Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 382
บนยอดเขามังกรเสือ มีคน 2 คนนั่งอยู่ด้วยกัน หลังจากที่เป่ยเฟิงนำหินวิญญาณออกมา มันทำให้ตานเจียซีคิดอย่างหนัก ดวงตาของเขาราวกับไฟที่ลุกโชนเมื่อมองไปยังหินวิญญาณ
หินวิญญาณถือว่าเป็นทรัพยากรที่ดีที่สุดสำหรับผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน มันดีอย่างมากในการกลั่นฉีจากมัน !
พลังงานภายในหินวิญญาณมันอ่อนโยนมาก เพียงชักนำมันเข้ามาในร่างและหมุนเวียนไปทั่วร่างไม่กี่รอบแต่ก็สามารถทำให้ตัวเองพัฒนาได้เยอะมาก
ด้วยทรัพยากรบนโลกในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาหินวิญญาณซักก้อน
แม้แต่เศษเสี้ยววิญญาณเล็ก ๆ ก็จะกลายเป็นทรัพยากรอันล้ำค่าทันทีสำหรับผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน !
และตานเจียซีเองก็เช่นกัน แม้ว่ารากฐานของเขาจะแข็งแกร่งมากทำให้เขาสามารถพัฒนาได้ไวแต่นั้นก็เพราะเขาดูดซับเศษเสี้ยวจิตวิญญาณไปบางส่วน
เนื่องจากมีจิตวิญญาณขนาดใหญ่อยู่ใต้ภูเขา และด้วยการช่วยเหลือของมันทำให้พันปีที่ผ่านมาได้เกิดเป็นเส้นเลือดจิตวิญญาณใต้ภูเขาแห่งนี้ !
และในช่วงที่อำนาจและอิทธิพลของภูเขามังกรเสือนั้นยิ่งใหญ่จนเกินจะพูดได้ พวกเขาให้ศิษย์จำนวนมากใช้หินวิญญาณที่ได้จากการกลั่นจิตวิญญาณมาฝึกฝน แต่อัตราที่พวกเขาใช้มันมากเกินกว่าที่พวกเขาจะขุดหรือหามันมาได้ !
และด้วยผลผลิตที่หามาได้นั้นต่ำมาก มันทำให้พวกเขาขุดเข้าไปในเส้นเลือดจิตวิญญาณลึกมากขึ้น จนกระทั่งผ่านไปหลายพันปีเจ้าสำนักก็ได้สั่งให้หยุดขุดเพื่อทิ้งสิ่งนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังบ้าง
แต่ใครจะไปคาดคิดกันว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ ในไม่ช้าพลังงานในเหมืองเส้นเลือดจิตวิญญาณก็แห้งเหือดหายไป และเมื่อไม่มีจิตวิญญาณแล้วหินต่าง ๆ ที่อยู่ในนั้นก็ไร้ประโยชน์ทันที โชคดีที่พวกเขายังพอสามารถมีเศษเสี้ยวจิตวิญญาณเหลืออยู่
แม้ว่าผลการดูดซับเศษเสี้ยวจิตวิญญาณจะพอบรรเทาไปได้ แต่ผ่านไปหลายปีจำนวนของเศษเสี้ยวจิตวิญญาณก็ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ
และในตอนที่พวกเขากำลังสิ้นหวัง เป่ยเฟิงก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับหินวิญญาณ ยิ่งกว่านั้นพลังงานในหินวิญญาณมันยังเกินกว่าที่ตานเจียซีจะคาดคิด
ตอนนี้โลกได้เปลี่ยนไปจนไม่มีทางจะหันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ หลิงฉีในเหมืองจิตวิญญาณเองก็หมดลงแล้ว เหลือเพียงเศษเสี้ยวจิตวิญญาณ แม้ว่าในตอนนี้อาจจะมีเหมือนเยอะแต่ความจริงแล้วมีน้อยมาก หากเทียบระหว่างหินวิญญาณกับเศษเสี้ยวจิตวิญญาณ คงประมาณได้ว่าเศษเสี้ยวจิตวิญญาณ 1,000 เม็ดถึงจะเทียบเท่าหินวิญญาณ 1 ก้อน
“ข้าจะพาเจ้าไปเจอท่านบรรพบุรุษ”
หลังจากตั้งสติได้ ตานเจียซีก็บอกกับเป่ยเฟิงให้มาพบเขาที่หลังภูเขา
เป่ยเฟิงพยักหน้าและเดินจากไป
อย่างที่คิด ภูเขามังกรเสือไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย คนที่เป็นบรรพบุรุษที่ตานเจียซีกล่าวถึงน่าจะมีพลังระดับสวรรค์ และตัดสินด้วยพลังของภูเขามังกรเสือแล้วไม่น่าจะมีระดับสวรรค์เพียงคนเดียว !
เป่ยเฟิงปลุกกำลังใจและนึกถึงความสามารถของตัวเอง เขาไม่สนใจว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญสวรรค์กี่คน แม้ว่าเขาจะเอาชนะไม่ได้แต่พวกเขาก็หยุดเขาให้หนีไม่ได้เช่นกัน
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดหากถูกล้อมรอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์หลายคน เขาเชื่อมั่นว่าเขาจะต้องลากคนไปกับเขาด้วยได้หลายคน !
ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเป่ยเฟิง หากเขาใช้เคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์และตามด้วยปีกอินทรีและสายรุ้งทะยานฟ้า แม้แต่บรรพบุรุษตระกูลเจี๋ยนที่เขาเพิ่งเจอหน้าเมื่อเดือนก่อนก็ยังต้องตาย !
เป่ยเฟิงกลับไปที่ห้อง จากนั้นหยิบกล่องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยหินวิญญาณระดับกลางออกมา ในนั้นเต็มไปด้วยหินทั้งหมด 50 ก้อน !
หลังจากเก็บกล่องเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปที่ด้านหลังภูเขาเพื่อพบกับตานเจียซี หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินตามกันไปโดยเป่ยเฟิงเดินตามหลังและตานเจียซีเดินนำหน้า
ในขณะที่เดิน เป่ยเฟิงก็หันมาชื่นชมสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ และสังเกตได้ว่ามีคนกำลังจับตามองเขาอยู่
‘น่าประทับใจจริง ๆ แค่ไม่นานก็มีระดับเซียนเทียนขั้นกลาง 8 คนตามมาแล้ว อย่างที่คิด สถานที่แห่งนี้เหมาะที่จะถูกยกย่องว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าเต๋า ทรงพลังดีจริง ๆ !’
เป่ยเฟิงเดาะลิ้นเงียบ ๆ ตัวตนระดับเซียนเทียนขั้นต้นถือว่าเป็นบุคคลที่ทรงพลังอย่างมากในโลกภายนอก และยิ่งเซียนเทียนขั้นกลางนั้นหายากยิ่งกว่า แต่ในตอนนี้กลับมีระดับเซียนเทียนขั้นกลาง 8 คนมาจับตาดูคน ๆ หนึ่งแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่มหาศาลมาก
“กึก !”
หลังจากที่เดินข้ามสะพานแขวนมาถึงอีกฝั่ง ตานเจียซีก็หยิบเหรียญหยกออกมาวางไว้ที่ร่องกำแพงหิน และในไม่ช้าสิ่งที่เหมือนกำแพงหินก็เปิดออกจนเผยให้เห็นทางเดินกว้างพอที่จะให้คน 2 คนเดินได้
ทางเดินสว่างไสว แสงของมันอ่อนโยนและไม่ได้ปวดตาจนเกินไป
“แต๊ะ แต๊ะ”
ทั้ง 2 ก้าวเดินลงไปด้านล่าง
“หึหึ ภูเขามังกรเสือนี้ลึกลับจริง ๆ เอ๊ะ ฉันยังคิดว่าพวกเจ้ายังใช้คบไฟอยู่นะเนี่ย”
เป่ยเฟิงหัวเราะเบา ๆ
“เหอะ ถึงพวกเราจะเป็นนิกายโบราณ แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าจนเกิดไฟฟ้าขึ้นมา พวกเราเลยหันมาใช้และมันก็สะดวกสบายกว่าการใช้คบเพลิงมาก”
เปลือกตาของตานเจียซีกระตุกเล็กน้อย เป่ยเฟิงพูดราวกับภูเขามังกรเสือของพวกเขาเป็นตระกูลโบราณที่รู้แต่วิธีการใช้คบไฟ
“เอ๊ะ ?’
เป่ยเฟิงหยุดเดินและมองไปที่ชายชรา 2 คนตรงหน้า
ชายทั้ง 2 ราวกับกำลังหลับอยู่ พวกเขาไม่ขยับและไม่ส่งแรงกดดันออกมาแม้แต่น้อย มันราวกับพวกเขาเป็นเพียงรูปปั้นเท่านั้น
“ผู้อาวุโส ข้ามีเรื่องสำคัญและต้องการแจ้งให้ท่านบรรพบุรุษทราบ”
ตานเจียซีคำนับและกราวไหว้
“อืม”
ไม่รู้เหมือนกันว่าชายชราคนไหนพูด แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอนุญาตให้ผ่านไปได้
‘หืม เอาครึ่งก้าวสวรรค์ 2 คนมาเป็นยามเฝ้าประตู ….’
เป่ยเฟิงเดาะลิ้นอีกครั้ง ภูเขามังกรเสือนี้ร่ำรวยจริง ๆ ! ‘ไม่ต้องเดาเลยว่าพวกเขามีเม็ดยามังกรเสือมากแค่ไหน ! ‘
เส้นทางที่อยู่เบื้องหลังชายชราเป็นสีดำสนิท ไม่มีแสงใด ๆ เลยแม้แต่น้อย มันราวกับหมีที่อ้าปากค้างและรอเหยื่อเดินเข้ามาด้วยตัวเอง
ตานเจียซีและเป่ยเฟิงมีพลังจิตที่สามารถขยายไปได้ไกลกว่าที่พวกเขายืน แม้ว่าจะไม่มีแสงใด ๆ แต่พวกเขาก็ยังสามารถเดินไปตามทางได้ราวกับเห็นมัน
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เห็นแสงปรากฏด้านหน้า
มันไม่ใช่แสงธรรมชาติ มันเป็นแสงที่มีสีฟ้าจาง ๆ แสงมันไม่ได้แสบตาและอ่อนโยนอย่างมาก
มันราวกับเป็นคลื่นที่อ่อนโยนที่สะท้อนน้ำ
แสงค่อยรวมตัวกันก่อนจะกลายเป็นประตูที่สูง 2 เมตรและกว้าง 1.5 เมตร
ตานเจียซีพยักหน้าให้กับเป่ยเฟิงและเดินเข้าไปในประตู
เป่ยเฟิงยักไหล่และเดินตามไป
เป่ยเฟิงรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเบลอเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ก้าวลงสู่พื้น
แสงที่อ่อนโยนพุ่งออกมาจากพื้นดินพร้อมกับส่งกลิ่นหอมจาง ๆ ลอยไปในอากาศ ห่างออกไปไกลพอสมควรมีควันสีเขียวลอยออกมาอย่างต่อเนื่องและตรงนั้นดูเหมือนจะเป็นหมู่บ้าน มันราวกับหมู่บ้านแห่งนี้คือป่าขนาดใหญ่
เป่ยเฟิงเงยหน้าขึ้น แต่เขาไม่เห็นแม้แต่ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า !
เป่ยเฟิงตกตะลึง เขาหันหน้าไปช้า ๆ ถามตานเจียซีด้วยเสียงกระตุก “นี้ อย่าบอกนะว่าอีกมิติ ?”
“อืม”
ในที่สุดตานเจียซีก็สามารถยิ้มได้ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำหน้าตาเหมือนอีกฝ่ายไม่ผิด และเมื่อเห็นว่ามีคนทำหน้าตาแบบเดียวกันกับเขาก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมาก
‘บัดซบเอ้ย … จริง ๆ แล้วพวกมันอยู่อีกโลกนี้เอง !’
เป่ยเฟิงรู้สึกมึนงงเข้าไปอีกเมื่อฟังคำยืนยันของตานเจียซี เขาคิดเอาไว้ว่าภูเขามังกรเสือแห่งนี้จะทรงพลังมาก แต่ใครจะไปคิดกันว่ามันจะเป็นยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดเอาไว้ !
“นี้คือซากศพปลาวาฬอวกาศ มันเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก พวกมันตัวใหญ่อย่างมากและมันสามารถกลืนกินทุกอย่างให้เป็นอาหารของมันได้ แต่สุดท้ายมันก็ถูกท่านเจ้าสวรรค์สังหารไป หลังจากพยายามอย่างหนักสุดท้ายมิตินี้ก็ถูกสร้างขึ้นมา”
เสียงของตานเจียซีเต็มไปด้วยความเคารพ มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังขนาดนี้ถูกสังหารได้อย่างไร
ปากของเป่ยเฟิงกระตุกอย่างแรง นี่เป็นโลกเดียวกันกับที่เขาเคยอยู่จริง ๆ ใช่ไหม ? โลกแห่งการต่อสู้มันน่าตกใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?
การเปิดเผยครั้งนี้ทำให้เป่ยเฟิงสรุปบางอย่างเกี่ยวกับโลกได้มากขึ้น เขาคิดว่าโลกนี้มาตรฐานของผู้ฝึกตนไม่ได้สูงนัก แต่ความจริงแล้วมันสูงเกินกว่าที่เขาไม่เคยคิดมากกว่า !
ในขณะเดียวกันก็มีคำถามปรากฏออกมาในใจเขา ด้วยความสำเร็จระดับนี้ ในช่วงพันปีที่ผ่านมาบนโลก ราชวงศ์หวังและจักรวรรดิอื่น ๆ ปรากฏขึ้นมาได้ยังไงกัน ? *
TL: ราชวงศ์หวังหรืออีกชื่อ ราชวงศ์ซิน