Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 420
แสงสีขาวที่ปรากฏขึ้นในสวนราวกับเป็นดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก
คลื่นความร้อนพัดผ่านไปทั่ว หากมองจากระยะไกลจะมองเห็นอากาศที่เบลอเนื่องจากอุณหภูมิรอบ ๆ สูงเกินไป
“ซู๊ด ! นี่คือความน่ากลัวของทัณฑ์สวรรค์สินะ !”
“จะทรงพลังเกินไปแล้ว ต่อให้ระดับสวรรค์ก็ไม่กล้าบอกว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดได้”
มีหลุมกว้าง 20 เมตรปรากฏขึ้นที่สวน ทุกคนมองลงไปพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
พลังของสายฟ้ามันน่ากลัวมาก ตรงกลางหลุมคือเคอร์เบอรอสที่อยู่ลึกลงไปในพื้นอีก 10 กว่าเมตร และด้านข้างหลุมก็ดูเหมือนการตกผลึกคริสตัล สามารถจินตนาการได้เลยว่าแรงระเบิดเมื่อครู่มากมายแค่ไหน !
เมื่อฝุ่นค่อย ๆ หายไป ร่างเคอร์เบอรอสก็ค่อย ๆ ปรากฏให้เห็น บนร่างของมันเต็มไปด้วยบาดแผลสาหัสจำนวนมากที่ทับซ้อนกันไปมาบนขนและผิวหนังของมัน ทั่วร่างของมันโชกไปด้วยเลือด !
“แรงระเบิดขนาดนี้ ต่อให้สัตว์อสูรตัวนั้นจะทรงพลังแค่ไหนมันก็ไม่น่าจะทนได้หรอกมั่ง ?”
“ชู้ว ระวังนายท่านเป่ยเฟิงได้ยิน”
ผู้ฝึกตนรอบ ๆ รู้สึกได้ว่าแรงกดดันของเคอร์เบอรอสหายไปแล้ว มันไม่มีร่องรอยสัญญาณชีวิตใด ๆ ออกมาจากร่างของมันแม้แต่น้อย
พลังจิตของเป่ยเฟิงพุ่งกระจายไปรอบ ๆ ก่อนจะไปสำรวจเคอร์เบอรอส ร่างของมันในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยไหม้ที่เกิดจากฟ้าผ่า แม้แต่เลือดของมันก็ถูกระเหยไปจนเกือบหมด
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อ แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะรอดไปได้ด้วยสภาพแบบนี้ !
“ตุ้บ ตุ้บ !”
ในขณะที่เป่ยเฟิงกำลังสิ้นหวัง ทันใดนั้นพลังจิตของเขาก็ได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจมาจากเคอร์เบอรอส
“ตุ้บ ตุ้บ !”
การเต้นของหัวใจราวกับกลองที่ตีแรงขึ้น เป่ยเฟิงไม่ใช่คนเดียวที่ได้ยิน ผู้ชมรอบ ๆ หลายร้อยเมตรเองก็ได้ยินเสียงเต้นนี้ !
“เป็นไปได้ยังไง ? แรงกดดันของมันดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ !”
“สัตว์อสูรตัวนี้แข็งแกร่งมาก เท่าที่ข้าคิด ดูเหมือนทัณฑ์สวรรค์จะทำให้มันสามารถดึงความสามารถพิเศษระดับสูงออกมาได้จนสุดท้ายมันก็ทำลายคอขวดไปยังระดับสวรรค์ได้ ดูเหมือนพลังของมันไม่ได้น้อยไปกว่าข้าด้วยซ้ำ !” ผู้นำ 12 ปีศาจคุนหลุนกล่าวพร้อมกับประกายแสงแปลก ๆ ในดวงตา
พลังฉีของสัตว์อสูรที่ทรงพลังได้หล่อหลอมรวมไปกับพลังเลือดและฉีก่อนจะทะยานไปบนท้องฟ้า จากนั้นแสงสีแดง-เขียวยาวกว่า 5-6 เมตรก็พุ่งขึ้นไป
แสงและแรงกดดันพุ่งขึ้นลอยไปบนท้องฟ้าราวกับมันคือเสาสวรรค์ !
คนจำนวนนับไม่ถ้วนเงยหน้ามองขึ้นพร้อมกับสายตาที่ตกใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวันรุ่งขึ้นมันจะกลายเป็นข่าวที่แพร่กระจายไปวงกว้างจนเกิดข่าวลือจำนวนนับไม่ถ้วน
“ชั้วะ !”
แผลขนาดใหญ่ปรากฏบนหน้าผากของเคอร์เบอรอส จากนั้นเขาสีดำก็ยื่นออกมาจากแผล มันดูคมอย่างมาก มันส่องแสงเปล่งประกายสีดำออกมา
“โฮก !”
ร่างของเคอร์เบอรอสค่อย ๆ คลานออกมาจากร่างที่ปกคลุมไปด้วยเลือดราวกับมันคือรังไหม หลังจากมันออกมาจากรังไหมแล้วมันก็คำรามออกมาราวกับประกาศถึงการมีชีวิตของมัน !
หากเมื่อกี้เป็นฟ้าผ่าธรรมดาได้ผ่ามัน 10 ครั้ง เคอร์เบอรอสคงตายทั้ง 10 ครั้ง พลังธรรมชาติคือพลังที่มีพลังทำลายล้างที่บริสุทธิ์และสามารถทำลายได้ทุกอย่าง แต่ทัณฑ์สวรรค์แตกต่างออกไป สายฟ้าที่เกิดจากทัณฑ์สวรรค์คือพลังที่เต็มไปด้วยการสรรค์สร้างและพลังแห่งชีวิต !
มันคือโอกาศที่อยู่ในความอันตราย หลังจากผ่านพ้นทัณฑ์สวรรค์ไปได้ พลังทำลายล้างของมันจะกลับเปลี่ยนไปเป็นพลังแห่งการสรรค์สร้างและพลังชีวิต !
เคอร์เบอรอสยืมพลังแห่งการสรรค์สร้างและพลังชีวิตมาสร้างร่างใหม่ของมัน มันราวกับเป็นงูที่กำลังลอกคลาบที่ได้สลัดคลาบเก่าทิ้งไป !
หลังจากเอาชีวิตรอดจากทัณฑ์สวรรค์มาได้ สายเลือดของเคอร์เบอรอสก็ถูกกลั่นให้บริสุทธิ์มากขึ้น !
เคอร์เบอรอสยกเท้าขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นมันก็วางเท้าที่อากาศและเดินขึ้นไปอย่างสง่างาม มันราวกับมีบรรไดที่มองไม่เห็นอยู่ใต้อุ้งเท้าของมัน
ในเวลาเดียวกัน ร่างของมันก็ค่อย ๆ หดกลับไปเป็นร่างเหมือนหมาข้างถนนปกติ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกล้าประมาทมันแม้แต่น้อย แรงกดดันที่กระจายออกมาจากร่างของมันเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์หวาดกลัวได้แล้ว
กลุ่มของผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์เปลี่ยนสายตาที่ใช้มองมัน มันราวกับพวกเขาไม่ได้รู้สึกดีกับหมาตัวนี้แม้แต่น้อย …
ในขณะที่มันกำลังเดินไปเรื่อย ๆ แรงกดดันที่เป็นมิตรราวกับสัตว์ที่แสนเชื่องก็ค่อย ๆ เด่นชัดมากขึ้น ในไม่ช้าเมื่อมันไปถึงตรงหน้าเป่ยเฟิง แรงกดดันของมันก็เปลี่ยนไปราวกับมันสามารถควบคุมได้สมบูรณ์แบบ
“เจ้านาย ผมหิวแล้วว !”
“เจ้านาย ผมเจ็บมากก !”
“อย่าไปฟังพวกมัน มอบหินวิญญาณให้นายท่านหมาผู้นี้สักหลายร้อยก้อนสิ ข้าอยากจะเติมพลังงานซักหน่อย”
เคอร์เบอรอสวิ่งเหยาะ ๆ ไปหาเป่ยเฟิง หลุมดำและไม่รู้จักพอเลียข้อเท้าของเป่ยเฟิงอย่างอ่อนแรง ส่วนแน่นหัวยังคงทำตัวเป็นหัวหน้าและไม่สนใจสิ่งที่พวกมันทำ
“ดีแล้วที่พวกแกยังมีชีวิตรอดมาได้”
เป่ยเฟิงก้มลงแล้วตรวจสอบร่างกายของเคอร์เบอรอส เมื่อเขาค้นพบว่ามันไม่เป็นอะไรเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาสะบัดมือจากนั้นหินวิญญาณระดับกลางหลายก้อนก็ปรากฏในมือ
“แกร๊ก แกร๊ก !”
เมื่อเห็นหินวิญญาณกองรวมกันอยู่ตรงหน้า หัวทั้ง 3 รีบตะคลุบกินทันที ทุกครั้งที่พวกมันกัดจะส่งเสียงดังแกร๊ก ๆ ปากของเป่ยเฟิงกระตุกเบา ๆ ในขณะมองความโลภของพวกมัน
หินวิญญาณเหล่านี้มีค่ายิ่งกว่าเพรช แต่สำหรับเคอร์เบอรอสพวกมันเคี้ยวเล่นราวกับมันคือลูกอม
“ขอแสดงความยินดีกับสหายเต๋าด้วย !”
“สหายเต๋า ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะซ่อนไพ่ลับเอาไว้ !”
“ยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้เจ้าถือว่าเป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ของประเทศจีนแล้ว !”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์รีบมาแสดงความยินดีทันที ตอนนี้ทัศนคติของทุกคนต่อเป่ยเฟิงได้เปลี่ยนไปแล้ว
คนที่มีพลังอำนาจสามารถพบได้ทุกที่ ตามเดิมแล้วผู้เชี่ยวชาญอย่างเป่ยเฟิงเป็นเพียงตัวตนที่ไม่ค่อยมีค่าในสายตาพวกเขา แต่ตอนนี้ได้ต่างกันออกไป เพียงกลุ่มของเป่ยเฟิงกลุ่มเดียวก็มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ถึง 4 คน !
มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ต้องมีทรัพยากรมากแค่ไหนกันถึงทำให้มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์รอบตัวได้มากขนาดนี้
ตอนนี้ความคิดของพวกเขาคือต้องการรู้ความลับของเป่ยเฟิง ! การทำให้คนรอบตัวเป็นตัวตนระดับสวรรค์ถือว่าหายากมากในยุคนี้ !
ในเวลาเดียวกัน กลุ่มของเจี้ยงเทาก็ยังยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับความสับสน
โทรศัพท์มือถือของเจี้ยงเทาดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาก่อนจะได้ยินเสียงเก่าแก่เหมือนคนแก่ดังออกมา “เจี้ยงเทา ที่นั่นเกิดอะไรขึ้น ?”
คนปกติอาจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนส่วนมากเห็นพวกแสงแปลก ๆ และคิดว่ามันคือผลมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง แต่หลิ่วเหยียนรู้ว่ามันเกิดขึ้นในคฤหาสน์ !
เมื่อเห็นปรากฏการณ์แปลก ๆ เขาก็รีบโทรหาเจี้ยงเทาทันทีเพื่อยืนยันว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีสัตว์ขนาดใหญ่เท่าบ้านที่เพิ่งเอาชีวิตรอดมาจากทัณฑ์สวรรค์ได้ นอกจากนี้ยังมีคนที่บินได้ด้วย …”
เจี้ยงเทาเงียบไปนานก่อนจะพูดขึ้นได้พร้อมกับคำพูดที่ติดขัด แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
“ปู่วว !”
หลิ่วเหยียนที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่สุดท้ายก็พ่นน้ำชาออกมา หลังจากนั้นเขาก็เงียบชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับ “ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ทำอันตรายต่อประเทศและสร้างผลประโยชน์ให้ประเทศ เราก็แค่ยอมรับสิ่งที่พวกเขาทำก็พอ ให้ความร่วมมือกับพวกเขาโดยไม่มีเงื่อนไขซะ”
“รับทราบ”
เจี้ยงเทาวางสายพร้อมความรู้สึกซับซ้อนที่ไม่สามารถหาคำมาพูดได้
“อะไรคือผู้ฝึกตน ? พวกเขาคือคนที่แม้แต่รัฐบาลเองก็ไม่อยากจะตอแยงั้นหรอ …” เจี้ยงเทาพึมพำกับตัวเอง
“ดูเหมือนฉันจะทำเรื่องแย่ ๆ ไปแล้ว …”
เซียงซิ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังผู้คน เมื่อเขาเห็นความสามารถของหมาบัดซบตัวนั้นแล้วเขาได้แต่ขอบคุณสวรรค์ที่เขายังโชคดีมีชีวิตรอดมาได้ แต่ตอนนี้เขากังวลมากว่าอีกฝ่ายจะจัดการเขา …