Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล - ตอนที่ 91.2
หลังจากการพูดคุยกันอีกเล็กน้อย สมาชิกโลกิแฟมิเลียส่วนใหญ่ก็ถอยกลับไปยังอีกฟากหนึ่งของห้องที่อยู่ใกล้กับบันได
เนื่องจากโกไลแอธจะโจมตีทุกอย่างในพื้นที่ พวกเขาจึงต้องรักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้โดนลูกหลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังเหลืออีกคนที่ยังอยู่ในพื้นที่และกำลังสนทนากับวาห์นอย่างออกรส
“งั้น~ นายคิดว่าจะล้มมันได้หรือเปล่า? ถ้าอยากจะให้ฉันช่วยก็ได้นะ”
ทีโอน่านั่งลงใกล้กับวาห์นขณะแกว่งเท้าไปมา
กำไลสีทองที่เท้าเริ่มส่งเสียงไพเราะออกมาขณะที่เธอฮัมเพลงเรื่อยเปื่อย
วาห์นพบว่าออร่าของเธอนั้นให้ความรู้สึกสบายเพราะมันดูอ่อนโยนราวกับแสงยามเช้าที่ประดับไปด้วยประกายสีชมพู
เขาส่ายหัวก่อนจะแสดงความมุ่งมั่นออกมาทางสีหน้าขณะตอบกลับ
“ฉันอยากลองสู้มันด้วยตัวเองดูก่อน ถ้ามายอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้คงจะรู้สึกเสียใจทีหลังแน่ๆ ที่จริงแล้วฉันไม่อยากให้แฟมิเลียของเธอมาอยู่ด้วยเลย เพราะแบบนี้มันทำให้ฉันหลงคิดไปว่าต่อให้ทำพลาดก็ยังมีคนพร้อมเข้ามาช่วยอยู่ดี”
เมื่อพูดจบเขาก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
ที่พูดไปไม่ใช่เรื่องโกหกเลยเพราะการปรากฏตัวของโลกิแฟมิเลียนั้นลดความตึงเครียดของเขาลงไปเยอะ
ทีโอน่าหัวเราะคิกคักขณะเอนตัวลงไปนอนบนพื้น
เธอจ้องมองวาห์นด้วยสีหน้าไร้เดียงสาและพึงพอใจ
“ฉันเชื่อว่าถึงพวกเราจะไม่ได้มานี่ นายก็ต้องทำได้ แค่ได้มาอยู่ตอนที่นายสร้างปาฏิหาริย์แบบนี้ก็ทำให้ฉันดีใจไปไหนต่อไปแล้ว~!”
ทีโอน่าพอมองออกว่าวาห์นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก
ถึงเขาจะอยู่ห่างจากจุดที่สามารถสู้กับโกไลแอธเพียงคนเดียวไปบ้างก็ตาม
ทว่าความเร็วในการเติบโตของเขาก็ทำให้เธอเชื่อว่าเขาต้องล้มมันลงได้แน่นอน
ผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์นับตั้งแต่ที่ได้สู้กัน แต่ตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว พูดได้ว่านั่นออกจะเป็นปาฏิหาริย์อีกอย่างหนึ่งเลย
เมื่อได้ยินคนอื่นมาพูดเกี่ยวกับตัวเองอย่างมั่นใจ โดยเฉพาะยิ่งเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าด้วยแล้ว วาห์นก็พบว่าความมั่นใจของเขากำลังพุ่งสูงขึ้นแบบเท่าทวีคูณ
เขาหลับตาลงและทำสมาธิเพื่อฟื้นฟูพลังงานที่เสียไปในตอนที่เรียกฟาฟเนียร์ออกมา
จากด้านขวา เขาได้ยินเสียงฮัมเพลงอย่างแผ่วเบาของทีโอน่าตั้งแต่ที่เธอหยุดชวนเขาคุย
แม้วาห์นกำลังหลับตาอยู่ แต่แค่ทีโอน่าได้เห็นสีหน้าจริงจังของเขาตอนนี้ก็รู้สึกพอใจแล้ว
—
สี่สิบนาทีต่อมา รอยแตกก็เริ่มปรากฏขึ้นบน ‘กำแพงแห่งความเศร้าโศก’
ทุกคนสังเกตเห็นมันพร้อมกันทันทีกับที่ทีโอน่าลุกขึ้นและรีบถอยกลับไปที่ประตู
ขณะที่วิ่งออกไป เธอก็หันไปหาวาห์นแล้วตะโกนขึ้น
“โชคดีนะวาห์น~! จัดมันให้หนักๆ เลย!!”
วาห์นซึ่งเริ่มทำหน้าจริงจังเกือบจะสะดุดล้มหลังได้ฟังคำพูดอันแสนตื่นเต้นของเธอ
เขาส่ายหัวและหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเริ่มปลดปล่อยเขตแดนออกมาและใช้ร่างพยัคฆ์ขาว
ขณะที่วาห์นกำลังกลายร่าง เหล่าสมาชิกของโลกิแฟมิเลียก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
ดวงตาของทีโอน่านั้นกำลังเปล่งประกายในขณะที่ไอส์แสดงสีหน้าจริงจัง
ริเวเรียมองมาทางแกเร็ธซึ่งเขาก็พยักหน้ารับก่อนที่เธอจะหันไปหาฟินน์
“เขาแข็งแกร่งขึ้นมากตั้งแต่ที่เราพบเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งออร่าและการกลายร่างนั่น พลังทุกอย่างของเขาเพิ่มขึ้นแบบไม่น่าเชื่อเลย”
พอริเวเรียพูดจบ ฟินน์ก็เผยรอยยิ้มแบบทึ่งๆ ขณะที่เลฟิย่า ไอส์ และทีโอน่าต่างเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของริเวเรีย
คนคนเดียวที่ดูจะไม่ค่อยประทับใจก็คือเบตเจ้าเก่าซึ่งกำลังคร่ำครวญอยู่ด้านข้างขณะเฝ้าดูการแปลงร่างของวาห์น
นอกจากนี้เขายังเห็นด้วยว่าความแข็งแกร่งของวาห์นกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจแต่เขาก็ยังไม่เปลี่ยนความคิดและเค้นเสียงออกมาเพื่อทำให้ทุกคนรู้สึกตัว
ทีโอเน่และทีโอน่าต่างมองเขาด้วยสีหน้าน่ารำคาญขณะที่คิ้วของไอส์ขยับขึ้นเล็กน้อย
วาห์นไม่ได้สนใจโลกิแฟมิเลียเพราะสายตาของเขากำลังจับจ้องไปยังรอยแตกที่กำลังขยายตัวขึ้น
เขาเฝ้าดูมันใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่เศษของกำแพงเริ่มร่วงลงจากพื้นเรื่อยๆ
วาห์นแอบเก็บบางส่วนใส่ลงในช่องเก็บของเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อในภายหลัง
หลังจากเก็บวัตถุดิบเสร็จแล้ว เขาก็ใช้ท่าร่างแบบลดตัวลงต่ำและเตรียมพร้อมเต็มที่
พลังงานที่เขาปล่อยออกมาทำให้ขนสีขาวสลับดำบนร่างกายตั้งชี้และสั่นไหวไปมา
ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของเขาเพ่งไปที่รอยแตกโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา
วาห์นปล่อยลมหายใจอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอขณะที่พื้นดินใต้เท้าเริ่มหลอมละลายจากพลังธาตุไฟที่เขาสะสมเอาไว้
ออร่าจากเขตแดนของเขาซึ่งเคยเป็นสีทอง บัดนี้มันกลายเป็นการผสมกันระหว่างสีทองและสีแดงสดใส
จากด้านข้าง เหล่าสมาชิกของโลกิแฟมิเลียก็เริ่มรู้สึกถึงกลิ่นไอที่อันตรายจากวาห์นขณะที่ความรุนแรงของออร่าและอุณหภูมิห้องยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในฐานะผู้มีประสาทสัมผัสด้านเวทมนต์ที่ดีที่สุด ริเวเรียรู้สึกช็อคกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามาก
เธอโบกมือไปมาและพบว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมอณูของธาตุไฟในอากาศได้เลย
มันเหมือนกับว่าทุกอย่างในระยะ 78 เมตร นั้นถูกวาห์นควบคุมเอาไว้หมดแล้ว
ในที่สุดรอยแตกบน ‘กำแพงแห่งความเศร้าโศก’ ก็มาถึงจุดวิกฤติและยักษ์สีเทาสูง 7 เมตรก็พุ่งออกมาจากเบื้องลึกของกำแพง
วาห์นเร่งความเร็วออกไปและทักทายการคำรามกึกก้องของมันด้วยการกระแทกฝ่ามือไปที่ส่วนอกขนาดยักษ์
โกไลแอธที่กำลังพุ่งออกมาจากกำแพงถูกหยุดไปชั่วครู่ขณะที่คลื่นกระแทกจากฝ่ามือค่อยๆ กระจายผ่านตัวของมันและสลายหายไป
วาห์นเฝ้าดูทุกอย่างในแบบสโลว์โมชั่นและเห็นการโจมตีแบบเต็มแรงของตัวเองถูกสลายออกอย่างรวดเร็ว
จากข้อมูลที่มี วาห์นคิดว่าโกไลแอธน่าจะอ่อนแอต่อคลื่นกระแทกซะอีก
แต่การโจมตีของเขากลับไม่ได้สร้างความเสียหายมากมายอะไรนัก
ก่อนที่มันจะตอบสนองต่อการโจมตี วาห์นก็ดีดตัวจากหน้าอกของมันเพื่อถอยกลับมาด้านนอก
โกไลแอธที่หยุดไปชั่วครู่หลังถูกวาห์นโจมตีก็คำรามลั่นและพยายามทุบเขาให้แบนติดพื้น
มันเริ่มไล่ล่าเขาอย่างบ้าคลั่งและทำให้พื้นหินแข็งของดันเจี้ยนเต็มไปด้วยรอยแตก
วาห์นยังคงหลบไปเรื่อยๆ และพยายามหาช่องว่างเพื่อโจมตีกลับ
โชคดีที่ได้ความว่องไวจากร่างพยัคฆ์ขาวมาช่วยเสริมซึ่งทำให้วาห์นสามารถรับมือกับความเร็วของโกไลแอธได้อย่างง่ายดาย
พอเจ้าโกไลแอธเห็นว่าไม่อาจตามเขาทัน มันก็เริ่มเหยียดตัวขึ้นและยกมือทั้งสองข้างไว้เหนือหัว
เมื่อวาห์นเห็นแบบนั้น สัญชาตญาณของเขาก็เริ่มส่งเสียงเตือนออกมา
ทันทีที่โกไลแอธเหยียดตัวจนถึงขีดสุด มันก็ทุบลงมาที่พื้นดันเจี้ยนแบบสุดแรงเกิด
วาห์นก้มลงต่ำก่อนที่มือยักษ์จะตกถึงพื้นและดีดตัวขึ้นด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ร่างของเขาพุ่งขึ้นเรากับกระสุนปืนแต่ก็ไม่อาจหลบคลื่นกระแทกจากการโจมตีของโกไลแอธไปได้
พื้นดันเจี้ยนแตกออกและดูเหมือนจะจมลงไปหลายนิ้วขณะที่ก้อนหินและเศษเล็กน้อยต่างกระเด็นออกมาจากรอยแตก
วาห์นรู้สึกถึงคลื่นพลังงานที่ไหลผ่านร่างกายของเขาจนเกือบจะกระอักเลือดออกมา
เขาตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่มือยักษ์จะตัดผ่านฝุ่นควันเข้ามาและกระแทกใส่เขาอย่างรุนแรง
วาห์นกระเด็นออกไปในอากาศด้วยความเร็วที่มากกว่าตอนกระโดดขึ้นไปเองก่อนจะชนกับผนังดันเจี้ยนอย่างจัง
ร่างของวาห์นได้สร้างหลุมลึก 5 เมตร ขณะที่เขารู้สึกเหมือนกระดูกทั้งหมดในร่างกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อเห็นร่างของวาห์นกระเด็นไปติดผนัง ทีโอน่าและไอส์เกือบจะกระโจนเข้าไปหาแต่กลับถูกรีเวเรียกับฟินน์หยุดเอาไว้ก่อน
ริเวเรียมองไปที่ทั้งสองซึ่งดูร้อนรนเป็นอย่างมาก
“เขายังไม่ตาย… แล้วก็ยังไม่ยอมแพ้ด้วย”
ริเวเรียสัมผัสได้ว่าอณูเวทมนตร์ในอากาศยังคงรวมตัวกันอยู่ที่วาห์นอย่างต่อเนื่องซึ่งก็หมายความว่าเขายังคิดที่จะสู้ต่อ
ไอส์มองไปที่หลุมลึกด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในขณะที่ทีโอน่าทั้งรู้สึกกังวลและคาดหวังปนๆ กันไป
วาห์นที่ถูกส่งไปนอนเล่นอยู่ในผนังเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
ร่างของเขาไม่ได้อยู่ในรูปแบบพยัคฆ์ขาวแล้ว ตอนนี้เขาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นร่างเต่าดำแทน
บาดแผลทั่วร่างกำลังถูกฟื้นฟู แต่เขาก็เร่งกระบวนการขึ้นอีกด้วยการกินถั่วเซียนเม็ดสุดท้ายเข้าไป
เมื่อมองไปทางโกไลแอธ วาห์นก็รู้สึกได้ถึงโทสะมหาศาลที่สุมอยู่ในอกตัวเองขณะค่อยๆ ออกมาจากหลุม
พอลงมาถึงพื้น วาห์นก็รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดบางอย่าง
แม้ว่าสมองของเขาจะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายกลับเคลื่อนไหวช้าลงซึ่งต่างไปจากร่างพยัคฆ์ขาวแบบลิบลับ
ดูเหมือนว่าร่างเต่าจะเพิ่มความอดทนและการฟื้นฟูให้เขาเป็นหลัก แต่มันก็ไม่ได้ช่วยเสริมความว่องไวให้กับเขาเลยแม้แต่น้อย (TL: เต่าสมชื่อจริงๆ)
เพราะวาห์นได้ทำความคุ้นเคยกับการต่อสู้ในรูปแบบพยัคฆ์ขาวมาตลอด เขาจึงไม่สามารถปรับตัวได้ทัน แถมเจ้าโกไลแอธก็เข้าใกล้ตำแหน่งที่เขาอยู่มากขึ้นทุกที
โกไลแอธมุ่งหน้าไปทางวาห์นพร้อมกับเสียงคำรามขณะบิดตัวเล็กน้อย
เมื่อการเคลื่อนไหวมาถึงเอวของมัน วาห์นก็ได้เห็นลูกเตะอันทรงพลังพุ่งมาจากด้านซ้าย
เขากัดฟันและยกแขนตั้งการ์ดเพื่อเตรียมรับแรงกระแทก
รอยสักบนร่างกายของเขาดูเหมือนจะตอบสนองต่อการตั้งรับและเริ่มเปล่งแสงสีเขียวออกมา
ในช่วงที่ลูกเตะเข้ามาถึงตัว วาห์นคาดว่าเขาน่าจะถูกส่งไปนอนเล่นบนผนังอีกครั้ง แต่มันกลับทำให้เขาขยับถอยหลังไปเล็กน้อยเท่านั้น
เท้าของโกไลแอธกระทบกับแขนของเขาเต็มๆ แต่แทนที่แรงกระแทกจะพุ่งผ่านร่างของวาห์น มันกลับถูกสะท้อนออกไปแทน
วาห์นยังคงเสียหลักไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีเมื่อกี้นี้เลย
วาห์นเริ่มหัวเราะเสียงดังขณะพุ่งตัวเข้าใส่โกไลแอธ
ความเร็วของเขาอาจลดลงไปบ้าง แต่เขาก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ค่อนข้างเร็ว
ในช่วงที่โกไลแอธกำลังเสียสมดุลจากการเตะ วาห์นก็เขามาตรงส่วนอกของมันอีกครั้งและเริ่มระดมหมัดใส่แบบไม่ยั้ง
ในระหว่างนั้นเอง เกล็ดสีดำและรอยสักก็เริ่มสว่างขึ้นด้วยแสงสีเขียวแบบเดียวกัน แต่แทนที่มันจะคอยกระจายคลื่นกระแทกออก ตอนนี้มันกลับรวมกันอยู่ที่จุดๆ เดียว
เมื่อวาห์นโจมตีเข้าไปอีกครั้งก็เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นที่กลางหน้าออกของโกไลแอธ
เลือดในร่างของวาห์นเดือดพล่านหลังเห็นพลังโจมตีของตัวเอง
ดูเหมือนว่าร่างเต่าของเขาไม่ได้เพิ่มแค่การป้องกันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
คล้ายกับร่างพยัคฆ์ขาวที่เสริมทั้งประสาทสัมผัสและความยืดหยุ่นคู่ไปกับความว่องไว ร่างเต่าของเขาเองก็มีพลังอย่างอื่นซ่อนอยู่เช่นกัน
เมื่อเขาเพ่งจิตไปที่การป้องกัน ร่างเต่าก็จะสลายแรงกระแทกทุกอย่างออกไป
หากเขาเพ่งจิตโจมตี มันก็จะทำตรงกันข้ามและยับยั้งไม่ให้แรงกระแทกถูกสลายออกไป!
หลังโดนวาห์นอัดอยู่พักหนึ่ง โกไลแอธก็ล้มไปข้างหลังก่อนจะเอาแขนมายันพื้นไว้
มันมองไปทางร่างเล็กๆ ที่ทำให้มันบาดเจ็บหลายแห่งก่อนจะเปิดปากออกและพ่นคลื่นกระแทกออกมา
วาห์นรู้สึกประหลาดใจกับการโจมตีแบบฉับพลัน แต่เขาก็สามารถสะท้อนมันออกไปได้โดยกระเด็นถอยหลังไปนิดหน่อยเท่านั้น
ขณะที่เขาอยู่กลางอากาศ โกไลแอธก็พ่นมันออกมาเป็นครั้งที่สอง และเป็นอีกครั้งที่วาห์นพยายามสลายมันออกด้วยวิธีเดิม
แต่ครั้งนี้ พลังงานสีเขียวกลับไม่ทำงานและวาห์นพบว่าตัวเองกำลังกระเด็นไปข้างหลังอย่างรุนแรง
แทนที่จะต้านมันได้แบบสบายๆ วาห์นกลับได้รับความเสียหายอย่างหนักจนถึงกลับกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
เขาไม่รู้ว่าทำไมพลังงานสีเขียวจึงไม่ทำงานและพยายามรวมพลังไว้ที่มือราวกับจะเข้าโจมตีอีกครั้ง
รอยสักเริ่มเรืองแสงออกมาเพียงสองวินาทีก่อนจะสลายหายไป
หลังจากนั้นวาห์นก็ไม่สามารถทำให้มันเปล่งแสงได้อีกและเพิ่งตระหนักว่ามันอาจมีเวลาทำการและเวลาคูลดาวน์
ในขณะที่เขากำลังว้าวุ่นใจ เจ้าโกไลแอธก็ไม่ได้นอนรอให้เขาคิดเสร็จ
แม้จะผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที แต่รูที่หน้าอกของมันก็เริ่มสมานกันแล้วพร้อมกับที่มันพุ่งเข้าใส่วาห์นอีกครั้ง
วาห์นต้องรีบหลบแต่ก็รู้สึกหนักใจกับความเชื่องช้าของร่างเต่า
ถึงเขาจะยังพอหลบได้แบบหวุดหวิด แต่สุดท้ายก็โดนมันจับตัวได้
โกไลแอธร้องเสียงดังขณะกำวาห์นไว้และยังใช้มืออีกข้างเพื่อบีบซ้อนจนกว่าร่างเล็กๆ นี่จะแหลกคามือ
วาห์นกัดฟันพร้อมกับเดินพลังเพื่อต้านแรงบีบ แต่เขาก็รู้สึกว่ากระดูกกำลังถูกบดขยี้อย่างช้าๆ
จากด้านข้าง เขามองเห็นโลกิแฟมิเลียที่กำลังเคลื่อนไหวจึงรีบร้องออกมาก่อน
“เดี๋ยวก่อน! ผมยังเอาอยู่!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเขา ทุกคนก็หยุดลงและมีสีหน้าที่แตกต่างกันไป
เมื่อเห็นสภาพของวาห์นในตอนนี้ แม้แต่ทีโอน่าเองก็ไม่คิดว่าเขาจะพลิกกลับมาชนะได้
ส่วนเบตก็เริ่มหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูสิ! เด็กโง่นั่นกำลังจะฆ่าตัวตายเพราะศักดิ์ศรีของตัวเอง!”
พอทีโอน่าได้ยินคำพูดของเบต เธอก็หันมาและตะโกนสวนทันที
“เงียบปากไปซะ!!!”
เบตสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของเธอขณะที่ความโกรธของเขาใกล้จะปะทุออกมาอยู่รอมร่อ
เขากำลังจะสอนบทเรียนให้กับทีโอน่า แต่แล้วความร้อนแบบเฉียบพลันก็เข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ
หลังจากที่วาห์นบอกให้พวกเขาหยุด ความเสียหายสะสมของเขาก็เริ่มถึงจุดวิกฤติ
รอยแตกสีแดงสดได้กระจายไปทั่วร่างของเขาขณะที่พลังเผาผลาญทุกสิ่งเริ่มหลั่งไหลออกมาจาก ‘เพลิงนิรันดร์’ ที่กำลังเต้นอยู่ในอก
ดูเหมือนว่ามันได้โตขึ้นอีกเป็นสองเท่าจากขนาดปกติและกำลังสั่นไหวอย่างตื่นเต้น
เลือดในร่างของวาห์นราวกับกำลังเปลี่ยนเป็นแมกมา แต่แทนที่จะทำให้รู้สึกเจ็บปวด มันกลับรู้สึกสบายอย่างไม่น่าเชื่อ
จากภายในรอยแตกบนผิวของเขา ประกายไฟเริ่มโผล่ออกมาให้เห็นและกลายมาเป็นขนนกสีแดงเพลิงในชั่วพริบตา
รอยสักบนร่างของวาห์นหดหายไปในขณะที่กายเนื้อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
ผมของเขาซึ่งเคยเป็นสีดำออกเขียวจากผลของร่างเต่า ตอนนี้มันกลายเป็นเป็นสีแดงสดคล้ายกับเปลวเพลิง
ดวงตาสีฟ้าของเขาดูราวกับมีประกายแสงที่กำลังพลุ่งพล่านออกมา
เจ้าโกไลแอธผู้กำลังจับร่างของวาห์นอยู่เริ่มแผดเสียงร้องออกมาด้วยความโกรธขณะที่ต้องยอมปล่อยเขาลง
เนื้อในมือของมันกลายเป็นสีดำสนิทขณะที่ ‘แมกมา’ ที่ติดอยู่ยังคงแผดเผามันต่อไป
มันมองเห็นกระดูกบนมือที่กำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นสีดำ ได้อย่างชัดเจน
ก่อนที่มันจะได้ฟื้นตัว วาห์นก็ระเบิดพลังอันดุเดือดออกมาและพุ่งใส่ส่วนอกของมันเป็นครั้งที่สาม
ร่างนี้แตกต่างไปจากร่างเต่าที่ทำให้เขาเคลื่อนไหวช้าลงมาก
ตอนนี้วาห์นได้ความว่องไวกลับคืนมาบางส่วนแล้ว
แม้จะไม่เร็วเท่าร่างพยัคฆ์ขาว แต่มันก็ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ดีกว่าร่างเต่ามาก
วาห์นพุ่งมาถึงตัวโกไลแอธภายในพริบตาและชกมือทั้งสองข้างออกไปด้านหน้า
ในคราวนี้นั้นมือของวาห์นทะลุผ่านเนื้อหนังของของโกไลแอธไปอย่างง่ายดาย
มันแทบจะไม่มีแรงต้านกลับเลย แถมเนื้อหนังที่อยู่รอบๆ มือก็ถูกเผาจนดำและส่งกลิ่นเหม็นไหม้ไปทั่ว
วาห์นยังคงพุ่งต่อไปเรื่อยๆ จนตัวของเขาจมเข้าไปในร่างของโกไลแอธ
มือของเขาสัมผัสกับคริสตัลขนาดใหญ่ข้างในพร้อมกับที่มันเริ่มแตกออกหลังเจอกับความร้อนสูง
วาห์นรู้สึกถึงพลังอันมหาศาลที่เข้ามาห่อหุ้มร่างกายของเขาขณะที่คริสตัลค่อยๆ แตกสลาย
โกไลแอธซึ่งโดนเผาจนเละไปหมดแล้วก็เริ่มกลายเป็นฝุ่นผงทันทีที่แกนหลักถูกทำลาย
พอโกไลแอธหายไป วาห์นก็ตกลงมาข้างล่างและหลอมละลายพื้นที่กำลังเหยียบอยู่แทน
จากด้านข้าง เขาเห็นสมาชิกส่วนใหญ่ของโลกิแฟมิเลียกำลังร้องเชียร์เขาพร้อมกับที่มีร่างสีน้ำตาลพุ่งเข้ามาจนตาแทบจับภาพไม่ทัน
วาห์นรีบสลายความร้อนออกด้วยความตื่นตระหนกก่อนที่ร่างนั่นจะพุ่งเข้าใส่และกระแทกเขาออกมาจากหลุมที่ถูกหลอมละลาย
เขากระเด็นไปในอากาศเกือบ 5 เมตร ก่อนจะไถลไปกับพื้นพร้อมกับร่างที่พุ่งเข้าใส่
พอมองลงไป เขาก็เห็นทีโอน่าที่กำลังเกาะติดเขาแบบหมีโคอาล่าด้วยสีหน้าราวกับจะเป็นไข้
ทั้งสองสบตากันและทีโอน่าก็ยิ้มกว้างก่อนจะพูดขึ้น…
“ฉันอยากมีลูกกับนาย!!!”