิเลียระดับ S ยังต้องเตรียมพร้อมแบบเต็มพิกัดหากต้องการต่อกรกับมัน (TL: โลกิ/เฟรย่าแฟมิเลีย)
นั่นก็หมายความว่ามันสามารถเป็นภัยคุกคามต่อปาร์ตี้หลักที่ประกอบไปด้วยนักผจญภัยระดับ 4 – 6 ทั้งปาร์ตี้ได้เลย
แถมนั่นยังเป็นกรณีที่พวกเขาต่อสู้กับมันพร้อมกันทุกคน…
สำหรับวาห์นที่อยู่คนเดียวแล้ว การเผชิญหน้ากับจักเกอร์นอตนั้นเท่ากับเป็นการรนหาที่ดีๆ นี่เอง
จักเกอร์นอตหยุดเดินขณะที่มันเข้ามาในห้อง
มันใช้ดวงตาอันประกายน่าขนลุกมองกวาดทั่วทั้งห้องเพื่อตามหา ‘เหยื่อ’ ที่หายไป
วาห์นรู้สึกได้ถึงสัมผัสประหลาดราวกับมีใยแมงมุมกำลังแพร่กระจายไปทั่วอากาศ
มันคงจะกำลังตรวจสอบทั้งห้องรวมไปถึงบริเวณที่วาห์นซ่อนอยู่ในตอนนี้ด้วย
เนื่องจากมี ‘สัมผัส’ ประหลาดเข้ามาสัมผัสกับเขตแดน มันจึงเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและทำการค้นหาต่อไป
วาห์นไม่แน่ใจว่าพลังเขตแดนของตนทำให้มันรู้ตัวหรือเปล่า แต่เขายังคงได้แต่กลั้นหายใจและสวดภาวนาเท่านั้น
วาห์น ‘มองเห็น’ สัมผัสล่องหนที่เหมือนเป็นกิ่งก้านค่อยๆ เลื้อยเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ภายในเขตแดนของเขา
เขามองเห็นจักเกอร์นอตหยุดเดินและเริ่มมองออกไปราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง
เหงื่อผุดขึ้นมาที่หน้าผากของวาห์นขณะที่ปอดของเขาเริ่มทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
สัมผัสกิ่งก้านยังคงตรวจสอบรอยแยกที่วาห์นซ่อนตัวอยู่และเลื้อยเข้าไปห่างตำแหน่งของวาห์นเพียง 50 ซม.
เนื่องจากข้างในไม่มีทางไปต่อ วาห์นจึงไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก
สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือหวังว่าจะมีบางอย่างดึงความสนใจของจักเกอร์นอตก่อนที่มันจะพบเขา
ตอนนี้ร่างของเขาได้เปลี่ยนไปเป็นร่างเสือขาวอย่างสมบูรณ์พร้อมกับสายตาที่พร่าเลือน
ความมืดค่อยๆ เกาะกุมการมองเห็นของเขาและวาห์นรู้ตัวว่าอีกไม่นานเขาก็จะหมดสติลงจากการขาดอากาศหายใจ…
วาห์นรู้สึกเหมือนมีบางอย่าง ‘ขาดผึง’ และชีพจรอันทรงพลังก็ปะทุออกมาจากหน้าอกของเขา
‘เพลิงนิรันดร์’ พยายามหล่อเลี้ยงร่ายกายของเขาด้วยการดูดซึมอากาศผ่านรูขุมขนและผสานมันเข้าไปในเลือด
แต่กระบวนการนี้ยังช้าเกินไปที่จะช่วยเขาในสถานการณ์ตอนนี้ได้
สัมผัสกิ่งก้านเลื้อยเข้ามาในระยะ 20 ซม. ส่วนจักเกอร์นอตยังคงยืนนิ่งอยู่กลางห้อง
วาห์นไม่คิดว่ามันจะออกจากห้องไปง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงต้องลงมือทำอะไรบางอย่างแล้ว
เขาสวมใส่ธนูและให้พี่สาวซื้อลูกศรที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสามารถซื้อได้ในตอนนี้
หลังจากนั้นไม่นาน ลูกศรสีดำที่ชื่อว่า [อี้] ซึ่งมีมูลค่าถึง 10,000 OP ก็ปรากฏขึ้นภายในช่องเก็บของของเขา
วาห์นจับคันธนูและเริ่มผสานมานาเข้าไปในตัวลูกศรแบบเต็มกำลัง
มันค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีทองอบอุ่นคล้ายกับแสงแดดพร้อมกับมีรูปดวงอาทิตย์สิบลูกปรากฏขึ้นมาตรงก้านลูกศร
ขณะที่วาห์นส่งพลังเข้าไปในลูกศรมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงอาทิตย์ก็เริ่มกลายเป็นสีดำอย่างช้าๆ
ก่อนที่วาห์นจะทำให้ดวงอาทิตย์ดวงแรกกลายเป็นดำมืดได้ พลังของเข้าก็แทบหมดเกลี้ยง
เขายิงลูกศรออกไปขณะใช้สกิล [เสียงเพรียกแห่งยมทูต]
พอสกิลเริ่มทำงาน ลูกศรก็อยู่ในสภาพล่องหนขณะที่มันพุ่งไปยังหัวของจักเกอร์นอตอย่างเงียบเชียบ
วาห์นมองตามลูกศรไปขณะที่ความมืดยังคงรุกคืบเข้ามาในสายตาของเขา
ลูกศรพุ่งเข้าไปโดยที่มันไม่รู้สึกตัวแม้จะอยู่ห่างจากตัวมันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ช่วงก่อนที่ลูกศรจะเข้าปะทะ จักเกอร์นอตก็สัมผัสได้ถึงความตายแต่ก็ไม่อาจค้นหาที่มาได้ก่อนที่ลูกศรจะปะทะใบหน้าของมัน
พลังงานมหาศาลปะทุออกมาคล้ายกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็กก่อนจะยุบตัวกลายเป็นหลุมแรงโน้มถ่วงที่ดูราวกับจะดูดกลืนทุกสิ่งที่อยู่โดยรอบ
จักเกอร์นอตกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับพยายามหนีออกจากแรงดึงดูดของ ‘หลุมดำ’ ขนาดเล็ก
สัมผัสกิ่งก้านหายไปในทันทีและวาห์นก็พุ่งออกมาจากรอยแยก
จักเกอร์นอตมองเห็นเหยื่อยของมันและมันรู้ทันทีว่าเขาเป็นต้นเหตุอย่างแน่นอน
มันกรีดร้องเสียงแหลมจนทำให้วาห์นลงไปทรุดกับพื้นก่อนจะรีบพยุงตัวขึ้นมาในอีกไม่กี่อึดใจ
จักเกอร์นอตยังคงพยายามหลบหนีออกจากผลของลูกศรที่ดูเหมือนจะกำลังบิดเบือนมิติโดยรอบและส่งผลให้ร่างกายของมันดูเหมือนภาพที่บิดเบี้ยว
วาห์นพบว่าแม้มันจะขยับไม่ได้ แต่ก็มีเพียงส่วนเล็กๆ ของร่างกายมันเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายจริงๆ
เขาไม่สามารถยืนรอดูผลลัพธ์ต่อไปได้เพราะถ้าหากมันไม่ถูกทำลาย คนที่จะตายก็คงจะเป็นเขาทันทีที่ผลของลูกศรหมดลง
วาห์นออกไปที่ทางเดินที่ใกล้ที่สุดและรีบมุ่งหน้าสู่ทางออก
เป็นที่รู้กันดีว่าจักเกอร์นอตจะเคลื่อนออกจากชั้นที่มันเกิดไม่ได้ ดังนั้นทางรอดเดียวของวาห์นก็คือหนีไปให้ถึงโซนปลอดภัย
มีเสียงกรีดร้องดังไล่หลังมาและดูเหมือนดันเจี้ยนจะได้รับผลกระทบจากเสียงนั่นเช่นกัน
กำแพงเริ่มแยกออกพร้อมกับฝูงมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวขึ้นมาขวางทางวาห์น
เข้าใช้ [จิตแห่งราชัน] ขั้นสูงสุดและอม [ถั่วเซียน] ไว้ในปาก จากนั้นเขาก็เริ่มบุกฝ่าเข้าไปในฝูงมอนสเตอร์ทันที
เพราะตอนนี้เขาอยู่ในร่างเสือขาว ความว่องไวของเขาจึงมีมากกว่าปกติและสามารถหลบหลีกมอนสเตอร์ส่วนใหญ่ได้โดยการกระโดดไปมาระหว่างกำแพง
ทันใดนั้น วาห์นก็รู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากพื้นของดันเจี้ยนซึ่งทำให้ทั้งเขาและมอนสเตอร์ขยับไม่ได้
ทั้งคนทั้งมอนสเตอร์ต่างทรุดลงไปกับพื้น แต่วาห์นฟื้นตัวได้ก่อนและเร่งฝีเท้าขึ้นอีก
เขารู้ว่าจักเกอร์นอตคงหลุดออกมาแล้วและเขาก็ยังไปไม่ถึงไหนเลย
เขาเพิ่งหนีจากมันมาได้ไม่ถึงนาทีเลย และแม้ว่าเขาจะใช้ความเร็วสูงสุดแต่อีกไม่นานมันก็คงไล่ตามมาทัน
วาห์นรีบมองไปที่บันทึกภารกิจและพบว่าเขาใช้จ่ายไปแล้ว 99,700/100,000 OP
เหลืออีก 300OP ก่อนที่ภารกิจจะล้มเหลวโดยอัตโนมัติแล้วเขาก็จะสูญเสียการเข้าถึงระบบร้านค้าเป็นเวลาหนึ่งปี
วาห์นกัดฟันและพยายามดิ้นรนระหว่างความคิดที่จะซื้อลูกศร [อี้] เพื่อซื้อเวลาหรือควรจะปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาและลองซื้ออุปกรณ์สวมใส่ที่แข็งแกร่งขึ้น
ทันใดนั้นความคิดของเขาก็หยุดชะงักเนื่องจากเกิดเสียงปะทะอันรุนแรงจากด้านหลังของเขา
เมื่อมองไปข้างหลัง วาห์นก็เห็นใบหน้าของจักเกอร์นอตที่หายไปครึ่งหนึ่งขณะที่มันจ้องไปหาวาห์นด้วยสายตาเกลียดชังแบบสุดๆ
แม้มันจะบาดเจ็บหนัก แต่ความเร็วของมันก็ไม่ได้ตกลงเลย
วาห์นไม่เหลือเวลาให้คิดอีกแล้ว
แม้ว่าเขาอยากจะซื้อไอเท็มแต่มันก็คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในตอนนี้ได้มากนัก
เขาใช้ตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่และกระโจนออกไปหาจักเกอร์นอต
จักเกอร์นอตแปลกใจที่เห็นเหยื่อเริ่มเปิดฉากโจมตีก่อนและทำให้มันลังเลเล็กน้อย
ความทรงจำของจากโจมตีเมื่อครู่ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวและมันก็คิดว่าเหยื่อตัวเล็กนี่อาจจะมีลูกเล่นอื่นซ่อนอยู่อีก
จักเกอร์นอตใช้กำแพงเป็นฐานเพื่อหมุนตัวอย่างรวดเร็วและฟาดหางที่เหมือนกับแซ่ไปทางวาห์น
วาห์นนำ [ความทรนงแห่งราชสีห์] ออกมาและฟันสวนขณะที่เขาพยายามไถลไปกับพื้นเพื่อหลบการโจมตี
ในตอนที่คมดาบสัมผัสกับหางนั้น มันตัดลึกเข้าไปได้หลายเซนติเมตรก่อนที่จะถูกหางรวบและกระชากออกจากมือของวาห์น
หางที่เร็วราวกับสายลมได้ทิ้งบาดแผลมากมายไว้บนแขนของวาห์น และร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นร่างเต่าดำขณะที่บาดแผลค่อยๆ สมานกัน
วาห์นรีบเก็บดาบคดงอที่ปักอยู่ในผนังดันเจี้ยนออกมาด้วยพลังเขตแดนแบบไม่หันไปมอง
เขายังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องขณะที่จักเกอร์นอตก็ไล่หลังมาและพยายามบดขยี้เป้าหมายที่กำลังหนี
หลังจากที่วาห์นตัดหางของมันไม่สำเร็จ จักเกอร์นอตก็เชื่อว่าเหยื่อคงสู้ต่อไปไม่ไหวแล้วและเริ่มโจมตีใส่อย่างไม่ลังเล
วาห์นสัมผัสได้ถึงความตายมาจากด้านบนขณะที่มีเงามาบดบังตำแหน่งที่เขาอยู่
เขากระโดดและบิดตัวกลางอากาศขณะกอดแขนทั้งสองข้างที่ตอนนี้ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำ
กรงเล็บที่ยาวคล้ายหอกของจักเกอร์นอตปะทะกับการป้องกันของวาห์นจนกระดูกแขนทั้งสองข้างของเขานั้นร้าวไปหมด
กรงเล็บข้างหนึ่งของมันได้เจาะผ่านการป้องกันเข้ามาและแทงทะลุปอดซ้ายกับกระดูกซี่โคร่งของเขาไปหลายซี่
แรงโจมตีของมันทำให้วาห์นกระเด็นไปทางตำแหน่งที่เขาเล็งไว้ก่อนก่อนหน้านี้
จักเกอร์นอตรู้ตัวแล้วว่าเขาต้องการทำอะไรและกรีดร้องออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้ามาหาวาห์น
วาห์นใช้พละกำลังที่เหลืออยู่ยกแขนทั้งสองข้างไปทางจักเกอร์นอต
เขาชูนิ้วกลางขึ้นขณะกล่าวคำพูดออกจากปากที่เต็มไปด้วยเลือด
“ไปตายซะ”
หลังแจกของขวัญอำลาเสร็จแล้ว วาห์นก็ทิ้งตัวลงไปในหลุมด้านหลังของเขา (TL: หลุมที่วาห์นพบตอนฆ่าดันเจี้ยนเวิร์ม)
เขาตกลงไปในความมืดและมองเห็นจักเกอร์นอตหยุดอยู่กับที่และไม่อาจไล่ตามเขาลงมาได้
มันกรีดร้องออกมาสุดเสียงและเริ่มขว้างก้อนหินไปทางวาห์นผู้ที่กำลังตกลงไปยังชั้น 14 อย่างรวดเร็ว
วาห์นเคี้ยว [ถั่วเซียน] ที่เขาเก็บไว้ในปากและพยายามปัดหินออกไปในขณะที่บาดแผลเริ่มหายอย่างรวดเร็ว
การปะทะกับหินแต่ละครั้งนั้นราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบใส่โดยวาห์นต้องใช้ร่างกายที่เสริมพลังป้องกันเข้ามารับแรงกระแทก
เขารู้สึกว่ากระดูกที่เพิ่งหายดีเริ่มแตกหักอีกครั้งขณะที่แสงสีแดงสดเริ่มปรากฏขึ้นจากรอยแตกภายในร่างของเขา
ความร้อนพุ่งสูงขึ้นภายในตัวของวาห์นและเขารู้สึกได้ถึง ‘เพลิงนิรันดร์’ ภายในอกที่กำลังกำลังกระโดดโลดเต้นอย่างลุ้นระทึก
ขณะที่เขายังคงตกลงไปเรื่อยๆ หินก้อนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าก้อนอื่นๆ ก็พุ่งมาทางเขาด้วยความเร็วสูง
ถึงวาห์นจะปัดป้องมันออกไปได้ แต่เขาก็คงถูกมันบดขยี้ในทันทีที่หินตกลงถึงพื้นข้างล่าง
แทนที่จะป้องกันตัวเองอย่างเดียว วาห์นชกหมัดด้วยพลังทั้งหมดที่มีใส่หินขนาดยักษ์
ช่วงเวลาที่ปะทะกันนั้นดูเหมือนจะส่งผลรอยแตกบนผิวหนังของวาห์น
แขนของเขารู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดออกขณะที่เพลิงสีแดงสดเริ่มแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา
คลื่นกระแทกอย่างรุนแรงพุ่งผ่านเข้าไปทางก้อนหินก่อนที่มันจะแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เมื่อเห็นว่าการโจมตีครั้งสุดท้ายล้มเหลว จักเกอร์นอตก็กรีดร้องเสียงดังไปทางเด็กหนุ่มที่รอดพ้นไปจากเงื้อมมือของมัน
ในขณะที่เดียวกันนั้นเอง วาห์นก็รู้สึกงุนงงขณะมองไปยังร่างของตนที่ยังคงเกิดการเผาไหม้อย่างรุนแรงถึงขั้นที่ทำให้อุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
เปลวเพลิงคล้ายขนนกได้โผล่ออกมาจากรอยแตกบนร่างของเขาและปลดปล่อยความร้อนมหาศาลจนกำแพงรอบตัวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
วาห์นบิดร่างของตนเพื่อมองดูพื้นที่กำลังใกล้เข้ามา
แม้จะมีหินก้อนเล็กๆ มากมายที่ตกไล่หลังมา แต่ตอนนี้พวกมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เพราะเขาพุ่งตกลงมาสักพักหนึ่งแล้ว ตอนนี้ความเร็วของวาห์นได้มาถึงจุดที่อันตรายมาก
หากตกถึงพื้นด้วยความเร็วขนาดนี้ล่ะก็ได้กลายเป็นกล้วยทับแน่นอน
วาห์นเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนพร้อมกับยื่นแขนทั้งสองข้างไปทางพื้นดินที่กำลังใกล้เข้ามา
ขนนกเพลิงตอบสนองต่อเจตจำนงของเขาและเปลวเพลิงจำนวนมากก็เริ่มปะทุออกมาจากฝ่ามือของวาห์น
พลังที่ปล่อยออกมาดูคล้ายกับเสาเพลิงขนาดใหญ่ที่เริ่มหลอมละลายผิวหน้าของพื้นดันเจี้ยนอย่างรวดเร็ว
วาห์นยังคงปล่อยเพลิงออกมาต้านความเร็วจนกระทั่งร่างของเขาตกลงไปบ่อหินที่เกิดจากการหลอมละลาย
บ่อหินนั้นร้อนระอุและสว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ จนหินเหลวที่มีสีเหลืองส้มกลายเป็นสีแดงเข้ม
ขณะที่ประกายสีแดงเข้มเคลื่อนตัวไปทางขอบของสระ ความร้อนก็เริ่มกระจายไปยังหินโดยรอบก่อนจะมีบางอย่างโผล่ออกมาจากพื้นผิวของบ่อ
วาห์นเดินออกมาจากหินหลอมละลายด้วยสภาพเปลือยเปล่าพร้อมกับเผยสีหน้าโล่งอก
เขามองขึ้นไปยังปากหลุมที่เขาเพิ่งจะตกลงมา
“สักวันหนึ่ง ฉันจะล้มแกกับคนที่สร้างแกขึ้นมา ฉันจะเผาไอ้ดันเจี้ยนบ้าๆ นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง ฉันจะเผามันให้หมดเลย!!”
เมื่อกล่าวเสร็จ วาห์นก็หันหลังกลับและเริ่มเดินลึกเข้าไปในชั้นที่ 14
เขาต้องเดินต่อไปประมาณ 10 ก้าวก่อนที่เปลวเพลิงบนร่างจะดับลงพร้อมกับหมดสติไปบนพื้นดันเจี้ยนโดยที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้นเลย
(TL: ชื่อตอนสำรอง: ‘จักรพรรดิแห่งเพลิง’, ‘เกือบไม่รอดไปหลายรอบมาก’, ‘ดับดวงอาทิตย์ : [อี้]’,‘เฮเฟสตัสผู้น่าสงสาร’)
—————