Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 434
มังกร ! มันคือสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏในประวัติศาสตร์และตำนานของชาวจีนเมื่อ 5,000 ปีก่อน คนจีนจึงเรียกตัวเองว่าลูกหลานของมังกร
คำพูดมันก็เหมือนลมเปล่า มันยากที่จะจินตนาการได้ว่ามนุษย์ได้สร้างแนวคิดเรื่องมังกรออกมาได้อย่างไรในเมื่อแม้แต่ตนเองก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
แม้ว่ามังกรในที่แห่งนี้จะไม่ใช่สายพันธุ์บริสุทธิ์ แต่ขึ้นชื่อว่ามังกรแสดงว่ามันไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย !
เป่ยเฟิงตั้งใจจะใช้อินทรีในการแสดงพลัง ด้วยการจับคู่ระหว่างหมียักษ์และอินทรี แน่นอนมันจะทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมหาศาล !
แต่ใครจะไปคิดกันว่ามังกรจะปรากฏเป็นรูปร่างข้างหลังเขา ! ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการฝึกเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์คือการใช้แก่นแท้ของสัตว์อสูรระดับสูงสุดสายพันธุ์ต่าง ๆ ในการสร้างเทวรูปขึ้นมา
ตอนแรกเป่ยเฟิงไม่ได้รู้ตัว เพราะเขาไม่ได้คาดคิดว่าจุดสีม่วงจะกลายมาเป็นเทวรูปได้
เป่ยเฟิงตื่นเต้นมาก นี่มันโอกาสที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด เหมือนตอนที่นกอินทรีปรากฏ ในตอนนี้เทวรูปที่ 3 ของเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์ได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว
เลือดและฉีจำนวนมากไหลไปตามร่างเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเป่ยเฟิง
ในเวลาเดียวกันเป่ยเฟิงได้ดูดซับพลังงานสีม่วงจนเกือบหมดแล้ว มันเหลือเพียงเลือดสีม่วงไม่กี่หยดเท่านั้น ในขณะเดียวกันจุดสีแดงที่อยู่ด้านนอกในตอนนี้กลับหนาแน่นเพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ
“จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ขึ้นอยู่กับครั้งนี้ !”
เป่ยเฟิงใช้พลังสูงสุดของเขา ปริมาณพลังงานในร่างถึงขีดจำกัดและมันก็ถูกดูดจากภายนอกเข้ามาภายในเรื่อย ๆ ในเมื่อไม่มีช่องทางให้มันออกไป ดังนั้นความคิดของพวกมันในตอนนี้คือการทะลวงไประดับต่อไป !
เป่ยเฟิงสงบลมหายใจและฟื้นฟูพลังจิต เนื่องจากเวลามีจำกัดเขาจึงฟื้นฟูได้เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น
แต่ถึงแม้ว่าจะยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพนันด้วยชีวิต ไม่อย่างนั้นหากเขาเสียการควบคุมพลังงานภายในร่างมันอาจจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ และหากเขาไม่ตายก็อาจจะพิการ !
เป่ยเฟิงรวบรวมเลือดและฉีไปไว้ใกล้ ๆ หัวใจ ตอนนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางอีกแล้ว มันมีเพียงช่องว่างที่เป็นความว่างเปล่าขนาดใหญ่เท่านั้น
พลังงานทั้งหมดในร่างเริ่มไหลเข้าไปในรูรับแสงเรื่อย ๆ โดยไม่หยุดพัก !
ระดับที่มีชื่อเรียกว่าระดับสวรรค์ ที่มาของชื่อมันเริ่มมาจากการที่พวกสัตว์อสูรกลั่นฉีจากแกนภายในของพวกมันให้กลายเป็นหลิงฉี
ผู้ฝึกตนก็ทำแบบเดียวกัน พวกเขารวบรวมเลือดและพลังฉีจากแกนพลังงานของพวกเขาเหมือนพวกสัตว์อสูร !
หลังจากที่ทะลวงระดับต่อไปได้ เป่ยเฟิงก็จะไม่มีทางตายแน่นอนต่อให้ร่างกายถูกเจาะทะลวง ตราบใดที่พลังงานภายในร่างไม่ได้หมดไปเขาก็สามารถกลับมามีชีวิตและสร้างหัวใจขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง
แน่นอนว่านั่นหมายความถึงเขาจะต้องทำให้สำเร็จ ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สุดท้ายก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี จุดจบที่โหดร้ายย่อมรอพวกเขาอยู่หากพวกเขาล้มเหลว
อย่างเช่นหัวใจของเขาจะถูกบดขยี้เหมือนคนตายในทันที !
รูรับแสงมันเหมือนมิติลึกลับ พื้นที่ภายในล้วนไร้ขีดจำกัดแต่พื้นที่ภายนอกกลับใหญ่เท่าเมล็ดงา
ภายในรูปรับแสง ปริมาณเลือดและพลังฉีเริ่มเติบเต็มจนเกือบเต็ม แรงกดดันของเป่ยเฟิงลดลงอย่างมากจนเห็นได้ชัด นอกจากกล้ามเนื้อบนหน้าอกและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเขาก็เริ่มแห้งเหี่ยวราวกับศพที่แห้งกร้าน
ตอนนี้หากมีคนมาเฉือนเปิดเนื้อของเขา พวกเขาก็จะค้นพบว่าไม่มีเลือดซักหยดไหลออกมา !
การทำงานทุกส่วนในร่างกายของเป่ยเฟิงหยุดลง หากเขายังคงอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไปนาน ๆ จะถือว่าเป็นเขาล้มเหลวเนื่องจากเลือดทั้งหมดในร่างของเขาตอนนี้ถูกดูดเข้าไปอยู่ในหัวใจของเขา
ด้วยความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิงในตอนนี้ เขาอดทนมันได้ไม่นานนัก เพราะหากนานเกินไปเขาจะตายได้
แม้ว่าเขาจะรอดไปได้แต่เขาอาจจะเป็นคนที่สมองตายหรืออาจมีอาการบาดเจ็บที่ไม่สามารถรักษาได้ !
เป่ยเฟิงไม่สามารถรอได้นาน เขารีบใช้พลังจิตให้กลายเป็นเข็มจากนั้นค่อย ๆ ง้างรูรับแสงให้กว้างขึ้น
ในขณะเดียวกันพลังจิตของเขาก็ค่อย ๆ ขับเคลื่อนเลือดและพลังฉีหมุนเวียนไปรอบ ๆ !
จากนั้นจากน้ำวนเล็ก ๆ ก็กลายเป็นใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ! จนในที่สุดน้ำวนขนาดใหญ่ก็ปรากฏในรูรับแสง !
ในไม่ช้าพื้นที่ตรงกลางของน้ำวนก็ว่างเปล่า ไม่มีเลือดและพลังฉีหลงเหลืออีกต่อไป !
น้ำวนค่อย ๆ หายไปจากนั้นก็ปรากฏจุดสีดำเล็ก ๆ ขนาดเท่าเมล็ดงาอยู่ตรงกลางน้ำวน !
รูเล็ก ๆ ราวกับหลุมดำ มันดูดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ โดยไร้ขีดจำกัด !
เลือดและพลังฉีของเป่ยเฟิงไหลเทเข้าไปในรูหลุมดำขนาดเล็ก หลังจากนั้นเลือดและฉีก็เริ่มรวมตัวกันก่อนจะกลายเป็นรูปร่างสีทอง-แดงเล็ก ๆ !
ถึงแม้ว่ามันจะเล็กมาก แต่คุณภาพของพลังงานภายในของมันนั้นสูงมาก มันระเบิดเสียงคำรามของเลือดและฉีออกมาไม่หยุดหย่อน !
ราวกับเป็นการทำความสะอาดและรักษาความบริสุทธิ์ของเลือดเอาไว้ เลือดและฉีของเป่ยเฟิงในตอนนี้ถูกทำให้บริสุทธิ์มากขึ้นกว่าเดิม !
เม็ดสีแดงค่อย ๆ ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับเลือดและฉีที่หมุนรอบมันเล็กมากขึ้น
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ จากเดิมที่มีขนาดเล็กตอนนี้มันมีขนาดเท่าไข่ไก่ ตอนนี้มันดูเหมือนแกนภายในแล้วในตอนนี้
มีเพียง 1 ใน 3 ของแกนที่มีสีทอง ส่วนที่เหลือ 2 ใน 3 เป็นสีแดง
แต่ 1 ใน 3 ที่เป็นสีทองนั่นคุณภาพและพลังของมันกลับมากกว่าสีแดง !
ในไม่ช้าแกนสีทอง-แดงก็เริ่มก่อตัว มันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนใหญ่กว่า 10 เมตร แรงกดดันก็เริ่มหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ !
เมื่อเทียบกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่อย่างเลือดและพลังฉีที่ได้เติมเต็มเข้าไปในรูรับแสงก่อนหน้านี้แล้ว พลังงานที่ใหญ่กว่า 10 เมตรมันดูเล็กมาก เล็กจนไม่น่าจะกล่าวถึง อย่างไรก็ตาม พลังงานที่เล็กเพียงแค่นี้กลับแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก ! นี่คือการเปลี่ยนแปลงคุณภาพ ! การเปลี่ยนแปลงพลังชีวิต !
มันมีความแตกต่างระหว่างแกะกับเสือ ความแตกต่างของพลังชีวิตก็ประมาณว่าแกะจะต้องหวาดกลัวเสือทุกครั้งที่มันเจอเสือ มันไม่เคยมีความคิดที่จะรวบตัวกันเหยียบย่ำเสือจนตายแม้แต่น้อย
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น ! แกนสีทอง-แดงที่ใหญ่กว่า 10 เมตรค่อย ๆ แตกกระจายก่อนจะถูกหลุมดำดูดกลืนเข้าไป
“แกร๊ก !”
เสียงแตกบางอย่างดังขึ้น จากนั้นเสียงแตกก็ดังขึ้นอีก 9 ครั้งและในที่สุดแกนที่กว้างกว่า 10 เตรก็เหลือเพียง 6 เมตร ตอนนี้มันได้ก่อตัวเป็นแกนของระดับสวรรค์สำเร็จแล้ว !
คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะผู้ฝึกกลั่นฉีหรือร่างกาย แกนภายในจะใหญ่เพียง 1 เมตรเท่านั้น แต่ของเป่ยเฟิงกลับใหญ่มากกว่าพวกเขาถึง 6 เท่า !
นั่นหมายความว่าความแข็งแกร่งไม่ว่าจะเลือดและฉีของเป่ยเฟิงก็มากกว่าคนอื่นถึง 6 เท่า นี่มันน่ากลัวมาก หากไม่มีทักษะฝึกฝนหรือพวกอาวุธและทักษะต่อสู้ เพียงร่างกายของเป่ยเฟิงเพียงอย่างเดียวก็แข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ปกติระดับสูงสุด !
เป่ยเฟิงได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งไว้มากในระดับเซียนเทียน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาในตอนนี้น่ากลัวมาก !
เหตุผลที่บรรลุระดับสวรรค์เป็นเรื่องยากจนยากมากก็เพราะการสร้างรากฐานในตอนแรก คนส่วนใหญ่ที่ล้มเหลวเนื่องจากไม่สามารถหมุนเวียนพลังฉีเพื่อก่อรูปร่างแกนภายในได้ !
แม้ว่าจะทำสำเร็จในตอนแรก แต่ก็ยังต้องกลั่นพวกมันอีกกว่า 9 ครั้ง !
และมีเพียงการกลั่นพวกมันอีก 9 ครั้งเท่านั้นแกนภายในถึงจะสำเร็จ การล้มเหลวเพียงครั้งเดียวนั่นคือไม่สามารถสร้างแกนภายในได้อีกต่อไป พลังงานจำนวนมากที่รวบรวมเอาไว้จะระเบิดออกมาจากนั้นก็ฉีกกระชากร่างกายของผู้ฝึกตนให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เห็นได้ชัดว่าการทะลวงคอขวดก็เหมือนเตาไฟ หากล้มเหลวก็เพียงระเบิด !