Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 412
เป่ยเฟิงสังเกตเมล็ดเล็ก ๆ ในมือของเขาเงียบ ๆ แน่นอนเขาไม่ได้มองมันด้วยสายตา แต่มองด้วยพลังจิต
จากการรับรู้ของเขา เมล็ดนี้ไม่ได้มีพลังชั่วร้ายอีกต่อไป กลับกันมันเต็มไปด้วยพลังแสงที่บริสุทธิ์เหมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างไสวอยู่บนท้องฟ้า
แม้ว่ารัศมีแสงจะอ่อนแอมาก แต่มันก็เหมือนแสงที่พุ่งออกมาจากหมอกสีดำ
เป่ยเฟิงวางเมล็ดไว้ในกล่องเล็ก ๆ จากนั้นก็หันไปมองรูปปั้นหิน
รูปปั้นหินมันราวกับมีอยู่มานานทำให้เห็นการผันผวนของชีวิต มันดูราวกับมีพลังและเต็มไปด้วยหลิงฉี แต่สิ่งที่แตกต่างจากหินวิญญาณคือมันไม่สามารถใช้ดูดซับหลิงฉีได้
รูปปั้นหินเป็นรูปเต่าขนาดใหญ่ มันดูสมจริงราวกับมีชิวตจริง ๆ แม้แต่ริ้วรอยที่อยู่ด้านนอกก็ดูเหมือนจริงจนดูราวกับมันคือเต่าที่กำลังนอนหลับอยู่
“เต่านี้มันจะใช้กลั่นศิลปะการต่อสู้ได้ ? แต่ทำยังไง ?”
เป่ยเฟิงตรวจสอบมันด้วยความกระตือรือร้น
หลังจากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับแรงกดดันที่น่ากลัวพุ่งออกมาจากร่างแล้วพุ่งไปที่เต่า !
“แกร๊ก !”
ดวงตาของเป่ยเฟิงเบลอเล็กน้อย จากนั้นเต่าก็ค่อย ๆ มีชีวิต หินและฝุ่นรอบ ๆ ตัวมันค่อย ๆ แตกออกจนเผยให้เห็นเต่าสีดำที่อยู่ด้านใน !
“นี่คือดินแดนในจินตนาการ ?”
เป่ยเฟิงมองรอบ ๆ ด้วยความตกใจ รอบ ๆ เขาถูกล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาที่สูงยาวทอดออกไปไกลจนตามองเห็น แม่น้ำสีทองขนาดใหญ่ไหลอยู่ตรงตีนเขาที่ไกลออกไป
‘เมื่อกี้ฉันยังอยู่ที่ภูเขาจิตวิญญาณสีฟ้าอยู่เลย แต่ตอนนี้ฉันกลับถูกแรงกดดันลากเข้ามาในดินแดนแห่งนี้’
เป่ยเฟิงตกอยู่ในความเงียบ เขาค่อย ๆ สังเกตรอบ ๆ และคิดไปด้วย
ข้าง ๆ แม่น้ำมีเต่าตัวใหญ่กำลังคลานอย่างช้า ๆ แรงกดดันของมันแข็งแกร่งกว่าเป่ยเฟิงอย่างมาก !
เป่ยเฟิงปล่อยแรงกดดันของเขาออกมา ในไม่ช้าแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 2 ก็ปะทะกันกลางอากาศ
แต่ใครจะไปคิดกันว่าแรงกดดันของเป่ยเฟิงจะสู้ไมได้ มันไม่สามารถรับการปะทะได้จนถูกทำให้ถอยอย่างช้า ๆ
เป่ยเฟิงไม่ยอมแพ้ เขารีบปล่อยจิตสังหารออกมาจากนั้นก็เหวี่ยงอุ้งเท้าหมีไปที่เต่า
เต่าตัวใหญ่คำรามก่อนจะพุ่งไปหาเป่ยเฟิง
ภายในพื้นที่ลวงตาแห่งนี้ หนึ่งคนและหนึ่งสัตว์ปะทะกันซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง และเป่ยเฟิงก็เป็นฝ่ายถูกเต่ากำราบทุกครั้ง
ทุกครั้งที่เขาตาย เป่ยเฟิงจะฟื้นกลับมาอีกครั้งและอีกครั้ง จนสุดท้ายเขาก็รู้สึกได้ว่าอะไรคือการตายไม่เป็น
เป่ยเฟิงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานกี่วัน แต่เขาไม่มีความคิดใด ๆ อยู่เลยในหัวตอนนี้ เพราะความคิดเดียวของเขาในตอนนี้คือการเอาชนะเต่าตัวนี้ !
มันอาจจะต้องตายหลายพันหรือหลายหมื่นครั้ง … เป่ยเฟิงจำไม่ได้แล้วว่าเขาถูกเต่าฆ่ามามากแค่ไหน
เจตจำนงในหัวใจของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยความท้อแท้ ใครจะไปคิดกันว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้กับเต่าตัวนี้ ? พลังของมันดูเหมือนไม่มีขีดจำกัดและดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเขาตลอดไป แม้แต่การขยับตัวของมันเพียงเล็กน้อยก็สามารถฆ่าเขาได้
เป่ยเฟิงนั่งอยู่บนพื้นอย่างหมดแรง ด้านหน้าเขาคือเต่าที่สูงหลายร้อยจาง เมื่อเห็นเต่าพุ่งมาหาเป่ยเฟิงไม่แม้แต่จะยกมือขึ้น
เป่ยเฟิงไม่ได้ทำสิ่งใด เขาอยู่เฉย ๆ รอจนเต่าเข้ามาใกล้จึงขยับปากพูดอย่างช้า ๆ “ฉันจะถูกฆ่าอีกแล้ว ?”
“ไม่ ! มันยังไม่จบ ! ฉันยังสู้ต่อได้ !” เป่ยเฟิงคำรามออกมา ต่อให้ตายอีกซักหมื่นครั้งแต่เขาก็จะเอาชนะมันให้ได้ !
แรงกดดันที่ทรงพลังปะทุขึ้นในตัวเป่ยเฟิง ร่างกายที่อ่อนล้าของเขากลับมาเต็มเปี่ยมด้วยพลังอีกครั้ง เขายกมือขึ้นช้า ๆ ก่อนจะต่อยไปที่หัวเต่า
“แกร๊ก !”
ราวกับแรงที่เกิดจากเด็กวัย 2-3 ขวบ แต่มันกลับทำให้เกิดคลื่นกระเพื่อมบนหัวเต่า จากนั้นเต่าตัวใหญ่ก็ค่อย ๆ แตกสลายเป็นชิ้น ๆ !
เป่ยเฟิงยิ้มด้วยความยินดี ในขณะเดียวกันมิติลวงตาก็ค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ
“หืม ?”
เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นและหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน จากนั้นในพริบตาเขาก็ตั้งสติได้
“นี้คือการกลั่นศิลปะการต่อสู้ ?”
แขนเสื้อของเป่ยเฟิงพริ้วไปตามสายลม แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพลวงตาแต่มันไม่ได้ลืมหายไปจากความคิดของเขา
‘ความต้องการเดิมของฉันคือการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างอิสระ แต่หลังจากที่พบกับระบบตกปลา ชะตากรรมของฉันก็เปลี่ยนไป เพราะไม่เพียงแค่ฉันจะอายุได้ยืนยาวขึ้นแต่ฉันยังแข็งแกร่งได้มากยิ่งขึ้น !’
เป่ยเฟิงถอนหายใจ ความปรารถนานี้เกิดขึ้นมาเพราะว่าเขาไม่สามารถทนการฆ่าซ้ำไปซ้ำมาของเต่าได้
สายลมอันอ่อนโยนพัดผ่านทั่วสวนจนทำให้รูปปั้นเต่าก็ค่อย ๆ แตกสลายกลายเป็นฝุ่น
เป่ยเฟิงคว้าฝุ่นด้วย 2 มือ หินมันถูกบดละเอียดจนกลายเป็นหินประกายแสงสีดำ แม้ว่าหินวิญญาณเหล่านี้จะดูคล้ายดิน แต่เมื่อได้สัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นเมื่อบีบมัน !
หลังจากนั้นไม่นานฝุ่นก็ค่อย ๆ หายเข้าไปในป่าใหญ่ เป่ยเฟิงหยิบเมล็ดต้นท้อหน้ามนุษย์ขึ้นมาจากแหวนมิติและถือมันไว้
ต้นท้อหน้ามนุษย์ถูกปลูกไว้ตรงกลางและมันจะถูกได้รับความเอาใจใส่เป็นอย่างดีเพราะมันคือสมุนไพรจิตวิญญาณแห่งพระเจ้า !
‘ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่ามันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่ามันจะออกผลได้ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้นละนะ’
เป่ยเฟิงถอนหายใจ ตอนแรกต้นท้อหน้ามนุษย์ต้องใช้มนุษย์เพื่อเติบโต แต่ตอนนี้มันได้กลายพันธุ์แล้วทำให้มันต้องดูดซับแสงแดดแทน
เมื่อมันเปลี่ยนไปแบบนี้มันกลับทำให้เป่ยเฟิงพอใจมาก หากเขาต้องสังเวยชีวิตมนุษย์เพื่อมาเลี้ยงดูมัน แม้แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะกินผลท้อของมันได้หรือไม่ !
“ในเมื่อแกไม่ใช่มนุษย์เป็นอาหารอีกต่อไป งั้นฉันจะเรียกแกว่า ต้นส่องประกายแห่งพระเจ้า !”
เป่ยเฟิงคิดชื่อมันซักพัก หลังจากนั้นเขาก็วางหินจิตวิญาณระดับกลางหลายร้อยก้อนไว้รอบ ๆ ต้นไม้
สุดท้ายเขาก็เดินจากไป เขาไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่ามันจะเบ่งบานและออกดอก แต่เขาก็จะไม่มีวันลืมมัน
เป่ยเฟิงเดินเข้าไปในบ้านและไม่สนใจลึกลับที่ 1 หรือเคอร์เบอรอสแม้แต่น้อย เขากำลังคิดถึงเหตุการณ์ที่ลึกลับที่ 1 กับเคอร์เบอรอสจะทรยศเขา
‘หลังจากที่ลึกลับที่ 1 ทำลายคอขวดไปยังระดับสวรรค์แล้ว หนังสือสัญญาจิตวิญญาณจะไม่มีผลกับเธออีกต่อไป’ เป่ยเฟิงคิดเงียบ ๆ
หนังสือสัญญาจิตวิญญาณเป็นสมบัติอันล้ำค่า แต่ระดับของมันต่ำเกินไป มันมีประโยชน์ในการควบคุมคนที่มีพลังต่ำกว่าระดับสวรรค์เท่านั้น
จากเดิมมีลึกลับทั้งหมด 12 คน ตอนนี้เหลือเพียงลึกลับที่ 1 คนเดียวทำให้บ้านหลังนี้เงียบเหงามาก
เป่ยเฟิงเริ่มทำอาหาร สัตว์อสูรกบขนาดใหญ่ปรากฏตรงหน้าเขา เขาค่อย ๆ ทำความสะอาดมัน
เขามีสัตว์อสูรระดับ 3 หลายสิบตัวอยู่ในแหวนมิติของเขา เขาจะเปลี่ยนเมนูอาหารไปเรื่อย ๆ แล้วแต่ความต้องการของเขา
“ตับ ตับ ตับ ตับ !”
ชิ้นเนื้อถูกสับด้วยมีดอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเขาก็ทำความสะอาดข้าวแม่น้ำขาว เมื่อข้าวแม่น้ำขาวถูกล้างแล้วน้ำที่ได้จากการล้างมันส่องแสงระยิบระยับออกมา
เป่ยเฟิงคิดจะใช้กบเพื่อทำเป็นข้าวต้ม เมื่อจับคู่กับผักหมักมันจะทำให้อาหารจานนี้สมบูรณ์แบบมาก !