Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 419
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ 3 หัวกำลังอาบสายฟ้า สำหรับเจี้ยงเทาและคนอื่น ๆ มันเพียงพอที่จะทำให้ฉากนี้ตราตรึงอยู่ในใจพวกเขาตลอดกาล !
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหารชั้นยอดและได้สังหารอาชญากรที่โหดร้ายไปมาก แต่พวกเขาไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อนเลยซักครั้ง
ฉากตรงหน้ามันเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ บางคนก็เริ่มสงสัยในชีวิตของพวกเขา สัตว์ขนาดใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยเห็นคือช้าง แต่เมื่อเทียบระหว่างช้างกับสัตว์ตรงหน้า ช้างมันราวกับเด็กทารกที่เจอกับผู้ใหญ่ !
ถึงแม้ทุกคนจะมีอาวุธปืนอยู่ในมือพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้รู้สึกปลอดภัยเลยซักนิด กระสุนปืนในมือพวกเขาจะทำลายพลังป้องกันของมันได้หรือไม่ ?
เมื่อพวกเขาเห็นมนุษย์ 3 คนที่บินอยู่เหนือหัวสัตว์แปลก ๆ พวกเขาอยากจะตบหน้าตัวเองเพื่อยืนยันว่ามันไม่ได้ฝันไป !
พวกเขามองหน้ากันไปมาราวกับยืนยันว่าเห็นเหมือนกัน ณ วินาทีนั้นราวกับทุกคนใกล้จะเป็นบ้า มันมีมนุษย์ที่บินได้อยู่จริง ๆ !
“ห้ามพูดอะไรทั้งนั้น ยืนอยู่เงียบ ๆ แล้วเก็บปืนของพวกเจ้าไปซะ ปืนพวกนั้นมันไม่มีประโยชน์หรอก ปืนมันก็ทำได้แค่ข่มขู่คนธรรมดาเท่านั้นแต่มันไร้ค่าเมื่ออยู่ตรงนี้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเจ้าว่าจะฟังที่ข้าเตือนหรือไม่”
หนึ่งในคนที่มีพลังระดับเซียนเทียนเห็นการมาถึงของกลุ่มของเจี้ยงเทา เขาจึงเดินไปเตือนด้วยความหวังดี
กลุ่มของเจี้ยงเทาจึงรู้ตัวว่าเมื่อพวกเขาเดินเข้ามาในคฤหาสน์ แต่ไม่มีใครซักคนที่ไล่มาไล่พวกเขาออกไป
“หัวหน้า ?”
เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของคนตรงหน้า คลื่นความโกรธก็ปรากฏบนหน้าพวกเขา พวกเขาเป็นทหารที่ผ่านภารกิจลับมามากมายนับไม่ถ้วน แต่ตอนนี้พวกเขาถูกกระทำราวกับมดตัวน้อยที่ไม่มีค่า มันทำให้พวกเขาโกรธและมองไปที่เจี้ยงเทาเพื่อตัดสินใจ
เจี้ยงเทาตัดสินใจยากลำบากมาก เขาได้รับภารกิจนี้มาและถูกหัวหน้าย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามสร้างปัญหาให้กับคนเหล่านี้ไม่ว่าอะไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจก่อนจะให้ทุกคนเก็บปืน
“เลือกได้ดี”
ชายคนนั้นยิ้มก่อนจะเดินจากไป
“เดี๋ยว ! จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเราไม่ได้เก็บปืน ?” เจี้ยงหลี่ถามด้วยใบหน้าว่างเปล่าบนหน้าเธอ
ชายคนนั้นหยุดเดินก่อนจะส่งเสียงไปในรูหูของพวกเขา “หึหึ พวกเจ้าก็จะตายอย่างไรล่ะ”
ในสวน เคอร์เบอรอสดูน่าสงสารมาก ดวงตาของมันไม่ยอมแพ้ ร่างกายของมันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
“เข้ามา ข้าจะทำให้ดูว่าเป็นเพียงทัณฑ์สายฟ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้ !”
หัวทั้ง 3 เงยขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่หยิ่งยโส
เป่ยเฟิงมองมันเงียบ ๆ นิสัยแบบนี้หากเป็นแน่นหัวถือว่าเป็นนิสัยปกติ แต่ตอนนี้แม้แต่ตัวที่ขึ้ขลาดอย่างไม่รู้จักพอและหลุมดำที่กลัวความเจ็บปวดก็ทำตามด้วย มันทำให้เป่ยเฟิงตกใจมาก
เขาขยับนิ้วเล็กน้อยจากนั้นหินวิญญาณระดับกลาง 3 ก้อนก็ปรากฏในมือ เขาโยนมันไปที่เคอร์เบอรอสโดยไม่ลังเล
“อาวู้ววววว !”
เคอร์เบอรอสไม่พูดอะไร มันรีบกลืนหินวิญญาณทันที หลังจากนั้นมันก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับหมุนเวียนสายเลือด
“บูม !”
สายฟ้าที่สองพุ่งลงมาทันที มันไม่ให้เคอร์เบอรอสฟื้นตัวแม้แต่น้อย สายฟ้าครั้งนี้แรงกว่าครั้งสุดท้ายที่ผ่าลงมาและมันมีขนาดหนาเท่าเอวผู้ใหญ่ !
“อุก !”
เคอร์เบอรอสไม่ได้หลบหรือซ่อนตัว มันยืนรับโดยตรง ภูเขาจำลองที่อยู่ใกล้ ๆ ถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับร่างกายของเคอร์เบอรอสที่เต็มไปด้วยสายฟ้า ควันสีดำลอยออกมาจากร่างพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากปาก
“โฮกก !”
เคอร์เบอรอสพยายามเดินหน้า ร่างทั้งร่างของมันไหม้เป็นสีดำพร้อมกับสิ่งกลิ่นเนื้อไหม้ออกมากระจายไปรอบ ๆ
“อึก !”
ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครที่เป็นคนกลืนน้ำลายคนแรก แต่เสียงกลืนน้ำลายมันราวกับปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ค่อย ๆ กระจายไปรอบ ๆ
สัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่ราวกับมาจากยุคสมัยโบราณกำลังอยู่ในช่วงทำลายคอขวดอยู่ตรงหน้าทุกคน กลิ่นเนื้อไหม้ที่ลอยออกมาทำให้พวกเขากลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ในไม่ช้าทุกคนก็เริ่มมองมันพร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมาจากปาก
“ฮึ่ม !”
เป่ยเฟิงไม่ชอบที่คนมองเคอร์เบอรอสด้วยสายตาแบบนั้น เขาปลดปล่อยแรงกดดันออกมาเพื่อไม่ให้ผู้คนเข้ามาใกล้ ๆ
“อุก !”
“แค่ก แค่ก !”
ระดับเซียนเทียนและวิวัฒนาการที่ยืนห่างไปไกลกว่า 200 เมตรราวกับถูกสายฟ้ากระแทกเข้าใส่ พวกเขาค่อย ๆ บินออกไปไกล
ผู้คนนับสินที่อยู่ด้านหน้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนักเพราะแรงกดดันดังกล่าว คนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ ไม่กล้าเปิดเผยความโลภเลยซักคน
‘ไอ้คนพาลเอ้ย ! บิดาแค่มองมันไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง !’
‘เจ้าหมาบัดซบตัวนี้ขอให้มันพ่ายแพ้ให้กับทัณฑ์สวรรค์ ขอให้มันถูกฟ้าผ่าตาย !’
ผู้คนนับไม่ถ้วนสาปแช่งในใจ
“ฉันรู้ว่าพวกแกไม่พอใจ ฉันให้โอกาศพวกแกได้สาปแช่งฉัน จงก้าวออกมาแล้วสาปแช่งฉันซะถ้าพวกแกกล้าพอ”
ดวงตาของเป่ยเฟิงเย็นชาและไร้อารมณ์ มันราวกับความว่างเปล่าที่ไม่มีสิ่งอื่นใด ทันใดนั้นผู้ชมที่ยืนห่างออกไปไกลกว่า 200 เมตรก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่เต็มหลัง
“ดูเหมือนไม่มีใครกล้าเลยนะ ? ฉันไม่สนใจหรอกว่าพวกแกจะเป็นใครมาจากไหน เป็นอัจฉริยะจากที่ใดแต่เพราะพวกแกอ่อนแอกว่าดังนั้นจงเงียบซะและไปยืนให้ไกลกว่านี้ ฉันไม่ชอบสายตาของพวกแกเลย ถ้าฉันเห็นสายตาแบบนั้นอีกฉันจะควักมันออกมาซะ”
เสียงของเป่ยเฟิงสงบราวกับกำลังพูดสบาย ๆ
ผู้อาวุโสระดับสวรรค์ก้าวออกมาและพูดด้วยความสงบ “สหายเต๋า ปล่อยเด็กพวกนี้ไปเถอะ ขอสหายเต๋าอย่าได้ลงมือกับพวกเขาเลย”
เป่ยเฟิงละสายตาออกจากฝูงชนและหันไปมองเคอร์เบอรอสด้วยความกังวล
สภาพของเคอร์เบอรอสตอนนี้ย่ำแย่มาก ผิวหนังของมันแตกออกพร้อมกับเนื้อที่แห้งผาก แผลยาว ๆ ปรากฏที่ด้านหลังของมัน
แผนมันดูน่ากลัวมาก มันยาวกว่า 3 เมตรและเผยให้เห็นกระดูกด้านใน ไม่มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลแม้แต่น้อย อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ บาดแผลถูกเผาไหม้และมีอุณหภูมิที่สูงมาก !
สามารถมองเห็นสายฟ้าที่รวมตัวกันอยู่ที่เมฆได้ ดูเหมือนมันกำลังก่อตัวรวมกันกลายเป็นสายฟ้าที่กว้างกว่า 2 เมตร พลังงานมหาศาลกระเพื่อมออกมาจากมัน !
สายฟ้าที่กว้างกว่า 2 เมตรนี้มันราวกับมังกรที่กำลังมีชีวิต นอกจากนี้มันยังมีกรงเล็บและเขี้ยวเป็นรูปร่างออกมาทำให้ดูคล้ายมังกรมาก ก่อนหน้านี้สายฟ้ามีสีม่วง แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นสีเงินขาวแม้แต่ความร้อนของมันก็ดูไร้ขีดจำกัด !
ในขณะเดียวกัน เสียงรอบ ๆ เต็มไปด้วยความเงียบ สายฟ้าพุ่งลงมาจากฟ้าและอากาศที่มันพุ่งผ่านก็บิดเบี้ยวกลายเป็นเกลี้ยวอยู่ข้าง ๆ !
“โฮก !”
เคอร์เบอรอสพยายามยืนขึ้น มันเงยหน้าทั้ง 3 ไปบนฟ้าจากนั้นลูกแก้วขนาดเท่ากำปั้น 3 ลูกก็ปรากฏด้านหน้ามัน ลูกแก้วนี้เต็มไปด้วยหลิงฉีของสวรรค์และโลก นอกจากนี้มันยังมีหลิงฉีของสัตว์อสูรอยู่ด้วย !
ลูกแก้วนี้คือแกนตันเถียนของมันและเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดและอ่อนแออย่างมาก หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์เป็นตายมันจะไม่มีวันถูกปล่อยออกมาจากร่าง
ลูกแก้วทั้ง 3 กระจายแสงราวกับดวงอาทิตย์ดวงน้อย ๆ จากนั้นเมื่อมันปะทะเข้ากับสายฟ้ามันทำให้เกิดฉากราวกับการปะทะกันของดวงอาทิตย์และสายฟ้า
สุดท้ายสายฟ้าก็พุ่งผ่านเข้ามาได้ จากนั้นมันก็พุ่งไปยังร่างของเคอร์เบอรอส !
แสงสีขาวปรากฏครอบคลุมไปทั่วสวน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด นอกจากนี้อุณหภูมิรอบ ๆ ยังสูงเพิ่มมากขึ้นตามแรงระเบิดของแสงที่กระจายออกมา !
แม้แต่เป่ยเฟิงเองก็ไม่กล้าส่งพลังจิตออกไปรอบ ๆ พลังจิตของเขาในตอนนี้ราวกับหิมะที่เจอกับดวงอาทิตย์เมื่อเจอกับสายฟ้าครั้งนี้
“บูม !”
แรงระเบิดขนาดใหญ่ทำให้คนที่มีพลังระดับเซียนเทียนต้องเร่งพลังเพื่อต่อต้านแรงระเบิด บางคนไม่สามารถทนได้จนถึงขนาดที่มีเลือดไหลออกมาจากปากเพียงเพราะโดนคลื่นกระแทก
ตรงกันข้ามกับผู้เชี่ยวชาญระดับความมืดและวิวัฒนาการรวมไปถึงมนุษย์ธรรมดาอย่างเจี้ยงเทา พวกเขาอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่าอ่อนแอที่สุดและก็ถูกคลื่นกระแทกบินออกไปไกล แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิต