Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น - ตอนที่ 899 หัวหน้าครอบครัวในอนาคต
EG บทที่ 899 หัวหน้าครอบครัวในอนาคต
“ลุงครับ เราจะนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยหรอครับ? ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนตัวลงและเศรษฐกิจไทยก็เริ่มตกต่ำ ระบบการเงินของประเทศนั้นกำลังวุ่นวาย!” ฟู่กวางเจิ้งพูด
ฟู่หยงฉียังคงสูบซิการ์ต่อไปและไม่พูดอะไรสักคำ เขามองไปที่ฟู่กวางเจิ้งอย่างเงียบ ๆ
ฟู่กวางเจิ้งที่กำลังตื่นตระหนกค่อยๆ เงียบลงและนั่งลงตรงนั้น
“กวางเจิ้งทำผลงานได้ดีที่สุดในรุ่นของเธอ หัวหน้าครอบครัวคนต่อไปน่าจะเป็นเธอ อย่ามาขัดจังหวะลุงและให้ลุงพูดให้จบก่อน ลูกพี่ลูกน้องคนไหนของเธอที่เหมาะจะเป็นหัวหน้าครอบครัวบ้าง? กวางเฉิงที่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับการซื้อขายทางการเงินจากลุงหรือว่ากวางเหยา? พวกเขาทำได้ดี แต่กำลังเดินตามรอยเท้าของฉัน ซึ่งต่างจากเธอ เธอเดินไปคนละเส้นทางกับเรา”
“ลุงเคยพูดก่อนหน้านี้แล้ว จีนจะเป็นตลาดที่น่าจับตามองและกำลังจะเป็นดาวรุ่ง ไม่ว่าตลาดการเงินหรืออุตสาหกรรมจะเป็นอย่างไร นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกจะแข่งขันกันเพื่อลงทุนในตลาดนี้ เธอเป็นคนแรกในตระกูลเราที่เข้าสู่ตลาดจีนและเจอพันธมิตรที่ดีที่สุดและแนะนำมาให้พวกเรารู้จัก พวกเราทุกคนเห็นเธอมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”
“รุ่นต่อไปคือครอบครัวของเราหรือลุงควรจะพูดว่าในกลุ่มคนรุ่นต่อไปของตระกูลฮ่องกงอันดับต้นๆ ไม่มีใครประสบความสำเร็จไปมากกว่าเธอ อาจมีเพียงหลี่จ๋อไคและคนอื่นอีกสองสามคนเท่านั้นที่เทียบเท่ากับเธอได้ สำหรับกวางเฉิงและกวางเหยา พวกเขาเทียบกับเธอไม่ติดเลย แต่เธอรู้มั้ยว่าทำไมลุงถึงไม่ยืนยันให้เธอเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวของเรา? เธอคิดว่าลุงทนไม่ได้ที่จะมอบทรัพย์สินของตระกูลเราให้เธอใช่มั้ย?”
“ลองคิดดูสิ แม้ว่าการเงินจะดี แต่ลุงสามารถใช้จ่ายได้เท่าไรกันเชียว? กวางาเฉิง กวางเหยา และคนอื่นๆ ที่เหลือสามารถใช้จ่ายเงินได้เท่าไหร่? สิ่งที่ตระกูลเราต้องการคือการใช้เงินเพื่อเพิ่มสถานะของเราในสังคม เธอเก่งกว่าลุงในด้านนี้ ในประเทศจีนผู้นำรัฐบาลหลายมณฑลมองว่าเธอเป็นแขกผู้มีเกียรติอันดับต้นๆ ”
“เธอและเฝิงหยู่ลงทุนในเครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ การค้าปลีก และอื่นๆ และทำเงินได้มากมาย แต่เมื่อเทียบกับเฝิงหยู่ เธอคิดว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่างเธอกับเขา?”
ฟู่กวางเจิ้งตะลึง เขาไม่เคยคิดว่าลุงคนโตของเขาจะพูดสิ่งเหล่านี้กับเขาในวันนี้ คำพูดพวกนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องหัวหน้าครอบครัวคนต่อไป
หัวหน้าครอบครัวคนต่อไปจะไม่ใช่ลูกชายทั้งสองคนของฟู่หยงฉี ไม่ใช่ลูกของลุงคนที่สองและลุงคนที่สาม ฟู่กวางเจิ้งกำลังจะเป็นหัวหน้าคนต่อไปของตระกูลหรอ? เมื่อก่อนเขาถูกครอบครัวของตัวเองดูถูกและแม้แต่คนรุ่นที่สองในฮ่องกงหลายคนก็ดูถูกเขา!
แต่ฟู่หยงฉีก็ยังรู้สึกว่าฟู่กวางเจิ้งไม่ดีพอและไม่ต้องการมอบธุรกิจของครอบครัวให้เขา ฟู่กวางเจิ้งยอมรับว่า เฝิงหยู่เก่งกว่าเขามากในเรื่องของการลงทุนและในด้านอื่นๆ แต่เขามั่นใจว่าเขาจะเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของฮ่องกงด้วยการลงทุนในบริษัทของเฝิงหยู่
อย่างไรก็ตาม ฟู่หยงฉีดูเหมือนจะไม่พอใจกับความสำเร็จของฟู่กวางเจิ้งและต้องการทดสอบเขา ความแตกต่างระหว่างเฝิงหยู่และฟู่กวางเจิ้งหรอ? ฟู่หยงฉีหมายถึงอะไร?
ฟู่กวางเจิ้งรู้ว่าถ้าเขาสามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่ลุงคนโตได้ สถานะของเขาในรุ่นที่สองของตระกูลฟู่จะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเขาไม่สามารถตอบลุงของเขาได้ เขาก็อาจจะไม่ใช่ผู้สืบทอดคนต่อไป
แม้ว่าฟู่กวางเจิ้งจะไม่ได้เป็นหัวหน้าคนต่อไปของตระกูลฟู่ แต่เขาก็จะมีชีวิตที่ดีเช่นกัน หากเขาขึ้นเป็นหัวหน้าคนต่อไป อิทธิพลของเขาจะไม่จำกัดอยู่แค่ในฮ่องกงและจีนเท่านั้นอีกต่อไป เขาจะเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก!
ใครบ้างที่ไม่อยากเป็นผู้นำ?
ฟู่กวางเจิ้งคิดสักพักแล้วพูด “ใช่เรื่องการมองการณ์ไกลในการลงทุนของผมหรือเปล่าครับ?”
ฟู่หยงฉีพ่นควันซิการ์อกมา “ในด้านไหน?”
ฟู่กวางเจิ้งกำลังจะตอบกลับว่าด้านอิเล็กทรอนิกส์ แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าบริษัทของคุณลุงกำลังดำเนินกิจการอะไรอยู่ การซื้อขายทางการเงิน นี่คือคำตอบที่ลุงของเขากำลังอยากได้ยินใช่หรือเปล่า?
ฟู่กวางเจิ้งตอบอย่างระมัดระวัง “อิเล็กทรอนิกส์และการเงินครับ”
ฟู่หยงฉียังคงมีสีหน้านิ่งเฉย และฟู่กวางเจิ้งไม่สามารถบอกได้ว่าลุงของเขาโกรธหรือผิดหวัง
“ลุงรู้ว่าเธอชอบอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แต่อุตสาหกรรมไหนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า? เธอเคยคิดมั้ยว่าเฝิงหยู่ได้เงินก้อนแรกมาจากไหน?
เงินก้อนแรกของเฝิงหยู่หรอ? ฟู่กวางเจิ้งพยายามนึก ดูเหมือนว่าจะเป็นการค้ากับสหภาพโซเวียต แต่นี่ก็ไม่น่าจะใช่คำตอบที่ลุงของเขาต้องการ
เดี๋ยวก่อนนะ ลุงหมายถึงเงินก้อนแรกหลังจากที่เฝิงหยู่มาฮ่องกงหรือเปล่า? นั่นเป็นช่วงเวลาที่ลุงของเขายืนยันว่าตระกูลฟู่ต้องการความช่วยเหลือจากเฝิงหยู่ และพวกเขาต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
“มาจากการซื้อขายทางการเงิน เฝิงหยู่ได้กู้ยืมเงินในอดีตสหภาพโซเวียตและแลกเปลี่ยนเงินรูเบิลเป็นดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นเขาก็ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อขายในฟิวเจอร์สน้ำมัน ฟิวเจอร์สทองคำ ฟิวเจอร์สการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แล้วนำผลกำไรไปลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมิรกา!” ฟู่กวางเจิ้งเข้าใจว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเฝิงหยู่มาจากตลาดการเงิน!
“ในที่สุดเธอก็เข้าใจ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ผลตอบแทนจากตลาดการเงินจะเร็วกว่ามาก แน่นอนว่าธุรกิจที่แท้จริงเป็นสิ่งที่ต้องทำ และทำหน้าที่เป็นเหมือนการประกันภัยรูปแบบหนึ่ง ในบรรดาการลงทุนทั้งหมดของเธอในประเทศจีน ซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวเป็นการลงทุนที่ดีที่สุด ศักยภาพของภาคการค้าปลีกอยู่ในระดับสูงและผลกำไรในอนาคตจะมีเสถียรภาพมากที่สุด ตราบใดที่เธอจัดการซูเปอร์มาร์เก็ตและซัพพลายเชนของเธอได้ดี เธอก็ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดทุน อุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์อาจมีผลการดำเนินงานที่ดีในตอนนี้ แต่มีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถตามกระแสเทคโนโลยีได้ทันและถูกแซงหน้าโดยแบรนด์อื่นๆ”
“ตระกูลฟู่ของเราไม่ได้เข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ และเธอน่าจะรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ลุงอยากให้เธอจำไว้ว่าจีนจะเป็นหนึ่งในเสาหลักของตลาดการเงินในอนาคต หากเธอสามารถเป็นเจ้าพ่อทางการเงินได้ เธอจะกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในจีนและทั่วโลก!” ฟู่หยงฉีพูด
“มีอิทธิพลมากที่สุดหรอครับ?”
“ถูกต้อง เธอจะเป็นผู้มีอิทธิพล เมื่อเงินที่เธอมีอยู่เกินจำนวนที่กำหนดไว้ เธอจะมีอิทธิพลต่อการเมืองได้ ก็เหมือนกันสำหรับประเทศจีน หากเธอลงทุนในบางภูมิภาคของจีน ผู้นำที่นั่นจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งและในทางกลับกันเขาจะให้ผลประโยชน์จากรัฐบาลที่ดีกว่าแก่เธอ ด้วยวิธีนี้เธอจะสามารถทำเงินได้มากขึ้น”
ฟู่กวางเจิ้งพยักหน้า “ลุงอยากให้ผมเรียนรู้เรื่องการลงทุนในตลาดการเงินหรอครับ?”
“เธอไม่อยากเรียนรู้หรอ?” ฟู่หยงฉีมองหน้าฟู่กวางเจิ้ง
“ลุงครับ บอกตามตรงว่าผมสนใจการค้าขายทางการเงินมาก แต่ผมรู้ว่าผมไม่มีความสามารถในด้านนี้เลย สำหรับเรื่องการจัดการธุรกิจค้าปลีก ผมเชื่อว่าฉันเก่งกว่าพี่กวางเฉิงและพวกเขามาก แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการลงทุนทางการเงิน ผมสู้พวกเขาไม่ได้เลย ผมคิดว่าพี่กวางเฉิงและผมสามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ และถ้าเราได้ทำงานร่วมกัน ตระกูลฟู่ของเราจะไม่มีทางล่มสลายครับ” ฟู่กวางเจิ้งตอบ
ฟู่กวางเจิ้งรู้ดีว่าถ้าเขาเข้าสู่ตลาดการเงิน เขาจะกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวคนต่อไปหากเขาทำสำเร็จ แต่ถ้าเขาล้มเหลว สถานะปัจจุบันของเขาในตระกูลจะลดลงทันที ถ้าเขายังคงทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้และแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้สืบทอด แต่เขาก็ยังคงมีอำนาจและอิทธิพลในครอบครัว!
ฟู่หยงฉียิ้ม เขาพอใจกับคำตอบของฟู่กวางเจิ้ง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จุดอ่อนของตัวเองและอย่าให้ความโลภมาบังตา
“โอเค ลุงเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่จำไว้ว่าเธอจะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฟู่ และตระกูลฟู่จะเป็นผู้สนับสนุนหลักที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอเสมอ”
ฟู่กวางเจิ้งยิ้มแล้วถาม “ลุงจะเข้าสู่ตลาดเมื่อไหร่ครับ? เฝิงหยู่เริ่มเข้าแล้วนะครับ!”
ฟู่หยงฉีถอนหายใจ เจ้าบ้านี่ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี!