Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 89
เมื่อเห็นการแจ้งเตือน วาห์นก็ค่อนข้างตื่นเต้น
ไวเวิร์นนั้นแตกต่างจากโคโบลด์ที่อ่อนแอเกินกว่าจะเอามาใช้สอยได้
มันคือมอนสเตอร์ที่แข็งแก่งที่สุดในชั้นนี้จนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นมินิบอสและมักจะอยู่ในอาณาเขตที่เป็นของมันเอง
วาห์นไม่คาดคิดเลยว่ามันจะยอมจำนนเพราะธรรมชาติของไวเวิร์นนั้นเป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้ายและหยิ่งทะนงมาก
เพราะเขาไม่เคยมีลูกน้องนอกไปจาก ‘เพลิงนิรันดร์’ วาห์นจึงสงสัยมากว่ามันจะทำประโยชน์อะไรให้เขาได้บ้าง
เขาเลิกลังเลและยอมรับมันเป็นลูกน้องพร้อมกับที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนมากมาย
//(ไร้นาม) กลายเป็นลูกน้องของคุณแล้ว ปลดล็อคระบบ ‘จัดการยูนิต’//
[ยูนิตปัจจุบัน] [เปิดใช้งาน: 2] [ปิดใช้งาน: 1]
[ยูนิตที่ใช้งานอยู่]: (เพลิงนิรันดร์), (ไร้นาม)
[ยูนิตที่ปิดใช้งาน] :(ไร้นาม)
หลังจากได้เห็นการแจ้งเตือน วาห์นก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าเขามีลูกน้องอยู่ด้วยกันสามยูนิต
เท่าที่เขารู้ สิ่งมีชีวิตที่เขารับมาเป็นลูกน้องก็มีไวเวิร์นและเพลิงนิรันดร์
การที่มี (ไร้นาม) อยู่สองชื่อภายในระบบได้สร้างความสับสนให้กับวาห์นมาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจดูข้อมูลของเพิ่มเติม
————————————————————————————–
(ไร้นาม)
อายุ: 4 วัน
เผ่าพันธุ์: ไวเวิร์น (เยาว์วัย: 4 เมตร)
เลเวล: 2
ความภักดี: 72
ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ระดับ 0 (สิ่งมีชีวิตจากมานา)
กรรม: –
สถานะ: [เปิดใช้งาน]
————————————————————————————–
(ไร้นาม)
อายุ: 2 เดือน 2 สัปดาห์ 3 วัน
เผ่าพันธุ์: โคโบลด์
เลเวล: 1
ความภักดี: 84
ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ระดับ 0 (สิ่งมีชีวิตจากมานา)
กรรม: –
สถานะ: [ปิดใช้งาน]
————————————————————————————–
(เพลิงนิรันดร์)
อายุ: เก่าแก่
เผ่าพันธุ์: วิญญาณของพลังศักดิ์สิทธิ์
เลเวล: –
ความภักดี: 100
ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ระดับ 4 (วิญญาณศักดิ์สิทธิ์)
กรรม: –
สถานะ: [เปิดใช้งาน]:
————————————————————————————–
วาห์นสับสนกว่าเดิมหลังจากที่อ่านคำอธิบายของลูกน้องตัวเอง
ตามที่แสดงในระบบ เขาได้รับโคโบลด์จากตอนที่ทดลองใช้ [จิตแห่งราชัน] ใส่มันเข้ามาเป็นลูกน้องด้วย
จากที่วาห์นพอจำได้นั้นมันก็น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทำไมข้อมูลของมันถึงยังอยู่ล่ะ?
ความคิดแล่นผ่านเข้ามาในหัว และเขาก็เริ่มค้นหาไอเท็มที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ภายในมือของเขาปรากฏเป็นคริสตัลที่ได้มาจากโคโบลด์ตัวนั้น
มันแตกต่างไปจากแกนคริสตัลปกติซึ่งจะแสดงเฉพาะระดับและรายละเอียดว่าได้มันมาจากไหน
คริสตัลก้อนนี้ตรงกับสิ่งที่ระบุอยู่ในหน้าต่างยูนิตของเขา
วาห์นสงสัยว่าการปิดใช้งานมันหมายถึงอะไรกันแน่ แต่พอเขาเริ่มคิดหนัก แกนคริสตัลในมือของเขาก็เริ่มเปล่งประกายขึ้นทีละน้อย
วาห์นลองส่งพลังงานของเขาเข้าไปในคริสตัลและมันก็เริ่มร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
คริสตัลนั้นขยายตัวอย่างช้าๆ พร้อมกับมีควันสายรุ้งแปลกๆ ก่อตัวอยู่รอบๆ จนกระทั่งมันเริ่มมีรูปร่างคล้ายโคโบลด์ที่กำลังคุกเข่าอยู่
ภายในแผนที่ของเขา วาห์นเห็นพิกัดสามอันซึ่งประกอบไปด้วยตัวเขาเองและ (ไร้นาม) อีกสองตัว
เมื่อมองไปมาระหว่างทั้งสอง วาห์นก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น หากสมมติฐานของเขาถูกต้อง…
วาห์นยื่นมือออกไปหาไวเวิร์นที่กำลังจ้องมองเขาและออกคำสั่งในใจให้มัน [ปิดใช้งาน]
เมื่อออกคำสั่งในใจเสร็จแล้ว เจ้าไวเวิร์นก็ทรุดตัวลงกับพื้นและเริ่มสลายกลายเป็นฝุ่นผงสีสายรุ้งที่มีสีดำแซมอยู่ด้วย
ในที่ที่ไวเวิร์นเคยอยู่กลับมีแกนคริสตัลขนาดกลางวางอยู่แทน
เมื่อวาห์นหยิบมันขึ้นมาดู คริสตัลก้อนนี้ก็ถูกระบุว่าคือ (ไร้นาม) [ปิดใช้งาน]
วาห์นไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นเอาไว้ได้และเริ่มหัวเราะออกมาขณะถือคริสตัลไว้ในมือ
โคโบลด์จ้องมองเขาด้วยสีหน้าอดทนราวกับว่ามันกำลังรอคำสั่งของเขาอยู่
หากวาห์นรู้ว่าในตอนนั้น เจ้าโคโบลด์ยอมมาเป็นลูกน้องและแปลงร่างตัวเองให้เป็นคริสตัลเพื่อลดความกังวลของเขา เขาก็คงจะยอมรับมันไปนานแล้ว
ที่จริงเขารู้สึกแย่นิดหน่อย แต่ก็ยังเชื่อว่ามันอ่อนแอเกินกว่าจะมีประโยชน์อยู่ดี
หลังจากลูบหัวที่เหมือนสุนัขของมันไปครู่หนึ่ง วาห์นก็เปลี่ยนให้มันกลับสู่สถานะ [ปิดใช้งาน] และเปิดใช้งานไวเวิร์นอีกครั้ง
หลังจากที่ไวเวิร์นออก วาห์นก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยจากการสูญเสียพลังงาน
เขาคิดคร่าวๆ ว่าในขณะที่การนำบางสิ่งเข้าสู่สถานะปิดใช้งานนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การนำพวกมันออกมาใหม่คงจะใช้พลังงานมากกว่าเดิมหลายเท่า
ตอนแรกเขายังไม่รู้เรื่องนี้เพราะพลังที่ใช้เรียกโคโบลด์ออกมานั้นเทียบกับการเรียกไวเวิร์นไม่ได้เลย
วาห์นนั่งพักอยู่บนพื้นเพื่อฟื้นฟูพลังงานในขณะที่มองเข้าไปในดวงตาอันแจ่มชัดของไวเวิร์นซึ่งดูแตกต่างไปจากดวงตาที่ดุร้ายของมอนสเตอร์ทั่วไปมาก
เจ้าไวเวิร์นนั้นมีดวงตามีสีฟ้าอ่อนที่ดูนิ่งสงบ
มันแปลกมากที่เห็นมอนสเตอร์อยู่ใกล้ชิดติดขอบจอและยืนจ้องเขาอย่างอดทน
ในตอนที่วาห์นกำลังฟื้นพลัง เขาตัดสินใจลองออกคำสั่งไปยังไวเวิร์น
เขาออกคำสั่งในใจ และดูเมื่อไวเวิร์นก็กำลังทำความเข้าใจกับ ‘คำสั่ง’ ก่อนที่มันจะเริ่มหมุนตัวเป็นวงกลม
เมื่อเห็นการกระทำที่ ‘ติ๊งต๊อง’ ของมัน วาห์นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
เขาสั่งให้มันวิ่งไล่หางของตัวเองเหมือนสุนัขและหลังจากได้รับคำสั่งทางจิตแล้วมันก็เริ่มทำตามทันที
การเฝ้าดูมังกรสีชมพูยาว 4 เมตรหมุนตัวเป็นวงกลมนั้นสนุกจนน่าเชื่อ โดยเฉพาะหากนำมาเทียบกับกับพฤติกรรมแบบปกติของมัน
เมื่อวาห์นกำลังพิจารณาขอบเขตการเชื่อฟังของไวเวิร์น ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เกิดความลังเลก่อนจะส่ง ‘คำสั่ง’ ใหม่ออกไป
เป็นอีกครั้งที่ไวเวิร์นดูเหมือนจะหยุดเพื่อทำความเข้าใจกับคำสั่ง ครู่ต่อมา มันก็เปิดปากของมันออกและงับอย่างรุนแรงเข้าไปในแขนของตัวเอง
มันเริ่มคว้านเนื้อตัวเองออกขณะที่วาห์นตื่นตกใจและรีบสั่งให้มันหยุด
วาห์นพบว่าค่าความภักดีของไวเวิร์นนั้นลดลงไปเล็กน้อยแถมยังทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกทุบหน้าอก
ดูเหมือนว่าตราบใดที่ค่าความภักดีสูงพอ ผู้ที่เป็นลูกน้องของเขาจะปฏิบัติตามคำสั่งทุกอย่างรวมไปถึงการสร้างความเสียหายให้กับตัวเองด้วย
ขณะที่มันยืนเลือดไหลอยู่ตรงนั่น วาห์นก็ตระหนักถึงบางอย่าง
ไวเวิร์นตัวนี้ต่างจากมอนสเตอร์อื่นๆ ที่เขาเคยเห็นในดันเจี้ยนเพราะดูเหมือนมันจะสูญเสียคุณสมบัติในการฟื้นฟูตัวเองไปแล้ว
หลังจากสอบถามพี่สาว เธอก็สันนิษฐานว่าตอนนี้มันคงถูกแยกออกจากตัวดันเจี้ยนไปอย่างถาวร
หากไม่สามารถเข้าถึงพลังงานของดันเจี้ยน มันก็จะไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อีก
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเธอ วาห์นจึงยิ่งรู้สึกผิดกว่าเดิมและเริ่มรักษาบาดแผลให้กับไวเวิร์น
พอทำแบบนั้น วาห์นก็สังเกตเห็นว่าความภักดีของมันก็เพิ่มกลับขึ้นมาหน่อยแต่ก็ไม่ได้เพิ่มจนมีค่าเท่าเดิม
เมื่อเขาสั่งให้มันทำร้ายตัวเอง ค่าความภักดีของมันก็ลดลงมาจาก 72 เหลือเพียง 60 แต่ตอนนี้ได้เพิ่มมาอีกเป็น 63 แต้ม
วาห์นเข้าใจว่าวิธีที่เขาปฏิบัติกับพวกมันนั้นมีความสำคัญและเนื่องจากพวกมันยินดีที่จะติดตามเขาแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะดูแลพวกมันให้ดี
วาห์นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามขึ้น
(“พี่สาว พวกมันต้องทานอาหารอะไรด้วยหรือเปล่า? ผมรู้ว่ามอนสเตอร์ชอบกินนักผจญภัยกับคริสตัลที่ห้องแหล่งอาหาร แต่ว่าเจ้าสองตัวนี้ล่ะ? ผมได้รับโคโบลด์ตัวนี้มาหลายเดือนแล้วงั้นแสดงว่าถ้าอยู่ในรูปคริสตัลก็คงไม่เป็นไร…”)
(*เธอควรจะให้พลังงานกับพวกมันเหมือนกับที่ดันเจี้ยนทำนะ ตราบใดที่พวกมันอยู่ในเขตแดนของเธอ เธอก็น่าจะสามารถส่งพลังงานไปที่พวกมันได้โดยตรง หรือไม่ก็ส่งพลังงานไปที่แกนคริสตัลขณะที่ไม่ได้เปิดใช้งานพวกมัน ถ้าไม่ได้ถูกฆ่า เธอก็น่าจะคืนร่างให้พวกมันกี่ครั้งก็ได้ตามต้องการ*)
วาห์นพยักหน้าอย่างเข้าใจ
มันฟังดูมีเหตุผลเพราะเขาเป็นตัวการที่แยกพวกมันออกมาจากดันเจี้ยน ดังนั้นเขาก็ต้องเป็นคนส่งพลังงานให้พวกมันแทน
หลังจากเริ่มเข้าใจแล้ว วาห์นก็คิดอะไรออก
แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดมาจากพลังเวท แต่ตามหลักแล้วพวกมันก็ยังถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต
พวกมันต้องกิน ย่อยอาหาร และขับถ่ายเหมือนกับสัตว์ทั่วไป
วาห์นคิดว่าเขาน่าจะใช้สกิล [โพรมีธีอุส] และเพิ่มพลังให้กับไวเวิร์นได้ แต่ก่อนอื่นเขาต้องยืนยันอะไรบางอย่างก่อน
เพราะได้พักไปบ้างแล้ว พลังของวาห์นจึงเริ่มฟื้นคืนมาอีกครั้ง
เขาลุกขึ้นยืนและให้ไวเวิร์นตามมาจนกระทั่งไปพบกับห้องที่มีศัตรู
ในนั้นมีมิโนทอร์กลุ่มเล็กๆ อยู่ห้าตัว ซึ่งพอวาห์นกับไวเวิร์นเข้าไปในห้อง พวกมันก็เข้าโจมตีทันที
ตอนแรกวาห์นรู้สึกแปลกใจเพราะเขายังคงใช้สกิลอำพรางตัวอยู่และไม่คิดว่าพวกมันจะไหวตัวได้เร็วขนาดนี้
(*สกิล [อำพรางตัว] แม้ว่าจะนำมาผสานกับเขตแดนได้ แต่ผลของมันก็จะแสดงเฉพาะกับตัวผู้ใช้เท่านั้น มันจะไม่ส่งผลกับสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ในเขตแดนของด้วย ไม่งั้นทุกอย่างที่อยู่ในเขตแดนก็จะอยู่ภายใต้สถานะ ‘อำพรางตัว’ รวมไปถึงคนที่บังเอิญเดินผ่านเข้ามาด้วย*)
เมื่อได้ยินคำพูดของพี่สาวแล้ว วาห์นจึงรู้สึกเซ็งที่เขาไม่สามารถเดินไปมาแบบสบายๆ ขณะที่มีไวเวิร์นอยู่ข้างกายได้
ตอนที่เขากำลังคิดอยู่นั้น ไวเวิร์นก็เริ่มเข้าต่อกรกับพวกมอนสเตอร์ตามคำสั่งที่เขาให้ไว้
วาห์นได้สั่งให้มันโจมตีมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น
แม้ว่าไวเวิร์นจะยังไม่โตเต็มที่ดีนัก แต่มันก็ยังแกร่งกว่าพวกมิโนทอร์อยู่ดี
เมื่อพวกมันเข้ามาในระยะ ไวเวิร์นเริ่มพ่นไฟออกไปและย่างสดพวกมัน
ถึงพวกมันจะที่คุณสมบัติต้านทานไฟแต่ก็ทำให้การเคลื่อนไหวช้าลงเยอะ
พอพวกมันเข้ามาใกล้ขึ้นอีก ไวเวิร์นก็หยุดการพ่นไฟและใช้หางฟาดใส่มิโนทอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
ทันทีที่มิโนทอร์กลายเป็นฝุ่นผง วาห์นจึงยิ้มออกมาเมื่อเห็นการแจ้งเตือนใจหัว
//(นิรนาม) ได้สังหารมิโนทอร์: เลเวล 2, ได้รับ 9 OP//
วาห์นรู้สึกตื่นเต้นสุดขีดเพราะไม่เพียงแต่เขาจะได้รับ OP แต่เมื่อไวเวิร์นสังหารมิโนทอร์นั้น เขาก็ยังได้รับเอ็กซีเลียอีกด้วย
เนื่องจากตอนนี้ค่าพลังเวทของเขาเพิ่มขึ้นมา 1 จุดแล้ว
ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถเพิ่มค่าสถานะได้โดยให้ลูกน้องออกไปสู้แทน
ส่วนที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการที่วาห์นยังคงสามารถแลกเปลี่ยนคริสตัลของมิโนทอร์และได้รับ OP กลับมาในจำนวนเท่าเดิม
นี่ก็หมายความว่าหากเขาทำให้ไวเวิร์นแข็งแกร่งกว่านี้ มันก็จะเพิ่มรายได้โดยรวมของเขาขึ้นไปอีกมาก
วาห์นเข้าร่วมการต่อสู้เคียงข้างไวเวิร์นและสร้างความเสียหายให้มิโนทอร์ที่เหลืออยู่ด้วยความปิติยินดี
เมื่อพวกมิโนทอร์เคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว เขาก็ปล่อยให้ไวเวิร์นปิดฉากพวกมันและสังเกตเห็นว่าปริมาณของ OP ได้รับนั้นลดลงเล็กน้อย
เขาพอจะสรุปได้ว่าจำนวน OP คงจะขึ้นอยู่กับความพยายามของตัวไวเวิร์นเอง
หลังจากแลกคริสตัลเข้าร้านค้า วาห์นก็หันไปยิ้มให้กับสหายคนใหม่และตัดสินใจที่จะตั้งชื่อให้กับมัน
เนื่องจากมันมีเกล็ดสีชมพูและดวงตาสีฟ้า วาห์นจึงอยากตั้งชื่อให้มันว่า ‘บลิงกี้’ แต่ขนาดพี่สาวเองยังต้องถอนหายใจแรงๆ เมื่อได้ยินความคิดนี้
(TL: บลิงกี้คือหนึ่งในผีที่อยู่ในเกมแพคแมนครับ มีตัวสีชมพูและตาสีฟ้าเช่นกัน)
วาห์นรู้สึกเขินๆ และกระแอมออกมาก่อนจะถาม
(“มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนี่นา? ผมว่ามันน่ารักดีออก…”)
เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่พี่สาวจะตอบ
(*นี่ไวเวิร์นนะวาห์น ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงในลังกระดาษที่เก็บจากข้างทาง ถ้าคนอื่นได้ยินเธอเรียกมันว่าบลิงกี้ พวกเขาก็จะหัวเราะเยาะเธอและดูถูกมันแทน*)
คำตอบนั่นทำให้วาห์นรู้สึกกังวล
แม้ว่าเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะเห็นเขาเป็นตัวตลก แต่เขาไม่อยากให้ใครมาดูถูกสหายของตัวเอง
หลังจากใคร่ครวญอีกสองสามนาที วาห์นก็รู้แล้วว่าตัวเองเป็นคนที่คิดชื่อได้ห่วยแตกมาก ดังนั้นเขาจึงขอให้พี่สาวช่วยคิดให้แทน
พี่สาวไม่ได้ตอบแบบตรงๆ แต่เธอแสดงรายชื่อขึ้นมาในหัวของวาห์น
ทุกๆ ชื่อดูแฝงไปด้วยพลังมากและวาห์นก็จำบางชื่อได้จากเหล่าหนังสือที่เขาอ่านนับตั้งแต่เดินทางมาถึงโลกใบนี้
วาห์นดูผ่านๆ และไปเจอชื่อของ ‘มังกร’ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในตัวที่ทรงพลังที่สุดบนโลกในนี้
พอดูข้อมูลเพิ่มเติมก็เห็นว่ามันมีรูปร่างคล้ายกับไวเวิร์นมากแถมพวกมันทั้งคู่ต่างก็พ่นไฟได้และมีเกล็ดโทนสีเดียวกัน
วาห์นมองไปที่ไวเวิร์นและวางมือลงบนหน้าผากของมันซึ่งคล้ายกับตอนที่ทำให้กับพยัคฆ์ขาว
เมื่อมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าสีฟ้าของมัน วาห์นจึงพูดขึ้น
“ฟาฟเนียร์”
พอคำพูดนั้นออกจากริมฝีปากของเขา วาห์นก็รู้สึกได้ถึงพลังงานที่รั่วไหลออกจากร่างขณะที่ระบบแจ้งเตือนว่าชื่อของไวเวิร์นได้เปลี่ยนไปแล้ว
ไวเวิร์น ‘ฟาฟเนียร์’ ดูพอใจกับชื่อใหม่มากและโห่ร้องออกมาจนเพทานสั่นสะเทือนไปหมด
ร่างกายของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นขณะที่แสงสีรุ้งเริ่มสาดส่องออกมาจากตัวมัน
วาห์นสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงเปิดดูหน้าต่างแสดงผลและพบการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เขาไม่ได้คาดคิด
————————————————————————————–
(ฟาฟเนียร์)
อายุ: 4 วัน
เผ่าพันธุ์: มังกร (เยาว์วัย: 6 เมตร)
เลเวล: 3
ความภักดี: 90
ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ระดับ 1 (อสูรรับใช้มีชื่อ)
กรรม: –
สถานะ: [เปิดใช้งาน]:
————————————————————————————–
หลังจากตั้งชื่อไวเวิร์นเสร็จแล้ว เผ่าพันธุ์ของมันก็กลายเป็น ‘มังกร’ และเลเวลของมันเพิ่มขึ้นจาก 2 เป็น 3
ในขณะที่วาห์นเฝ้าดูวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของมัน เขาก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากฟาฟเนียร์
แม้ตอนแรกเขาจะมองข้ามไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่ในส่วนของสกิลตรงตารางสถานะของวาห์นนั้นได้มีสิ่งใหม่เพิ่มขึ้นมาเช่นกัน
ในขณะที่เขาอ่านคำอธิบาย วาห์นก็รู้สึกชาเหมือนถูกไฟดูดก่อนที่ความตื่นเต้นจะทำให้ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนไปหมด
[ผู้ดูแลบันทึกแห่งนภา]
ระดับ: [สกิลแฝง: B] *สกิลแฝงนั้นไม่สามารถทำการระบุได้ ความพยายามที่จะระบุมันจะส่งผลให้เกิดแรงโต้กลับ*
[ติดตัว]: ทำให้ผู้ใช้เข้าใจต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง ถูกจำกัดโดยความรู้ของผู้ใช้ ส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทางจิต
[ใช้งาน]: ทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อให้กับสิ่งที่ยังไม่มีชื่อ การใส่ชื่อลงไปในบันทึกแห่งนภาจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเจ้าของชื่อ ไม่สามารถทำการบันทึกชื่อซ้ำได้ และการกระทำดังกล่าวจะส่งผลให้สิ่งที่ใช้ชื่อนี้อยู่ก่อนเสียชีวิตหรือถูกทำลาย เวลาคูลดาวน์สกิล: 59 วัน 23 ชั่วโมง 58 นาที
[ชื่อปัจจุบัน]
[ฟาฟเนียร์] มังกรดำผู้แข็งแกร่งและมีสติปัญญาอันน่าทึ่งพร้อมความต้านทานการโจมตีด้วยเวทมนตร์แบบสมบูรณ์ จะอยู่ในสภาพอ่อนแอเมื่อต่อสู้กับผู้ที่มีวิญญาณ ‘วีรชน’ หรือมีหัวใจที่เที่ยงธรรม เหล่าผู้ที่ใช้ชื่อนี้มักจะมีชะตากรรมที่แสนเศร้าเว้นแต่จะไม่เลือกเดินอยู่บนเส้นทางของความชั่วร้าย