Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 400
ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถยอมรับการมีอยู่ของต้นท้อหน้ามนุษย์ได้ แม้ว่าต้นท้อจะเป็นพืชระดับสูงแต่เพราะมันใช่มนุษย์เป็นปุ๋ยทำให้หยิงเจียยอมรับไม่ได้
1 ชั่วโมงต่อมาความวุ่นวายก็แผ่กระจายทั่วเมือง !
“เจ้าได้ยินนั่นไหม ? ต้นท้อหน้ามนุษย์ที่บรรดานิกายใหญ่ตามหาปรากฏขึ้นแล้ว !”
“แน่นอน ข้าได้ยินมาเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องใหญ่มากจะมีใครกันที่ไม่รู้ ? แต่ข้าได้ยินมาว่าต้นท้อหน้ามนุษย์มันอยู่ข้างในคฤหาสน์เจ้าเมือง !”
ผู้ฝึกตนระดับกลั่นฉี 2 คนคุยกันด้วยความตื่นเต้นบนถนน
“ไม่แปลกเลยจริง ๆ ทำไมพวกโจรที่พวกเขาออกตามหาถึงจับไม่ได้ซักที เพราะมันคือท่านเจ้าเมืองนั่นเอง !”
“เพ้ย คนที่หายตัวไปทั้งหมดอาจจะเป็นไปได้ว่าพวกเขากลายเป็นปุ๋ยให้กับต้นท้อหน้ามนุษย์แล้ว”
ทุกคนกำลังคุยกันอย่างกระตือรือร้น ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ไม่เคยได้ยินชื่อเจ้าเมือง
คฤหาสน์ของเจ้าเมืองเป็นสถานที่ที่มีรากฐานลึกมาก พวกเขาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมือง ผู้ฝึกตนระดับต่ำเหล่านี้ไม่ได้มีความต้องการที่จะครอบครองต้นท้อหน้ามนุษย์ พวกเขาเพียงอยากจะติดตามพวกตระกูลหรือนิกายขนาดใหญ่เพื่อรอรับเศษของเหลือที่ทิ้งเอาไว้
ตระกูลขนาดใหญ่จำนวนมากเริ่มรวมตัวกันและมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์เจ้าเมือง ผู้ฝึกตนพเนจรจำนวนมากราวกับแร้งที่บินอยู่บนฟ้ารอคอยเวลาสิงโตตาย
“ข่าวนี้น่าเชื่อถือแค่ไหน ? ใครเป็นคนกระจายข่าว ?” ชายชราที่อยู่ในตระกูลลี่พูดขึ้น ชายชราคนนี้มีผิวพรรณสดใส แม้ว่าทั้งหัวของเขาจะเต็มไปด้วยผมสีขาวแต่เขาดูไม่แก่เลยแม้แต่น้อย
“ท่านบรรพบุรุษ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนว่าใครปล่อยข่าวลือออกมา แต่มันก็ยังดีกว่าหากเราพลาดมันไป !” ชายวัยกลางคนกล่าวตรงไปตรงมา
“ถึงแม้ว่าต้นท้อหน้ามนุษย์จะปรากฏตัวขึ้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่เราที่รู้ข่าวแต่เป็นทุก ๆ คนในเมืองแห่งนี้ เราไม่สามารถเอามันมาเป็นของเราเองได้ ทำไมเราไม่สนเอข่าวนี้ให้พวกนิกายล่ะ บางทีพวกเขาอาจตอบแทนบางอย่างให้เราก็ได้ ไปกัน พวกเราไปคฤหาสน์เจ้าเมือง พวกตระกูลอื่น ๆ ก็คงนั่งไม่ติดเหมือนกัน”
ชายชราคิดและตัดสินใจ แม้ว่าข่าวเกี่ยวกับต้นท้อหน้ามนุษย์จะแผ่กระจายออกไป แต่คนจากนิกายไม่สามารถรู้ข่าวเหล่านี้ได้เร็วพอ ดังนั้นใครก็ตามที่สามารถคว้าต้นท้อหน้ามนุษย์มาได้และเสนอให้กับนิกาย พวกเขาจะมอบของตอบแทนให้แน่นอน
“อ๊าก ! บัดซบ ! ใครจะไปคิดกันว่าข่าวต้นท้อหน้ามนุษย์จะแผ่กระจายไปไวขนาดนี้ ?”
หลินฉิงหยุนโกรธอย่างมาก ทุกคนในคฤหาสน์เงียบกันหมด พวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว แม้แต่การสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่ามันอาจจะดังเกินไปจนทำให้พวกเขาตายได้
ตรงหน้าเขาคือผู้พิทักษ์ 2 คนที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังต้นท้อหน้ามนุษย์ที่ถูกทรมานจนไม่ได้มีลักษณะเหมือนมนุษย์อีกต่อไป
“ไอ้ไร้ประโยชน์เลี้ยงเสียข้าวสุก ตายไปซะ”
หลินฉิงหยุนเปลี่ยนความโกรธให้กลายเป็นเปลวไฟบนฝ่ามือ จากนั้นเขาก็โยนไปตรงหน้า ในไม่ช้ามนุษย์ 2 คนก็กลายเป็นกองขึ้เถ้า 2 กอง
เพียงการเคลื่อนไหวครั้งเดียวมันก็เพียงพอจะบอกว่าเขามีความแข็งแกร่งแค่ไหน !
อุณหภูมิที่สูงมากจนเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำให้กลายเป็นฝุ่นละอองได้ แต่กลับไม่ทำให้พื้นรอบ ๆ ไหม้
“ไปเรียกทุกคนมารวมตัวกัน แล้วก็ไปเรียกผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำที่อยู่ข้างนอกกลับมาให้หมด !” หลินฉิงหยุนพูดอย่างเย็นชา
“ผู้น้อยเข้าใจแล้ว !”
เงาสีดำกระพริบก่อนจะหายไป
“หยิงเจียและพวกตระกูลหยิน ! พวกมันต้องตาย !”
เสียงของหลินฉิงหยุนดังไปทั่ว
“ข้ายินดีที่จะแบ่งต้นท้อให้กับพวกแกหากพวกแกมาเคาะประตูเพื่อขอส่วนแบ่ง แต่ใครจะไปคิดกันว่าพวกแกไม่คิดจะไว้ชีวิตตระกูลหลินของข้า !”
สายตาของหลินฉิงหยุนเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับนักพนันที่เงินหมดตัว
ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการมอบต้นท้อหน้ามนุษย์ให้กับผู้อื่น แม้ว่าตระกูลหลินจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำตัวเฉยชากับกองกำลังทั้งหมดของเหล่าตระกูลในเมือง
แต่สิ่งที่หลินฉิงหยุนเลือกคือการปกป้องต้นท้อหน้ามนุษย์ เขาพร้อมเผชิญหน้ากับทุกอย่างโดยที่เขาจะไม่มีวันส่งมอบต้นท้อหน้ามนุษย์ให้ใครเด็ดขาด !
ทางที่เขาเลือกถือว่าโง่มากหากมองไปที่เหตุและผล แม้ว่าหลินฉิงหยุนจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนในตระกูลจะเห็นด้วยกับเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าต่อต้าน พวกเขาพร้อมใจกันสนับสนุนการตัดสินใจของหลินฉิงหยุน !
มีเพียงคนรุ่นหลังเท่านั้นที่รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เมื่อพวกเขาเห็นผู้ใหญ่ทำตัวยังไงพวกเขาก็โยนความคิดสงสัยออกไป !
ในเวลาเดียวกันในมิติลึกลับ ต้นท้อหน้ามนุษย์ก็หยุดเปลี่ยนหน้าไปมาและหยุดอยู่ที่หน้าสุดท้าย ใบหน้าทั้งหมดเหมือนกันและแต่ละหน้าก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย
กลุ่มผู้ฝึกตนจำนวนมากวิ่งไปที่คฤหาสน์เจ้าเมือง ไม่ใช่เพียงแค่ตระกูลใหญ่เท่านั้นที่มา แต่รวมไปถึงผู้ฝึกตนพเนจรรวมไปถึงคนหลายประเภทที่มาเพื่อให้ได้จำนวนที่ได้เปรียบกว่าเล็กน้อย
มีศิษย์นิกายใหญ่อยู่ในเมืองนี้เช่นกัน เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวพวกเขาก็เต็มไปด้วยความยินดี
“ศิษย์พี่หยาน ดูเหมือนพวกเราจะโชคดีแล้ว ใครจะไปคิดกันว่าต้นท้อหน้ามนุษย์จะปรากฏตัวในที่ห่างไกลขนาดนี้ !”
ศิษย์ที่แต่งตัวด้วยชุดสีแดงที่สะท้อนแสงไปทั่วท้องฟ้าพูดขึ้น
“ฮ่าฮ่า ต้นท้อหน้ามนุษย์มันใช้หลิงฉีจำนวนมากในการเติบโต จะดีที่สุดคือการใช้พวกมนุษย์มาเป็นปุ๋ย และการที่มันจะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ก็ไม่น่าแปลกใจ”
ผู้นำกลุ่มที่เหมือนเป็นศิษย์ชั้นยอดกล่าวขึ้น พวกเขาคือศิษย์ของนิกายไฟโลกันต์ พวกเขาไม่สามารถสู้กับคนอื่น ๆ ได้จนสุดท้ายก็ถูกส่งตัวมายังสถานที่ห่างไกลแห่งนี้ ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยหลิงฉีที่อ่อนแอ แต่ใครจะไปคิดกันว่าต้นท้อหน้ามนุษย์จะปรากฏตัวขึ้นที่นี่ !
ไม่ว่าข่าวนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือปลอม แต่หยานซานเลือกที่จะเชื่อ
“อย่าประมาทไป ลำพังแค่พวกเรารับมือไม่ไหวหรอก”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยานซาน พวกเขาก็ตั้งสติขึ้นมาทันที
ในคฤหาสน์ ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำหลายพันคนรวมไปถึงคนจากตระกูลใหญ่ 5 ตระกูลมารวมตัวกัน ผู้นำครั้งนี้คือตระกูลฉิน พวกเขาก้าวออกมาครึ่งก้าวและพูดขึ้น “ท่านเจ้าเมือง ข้าได้ยินมาว่าท่านพบต้นท้อหน้ามนุษย์แล้ว ? เป็นไปได้ไหมว่าจะให้ข้าได้เชยชมมันซักหน่อย ?”
“ข้าไม่มีโชคขนาดนั้น หากข้าพบมันข้าคงส่งมันให้บรรดานิกายต่าง ๆ จัดการแล้ว” หลินฉิงหยุนกล่าวหลังจากดื่มชาเข้าไป
เขาระงับความโกรธเอาไว้ เขาจ้องมองพวกคนของตระกูลหยิงราวกับจะดื่มเลือดและกินเนื้อของพวกเขา
ผู้นำตระกูลเฟิงก้าวออกมาและพูดขึ้น “ฮ่าฮ่า เราเชื่อว่าท่านเจ้าเมืองให้ความสำคัญกับคำพูดอย่างมาก แต่พูดไปก็ไม่เห็นควันหากปราศจากไฟ จะเป็นอะไรหรือไม่หากให้พวกเราสำรวจคฤหาสน์เจ้าเมือง ?”
สายตาของหลินฉิงหยุนเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบ เขาจิกเล็บมือเข้าไปในฝ่ามือของเขา
แม้ว่าจะถูกกดดันด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำ แต่คฤหาสน์เจ้าเมืองไม่ใช่สิ่งที่อ่อนแอ มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำกว่าร้อยคนที่อยู่ด้านหลังเขาเช่นกัน
‘บัดซบ ! ปัญหามันจะเกิดขึ้นก่อนหน้าหรือหลังจากนี้ก็ได้ แต่ทำไมต้องตอนนี้ ! ตราบใดที่ข้าถ่วงเวลาได้ครึ่งวันจนกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำทั้งหมดของข้ากลับมาได้ละก็ ! เมื่อถึงตอนนั้นการจะฆ่าพวกแกมันไม่ใช่เรื่องยากเลย !’
หลินฉิงหยุนรู้สึกเครียดจนอยากจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด บริเวณที่ตระกูลหลินครอบครองนั้นกว้างใหญ่เกินไป นี่ไม่ใช่เมืองเดียวที่พวกเขาปกครอง แม้ว่ารากฐานของพวกเขาคือเมืองขนาดใหญ่แห่งนี้แต่ก็ยังมีเมืองขนาดใหญ่ กลางและเล็ก ๆ อยู่ภายใต้พวกเขา !
เมืองเหล่านี้ต้องการสมาชิกหลักของตระกูลหลินและพวกเขาก็ไม่สามารถมองข้ามได้จึงต้องกระจายสมาชิกหลักออกไปทั่วพื้นที่ ในความจริงการจะส่งคำสั่งเรียกตัวทุกคนให้กลับมานั่นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน และจากนั้นพวกเขายังต้องการเวลาอีกเล็กน้อยกว่าจะมาถึงที่นี่
จำนวนผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำของตระกูลหลินมีมากมายหลายพัน และด้วยการก่อตัวราวกับยักษ์ใหญ่ของพวกเขามันทำให้พวกเขากลายเป็นตระกูลใหญ่ที่สามารถกำจัดคู่แข่งในเมืองได้อย่างสบาย ๆ !
“อะไรกัน ? หรือว่าท่านเจ้าเมืองซ่อนอะไรไว้ ? ไหนท่านเจ้าเมืองกล่าวอย่างมั่นใจว่าไม่มีต้นท้อหน้ามนุษย์อยู่ในคฤหาสน์เจ้าเมือง แล้วทำไมท่านถึงไม่ให้เราสำรวจคฤหาสน์ของท่ากัน ?” ตระกูลฉี่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเย็นชา
เมื่อขุมกำลังหลัก ๆ ของเมืองมารวมตัวกันในที่แห่งนี้ ทำไมพวกเขาต้องกลัวคฤหาสน์เจ้าเมืองด้วย ?